ความสุขจากการทำสมาธิ
สมาธิ คือ เวลาพักใจที่ถูกอารมณ์โจมตีมาแล้วทั้งวัน
เพราะอารมณ์ย่อมบีบคั้นจิตใจทำให้หม่นหมอง หวั่นไหว
ชีวิตดูไม่สดใส ทำให้เป็นเหตุแห่งทุกข์
พอได้หลับตาผ่อนคลาย
แค่เพียงถอนหายใจยาวๆ อารมณ์ก็ผ่อนคลาย
เรื่องกระทบร่อนออกไปได้ทีละนิด
เปิดหนทางให้ใจทอแสงใสๆ ขึ้นมาฟื้นฟูร่างกาย
ทำให้รู้สึกผ่อนคลายไกลจากความกังวล
สมาธิ คือ เวลาที่เราเอาอารมณ์และใจ
ไปเกี่ยวไว้กับเหตุแห่งความสุข กับบุคคลที่ไกลทุกข์
แม้ทำได้เป็นช่วงๆ
แต่ทุกช่วงก็ส่งผลเป็นความผ่อนคลาย
และเกิดบุญที่เป็นเหมือนพลังขับดันชีวิตไปในทิศทางที่ดี
เพราะเวลาทำสมาธิ เราเอาอารมณ์กับใจไปเนื่องไว้กับพระพุทธองค์
กระแสความสุข กระแสไกลทุกข์จึงไหลมาสู่เรา
สมาธิ คือ เวลาที่ใจเป็นกลางไม่ค่อยทุกข์ ไม่เพลิดเพลิน
และไม่ค่อนไปทางโลกียสุข
ใจที่เป็นกลางเหมือนคนที่ดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม
มองทุกอย่างด้วยความเข้าใจ ในกระแสเวียนว่ายของบุญและบาป
ใจจึงเกิดปิติสุขแบบนิ่งๆ เบาๆ
ตอนนี้ความเขลาจะค่อยๆ เจือจาง
ความสว่างที่เกิดจากความเข้าใจจะไหลเข้ามาแทนที่
คนทำสมาธิด้วยการเอาใจไว้ตรงกลางตัว
จึงมองทุกอย่างรอบตัวด้วยความเข้าใจ
กระแสทุกข์แม้นไหลมาไหลไป ก็กระทบใจได้น้อยเต็มที่
สมาธิ คือ การเอาใจไปไว้กับพระพุทธองค์
จึงเหมือนนำทั้งใจและกายไปไว้
ไปอยู่ในดอกบัวดอกใหญ่ที่ค่อยๆ เปิดกลีบออกรับแสงตะวัน
ทีแรกเป็นความนิ่ง เป็นความสงบแบบค่อนกระชับ
ต่อมาก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความเบาสบายบนพื้นฐานของความนิ่ง
เมื่อดอกบัวค่อยๆ คลี่กลีบบานออกรับแสงตะวัน
ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก
http://pinklotus2559.blogspot.com/2016/03/blog-post.html?m=1
อยากให้ห้องศาสนาเป็นห้องที่ร่มเย็น
เป็นที่พักกายพักใจจากความเหนื่อยล้าในแต่ละวัน
จึงขอแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ที่ได้พบเจอมาให้เพื่อนสมาชิก
ถูกใจ กดโหวดได้ ไม่คิดตังค์ 555
ขอบคุณนะคะ
ความสุขจากการทำสมาธิ
สมาธิ คือ เวลาพักใจที่ถูกอารมณ์โจมตีมาแล้วทั้งวัน
เพราะอารมณ์ย่อมบีบคั้นจิตใจทำให้หม่นหมอง หวั่นไหว
ชีวิตดูไม่สดใส ทำให้เป็นเหตุแห่งทุกข์
พอได้หลับตาผ่อนคลาย
แค่เพียงถอนหายใจยาวๆ อารมณ์ก็ผ่อนคลาย
เรื่องกระทบร่อนออกไปได้ทีละนิด
เปิดหนทางให้ใจทอแสงใสๆ ขึ้นมาฟื้นฟูร่างกาย
ทำให้รู้สึกผ่อนคลายไกลจากความกังวล
สมาธิ คือ เวลาที่เราเอาอารมณ์และใจ
ไปเกี่ยวไว้กับเหตุแห่งความสุข กับบุคคลที่ไกลทุกข์
แม้ทำได้เป็นช่วงๆ
แต่ทุกช่วงก็ส่งผลเป็นความผ่อนคลาย
และเกิดบุญที่เป็นเหมือนพลังขับดันชีวิตไปในทิศทางที่ดี
เพราะเวลาทำสมาธิ เราเอาอารมณ์กับใจไปเนื่องไว้กับพระพุทธองค์
กระแสความสุข กระแสไกลทุกข์จึงไหลมาสู่เรา
สมาธิ คือ เวลาที่ใจเป็นกลางไม่ค่อยทุกข์ ไม่เพลิดเพลิน
และไม่ค่อนไปทางโลกียสุข
ใจที่เป็นกลางเหมือนคนที่ดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม
มองทุกอย่างด้วยความเข้าใจ ในกระแสเวียนว่ายของบุญและบาป
ใจจึงเกิดปิติสุขแบบนิ่งๆ เบาๆ
ตอนนี้ความเขลาจะค่อยๆ เจือจาง
ความสว่างที่เกิดจากความเข้าใจจะไหลเข้ามาแทนที่
คนทำสมาธิด้วยการเอาใจไว้ตรงกลางตัว
จึงมองทุกอย่างรอบตัวด้วยความเข้าใจ
กระแสทุกข์แม้นไหลมาไหลไป ก็กระทบใจได้น้อยเต็มที่
สมาธิ คือ การเอาใจไปไว้กับพระพุทธองค์
จึงเหมือนนำทั้งใจและกายไปไว้
ไปอยู่ในดอกบัวดอกใหญ่ที่ค่อยๆ เปิดกลีบออกรับแสงตะวัน
ทีแรกเป็นความนิ่ง เป็นความสงบแบบค่อนกระชับ
ต่อมาก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความเบาสบายบนพื้นฐานของความนิ่ง
เมื่อดอกบัวค่อยๆ คลี่กลีบบานออกรับแสงตะวัน
ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก http://pinklotus2559.blogspot.com/2016/03/blog-post.html?m=1
อยากให้ห้องศาสนาเป็นห้องที่ร่มเย็น
เป็นที่พักกายพักใจจากความเหนื่อยล้าในแต่ละวัน
จึงขอแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ที่ได้พบเจอมาให้เพื่อนสมาชิก
ถูกใจ กดโหวดได้ ไม่คิดตังค์ 555
ขอบคุณนะคะ