รักหมดหัวใจ  รู้ว่าทางข้างหน้ามืดมน แต่ไม่กล้าจะหันหลังกลับ

สวัสดีครับ ผมอยากหาพื้นที่สักแห่งระบายเรื่องที่อัดอั้นตันใจของผม ไม่ต้องแคร์ใครใน facebook ว่าจะเป็นเพื่อนแฟนผม ญาติแฟนผมรึป่าว

ผมคบกับแฟนมาประมาณจะ 5 ปีแล้วครับ ตั้งแต่มัธยมศึกษาปีที่ 6 จนกระทั่งตอนนี้จบมหาวิทยาลัยปีแรก พ่อแม่ผมและแฟนเปิดกว้าง ไปมาหาสู่กันได้อิสระ ต่างคาดหวังว่าคงไม่แคล้วที่จะลงเอยกัน ฐานะเราทั้งคู่ค่อนข้างดี มหาลัยของมีชื่อเสียงลำดับต้นๆของรัฐ ส่วนมหาลัยแฟนผมก็อยู่อันดับแรกๆของเอกชน ชีวิตดูน่าอิจฉามากเลยเมื่อคนภายนอกมอง

ผมเป็นลูกคนโต พ่อผมเสียชีวิตทำให้ผมต้องเข้ามาช่วยแม่บริหารธุรกิจที่บ้านตั้งแต่อายุ 18 ปี จนถึงปัจจุบันที่ผมกำลังจะจบมหาวิทยาลัย พูดได้ว่าเพื่อนคนอื่นเรียนหนังสือแต่ผมต้องช่วยแม่บริหาร จนแม่ผมค่อยๆวางให้ผมเป็นเจ้าของเต็มตัว ภาระหน้าที้ความรับผิดชอบสูงมาก จนเรื่องเรียนมหาวิทยาลัยเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลย

แฟนผมเป็นลูกคนเล็ก โดยมีพี่ชายของเธอเป็นหัวหน้าครอบครัวเหมือนผม แต่อายุเธอห่างจากพี่ชายถึง 8 ปี ทำให้ไม่ค่อยสนิทกันเท่าที่ควร พี่ชายเธอเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยผม มักให้คำปรึกษาและช่วยเหลือผมเสมอโดยเฉพาะตอนพ่อผมเสียชีวิตใหม่ๆ

แต่ที่ผมทุกข์ใจคือนิสัยของผมและแฟนเข้ากันไม่ได้เลย ผมพยายามจะปรับปรุง จูนเข้าหากันแล้ว แต่มันก็ล้มเหลว จนผมต้องยอมฝืนใจตัวเอง ยอมรับสภาพนี้ด้วยความกล้ำกลืน

-ผมไม่เคยไปกินร้านอาหารที่ผมชอบแล้วมีความสุขเลย เธอมักจะเป็นคนเลือกตลอด ถ้าวันไหนผมพาเธอไปลองกินร้านที่ผมชอบ เธอจะไม่พอใจ ไม่สั่งอาหาร กินแต่น้ำ ในขณะที่ผมแม้จะไม่ค่อยชอบของหวาน ก็กินกับเธอ ให้เธอมีความสุข กลัวแฟนผมรู้สึกไม่ดี

-สถานที่ที่ผมชอบ งานอดิเรก หนังที่ผมชอบดู ก็เป็นแบบเดียวกับการเลือกอาหาร ผมต้องมีความสุขในสิ่งที่เธอชอบ แม้บางครั้งผมจะอยากให้เธอลองเปิดใจมองความสุขของผมบ้าง

-ผมเป็นคนพูดเสียงนุ่มๆ ใจเย็น แต่แฟนผมชอบพูดเสียงดัง โดยเฉพาะเวลาหงุดหงิดมักจะตะคอก ซึ่งผมพยายามขอแล้ว แต่เธอบอกนี่มันนิสัยเธอ ให้เปลี่ยนไม่ได้ แรกๆผมทนได้ครับ แต่พอเวลาผ่านไป บางทีผมก็มีอารมณ์บ้าง แต่ก็เลือกที่จะเงียบ แม่ผมสอนไว้ว่าคนหนึ่งร้อน อีกคนต้องเย็น แต่มันใช้ไม่ได้กับเธอ ยิ่งผมเงียบมันเหมือนเธอเป็นไฟ และผมเป็นน้ำมัน

-คำสอนของผมเธอมักจะไม่ยอมฟังเลย ไมว่าผมจะสอนอะไร เช่น การทำธุรกิจ การเรียนควรดรอปไหม ฯลฯ แต่เธอก็มักจะปรึกษาโดยไม่ฟังความเห็น แนวระบาย ยิ่งเวลาปรับความเข้าใจ ผมต้องเป็นคนผิดและขอโทษเธอตลอดแทบทุกครั้ง

-มีครั้งหนึ่งผมอารมณ์ขึ้นมาก เพราะที่บ้านแฟนผมประสบวิกฤตทางการเงิน วันนั้นผมไปบ้านแฟนพอดี พ่อแม่แฟนผมกำลังปรึกษากับพี่ชายเธอเรื่องธุรกิจ แฟนผมรีบไล่ผมกลับบ้าน ผมบอกไม่เป็นไร ผมจะอยู่ข้างๆไม่ว่าจะเป็นยังไง เพราะผมไม่เคยมองใครด้วยเงิน แต่เธอก็รั้นลากผมกลับไป เธอให้เหตุผลว่า ไม่อยากฟังเรื่องพวกนี้ ส่งผมแล้วเธอจะได้ขึ้นห้อง ด้วยความเป็นลูกคนโต เคยผ่านวิกฤติธุรกิจมาหนักหนา อารมณ์ผมเลยขึ้น ผมโกรธที่ทุกคนในบ้านเธอเครียด แต่เธอไม่อยู่ข้างๆพวกเขา เธอบอกว่ายังไง พ่อเธอก็แก้ได้ ไม่ต้องใส่ใจ ผมก็คิดว่า อนาคตถ้าผมเดือดร้อน ใครจะอยู่ข้างผม เธอจะทิ้งผมแบบที่ทิ้งครอบครัวรึเปล่า

-ตอนพ่อผมมีชีวิตได้กู้เงินมาซื้อบ้านหลังหนึ่งที่กะจะให้ทุกคนอยู่ แต่เมื่อพ่อผมเสียชีวิตลง ธุรกิจสะดุด เงินผ่อนบ้านเดือนละเกือบหนึ่งแสนต้องสะดุด เคราะห์ร้ายยังโดนน้ำท่วม บ้านกลายเป็นบ้านร้างสกปรก เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและสะดวกจึงต้องอาศัยที่ร้าน ผมมักพาเธอไปดูบ้านนี้เสมอ และบอกว่าอนาคตจะรีโนเวทปรับปรุงให้ดี เราจะอยู่กันที่นี้ เพราะผมต้องทำในสิ่งที่พ่อผมทำค้างไว้ เธอบอกผมว่าเธอไม่ชอบบ้านนี้ มันดูหลังติดกัน ไม่ชอบแบบบ้าน ให้ผมขายทิ้งและซื้อที่ใหม่

-แม้ผมจะหาเงินเองได้ ฐานะดีขึ้นตามลำดับ แต่ผมก็ยังขับ นิสสันมาร์ชรุ่นมือหมุน เวลาเปิดรถต้องไขกุญแจ เพราะผมยังเรียน จะขับรถดีๆไปทำไม ภายหลังเธอขับรถเป็น รถของเธอเป็นรถแคมรี่ เวลาไปไหนมาไหนจะไปรถเธอเสมอ ส่วนมากเธอจะให้ผมขับ มีหลายครั้งที่บางทีผมต้องเอาของที่บ้าน เธอจะนั่งรอในรถหน้าบ้านผม ซึ่งแม่ผมนั่งในบ้าน แม้แต่บางทีเธอมาหาผมแวะกินข้าวแถวนี้ แม้รถจะจอดใกล้บ้านผมแค่ไม่กี่ก้าว เธอก็ไม่ไปทักทายแม่ผม บอกเธอรีบ ไม่รู้หรอว่าต้องไปรับแม่ของเธอ ผมก็สะอึก สอนเธอ เธอก็โกรธบอกผมไม่ค่อยใจเธอ

-เวลาทะเลาะกันเธอเหวี่ยงใส่แรงๆผมจะเงียบ บางทีถึงบ้านเธอ เธอลงจากรถ เสียง keyless ดัง เธอก็ปามันใส่หน้าผมและเดินเข้าบ้าน ผมก็มีอารมณ์ว่าทำไมต้องทำด้วย ผมก็เข้าบ้านเธอพยายามนั่งใกล้ๆ เธอก็ไม่พูดกับผมเดินเข้าห้องเธอแล้วล๊อกประตู ทิ้งผมไว้เป็นชั่วโมง ผมคิดว่าไม่มีประโยชน์เลยกลับบ้านเพื่อสงบสติอารมณ์ แต่เธอก็ต่อว่าผมว่าผมทิ้งเธอ หนีกลับ กลายเป็นเรื่องเป็นราวหนักกว่าเก่า

-เวลาทะเลาะกันผมจะไม่เล่าให้ใครฟัง ต่างจากแฟนผมที่มักจะเล่าในมุมมองของเธอ จนพี่เธอมองว่าผมเป็นคนคิดเล็กคิดน้อย เป็นเด็ก แต่ผมก็ไม่เคยแก้ตัวสักครั้ง

-ปัจจุบันเวลาทะเลาะกันเธอมักจะหาว่าผมเปลี่ยนไปเสมอ แต่ก่อนผมไม่เป็นแบบนี้ บลาๆ แต่ผมก็ยังคงทำนิสัยเดิม คือ ไม่เสียงดังใส่ แต่เวลาทะเลาะกันผมมักจะสอนเธอ หรือไม่ก็เดินหนีบ้าง ให้อารมณ์เย็นลง

 ผมรู้สึกในใจเสมอว่าไปด้วยกันไม่ได้ แต่มันรักและผูกพันมากเกินกว่าจะถอยออกมา ครอบครัวเธอดีกับผมมาก ติดที่นิสัยของผมและเธอเท่านั้น ผมเคยบอกเลิกเธอสองครั้ง สุดท้ายผมก็ต้องใจอ่อนไปขอคืนดี ทั้งๆที่ผมตั้งใจจะถอยออกมา

ตลอดระยะเวลาที่คบกันมา ผมไม่เคยคุยกับผู้หญิงคนอื่น วางตัวดีมาก แทบจะมีเวลาว่าให้เธอตลอดเวลาในระยะแรกๆ พอพ่อผมเสีย ผมก็มีภาระหน้าที่ ค่อยๆตัดจนเหลือเจออาทิตย์ละ3ครั้ง จากแทบทุกวัน ช่วงนั้นเธอต่อว่าผมหาว่าผมเปลี่ยนไป แม้ผมจะอธิบายเหตุผลเท่าใดก็ตาม

ตอนนี้มันถึงจุดอิ่มตัวมาก ผมคิดว่าเวลาจะเปลี่ยนให้แฟนผมเข้าใจผมมากขึ้น แต่นิสัยแฟนผมก็ยังคงเส้นคงวาเหมือนเดิม ผมควรจะทำยังไงดีครับ ผมอยากถอยออกมาโดยไม่ใจอ่อน ผมสงสารหัวใจของผม สงสารความรู้สึกของตัวผมเองมากๆ เธอมักจะห่วงแต่ความรู้สึกของเธอ ถามผมเสมอว่ารู้ไหมที่ผมสอนเธอ เธอเสียใจ แต่ในใจผมก็มีคำถามตลอดเวลา'แล้วความรู้สึกของผม เธอเคยเห็นบ้างรึเปล่า'

ขอบคุณครับที่ให้ผมได้ระบายความอัดอั้นในใจที่ผมระบายให้ใครไม่ได้เพราะคนรอบข้างจะมองแฟนผมไม่ดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่