เห็นเพื่อนที่ทำงานเขาบอกว่าถ่ายภาพ Stock ได้เงินเดือนละเป็นหมื่น มันขายได้จริงเหรอครับ?? ถ่ายส่งไปแล้วรอคนมาซื้อ ??

กระทู้คำถาม
เห็นเพื่อนที่ทำงานเขาบอกว่าถ่ายภาพ Stock ได้เงินเดือนละเป็นหมื่น มันขายได้จริงเหรอครับ?? ถ่ายส่งไปแล้วรอคนมาซื้อ ??ใครมีประสบการณ์เรื่องนี้บ้างครับ ผมมีกล้อง คอมแพคอยู่ตัว ไม่รู้จะได้หรือเปล่า เห็นเขาบอกว่าต้องเป็นกล้อง DSLR ......จะได้มีเงินบ้าง

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
มาขอยืนยันว่า มีได้บางคน
และไม่ประสบความสำเร็จมีจำนวนมากกว่าเป็นหลายเท่าตัว

ขายภาพสต็อค  มีเงื่อนไข ปัจจัยหลายอย่าง ที่ทำให้ประสบความสำเร็จ และล้มเหลว
เหมือนกับความใฝ่ฝันของเด็กวัยรุ่นที่อยากเป็นดารา
แต่มีสักกี่คนที่จะเดินไปถึงจุดหมายปลายทางที่วาดฝันสวยหรู ได้เป็นดาราดัง ?

คนที่มีความสามารถเฉพาะตัวและจับทางถูก มีอยู่บ้าง ที่ประสบผลสำเร็จ โดยยังทำงานประจำอยู่ด้วย
จนเอาไปคุยอวดกันว่า นี่คือทางสวยหรูของคนถ่ายภาพ

หากจะขายสต็อคจริงๆ ส่วนมาก ต้องทิ้งงานประจำ และมุ่งมั่นจริงๆ ที่จะเดินทางนี้
(แต่ไม่รับประกันว่าจะประสบความสำเร็จ)

นอกจาก การรู้ใจว่า ภาพแบบไหนที่จะมีคนซื้อ เขาจะซื้อภาพแนวไหน ไปทำอะไร
คนถ่ายภาพสต็อคจะต้องมีความเชี่ยวกรากเป็นอย่างมาก กับ การใช้โปรแกรมแต่งภาพ
ปรับแต่ง WB Noise การทำพื้นหลังขาว ฯลฯ และการปรับแต่งอื่นๆ อีกมาก
คนทำภาพสต็อค ยังต้องมีความรู้ เข้าใจ ในภาษาอังกฤษมากพอสมควร


มีอีกเรื่องหนึ่ง คือ มีคนที่เข้ามาในสต็อค แล้วคิดว่าจะหาเงินทางนี้ “โดยสร้างระบบเครือข่าย”
โดยที่เว็บขายสต็อคแต่ละที่ จะมีลิ้งค์มาให้สมัคร
คนที่ขายสต็อคบางคน จึงทำเว็บไซต์ FB ฯลฯ โดยเอาลิ้งค์นั้นมาแปะที่เว็บตัวเอง
เมื่อใครสมัครเว็บสต็อคไปตามลิ้งค์นั้น หากขายภาพได้ คนที่เอาลิ้งค์มาแปะจะได้เปอร์เซ็นต์ไปด้วย
ทีนี้ เมื่อมี คนใหม่ๆ สมัครแล้วขายรูปได้บ้าง ไม่ได้บ้าง คนทำลิ้งค์ก็จะได้เปอร์เซ็นต์
จึงมีบางคนใช้วิธีนี้ เพื่อสร้างเครือข่าย โดยสร้างกระแสว่า ทำสต็อคขายภาพแล้วมีรายได้ดี เพื่อเป็นการจูงใจหน้าใหม่ๆ

ดังนั้น หากจะทำเล่นๆ เผื่อฟลุค ก็ทำได้
แต่หากคิดว่ารายได้งามแล้ว ยืนยันคำเดียว ว่า หนักมาก
และต้องมุ่งมั่นจริงๆ
ความคิดเห็นที่ 30
สิ่งนี่คือสิ่งที่ผมได้จากการทำงานด้านสต๊อก... http://pantip.com/topic/34695226
ลองไปอ่านดูละกันครับ

ไม่ได้มาบอกให้ทุกคนเชื่อ ไม่ได้มาบอกให้ทุกคนทำตาม
เป็นแค่การแชร์ประสบการณ์ของตัวเอง

------------------------------
ทุกวันทุกปีจะมีคำถามเกิดเสมอว่า
เป็นไปได้เหรอ... เริ่มทำตอนนี้ช้าไปแล้วใช่มั๊ย

แต่ทุกๆปีที่ผ่านไปก็จะมีคนหน้าใหม่ๆที่ประสบความสำเร็จขึ้นมาเสมอ
ส่วนคนที่ถามคำถามเดิมว่า เป็นไปได้เหรอ... เริ่มทำตอนนี้ช้าไปแล้วใช่มั๊ย
ก็จะกลับมาถามคำถามเดิมๆต่อไปทุกๆปี

------------------------------
สำหรับผมการที่คนไม่มาทำเพิ่ม หรือแอนตี้ หรืออะไรก็แล้วแต่
พูดตามตรงว่าเป็นประโยชน์กับตัวผมเองด้วยซ้ำเพราะไม่มีคู่แข่งหน้าใหม่ๆเกิดขึ้น
แต่ส่วนตัวแล้วผมไม่เคยสนว่าใครจะมาเป็นคู่แข่งผมเลยด้วยซ้ำ
เพราะผมมองว่างานสต๊อกคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดคือความขี้เกียจ ความไร้วินัยของตัวเองนี่แหละ

ดังนั้นสำหรับผมคนที่สนใจจริง แล้วมาปรึกษาผมจึงยินดีเสมอ
เพราะผมมองว่าคนที่ทำอาชีพเดียวกันนี้คือเพื่อนร่วมวงการ มากกว่าจะเป็นคู่แข่งของผม
------------------------------
สุดท้ายฝากไว้ว่า
ไม่ใช่ว่าทุกคนที่ทำจะประสบความสำเร็จ
แต่ทุกคนที่ไม่เริ่มลงมือทำ จะไม่มีวันประสบความสำเร็จได้


ความคิดเห็นที่ 69
ผมเรียนจบบัญชี ไม่เคยมีความรู้ด้านงานศิลป์ และถ่ายรูปไม่เก่ง
มีกล้องที่ค่อนข้างดี ยอมลงทุนซื้อ เพียงเพราะชอบถ่ายภาพ
วันนี้ผมซื้ออิสระจากงานประจำให้ตัวเองได้ด้วยการส่งภาพขายออนไลน์มาปีกว่าแล้ว

ผมไม่มี "องค์ประกอบของความสำเร็จ" ตามที่ความเห็นด้านบนๆ กล่าวมา
ดังนั้น ผมคิดว่าคำตอบ คำอธิบายของผม คงพอจะมีประโยชน์บ้างนะครับ

ย้อนกลับไปราวๆ สี่ปีที่แล้ว วันแรกที่ผมเริ่มสนใจส่งภาพขาย
ผมเป็นแค่พนักงานบัญชี ที่ฝีมือถ่ายรูปธรรมดาๆ คนหนึ่ง
ผมคิดเพียงว่า ผมชอบถ่ายภาพ และถ้าเราได้ดำรงชีพด้วยการถ่ายภาพ มันคงดี

ผมเลยลองครับ ทำมันดู อย่างแรกก็ต้องหาความรู้ครับ ว่าเค้าทำอะไรยังไงกันบ้าง
อะไรขายได้ ขายดี กฎระเบียบ สิ่งที่ต้องรู้ สิ่งที่ควรรู้ มีอะไรบ้าง
การถ่ายภาพ แนวภาพขายคือยังไง ภาพขายดีที่เราเข้าไปดูแล้วรู้สึกเกินเอื้อม เป็นยังไง
แล้วเรียนรู้จากการลงมือทำของเราไปเรื่อยๆครับ

"ลงมือทำอย่างเต็มที่ แล้วจะรู้และเข้าใจมันเอง"

ผ่านไปสองปี ผมเข้าใจอะไรเกี่ยวกับการถ่ายภาพมากขึ้น ผมเริ่มเลือก ว่าจะถ่ายอะไร
เริ่มคิดอย่างเป็นระบบมากขึ้น วางแผน สร้างงาน เพิ่มคุณภาพ

ผมได้ค้นพบความจริงอย่างหนึ่ง ซึ่งมีแต่คนที่ลงมือทำจนเจอด้วยตัวเองจริงๆแล้วเท่านั้นจะเข้าใจมันอย่างแท้จริง

"ความสำเร็จ ไม่ว่าอาชีพไดๆ ก็ตามบนโลกนี้ เราต้องทุ่มเท ต้องจริงจัง ถึงจะประสบความสำเร็จ
ใครที่ยังวิ่งหางานที่ สบาย ง่าย และหนีความยากลำบาก จะไม่มีวันประสบความสำเร็จเลย
คำคมทั้งหลาย เช่นว่า ถ่านต้องผ่านแรงกดดันและความร้อนหนาวจึงจะกลายเป็นเพชร มันหมายถึงอย่างงั้นจริงๆ"

ใครที่บอกว่า ต้องเก่งก่อน ต้องมีนั่น ต้องมีนี่ ต้องบลาๆๆๆ ถึงจะประสบความสำเร็จได้
ยอมรับเถอะครับ ว่าคุณพ่ายแพ้ต่อ "ข้ออ้างในใจคุณ"
ทำไมผมถึงพูดคำนี้ เพราะวันที่ผมเริ่มทำ ผมไม่มีคุณสมบัติที่ว่ามาเลยสักข้อ
อาจจะมีข้อนึงก็ได้ คือผมมีกล้องที่ดี
แต่การจะ "สร้างภาพที่ดี" ไม่ได้จำเป็นต้องมาจากกล้องเทพ
แต่คนเราพัฒนาได้ครับ ผ่านมาสองปี คุณสมบัติต่างๆ มันค่อยๆมีขึ้นมาเอง จากการเรียนรู้

มีรุ่นน้องที่ผมรู้จักคนหนึ่ง ใช้กล้องเกรด "ปานกลาง" บอกเลยก็ได้ว่าคือกล้องรุ่น D7000 กับเลนส์คิทติดกล้องตัวเดียว
ใช้เวลา 2 ปีขายภาพจาก 0 เป็นรายได้หลักแสน ที่สำคัญ วันแรกที่เค้าเริ่มส่งภาพขาย คือวันแรกที่เค้าเพิ่งซื้อกล้องมา

ชีวิตคนเรามันเป็นอย่างงี้ทั้งนั้นทุกคนแหละครับ
เราเริ่มทำงานวันแรก ไม่มีใครได้เป็นผู้บริหารตอนประสบการณ์และความรู้เป็น 0
แต่ใครจะเรียนรู้ พัฒนาตัวเองขึ้นไป ไต่เต้าขึ้นไป จาก bottom line ค่อยๆเก่งขึ้น
จนเป็น senior เป็นหัวหน้า เป็นผู้จัดการ เป็นรองประธาน เป็น CEO

วันที่คุณสมัครงานวันแรก เราไม่ได้สมัครเป็น CEO หรอกใช่มั้ย
การขายภาพก็เหมือนกันครับ

คำถามคือ จะเอามั้ย ?
ขอให้ทุกคนโชคดีครับ
ความคิดเห็นที่ 16
คนที่จะทำงานได้ระดับหลักหมื่น หลักแสนในแต่ละเดือนมันไม่ง่ายค่ะ คุณต้องแบบตื่นขึ้นมาตั้งโจทย์เลย วันนี้ชั้นจะถ่ายอะไร มีแนวคิดมีคอนเซ็ปอย่างไร วางแผน เซทอุปกรณ์ จากนั้นเริ่มถ่ายตามแพลนที่วางไว้ หลังจากถ่ายเสร็จ นำภาพทั้งหมดเข้ามาตรวจเชคในคอมค่ะ งานสต็อคไม่มีคำว่าจบหลังกล้อง ซูม 100% ดูในทุกส่วนของภาพ มีเบลอไหม มีขอบม่วงไหม ถ้าถ่ายฉากขาวนี่ขาวจริงไหม สีเพี้ยนมากหรือเปล่า

จบงานในส่วนการเช็คคุณภาพไฟล์ มาต่อด้วยงานหินอีกงานคือการตั้งชื่อภาพ คำอธิบายภาพ ต้องตั้งให้สอดคล้องกับภาพที่ถ่าย และง่ายต่อการค้นหา ต่อไปคือการตั้ง keyword เมื่อค้นหาภาพ ถ้าภาพที่ถ่ายมามาเป็นเซทเดียวกันหมด ก็ง่ายหน่อย แต่โดยเฉลี่ยแล้ว keyword ทั้งชื่อรุป และคำอธิบายจะอยุ่ที่ 3-5 นาทีต่อภาพโดยเฉลี่ย

ขั้นตอนต่อไปคือการอัพภาพขึ้นเวปขาย มันไม่การันตีว่าภาพที่คุณอัพจะผ่านทุกภาพ และหากคุณส่งภาพที่คล้ายกันมากเกินไป ก็อาจโดนปฎิเสธภาพได้เท่ากับเวลาในการทำภาพนั้นเสียเปล่าไป

นี่ยังไม่รวมอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับถ่ายนะคะ ซึ่งก้อขึ้นอยู่กับว่าชอบถ่ายแนวไหน แต่ถ้าทำให้เป็นรายได้มากๆ ก็ภาคบังคับละค่ะคือถ่ายหลังขาว หรือจัดเซทถ่าย อุปกรณ์คือกล้อง และเลนส์ที่มีคุณภาพดีพอสมควร มันหมดยุค กล้องระดับเริ่มต้น+เลนส์คิทก็ทำเงินได้ไปแล้วค่ะ(เราอยู่ในยุคนั้นมาก่อน) แล้วต้องมีแฟลชแยกอีกอย่างน่อย 3 ตัว ขาตั้งไฟ อุปกรณ์เฉพาะพวกแฟลช ฉาก อย่างน้อยมีไว้ 8-9000 ไม่รวมกล้องและเลนส์ที่ต้องจ่าย

ถ้าจะเซทของถ่ายต้องคำนึงถึงต้นทุนในการจัดหาอุปกรณ์เหล่านั้นมาด้วย บัญชีรายรับรายจ่ายของเรื่องนี้ต้องให้รัดกุม เพื่อดูกระแสว่ามันไปได้แบบไหนต้องแก้ใขยังไง

ปกติ 1 ภาพส่งขายๆได้หลายแห่ง งานนี้ดูเหมือนง่าย แต่ถ่าอยากจะทำเงินเป็นกอบเป็นกำจากงานนี้ลงทุนมากอยู่ และต้องทุ่มเทกับมันมาก ต้องวางแผนล่วงหน้า อีก 3 วันจะวันอีสเตอร์ละ ถ่ายแนวไหนดีให้เข้ากับเทศกาล อ้าวอีก 4 วันคือวันพ่อของพวกฝรั่งละ ถ่ายแนวไหนส่งขายดี ถ้าจริงจังและทุ่มเทกับมัน มันทำเงินได้ดีจริงๆค่ะ แต่ถ้าประเภททำเล่นขำๆ คุณก้อจะมีรายได้แบบขำๆ ปีนึงเบิกเงินได้หนนึงไรแบบนี้

รายได้ที่เราได้น้อยกว่าที่เป็นอาชีพหลักเยอะ แต่ใช้ผ่อนแคปติว่าได้คัน กับผ่อนบ้าน แล้วพอเหลือพาคุณแฟนไปกินอาหารนอกบ้านได้เืดอนละครั้งค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่