หลังจากดูตอน 11 ของ #DescendantsOfTheSun แล้ว ขอชื่นชมและยกประโยคนี้เป็นประโยคทองของเรื่องเลยค่ะ (มีสปอยล์)

กระทู้สนทนา
ตั้งแต่นั่งดูมา 11 ตอน ... พีคสุดสำหรับเราก็ประโยคในตอน 11 นี่แหละค่ะ ภูมิใจมากกับพาร์ทนี้ ... มากถึงกับต้องทำภาพแคปชั่นให้...
ถ้าสามารถส่งสารโทรเลข นกพิราบ อะไรก็ได้ไปถึงคนเขียนบท .. คงทำไปแล้วค่ะ (ชอบสุดๆTvT)

บอกตามตรงค่ะ (ความเห็นส่วนตัวนะคะ) Ep11 นี้เป็น EP ที่มองรวมๆแล้วถือว่าเข้มข้นที่สุด ดราม่าก็ดราม่าไปจนสุด หัวใจวายที่สุดเท่าที่ดูมาและมันก็แปลบๆที่หัวใจเพราะโดนละครทำร้ายเช่นกัน ... ครบรสมั้ยล่ะ 5555 แต่สุดท้ายก็เลือกฉากนี้มาตั้งกระทู้เพื่อชื่นชมละครเรื่องนี้ ยาวหน่อยค่ะ แต่อยากให้ลองอ่านจนจบ เพราะแค่ประโยคเพียง 2 ประโยค มันแฝงไปด้วยความรู้สึกในใจของผู้ชายคนนี้เยอะมากจริงๆ คือฟังแล้วเข้าใจในการตัดสินใจและการกระทำทุกสิ่งอย่างของกัปตันยูชีจินในพาร์ทนี้เลยล่ะค่ะ




เท้าความกันที่ฟาติมาโดนยิง คุณหมอคังโมยอนจึงขอต่อรองอากูสว่าขอแลกตัวประกัน โดยเธอจะขอเป็นตัวประกันไปแทนฟาติมา ยูชีจินมองคุณหมอที่นั่งรถของอากูสออกไปด้วยสายตาที่ (โทษนะคะ ... โคตร) เจ็บปวดมาก เขาวอบอกกับหมอคังว่าเขาจะตามหาเธอให้เจอและไปช่วยเธอออกมาให้ได้ เธอก็รู้ว่าเขาเป็นคนที่เก่ง ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องร้องไห้ รอเขาแค่แป๊บเดียว เดี๋ยวเขาจะตามไป





.... ซีนนี้เจ็บเสียดเข้าแทงหัวใจมากตรงที่อากูสหยิบวิทยุสื่อสารตอบกลับบิ๊กบอสแล้วเปิดกระจกโยนทิ้งกลางทาง โยนทิ้งไม่โยนเปล่า รถสมุนที่ตามมามาเหยียบซ้ำจนบี้แบน คุณรู้ไหมคะว่าวิทยุสื่อสารนี้มีความหมายแค่ไหน มันอาจจะช่วยสื่อสารได้สะดวกสำหรับคนอื่นๆที่ต้องใช้สิ่งนี้ด้วยกันในค่ายก็จริง แต่ในมุมมองของยูชีจิน .... นั่นคือผลพลอยได้ เพราะจุดประสงค์หลักที่เขาอยากจะทำ สิ่งนี้คือสิ่งที่เขาหามาเพื่อปกป้องหมอคังยามที่มือถือใช้งานไม่ได้ สิ่งนี้ทำให้เขาได้กำลังใจจากหมอคัง ไม่ว่าเพลงที่หมอคังร้องแบบไม่ได้ตั้งใจ หรือแม้แค่เสียงสื่อสารในช่องทางของแพทย์ด้วยกัน หรือแม้แต่โค้ด -อือปือนี- (คนสวย) นั่นก็เป็นสิ่งที่แทนทุกอย่าง เป็นสัญลักษณ์แทนตัวเขา ... การที่จงใจโยนทิ้งและเหยียบซ้ำ ก็ไม่ต่างกับการเหยียบย่ำหัวใจของคังโมยอนไปพร้อมๆกับตั้งใจทำร้ายยูชีจินไปพร้อมๆกัน .... เพราะเหตุผลนี้นี่แหละ ทำให้คังโมยอนมองวิทยุที่ถูกโยนทิ้งแทบจะขาดใจ ... พอๆกับคนดูตรงนี้ที่น้ำตาตกตอนวิทยุสื่อสารนี้โดนเหยียบซ้ำพอดี TvT



แต่ผลท้ายที่สุด คำสั่งจากเบื้องบนไม่อนุญาต เพราะกังวลว่าจะกระทบต่อความมั่นคงของชาติ แต่สำหรับความคิดกัปตันยูชีจิน ... มันไม่ใช่อย่างสิ้นเชิง เพราะคนที่โดนลักพาตัวไปคือ "คนที่เค้ารักมาก" ยูชีจินละเมิดคำสั่งหัวหน้าของเขาอีกชั้นนึงและตอบกลับไปว่า

"ผมไม่ทราบหรอกว่ามาตุภูมิของท่านอยู่ที่ไหน แต่ผมจะไปปกป้องมาตุภูมิของผม"


ถามว่าแค่สองประโยคนี้ .. มันมีอะไรซ่อนอยู่? ... อุดมการณ์ในการเป็นทหารของยูชีจิน ไงล่ะคะ^^

มาตุภูมิ (Motherland) แปลตรงตัวแปลว่า "แผ่นดินเกิด"
มาตุ/มารดา แปลว่า แม่ .... แม่คือหญิงผู้ให้กำเนิดชีวิต

ย้อนกลับไปในตอนที่ 1 ที่ยูชีจินบอกกฎของเขาว่า "การปกป้องคนสวย เด็ก และคนชรา คือกฎของผม" ... ผู้หญิงคือสิ่งที่ผู้ชายคนนี้ยอมสละเพื่อปกป้อง และหากย้อนไปในตอนที่ยูชีจินพาคุณหมอคังโมยอนไปกินอาหารที่ร้านและถามกันถึงเรื่อง "ชาตินิยม/ความรักชาติ" ความรักชาติของผู้ชายคนนี้คือความกล้าที่จะเจอกับทุกสิ่ง เขารู้ว่านั่นคือสิ่งที่ไม่ถูก นั่นก็คือคำว่า "ไม่ถูกต้อง" ต่อให้กลัวหรือต้องเกรงกับอะไร แต่ไม่ถูกมันก็คือไม่ถูก

ในกรณีนี้ก็เช่นกัน ความไม่ถูกต้องในสายตาของทหารคือการรู้ว่าพลเมืองกำลังเดือดร้อน แล้วตัวเองที่มีกำลังเปรียบดั่งรั้วของชาติไม่เข้าไปช่วย หากต้องทำแบบนั้น มันยิ่งผิดเพี้ยนไปจากอุดมการณ์การเป็นทหารของเขามาก

อีกประการหนึ่ง คังโมยอนเป็นผู้หญิง เพศหญิงถูกขึ้นชื่อว่าเป็นเพศแม่ เป็นเพศของผู้สร้าง เป็นเพศที่ต้องทะนุถนอม ต้องให้ความเคารพ ต้องดูแล ต้องรักษา เพราะเพศหญิงคือผู้ให้กำเนิดพลเมืองของชาติ เพศชายที่ธรรมซาติสร้างมาให้มีพละกำลังที่แข็งแรงจึงมีหน้าที่ปกป้องเพศหญิง

และอีกประการหนึ่งที่ขาดไม่ได้ ... เขาคงยอมให้ความตายมาพรากคนที่เขาใช้ความเป็นทหารตลอดเวลาและตลอดช่วงชีวิตปกป้องผู้หญิงคนนี้ที่เขารักไม่ได้ แม้แต่บาดเจ็บยังแทบไม่ได้เลย

ดังนั้น คำว่า "ปกป้องมาตุภูมิ" ของยูชีจินจึงหมายถึง ประเทศและผู้หญิงที่ชื่อคังโมยอนผู้เป็นพลเมืองของประเทศเกาหลี พลเมืองที่ดีในเรื่องการสร้างชาติและทำให้บ้านเมืองก้าวหน้าได้ในอนาคต และผู้หญิงที่เป็น "คนสวย" ที่เขาต้องปกป้องและรักษาเท่าชีวิต

ด้วยความหมายของมาตุภูมิที่เขาต้องปกป้องนี้ เขารู้ดีว่ากองทัพไม่เห็นด้วยในเหตุผลการปกป้องมาตุภูมิของเขา แต่ยังดีหน่อยตรงที่ ผบ. ยูน โทรศัพท์มารั้งเจ้าตัวไว้ว่าเขามีเวลาปกป้องคนของเขาแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้น และช่วงเวลา 3 ชั่วโมงนี้ ... เขาจะไม่มีทั้งตำแหน่งกัปตัน ไม่มีอาวุธจากกองทัพ ไม่มีทีมอัลฟ่า ไม่มีตำแหน่งหัวหน้าหน่วยโมอุรุ ...

การปกป้องมาตุภูมินี้ มันอาจเป็นงานที่ยาก แต่สำหรับเขา มันก็ไม่ยากเกินที่เขาจะรับผิดชอบในจุดนี้ เขารู้ดีว่าอนาคตของยศพันตรีอาจดับสูญ หรือแม้แต่เขาอาจจะไม่มีชีวิตกลับมาได้ภายใน 3 ชั่วโมงของภารกิจนี้ ... แต่เขายอมทิ้งคำสั่งซึ่งมันเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตของทหารทุกคน ยอมทิ้งทุกอย่าง...เพื่อคังโมยอนคนเดียว เหมือนกับว่าหากเขาสูญเสียผู้หญิงคนนี้ไป เขาต้องทนไม่ไหวแน่ๆ ... ด้วยทั้งหลายทั้งปวง ยูชีจินจึงสละเสื้อเกราะทหาร อาวุธ และเครื่องแบบ รวมไปถึง Dog Tag และออกไปปกป้องผู้หญิงที่เขารักด้วยมือเปล่า

มันไม่ใช่คำสั่งจากเบื้องบน แต่มันเป็นคำสั่งที่มาจากใจของเขาเอง
เกียรติยศ ดาวที่ประดับบ่า ตอนนี้คือช่างมัน...
เพราะเขาคิดว่า "คังโมยอน" สำคัญที่สุด
เขายอมสละทุกอย่างตลอด 25 ปีของการเป็นทหาร เพื่อ...คนที่เขารักที่สุด
"ผู้หญิงคนนี้ ... ห้ามตายเด็ดขาด" คือ Mission ของเขาตอนนี้ที่เขาต้องทำคนเดียว ไม่มีกองเสริม ไม่มีอะไรเลย...
แต่ที่เลือกทำไปนั้น ... เขาไม่เสียใจเลย
มันเป็นการกระทำที่ตรงกับอุดมการณ์ของเขามาตั้งแต่แรกแล้ว
และเขาเองก็ไม่เสียใจที่ต้องออกไปสู้คนเดียวโดยไม่ให้กองทัพและประเทศต้องเดือดร้อน...
ถึงจะกลัว ถึงจะกังวล แต่นับจากนี้ เขาจะก้าวออกไปด้วยใจที่คิดว่า "ยังไง Mission นี้ เขาจะต้องชนะ"
... คงไม่ต้องบรรยายอะไรเพิ่มไปกว่านี้แล้วนะคะ ...


ปล. ชอบดูมือกัปตัน ชอบดูถุงมืออุ้งมือหมีของกัปตัน แต่ไปสู้รอบนี้ ... ไม่มีแล้ว TvT

‪#‎พิมพ์ไปจะร้องไห้ไป‬
‪#‎ยอมใจคนเขียนบทค่ะ‬
‪#‎นี่มันประโยคทองของโคตรทองของซีรี่ส์เรื่องนี้เลย‬
‪#‎จำDialogueให้มั่นๆเลยค่ะ‬


‪#‎ไปค่ะกัปตันหนูเตรียมระเบิดนิวเคลียร์ไปบึ้มบ้านอากูสแล้ว‬
‪#‎โจงกระเบนตะเบงมานของหนูพร้อมมาก‬ ‪#‎ผิดเรื่องๆ‬
‪#‎จบมินิรีวิวจะซึ้งอยู่แล้วยังจะเล่นมุขอะไรอีก‬ 55555555


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่