สามก๊ก คำกลอน : [ตอน ยั่วจิวยี่ให้รบ]

จะกล่าว ถึงจิว ยี่มีภาระ
ต้องพบปะ แม่ทัพ เมื่อกลับถึง
อยู่เคียงเมีย ไม่ห่าง พลางรำพึง
ใจคำนึง หลายจบ ไม่สบใจ
พวกโจโฉ บุกมา ทางท่าน้ำ
เพื่อคุกคาม ง่อก๊ก กันยกใหญ่
ทั้งทัพบก ทัพเรือ ก็เกรียงไกร
นับเป็นภัย ใหญ่จริง ประวิงทรวง
เวลาดึก ตรึกตรอง คะนองนัก
หมายว่าจัก รบกัน ให้ทันท่วง
ประชาชน กังตั๋ง ทั้งสิ้นปวง
ใครจะช่วง ชิงแดน จะแค้นมัน
จะไม่ยอม หยิบยก ให้ฉกได้
ถึงตัวกาย ตายไป ก็ไม่หวั่น
กำลังพล สิบแสน แม้นตะบัน
จะประจัญ จู่โจม โหมกำลัง
ท่านซุนเกี๋ยน ซุนเซ็ก ที่ล่วงลับ
ฝากไว้กับ ตัวเรา เฝ้ามุ่งหวัง
ให้รักษา ง่อก๊ก สุดกำลัง
ฝากกังตั๋ง เอาไม่ ลืมเลือน
แล้วยินเสียง ใครมา ที่หน้าบ้าน
ดึกดื่นป่าน นี้ใคร มาเอ่ยเอื้อน
หรือจะเป็น โลซก มายังเรือน
หรือผู้เพื่อน พบเรื่อง รุ่มร้อนใจ
จึงรีบเร่ง รุดหน้า ออกมารับ
ก็พบกับ โลซก ดังคาดไว้
กับอีกคน ไม่รู้ ว่าผู้ใด
ถึงถามไถ่ โลซก ว่าใครกัน
ฝ่ายโลซก ยกมือ คาราวะ
ได้จังหวะ รีบตอบ แม่ทัพท่าน
ท่านจิวยี่ คนนี้ คือเพื่อนกัน
ข้าพามา หาท่าน ด้วยตั้งใจ
ท่านฉายา ฮกหลง นามขงเบ้ง
ฉกาจเก่ง กลกิจ วินิจฉัย
ดังขวั๋นต๋ง งักเหย่ ผู้เกรียงไกร
ท่านเล่าปี่ ช่วงใช้ เป็นกุนซือ
ฝ่ายจิวยี่ ได้ยิน ก็วางท่า
ยินศักดา ขงเบ้ง ว่านี่หรือ
หวั่นระแวง แคลงใจ ในฝีมือ
จะสมดั่ง คำลือ หรืออย่างไร
จึงเชื้อเชิญ อาจารย์ เข้าบ้านก่อน
แล้วจึงวอน ถามกิจ คิดสงสัย
ท่านขงเบ้ง มานี่ ด้วยเรื่องใด
จงอย่าให้ เสียเวลา เชิญพาที
ฝ่ายขงเบ้ง โบกพัด ซัดลมแผ่ว
ใจแน่แน่ว ในอุบาย ไม่คลายคลี่
ต้องยั่วยุ แม่ทัพ ด้วยวจี
ให้จิวยี่ โมโห โจโฉพลัน
จะเย้ายั่ว ให้รบ จนจบศึก
เพื่อผนึก กำลัง กับนายท่าน
แม้จิวยี่ ไม่รบ คงจบกัน
ต้องเสร็จมัน ยึดครอง ทั้งสองแดน
อันนายเรา เล่าปี่ เคยหนีพ่าย
กำลังกาย กองทัพ ก็คับแค้น
ทั้งโยธา อาหาร ยังขาดแคลน
หนีมาแดน ง่อก๊ก อีกยกนึง
หมายจะใช้ กำลัง ของกังตั๋ง
ช่วยประทัง เล่าปี่ มีที่พึ่ง
แม้โจโฉ ยกมา อีกคราหนึ่ง
จะได้พึ่ง พลพลัง ฝั่งซุนกวน
แต่หมายยว ยั่วเย้า ให้เขารบ
ต้องสมคบ จิวยี่ ให้ถี่ถ้วน
แม้แม่ทัพ จิวยี่ ช่วยชี้ชวน
ท่านซุนกวน ก็จะยอม ประนอมตาม
กลัวก็แต่ แม่ทัพ จะกลับลำ
ไม่ยอมทำ สงคราม ด้วยความขาม
ถ้าจิวยี่ ผลีผลาม ไปห้ามปราม
ท่านซุนกวน ก็คงตาม ทำจำนน
จึงกล่าวถาม จิวยี่ ว่าโจโฉ
ยกพลมา มากโข เพียงฟ้าหม่น
ท่านจะรบ หรือว่าจะ ยอมจำนน
จะยกพล หรือจะคู้ ไม่สู้ดี
จิวยี่ยิน ขงเบ้ง ว่าเร่งถาม
จึงตอบตาม คำตน อย่างถ้วนถี่
ฝ่ายโจโฉ มีกำลัง เป็นทวี
ฝ่ายเรานี้ จะไปสู้ ได้อย่างไร
มันมีทั้ง กุนซือ และแม่ทัพ
อีกทั้งสรรพ -พาวุท ทั้งน้อยใหญ่
ถือโองการ ฮ่องเต้ เร่มาไกล
แล่นเรือไฟ ข้ามฟาก มากประมาณ
อีกแม่ทัพ ชัวมอ และเตียวอุ๋น
ก็เคยคุ้น นาวา โยธาหาญ
ดั่งพยัค ล่องเรือ มารุกราน
จะต่อต้าน การศึก ก็นึกกลัว
รวมทัพบก ทัพเรือ ร่วมแปดแสน
ต่างต่อแตน ต่อยตาย ถวายหัว
แว่วทัพเรือ ลั่นกลอง ฆ้องโหม่งรัว
ดังไปทั่ว ง่อก๊ก ให้ตกใจ
น้ำน้อยหรือ คิดดับ อัคคีย์โหม
เขามาโรม รันเรา ตั้งเท่าไหร่
ยิ่งยอมเร็ว เราก็ยิ่ง สบายใจ
ถึงรบไป ก็คงแพ้ เขาแน่นอน
เราก็ดั่ง หอกเก่า เข้าฝักเก็บ
แทงไม่เจ็บ คมจาง บ้างก็กร่อน
แม้ผ้าบาง ก็ไม่อาจ จะตัดรอน
เขามาต้อน ก็จะรับ ประคับเคียง
ฝ่ายโลซก ตกใจ เมื่อได้ฟัง
ใยแม่ทัพ กังตั๋ง จึงหลบเลี่ยง
ผิดวิสัย จิวยี่ หนีสำเนียง
เพราะไม่เพียง รู้จัก จิวยี่ดี
ยังคาดว่า จิวยี่ ไม่ยอมแน่
วิสัยแท้ แม่ทัพ กำชับชี้
แต่ขงเบ้ง ได้ฟัง ยังยินดี
แล้วกล่าวแก่ จิวยี่ ด้วยปรีดา
ว่านี่แหนะ จิวยี่ ท่านแม่ทัพ
ท่านยอมรับ ตอนนี้ ดีหนักหนา
ถึงรบไป ท่านก็ คงสิ้นชีวา
เสียเวลา เตรียมทัพ ระงับมัน
ข้านี้มี อุบาย แยบคายนัก
เอาไว้หัก ทัพวุย ให้สะบั้น
แม้ทัพเรือ กำลัง สักร้อยพัน
ไม่เกินวัน ก็จะถอย ทยอยลา
ฝ่ายจิวยี่ ได้ฟัง ขงเบ้งกล่าว
เบิกตาวาว ตื่นเต้น เป็นหนักหนา
ทัพโจโฉ โขคน พลพลา
หลอกให้ล่า ถอยไป อย่างไรกัน 
ทั้งโลซก ตกตะลึง ไม่นึกถึง
เหตุใดจึง ขงเบ้ง กล่าวเช่นนั้น
ทีแรกว่า มายั่ว ให้รบกัน
กลับเปลี่ยนผัน ว่าจะไม่ ให้รบเลย
จึงถามท่าน อาจารย์ วานช่วยบอก
ทั้งในนอก แผนการ วานช่วยเอ่ย
ท่านเล่ามา อย่ามัว ไว้ตัวเลย
โปรดเฉลย วิธีมา ให้ข้าฟัง
ฝ่ายขงเบ้ง รีบตอบ ด้วยรอบคอบ
ตัวโจโฉ ชื่นชอบ ทรัพย์มั่งคั่ง
มันมุ่งหมาย ได้อำนาจ ราชวัง
ฮุบฮัวโต๋ กังตั๋ง รวมแผ่นดิน
แต่โจโฉ นี่ก็คน ชราเพศ
ยังกิเลส ราคะ ไม่ละสิ้น
เหนือกว่าอยาก ครองแคว้น ครองแผ่นดิน
คือนาริน กลิ่นประโลม แห่งโฉมยง
อันโจโฉ เคยกล่าว เอาไว้ว่า
ในบรรดา สิ่งของ ต้องประสงค์
ได้สองอย่าง จึงบรรลุ เจตจำนง
หนึ่งประสงค์ ครองดินแดน แสนสบาย
เป็นวุยอ๋อง ฮ่องเต้ โอรสฟ้า
สูงยิ่งกว่า ผู้ใด ในเหนือใต้
สองต้องการ สองหญิง มาเคียงกาย
คือต้องได้ สองเกี้ยว มาเคลียคลอ
นางสองเกี้ยว ที่มันว่า อยู่เมืองนี้
แม้จิวยี่ ยกให้ ไปเข้าหอ
ส่งสองนาง สะคราญโฉม ประโคมคลอ
ไปลวงล่อ โจโฉ ไม่เท่าไร
ขี้คร้านจัก ยกทัพ กลับวันนี้
หลงสตรี จนไม่คิด ติดศึกไหน
แม้ทำตาม กลอุบาย จงตายใจ
จะพ้นภัย ครั้งนี้ แน่ทีเดียว
ฝ่ายจิวยี่ สุดสะกด อารมณ์กลั้น
ร้องว่าท่าน ขงเบ้ง รอประเดี่ยว
หลักฐานใด ข้าอยาก ทราบนักเชียว
ว่าสองเกี้ยว โจโฉ ได้หมายตา
ขงเบ้งว่า หลักฐาน นั้นมีแน่
ข้าจะแฉ ให้ฟัง ดังหนักหนา
อันความเดิม เล่าขาน กันนานมา
ถึงเวลา ข้าจะเล่า ให้เข้าใจ
โจโฉอยู่ ฮัวโต๋ ยโสยศ
ได้กำหนด ให้สร้าง หอคอยใหญ่
ชื่อว่าหอ ถงเชว่ ตระหง่านไกล
แปลความนัย ว่าหอ ยูงทองแดง
แล้วคัดเลือก หญิงงาม ไว้เสพสรร
ทุกคืนวัน เป็นนิจ ไม่ผิดแผลง
ประดับเครื่อง มีค่า ราคาแพง
หอเด่นแดง แสงลอด สอดอาคาร
สั่งลูกชาย โจลิด คิดอักษร
แต่งเป็นกลอน ชมศาลา อาขยาน
ไว้แต่งหอ งามวิจิตร พิศดาร
ไว้เป็นสาร เสน่หา นางในใจ
จิวยี่ถาม ต่อว่า ท่านขงเบ้ง
ท่านจงเร่ง บอกมา อย่าช้าไว้
กลอนบทนั้น กล่าวมา ว่าอย่างไร
ขงเบ้งพลัน ตอบไป ให้ได้ฟัง

"โอ้ว่าครั้ง ตามเสด็จ ประพาสผ่าน
สู่สายธาร น้ำเจียง เพียงไหลหลั่ง
คือหอสูง ยูงทองแดง แหล่งเริงรัง
สดใสดั่ง สวนหลวง ปวงมาลี
มีหอซ้าย กิมฮอง ส่องสง่า
เคียงหอขวา หยกหลง บ่งราศี
มีสองเกี้ยว เรียวเด่น เช่นนารี
ร่วมชีวี ครองสมบัติ พัศดาร
โอ้โอฬาล ราชวัง ยังเคยเยือน
แลเมฆรุ้ง ลอยเลื่อน ล้นสถาน
หอล้อไล่ ใต่ฟ้า ประภาคาร
เกินประมาณ สองหอ เคล้าคลอกัน
แม้จันทรา อาทิตย์ ไม่คิดสู้
สองหอคู่ เคียงใหล่ มิไหวหวั่น
อยู่ทนนาน ผ่านพิจ นิจนิรันดร์
ไม่มีวัน สิ้นสุข แห่งยุคเอย"

เมื่อฟังจบ จิวยี่ ก็แค้นคับ
ตบลงกับ โต๊ะไม้ มิได้เฉย
กลอนโจลิด ผิดใจ กระไรเลย
ด้วยเป็นเขย เกี้ยวกง จึงร้อนแรง
ยิ่งได้คิด คาดโทษ ก็โกรธกริ้ว
ดั่งเสือหิว หาญโหด โกรธกำแหง
ได้ฟังคำ ขงเบ้ง เร่งชี้แจง
จึงสำแดง วาจา มาทันใด
จะให้เสีย สิ่งใด นั้นไม่ว่า
แต่จะมา เสียนาง หาได้ไม่
ฝ่ายขงเบ้ง ถามว่า ด้วยเหตุใด
เพื่อการใหญ่ ใยเสียดาย เพียงสองรา
ครั้งอตีด พระธิดา สิริสรรพ
ยังถูกจับ ส่งให้ พวกชาวป่า
นี่เพียงสาว ชาวบ้าน ธรรมดา
เราจะมา เสียดาย ทำไมกัน
ฝ่ายจิวยี่ หน้าแดง ลุกแผลงฤทธิ์
ยืนไม่ติด วุ่นวาย ส่ายกระสัน
แล้วร้องกล่าว ว่าไม่รู้ รึไงกัน
สองเกี้ยว นั้นมีฐา -นะอันใด
นางใต้เกี้ยว ภรรยา ท่านซุนเซ็ก
ส่วนน้องเล็ก เสียวเกี้ยว ใช่ใครไหน
นางเป็นเมีย ขวัญตา ชีวาวัย
เหวยแค้นใจ โจโฉ ดั่งไฟกาฬ
ฝ่ายขงเบ้ง ทำที เป็นขอโทษ
ทั้งอ้อนโอด ว่าไม่คิด จะหักหาญ
พูดเพราะความ รู้เท่า ไม่ถึงการ
ขอวานท่าน ยกโทษ ให้ข้าที
จงลืมเรื่อง ส่งนาง ให้โจโฉ
ท่านโมโห โปรดทุเลา แต่เท่านี้
ส่วนเรื่องรบ ก็ไม่รู้ อย่างไรดี
ตามแต่ท่าน จิวยี่ ก็แล้วกัน
ฝ่ายจิวยี่ อาฆาต อ้ายโจโฉ
มันใหญ่โต จากไหน ก็ไม่หวั่น
จะชิงบ้าน แยกเมือง ข้าจากกัน
จะพรากขวัญ เมียข้า หน้าไม่อาย
จึงกล่าวแก่ ขงเบ้ง ว่าอาจารย์
ข้าทหาร มีหรือ จะยอมได้
เดิมตัวข้า ก็จะรบ จบแค่ตาย
เพียงอุบาย กล่าวหลอก เพื่อลองใจ
แม้ท่านมา ล่อหลอก ให้ออกรบ
เราจะคบ กับท่าน ด้วยเหตุไหน
ย่อมไม่ยอม ถูกใช้ ให้อายใคร
พระเจ้าอา เราจะไล่ ปัดภัยพลัน
แต่แล้วท่าน จริงใจ ไม่หลอกล่อ
เพียงมาขอ ไมตรี ดั่งพี่ท่าน
เช่นนี้จง มาเป็นมิตร สนิทกัน
มีเราท่าน ออกอุบาย ให้แยบยล
เราจะฉะ โจรชั่ว ไอ้โจโฉ
มันวางโต จากไหน ก็ไม่สน
มันยกทัพ อัปรี มากี่คน
จะฆ่าจน มันถอย ไปรอยลี้
ฝ่ายขงเบ้ง เพ่งพิจ คิดตามอยู่
ฟังก็รู้ ความหมาย ของจิวยี่
ยั่วจิวยี่ ให้รบ สำเร็จที
ได้ดั่งที่ ตั้งใจ เอาไว้พลัน
แท้จริงเกี้ยว ในกลอน ของโจลิด
เข้าใจผิด ว่าเป็นนาง สองเกี้ยวนั้น
แท้จริงหมาย ว่าสะพาน ที่พาดชัน
สองเกี้ยวคั่น ตรงกลาง หว่างหองาม
เดิมขงเบ้ง รู้อยู่ ว่าจิวยี่
แม่ทัพนี้ ปัญญา ก็น่าขาม
แม้ไม่หลอก ออกอุบาย ขยายความ
คงไม่ตาม ช่วยรบ สมทบกัน
จึงกล่าวว่า นี่แหนะ ท่านแม่ทัพ
จงระงับ ความโกรธไว้ก่อนท่าน
จะเอาน้อย ชนะมาก ก็ยากครัน
เราเสี้ยวพัน สู้หมื่น ต้องฝืนใจ
แต่โจโฉ เดินทาง มาอ่อนล้า
ทหารม้า รบเรือ เหลือจะไหว
ทั้งกำลัง ครึ่งหนึ่ง ก็จำใจ
ยึดเอาไว้ เพียงยอม จำนนมา
แท้จริงแล้ว โจโฉ ก็อ่อนนัก
จะหาญหัก คงจัก ไม่หนักหนา
อาศัยเพียง ขุนพล ผู้ปรีชา
กับอุบาย ท่านข้า เข้าโจมตี
จะขออยู่ สู้ด้วย ช่วยกันสู้
ได้เป็นผู้ ช่วยเหลือ ท่านจิวยี่
รบทัพเรือ โจโฉ ในครานี้
ตั้งทัพที่ เซ็กเพ็ก ผาแดงเอย


...................................
ประพันธ์ุโดย ก่อกฤษฎิ์ ด่านประดิษฐ์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่