
(บทนำ)
เวลา 7 นาฬิกา... กระเป๋าเดินทางขนาดพอให้พักอ้างแรมสักหนึ่งคืน ถูกวางไว้ที่หลังท้ายรถ ผมเปิดประตูแล้วนั่งประจำที่คนขับเหมือนเช่นเคย มือบิดกุญแจสตาร์ทรถ อันเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางที่กินเวลากว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งน่าจะเทียบเคียงกับการเดินทางไปชายทะเลหัวหินที่ผมมักไปเนืองนิจ แต่ครั้งนี้ผมกลับด้าน มุ่งหน้าไปทิศเหนือบนเส้นทางของถนนสายเอเชีย ไปยังจังหวัดที่ผมไม่เคยไปมาก่อน “อุทัยธานี”
ผมพูดไปคุณอาจจะบอกว่าตลก ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า จ.อุทัยธานี อยู่พิกัดไหนของแผนที่ประเทศไทย และมีอะไรให้ได้เที่ยวบ้าง แต่มาถึงจุดนี้แล้วผมรู้แล้วหล่ะ พร้อมแล้วที่จะไปชมวิหารแก้ว ที่ตกแต่งด้วยกระจกระยิบระยับ ไม่แน่ใจว่าจะสวยงามตามหนังสือท่องเที่ยวหรือเปล่า แล้วสปาเกลือหล่ะ ที่ต้องนอนเอาเกลือกลบทั้งตัวจะเป็นอย่างไร เดี๋ยวคงได้รู้กัน ...
ปรับโหมดการเล่าเล็กน้อย เริ่มกันเลยครับ ....
วันที่ 1 : ร้านอาหารป้าสำราญ - วิหารแก้ว 100 เมตร วัดจันทราราม (วัดท่าซุง) - ร้านกาแฟ i am Coffee - โรงแรม Avatarn Miracles
ผมขับมาจนเจอป้ายอุทัยธานีกับลูกศรชี้ซ้าย ก่อนเข้าตัวเมืองแวะทานอาหารริมน้ำเจ้าพระยาชื่อ "ป้าสำราญ" ก่อนดีกว่า อยู่ริมน้ำก็คงไม่พ้นเมนูปลา "รับเมนูนี้ไหมคะ อร่อยนะคะ" "โอเค เอาครับ" ผมแทบจะตามใจเธอเกือบทุกเมนูที่เสนอมา บริการเป็นกันเองดีครับ

จบความอร่อยก็ถึงเวลาเริ่มต้นเที่ยว ตั้งใจไปชม “วิหารแก้ว 100 เมตร” ที่วัดจันทราราม (ท่าซุง) ต้องขับเลยตัว อ.เมืองไปประมาณ 10 กิโลเมตร ไม่นานนักก็ได้ลอดซุ้มประตูวัดเข้าไปด้านใน เห็นลานจอดกว้าง แต่รถน้อยคัน "ก็ดีเหมือนกัน ผู้คนจะได้ไม่พลุกพล่าน" เวลาตอนนี้ก็ประมาณ 12.30 น. แดดร้อนเปรี้ยงจริงๆ รีบเดินเข้าไปดีกว่า และแล้วป้ายนี้ทำให้ผมต้องอึ้ง!!
“เปิด 09.00-11.45 น.
ปิด เจริญพระกรรมฐาน
เปิด 14.00-16.00 น.
ปิด ทำวัตรเย็น, เจริญพระกรรมฐาน”
นั่นไงหล่ะ ว่าแล้วว ทำไมถึงไร้ผู้คนเช่นนี้ การนั่งคอยเป็นชั่วโมงคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ผมตีรถกลับ (พูดเหมือนนั่งรถสองแถวมาเลยแฮะ

) เข้าตัวเมืองไปนั่งกินกาแฟก่อนดีกว่า “อ้าว... เลย ยยย” อุตสาห์เพ่งเล็ง ขับเลยซะอย่างงั้น ... “i am Coffee” ร้านกาแฟเล็กๆ เก๋ๆ ในแบบตู้คอนเทนเนอร์ ที่มีอุลตร้าแมนยืนจังก้าต้อนรับอยู่หน้าร้าน ผมนั่งห้อยขาบนสตูล กินกาแฟไปเรื่อย “ชาร์ตมือถือได้นะครับ” พนักงานร้านบอก ... “อ๋อ ครับ” จริงๆ ก็ตั้งใจจะหาที่เสียบอยู่เหมือนกัน ผมปล่อยเวลาทิ้งไปกับการเล่นมือถือ ถ่ายรูปแอ๊คท่ากับอุลตร้าแมน ก็ถึงเวลากลับไปที่เดิมอีก 10 กิโลเมตร ทางเดิม วัดเดิม ที่เพิ่มเติมคือ คน คน และคน ผมก้าวข้ามธรณีประตูเข้ามาอยู่ในวิหาร…

เพดานสูงโปร่งมีโคมไฟระย้าติดอยู่นับร้อยโคม แสงนั้นได้กระทบกระจกทั่วทั้งเพดาน และกระจกชิ้นเล็ก ชิ้นน้อยในทุกต้นเสา ทำให้เกิดเป็นเกล็ดแสงระยิบระยับ วับวาวไปทั่วทั้งบริเวณ สวยงามจริงๆ “ถ่ายรูปดูไม่สวยเท่าของจริง” น้องสาวไลน์มา หลังจากที่ผมส่งรูปไปอวด ก็คงจะจริงอย่างที่น้องผมว่า

บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยผู้คนนับร้อยที่เข้ามากราบไหว้สักการะพระพุทธชินราชจำลอง องค์พระประธาน และสรีระสังขารขององค์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ และคงอดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปความงามของสวรรค์บนดินแห่งนี้ เนื่องจากเวลามีไม่มากก็เลยออกจากวัดเพื่อไปยังจุดหมายต่อไปที่ "Avatarn Miracles Hotel" ที่พักใน อ. บ้านไร่ ที่อยู่ห่างไกลไปอีก 120 กิโลเมตร คงใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง คาดว่าจะถึง 5 โมงครึ่งได้
ผมแวะเติมน้ำมันก่อนที่ปั้ม ปตท. จ่ายเงินเสร็จก็สตาร์ทรถ เปิดแอร์ทันที “อ้าววว แอร์เสีย!! เกิดอะไรขึ้นเนื่ย?” ไม่มีลมใดๆ ออกมาเลย งานเข้าแล้วหล่ะซิ รถคันนี้จะกลายเป็นห้องอบซาวน่าชั้นดีตลอด 2 วันนี้แน่ๆ ผมรีบเสิร์ชกูเกิ้ลหาศูนย์ฯ ฮอนด้าที่ใกล้ที่สุด "เจอแล้วอยู่เลยปั้มนี้ไปนิดเดียวเอง" เข้าศูนย์แล้วช่างก็ขับเข้าไปในพื้นที่ทำงานตรวจสอบอาการ น้องพนักงานแจ้ง “เช็คแล้วโบเวอร์แอร์เสีย ต้องเปลี่ยนอะไหล่อย่างเดียวค่ะ จะให้สั่งเลยไหมค่ะ”
“ห๊า! อะไรนะ คือผมมาจากกรุงเทพ ลองให้ช่างช่วยดูให้อีกทีได้ไหมครับว่าพอจะแก้อะไรได้บ้าง อย่างน้อยก็ให้มีลมออกมาบ้างก็ยังดีครับ” … “เดี๋ยวปรึกษาช่างให้อีกทีนะคะ” ความหวังริบหรี่จริงๆ “ติดแล้วค่ะ” โอ้ เสียงสวรรค์ แอร์เย็นกลับมาเหมือนเดิมแล้ว เหมือนช่างขยับอะไรสักอย่างและก็หาย ช่างบอกผม “ไม่รู้ว่าจะเป็นอีกหรือเปล่า อาการนี้ต้องเปลี่ยนอะไหล่อย่างเดียวครับ” “ขอบคุณมากครับ" ผมตอบ
เอาหล่ะ ต้องทำเวลากันหน่อยแล้ว ก่อนที่จะมืดค่ำ ... ถนนลาดยางวิ่งดี แต่ก็ไม่ง่ายในการขับ 2 เลนสวนกัน และไหนจะเจอรถตัดอ้อยหลายคันที่วิ่งช้าเป็นเต่า จะแซงทีก็ต้องระมัดระวัง ในที่สุดก็ขับเข้าถนนลูกรัง และมาถึงที่พักจนได้ (ลึกลับดีจริงๆ)
[CR] ตามไปเที่ยว >> วิหารแก้วแดนสวรรค์ พักกันห้องถ้ำ และนอนสปาเกลือที่ Avartarn Miracles Hotel
(บทนำ)
เวลา 7 นาฬิกา... กระเป๋าเดินทางขนาดพอให้พักอ้างแรมสักหนึ่งคืน ถูกวางไว้ที่หลังท้ายรถ ผมเปิดประตูแล้วนั่งประจำที่คนขับเหมือนเช่นเคย มือบิดกุญแจสตาร์ทรถ อันเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางที่กินเวลากว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งน่าจะเทียบเคียงกับการเดินทางไปชายทะเลหัวหินที่ผมมักไปเนืองนิจ แต่ครั้งนี้ผมกลับด้าน มุ่งหน้าไปทิศเหนือบนเส้นทางของถนนสายเอเชีย ไปยังจังหวัดที่ผมไม่เคยไปมาก่อน “อุทัยธานี”
ผมพูดไปคุณอาจจะบอกว่าตลก ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า จ.อุทัยธานี อยู่พิกัดไหนของแผนที่ประเทศไทย และมีอะไรให้ได้เที่ยวบ้าง แต่มาถึงจุดนี้แล้วผมรู้แล้วหล่ะ พร้อมแล้วที่จะไปชมวิหารแก้ว ที่ตกแต่งด้วยกระจกระยิบระยับ ไม่แน่ใจว่าจะสวยงามตามหนังสือท่องเที่ยวหรือเปล่า แล้วสปาเกลือหล่ะ ที่ต้องนอนเอาเกลือกลบทั้งตัวจะเป็นอย่างไร เดี๋ยวคงได้รู้กัน ...
ปรับโหมดการเล่าเล็กน้อย เริ่มกันเลยครับ ....
วันที่ 1 : ร้านอาหารป้าสำราญ - วิหารแก้ว 100 เมตร วัดจันทราราม (วัดท่าซุง) - ร้านกาแฟ i am Coffee - โรงแรม Avatarn Miracles
ผมขับมาจนเจอป้ายอุทัยธานีกับลูกศรชี้ซ้าย ก่อนเข้าตัวเมืองแวะทานอาหารริมน้ำเจ้าพระยาชื่อ "ป้าสำราญ" ก่อนดีกว่า อยู่ริมน้ำก็คงไม่พ้นเมนูปลา "รับเมนูนี้ไหมคะ อร่อยนะคะ" "โอเค เอาครับ" ผมแทบจะตามใจเธอเกือบทุกเมนูที่เสนอมา บริการเป็นกันเองดีครับ
จบความอร่อยก็ถึงเวลาเริ่มต้นเที่ยว ตั้งใจไปชม “วิหารแก้ว 100 เมตร” ที่วัดจันทราราม (ท่าซุง) ต้องขับเลยตัว อ.เมืองไปประมาณ 10 กิโลเมตร ไม่นานนักก็ได้ลอดซุ้มประตูวัดเข้าไปด้านใน เห็นลานจอดกว้าง แต่รถน้อยคัน "ก็ดีเหมือนกัน ผู้คนจะได้ไม่พลุกพล่าน" เวลาตอนนี้ก็ประมาณ 12.30 น. แดดร้อนเปรี้ยงจริงๆ รีบเดินเข้าไปดีกว่า และแล้วป้ายนี้ทำให้ผมต้องอึ้ง!!
“เปิด 09.00-11.45 น.
ปิด เจริญพระกรรมฐาน
เปิด 14.00-16.00 น.
ปิด ทำวัตรเย็น, เจริญพระกรรมฐาน”
นั่นไงหล่ะ ว่าแล้วว ทำไมถึงไร้ผู้คนเช่นนี้ การนั่งคอยเป็นชั่วโมงคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ผมตีรถกลับ (พูดเหมือนนั่งรถสองแถวมาเลยแฮะ
เพดานสูงโปร่งมีโคมไฟระย้าติดอยู่นับร้อยโคม แสงนั้นได้กระทบกระจกทั่วทั้งเพดาน และกระจกชิ้นเล็ก ชิ้นน้อยในทุกต้นเสา ทำให้เกิดเป็นเกล็ดแสงระยิบระยับ วับวาวไปทั่วทั้งบริเวณ สวยงามจริงๆ “ถ่ายรูปดูไม่สวยเท่าของจริง” น้องสาวไลน์มา หลังจากที่ผมส่งรูปไปอวด ก็คงจะจริงอย่างที่น้องผมว่า
บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยผู้คนนับร้อยที่เข้ามากราบไหว้สักการะพระพุทธชินราชจำลอง องค์พระประธาน และสรีระสังขารขององค์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ และคงอดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปความงามของสวรรค์บนดินแห่งนี้ เนื่องจากเวลามีไม่มากก็เลยออกจากวัดเพื่อไปยังจุดหมายต่อไปที่ "Avatarn Miracles Hotel" ที่พักใน อ. บ้านไร่ ที่อยู่ห่างไกลไปอีก 120 กิโลเมตร คงใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง คาดว่าจะถึง 5 โมงครึ่งได้
ผมแวะเติมน้ำมันก่อนที่ปั้ม ปตท. จ่ายเงินเสร็จก็สตาร์ทรถ เปิดแอร์ทันที “อ้าววว แอร์เสีย!! เกิดอะไรขึ้นเนื่ย?” ไม่มีลมใดๆ ออกมาเลย งานเข้าแล้วหล่ะซิ รถคันนี้จะกลายเป็นห้องอบซาวน่าชั้นดีตลอด 2 วันนี้แน่ๆ ผมรีบเสิร์ชกูเกิ้ลหาศูนย์ฯ ฮอนด้าที่ใกล้ที่สุด "เจอแล้วอยู่เลยปั้มนี้ไปนิดเดียวเอง" เข้าศูนย์แล้วช่างก็ขับเข้าไปในพื้นที่ทำงานตรวจสอบอาการ น้องพนักงานแจ้ง “เช็คแล้วโบเวอร์แอร์เสีย ต้องเปลี่ยนอะไหล่อย่างเดียวค่ะ จะให้สั่งเลยไหมค่ะ”
“ห๊า! อะไรนะ คือผมมาจากกรุงเทพ ลองให้ช่างช่วยดูให้อีกทีได้ไหมครับว่าพอจะแก้อะไรได้บ้าง อย่างน้อยก็ให้มีลมออกมาบ้างก็ยังดีครับ” … “เดี๋ยวปรึกษาช่างให้อีกทีนะคะ” ความหวังริบหรี่จริงๆ “ติดแล้วค่ะ” โอ้ เสียงสวรรค์ แอร์เย็นกลับมาเหมือนเดิมแล้ว เหมือนช่างขยับอะไรสักอย่างและก็หาย ช่างบอกผม “ไม่รู้ว่าจะเป็นอีกหรือเปล่า อาการนี้ต้องเปลี่ยนอะไหล่อย่างเดียวครับ” “ขอบคุณมากครับ" ผมตอบ
เอาหล่ะ ต้องทำเวลากันหน่อยแล้ว ก่อนที่จะมืดค่ำ ... ถนนลาดยางวิ่งดี แต่ก็ไม่ง่ายในการขับ 2 เลนสวนกัน และไหนจะเจอรถตัดอ้อยหลายคันที่วิ่งช้าเป็นเต่า จะแซงทีก็ต้องระมัดระวัง ในที่สุดก็ขับเข้าถนนลูกรัง และมาถึงที่พักจนได้ (ลึกลับดีจริงๆ)