...อพิโถ นายชวน!...

“ชวน” ชี้ ต้องไม่เกรงใจคนโกง ระบุธรรมาภิบาลอยู่ที่ตัวผู้ปฏิบัติว่ามีหรือไม่ บอกการล้มรธน. 2 ครั้งปัญหาไม่ได้อยู่ที่รธน. แต่อยู่ที่พฤติกรรมของคน “จุรี” เสนอบรรจุเรื่องจริยธรรมาภิบาลไว้ในรธน.

“...ถ้าได้คนดีเข้ามาทำงานก็ไม่ซื้อเสียง เป็นข้าราชการก็ไม่วิ่งเต้น พูดถึงรัฐธรรมนูญที่ถูกล้มไป 2 ครั้ง ปัญหาไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญ แต่อยู่ที่พฤติกรรมของคน ตนไม่เห็นนักการเมืองคนไหนที่ซื้อเสียงเข้ามาแล้วไม่โกง ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากความไม่รับผิดชอบ ไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง แม้แต่สื่อมวลชนยังถูกซื้อ และที่น่ากลัวที่สุด คือการที่องค์กรด้านกระบวนการยุติธรรมถูกแทรกแซง ตนขอฝากว่า ทำอย่างไรเราจะให้ความจริง และความรู้แก่ประชาชน เพราะหากเขารู้ความจริง การทำให้ขาวเป็นดำ หรือดำเป็นขาวนั้นคงทำได้ยาก สุดท้าย แท้จริงแล้วทั้งหมดอยู่ที่ภาคปฏิบัติ ที่เราปราบการทุจริตยาก เพราะผู้จ่ายเงิน และผู้รับเงินอยู่ด้วยกัน ในสภามีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง และที่เรายังแก้ปัญหาการทุจริตไม่ได้ เพราะในภาคปฏิบัติยังมีปัญหานั่นเอง..” นายชวน หลีกภัย

http://www.matichon.co.th/news/89487
..............................................................

นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ฉายาว่า “เทพเจ้าของชาวปักษ์ใต้” มีกิตติศัพท์ในด้านความซื่อสัตย์ สมถะ พูดง่ายๆเป็นคนดีนั่นแหละ ไม่โกง ไม่กิน ไม่เคยซื้อเสียง กาแฟสักแก้วก็ยังไม่เคยเลี้ยงใคร แม้บ้านก็ยังเช่าเขาอยู่ที่ซอยหมอเหล็ง(เดี๋ยวนี้เป็นอย่างไรไม่ได้ตามข่าว) สะเป็คนี้ ถือเป็นที่ยอมรับของสังคมไทย..ว่างั้น

ผมยอมรับว่า เมื่อเริ่มสนใจการเมือง ผมเคยศรัทธานายชวนมาก่อน แม้พล.ต.จำลองผมก็เคยศรัทธามาแล้วเช่นกัน แต่เมื่อ ดร.ทักษิณ ชินวัตร ก่อตั้งพรรคเพื่อไทยขึ้น ความศรัทธาของผมต่อนายชวน และ พล.ต.จำลอง ก็ลดน้อยถอยห่างลงไปเรื่อย จนปัจจุบันนี้ถือว่าสิ้นศรัทธากันเลยทีเดียว..เมื่อเจอของจริง

นายชวน “แผ่นเสียงตกร่อง” พูดอยู่อย่างเดียว “พรรคเราไม่ซื้อเสียง พรรคอื่นซื้อเสียง” หรือคำพูดที่ดูดีมากมายแต่ไม่เคยทำได้ เช่น “พรรคประชาธิปัตย์เคารพระบอบรัฐสภา” แต่เมื่อแพ้เลือกตั้งคนอย่างนายชวนก็ถ่อสังขาร พาพลพรรคประชาธิปัตย์ออกมาเล่นการเมืองข้างถนน ชนิดไม่มีความละอายแก่ใจ  หรือละอายต่อคำพูดของตนเอง..หึหึ !


ความมุ่งหมายของคำว่า “ซื้อเสียง”ของคนอย่างนายชวน ก็คือพุ่งเป้าตรงไปที่ ดร.ทักษิณนั่นเอง ทักษิณที่นายชวน เคยชวนเข้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่ถูกปฏิเสธเพราะจะไปอยู่พรรคพลังธรรมของจำลองในสมัยนั้น เพื่อจะบอกให้รู้ว่าทักษิณชนะเพราะซื้อเสียง ตนเองแพ้เพราะไม่ซื้อเสียง แต่ไม่เคยดูสาระรูปผลงานของพรรคตนเอง ว่าได้ทำอะไรให้กับประชาชนและประเทศชาติบ้าง นอกจากผลิตวาทะกรรมทำลายคู่แข่งไปวันๆเท่านั้น..หัดอายซะบ้าง !

ในฐานะคนดูข้างสนาม เมื่อได้ยินนายชวนพูดคำว่า “ซื้อเสียง ไม่ซื้อเสียง”ผมจะรู้สึกสะอิดสะเอียนอย่างที่สุด ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นจาก “ซื้อเสียง ไม่ซื้อเสียง”ของพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้สงสัยว่า (1)นายชวนอาจไม่เคยรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น จากการซื้อเสียงของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แม้สักนิด (2)นายชวนรู้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ซื้อเสียงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ แต่ยังพูดได้ชนิดหน้าตาเฉย เพราะคิดว่าคนไทยลืมง่าย และคงจะลืมไปแล้วว่าพรรคนายชวนคือจอมซื้อเสียง..อย่างนั้นหรือเปล่า ??

ชวนครับ ! (1)บุคคลผู้ถูก กกต.ตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งของไทย ก็คือ ดร.บุญมาก ศิรินวกุล พรรคประชาธิปัตย์ (2)บุคคลคนเดียวผู้ถูก กกต.ให้ใบแดงมากที่สุดในประวัติศาสตร์เลือกตั้งถึง 14 ใบ ก็คือนายมาโนช เสนพงษ์ ของพรรคประชาธิปัตย์ (3) แม้แต่ทีม อบจ.ของพี่ชายนายชวนเองก็เถอะ ยังถูกศาลอุทธรณ์ตรังให้ใบเหลือง มาแล้ว..ยังมีหน้าไปด่าคนอื่น


หลักฐาน/ข้อมูลประกอบการซื้อเสียง/ทุจริตเลือกตั้ง ของพรรคประชาธิปัตย์จนเป็นที่ยอมรับของ กกต. "ใจไม่ถึงห้ามคลิ๊ก"..เดี๋ยวช็อคตาย !!

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


นายชวนแก่มากแล้ว หากอยากจะเป็นปูชนียบุคคลทางการเมืองให้เยาวชนรุ่นต่อไปเคารพนับถือ ยึดหลัก แนวคิด เพื่อถือปฏิบัติในภายภาคหน้า กรุณาสำรวจพรรคตนเองเสียก่อน ว่าเหลวเละเช่นไร ก่อนที่จะพูดถึงความเลวของคนอื่นอย่างสนุกปาก เหมือนคำโบราณว่า “เหาบนหัวของตัวไม่เห็น คนอื่นไม่เป็นกลับเห็นตัวเหา” ส่องกะโหลกชะโงกดูเงาบ้างครับ ไม่อายคนอื่นก็อายตัวเองบ้าง  เพราะเหาบนหัวของคุณ มันเยอะกว่าชาวบ้านเขาเสียอีก ..หาเหาบนหัวตัวเองเถอะครับ !!!
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
แต่คุณชวนก็พูดถูกเหมือนกันนะครับคุณปลายอ้อฯ

การล้มรัฐธรรมนูญ 2 ครั้ง มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับรัฐธรรมนูญ แต่มันขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของคนจริงๆนะครับ

พฤติกรรมบอยคอตเลือกตั้งทั้งสองครั้งไง ที่ทำให้การเมืองเข้าสู่ทางตัน

พฤติกรรมการสุมหัวระหว่างพรรคการเมืองกับพวกไม่นิยมเลือกตั้ง สร้างความวุ่นวายปั่นป่วน เพื่อสร้างเงื่อนไขให้เกิดการยึดอำนาจ

และพฤติกรรมของคนที่ไม่ยอมรับการพ่ายแพ้ ไม่เคารพกติกา และไม่ยึดมั่นในระบบรัฐสภา นี่ล้วนเป็นชนวนที่ทำให้รัฐธรรมนูญต้องล้มถึง 2 ครั้งอย่างที่คุณชวนพูดถึง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่