จากเรื่อง แท๊กซี่ คิดเงิน 6,000 บาท ผมอ่านหลายรอบ ลำดับการแก้ไขเหตุ ประมาณคร่าวๆ ดังนี้
1. เริ่มจาก คุณ Krit Karnchanabatr ได้พยายาม หาทะเบียน แท็กซี่ จากกล้อง วงจรปิด ของ โรงแรม
2. แล้วแจ้งเรื่อง ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจท่องเที่ยวบอกให้แจ้ง ตำรวจท้องที่
3. ต่อมา แจ้ง จส.100 และ สนามบิน อันนี้ไม่แน่ใจ หน่วยไหน ให้แจ้ง 1584
***** สุดท้าย ในความพยายาม มาสำเร็จ โดย พนักงานโรงแรมที่ ประจำที่ สนามบิน ตามเรื่อง และ แอคชั่น จนสำเร็จ *****
****** ผมอ่านแล้ว ก็ ถอนใจกับ การแบ่งงาน โยนงานกัน สุดท้าย คนที่เสียหายก็จะเหนื่อย และหมดแรงไปเอง *****
ยิ่งเป็น ชาวต่างชาติถ้าไปแจ้งตำรวจเอง ไปหา ตำรวจใกล้โรงแรม ตำรวจบอกแจ้งตำรวจท่องเที่ยว
ตำรวจท่องเที่ยวบอก ต้องไป สถานีตำรวจท้องที่
ตำรวจท้องที่ บอกเรียกแท๊กซี่มาจากที่ไหน ไปแจ้งความ สถานีนั้น หรือ แจ้ง สนามบิน
แต่สนามบินให้โทรไปแจ้ง 1584 หรือให้ไปแจ้งตำรวจ มันก็ วนกลับมารูปแบบเดิม
เสียเวลาไปสถานีตำรวจ เป็นชั่วโมง รอล่ามอาสา มาช่วยแปล ทำบันทึกประจำวัน ทำใบแจ้งความ
แล้ว ชาวต่างชาติ ก็ทำธุระ อีกไม่กี่วันก็กลับประเทศ
จบแบบนี้ มัน ไม่ดี ต่อผู้เสียหาย ผู้กระทำความผิดก็ ลอยตัว มีแค่ ประวัติ
****หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลองเอาตัวอย่างที่สำเร็จ นี้ มาเป็นต้นแบบ *****
เชื่อมต่อกันประสานงานกัน มีเจ้าหน้าที่รับเรื่อง ติดต่อไปที่สนามบิน, สถานที่ท่องเที่ยว
มีเจ้าหน้าที่แอคชั่นตามเรื่อง ผมคาดว่าอะไรๆ มันจะได้รวดเร็ว ทันต่อเหตุที่เกิดครับ
จากกรณี แท็กซี่ คิดเงิน 6,000 บาท
2. แล้วแจ้งเรื่อง ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจท่องเที่ยวบอกให้แจ้ง ตำรวจท้องที่
3. ต่อมา แจ้ง จส.100 และ สนามบิน อันนี้ไม่แน่ใจ หน่วยไหน ให้แจ้ง 1584
****** ผมอ่านแล้ว ก็ ถอนใจกับ การแบ่งงาน โยนงานกัน สุดท้าย คนที่เสียหายก็จะเหนื่อย และหมดแรงไปเอง *****
ตำรวจท่องเที่ยวบอก ต้องไป สถานีตำรวจท้องที่
ตำรวจท้องที่ บอกเรียกแท๊กซี่มาจากที่ไหน ไปแจ้งความ สถานีนั้น หรือ แจ้ง สนามบิน
แต่สนามบินให้โทรไปแจ้ง 1584 หรือให้ไปแจ้งตำรวจ มันก็ วนกลับมารูปแบบเดิม
เสียเวลาไปสถานีตำรวจ เป็นชั่วโมง รอล่ามอาสา มาช่วยแปล ทำบันทึกประจำวัน ทำใบแจ้งความ
แล้ว ชาวต่างชาติ ก็ทำธุระ อีกไม่กี่วันก็กลับประเทศ
จบแบบนี้ มัน ไม่ดี ต่อผู้เสียหาย ผู้กระทำความผิดก็ ลอยตัว มีแค่ ประวัติ
มีเจ้าหน้าที่แอคชั่นตามเรื่อง ผมคาดว่าอะไรๆ มันจะได้รวดเร็ว ทันต่อเหตุที่เกิดครับ