สวัสดีค่ะ อยากจะมาเตือนภัยเกี่ยวกับแท็กซี่มอมยาค่ะ เราเป็นพี่สาวของผู้เสียหายค่ะ ผู้เสียหายเป็นน้องสาวคนกลางของเราเอง เราอยู่ต่างประเทศ น้องเล่าเสร็จเราก็ให้น้องรีบไปนอนเพราะตีหนึ่งแล้ว พรุ่งนี้น้องต้องทำงานอีก และเราอาสาเป็นคนมาพิมพ์เล่าเรื่องเพื่อเตือนคนอื่นเองค่ะ เพราะอย่างน้อยอาจจะเป็นอุทาหรณ์ หรือช่วยให้คนอื่นๆ ได้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เอาตัวรอดจากเหตุการณ์ร้ายๆ แบบนี้ได้ เราจะยินดีอย่างยิ่งเลยค่ะ
จากนี้ไปจะเป็นเรื่องราวคร่าวๆ ที่น้องเล่าให้เราฟังนะคะ
วันที่ 28 มีนาคม 2559 น้องเราทำงานดึก บริษัทอยู่แถวถนนวิภาวดี บ้านอยู่สมุทรปราการ เวลาราวๆ สามทุ่ม ได้เรียกรถแท็กซี่สีชมพู ป้ายทะเบียน ทษ XXXX (มีเลขทะเบียนแต่ไม่ทราบว่ากฎของพันทิพลงละเอียดกว่านี้ได้ไหม) ขึ้นจากเซ็นทรัลลาดพร้าว น้องให้ขึ้นทางด่วน แต่น้องแอบสังเกตุว่าแท็กซี่ขับเหมือนไปอ้อม แต่ก็ขึ้นทางด่วนตรงแถวกำแพงเพชร
ช่วงก่อนขึ้นทางด่วนน้องแอบเห็นคนขับเอื้อมมือไปจับๆ ตรงหน้าคอนโซลแอร์ คนขับใส่แหวนอันใหญ่สองวงที่นิ้วนาง กับนิ้วก้อย มีวัสดุเหมือนหินกลมๆ อยู่บนแหวน น้องก็เริ่มเอะใจว่าไปจับบ่อยๆ ทำไม เพราะว่าเคยอ่านเรื่องราวที่คนมาเตือนในพันทิพเหมือนกัน เรื่องแท็กซี่มอมยา ซักพักน้องรู้สึกวูบค่ะ (น้องเราไม่ได้ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ รักสุขภาพ ออกกำลังกาย และไปตรวจร่างกายเป็นประจำค่ะ) ก่อนขึ้นรถก็ปรกติดี แต่พอหลังจากที่เห็นคนชับไปจับแถวๆ หน้าแอร์ แล้วรู้สึกวูบ น้องรู้เลยว่าโดนแน่แล้ว เลยรีบหาทางกดเปิดกระจกค่ะ ตะโกนเสียงดังให้คนขับเปิดกระจกไปด้วย คนขับก็ตีมึนแบบไม่รู้ คุณเป็นอะไรเนี่ย น้องเรากลัวมาก ยังไงๆ ตอนนั้นน้องคิดว่าก็ต้องออกไปจากที่นี่ให้ได้ น้องพยายามจะเปิดประตูไปด้วย ตอนนั้นรถอยู่บนทางด่วนแล้วค่ะ เสร็จพอน้องทำเหมือนจะเปิดประตู คนขับก็ชะลอรถนิดนึง คงเพราะเห็นน้องเราท่าทางเอาจริง และยังเหมือนยังพอมีสติอยู่ น้องเปิดกระจกได้ก็รีบสูดอากาศทันทีเลยค่ะ ซักพักก็เริ่มดีขึ้น อาการวูบค่อยๆ หายไป
หลังจากดีขึ้นนั้นน้องก็รีบพยายามโทรหาน้องคนเล็ก ส่งเมสเสจ ทำทุกอย่างค่ะ มือถือเจ้ากรรมก็เหมือนจะมาแฮงค์เอาตอนฉุกเฉิน แต่โชคดีที่ติดต่อน้องคนเล็กได้ น้องคนกลางทำทีโทรศัพท์ไป ขู่ไปว่าถ้าเป็นไรไปญาติที่เป็นตำรวจต้องเอาเรื่องมันให้ถึงที่สุด คือมีไรน้องบอกน้องพูดตลอด เสียงดังด้วย ถ่ายรูปคนขับเอาไว้ด้วย ตอนนั้นน้องบอกสกิลการเอาตัวรอดควักออกมาหมด พอลงทางด่วนน้องเลยรีบให้ปล่อยลงตรงแถว 7-11 ลาซาล เพราะไม่อยากให้ไปส่งถึงบ้านแล้ว เด๋วอันตรายถ้ารู้ว่าบ้านอยู่ที่ไหน ตอนนี้น้องสติมาครบถ้วนแล้วค่ะ หลังจากได้อากาศบริสุทธิ์เข้าไป พอรถจอด มิเตอร์อยู่ที่ 180 บาท กว่าๆ น้องเลยให้ไป 200 บาท เงินทง เงินทอนไม่เอาแล้ว เอาตัวรอดออกมาก่อน ตอนนี้น้องกลับบ้านปลอดภัยแล้วค่ะ โชคดีที่ไม่มีอาการวิงเวียน หรือ เป็นลมเหมือนกระทู้ของคุณผู้หญิงคนนึงที่เคยเอาเรื่องมาแชร์ในพันทิพ
เรารู้สึกน้องเรายังโชคดีมากที่เอาตัวรอดมาได้ แต่เราก็ไม่รู้ว่าคนที่เคยได้เจอเหตุการณ์แบบนี้ เอาตัวรอดได้ทุกคนหรือไม่ หรือผู้เสียหายได้ออกมาต่อสู้อะไรบ้าง มีทางที่จะสืบคนขับรถ เลขทะเบียนนี้ได้ไหม (ซึ่งความจริงเราก็ไม่แน่ใจว่าจะจัดการอะไรต่อไปได้บ้าง) แต่วันนี้นะ หลังจากเราฟังเรื่องจากน้องเรา เราไม่อยากให้ใครคนไหนต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้เลยค่ะ อีกอย่างนึง ทำไมถึงต้องรอให้เกิดเหตุการณ์ร้ายๆ ก่อนถึงจะสามารถทำอะไรได้ ทำไมมันไม่สามารถมีวิธีที่ป้องกัน หรือทำให้มันลดน้อยลงตั้งแต่แรกคะ
วันนี้ไปเสิร์ชอ่านข้อมูลเก่า มีบุคคลทางการแพทย์มายืนยันว่าเป็นไปไม่ได้อีก พวกยาสลบไรแบบนี้ คือ คนไม่โดน คงไม่รู้หรอกมั้งคะ มันอาจจะไม่ใช่ยา แต่เป็นสารเคมีบางประเภทก็ได้ ใครไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรค่ะ บ้านเราเชื่อ ตั้งแต่มีคนมาเตือนแล้ว หลังจากเหตุการณ์ในวันนี้ยิ่งทำให้เห็นว่า เรื่องอันตราย ที่อาจจะนำไปสู่เรื่องร้าย มันยังไม่หมดไปจากสังคมเรา น้องเราเดินทางด้วยแท็กซี่ค่อนข้างบ่อย และก็ระวังตัวพอสมควร แต่ก็ยังเจอเข้ากะตัวจนได้ เรื่องแบบนี้มันไม่ได้ไกลตัวเราๆ ท่านๆ กันเลยนะคะ
วันนี้เพื่อนน้องก็แนะนำให้เรียก taxi uber แต่ก็ก็คิดว่าไม่น่าจะเป็นไร ดึกแล้วก็ไม่อยากรอนานด้วยมั้งคะ ตัวเราเองเคยใช้บริการแท็กซี่ของนครชัยแอร์ ประทับใจ แต่คิดว่าคงรอนานเหมือนกัน และน้องบอกว่าเหมือนจะไม่ค่อยเห็นวิ่งเลย เราเสียดายนะคะ สิ่งดีๆ ปลอดภัย คนไทยควรสนับสนุนให้เยอะๆ ค่ะ
เราเลยอยากมาเตือน และขอคำแนะนำค่ะ บอกน้องไว้ว่าน่าจะไปแจ้งความ แต่ว่าการแจ้งความต้องแจ้งภายในกี่วันคะ พรุ่งนี้น้องต้องทำงานอีก เพิ่งเริ่มงาน จะลางานเลยก็ดูไม่ดีอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง คิดว่าเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในพันทิพ อาจจะพอให้คำแนะนำอะไรได้บ้าง ขอบคุณล่วงหน้านะคะ และขอให้ทุกๆ คน ปลอดภัยค่ะ
เตือนภัย !!! "Taxi มอมยา" ยังมีอยู่ น้องสาวเราเพิ่งเจอมากับตัว สดๆ ร้อนๆ !!!
จากนี้ไปจะเป็นเรื่องราวคร่าวๆ ที่น้องเล่าให้เราฟังนะคะ
วันที่ 28 มีนาคม 2559 น้องเราทำงานดึก บริษัทอยู่แถวถนนวิภาวดี บ้านอยู่สมุทรปราการ เวลาราวๆ สามทุ่ม ได้เรียกรถแท็กซี่สีชมพู ป้ายทะเบียน ทษ XXXX (มีเลขทะเบียนแต่ไม่ทราบว่ากฎของพันทิพลงละเอียดกว่านี้ได้ไหม) ขึ้นจากเซ็นทรัลลาดพร้าว น้องให้ขึ้นทางด่วน แต่น้องแอบสังเกตุว่าแท็กซี่ขับเหมือนไปอ้อม แต่ก็ขึ้นทางด่วนตรงแถวกำแพงเพชร
ช่วงก่อนขึ้นทางด่วนน้องแอบเห็นคนขับเอื้อมมือไปจับๆ ตรงหน้าคอนโซลแอร์ คนขับใส่แหวนอันใหญ่สองวงที่นิ้วนาง กับนิ้วก้อย มีวัสดุเหมือนหินกลมๆ อยู่บนแหวน น้องก็เริ่มเอะใจว่าไปจับบ่อยๆ ทำไม เพราะว่าเคยอ่านเรื่องราวที่คนมาเตือนในพันทิพเหมือนกัน เรื่องแท็กซี่มอมยา ซักพักน้องรู้สึกวูบค่ะ (น้องเราไม่ได้ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ รักสุขภาพ ออกกำลังกาย และไปตรวจร่างกายเป็นประจำค่ะ) ก่อนขึ้นรถก็ปรกติดี แต่พอหลังจากที่เห็นคนชับไปจับแถวๆ หน้าแอร์ แล้วรู้สึกวูบ น้องรู้เลยว่าโดนแน่แล้ว เลยรีบหาทางกดเปิดกระจกค่ะ ตะโกนเสียงดังให้คนขับเปิดกระจกไปด้วย คนขับก็ตีมึนแบบไม่รู้ คุณเป็นอะไรเนี่ย น้องเรากลัวมาก ยังไงๆ ตอนนั้นน้องคิดว่าก็ต้องออกไปจากที่นี่ให้ได้ น้องพยายามจะเปิดประตูไปด้วย ตอนนั้นรถอยู่บนทางด่วนแล้วค่ะ เสร็จพอน้องทำเหมือนจะเปิดประตู คนขับก็ชะลอรถนิดนึง คงเพราะเห็นน้องเราท่าทางเอาจริง และยังเหมือนยังพอมีสติอยู่ น้องเปิดกระจกได้ก็รีบสูดอากาศทันทีเลยค่ะ ซักพักก็เริ่มดีขึ้น อาการวูบค่อยๆ หายไป
หลังจากดีขึ้นนั้นน้องก็รีบพยายามโทรหาน้องคนเล็ก ส่งเมสเสจ ทำทุกอย่างค่ะ มือถือเจ้ากรรมก็เหมือนจะมาแฮงค์เอาตอนฉุกเฉิน แต่โชคดีที่ติดต่อน้องคนเล็กได้ น้องคนกลางทำทีโทรศัพท์ไป ขู่ไปว่าถ้าเป็นไรไปญาติที่เป็นตำรวจต้องเอาเรื่องมันให้ถึงที่สุด คือมีไรน้องบอกน้องพูดตลอด เสียงดังด้วย ถ่ายรูปคนขับเอาไว้ด้วย ตอนนั้นน้องบอกสกิลการเอาตัวรอดควักออกมาหมด พอลงทางด่วนน้องเลยรีบให้ปล่อยลงตรงแถว 7-11 ลาซาล เพราะไม่อยากให้ไปส่งถึงบ้านแล้ว เด๋วอันตรายถ้ารู้ว่าบ้านอยู่ที่ไหน ตอนนี้น้องสติมาครบถ้วนแล้วค่ะ หลังจากได้อากาศบริสุทธิ์เข้าไป พอรถจอด มิเตอร์อยู่ที่ 180 บาท กว่าๆ น้องเลยให้ไป 200 บาท เงินทง เงินทอนไม่เอาแล้ว เอาตัวรอดออกมาก่อน ตอนนี้น้องกลับบ้านปลอดภัยแล้วค่ะ โชคดีที่ไม่มีอาการวิงเวียน หรือ เป็นลมเหมือนกระทู้ของคุณผู้หญิงคนนึงที่เคยเอาเรื่องมาแชร์ในพันทิพ
เรารู้สึกน้องเรายังโชคดีมากที่เอาตัวรอดมาได้ แต่เราก็ไม่รู้ว่าคนที่เคยได้เจอเหตุการณ์แบบนี้ เอาตัวรอดได้ทุกคนหรือไม่ หรือผู้เสียหายได้ออกมาต่อสู้อะไรบ้าง มีทางที่จะสืบคนขับรถ เลขทะเบียนนี้ได้ไหม (ซึ่งความจริงเราก็ไม่แน่ใจว่าจะจัดการอะไรต่อไปได้บ้าง) แต่วันนี้นะ หลังจากเราฟังเรื่องจากน้องเรา เราไม่อยากให้ใครคนไหนต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้เลยค่ะ อีกอย่างนึง ทำไมถึงต้องรอให้เกิดเหตุการณ์ร้ายๆ ก่อนถึงจะสามารถทำอะไรได้ ทำไมมันไม่สามารถมีวิธีที่ป้องกัน หรือทำให้มันลดน้อยลงตั้งแต่แรกคะ
วันนี้ไปเสิร์ชอ่านข้อมูลเก่า มีบุคคลทางการแพทย์มายืนยันว่าเป็นไปไม่ได้อีก พวกยาสลบไรแบบนี้ คือ คนไม่โดน คงไม่รู้หรอกมั้งคะ มันอาจจะไม่ใช่ยา แต่เป็นสารเคมีบางประเภทก็ได้ ใครไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรค่ะ บ้านเราเชื่อ ตั้งแต่มีคนมาเตือนแล้ว หลังจากเหตุการณ์ในวันนี้ยิ่งทำให้เห็นว่า เรื่องอันตราย ที่อาจจะนำไปสู่เรื่องร้าย มันยังไม่หมดไปจากสังคมเรา น้องเราเดินทางด้วยแท็กซี่ค่อนข้างบ่อย และก็ระวังตัวพอสมควร แต่ก็ยังเจอเข้ากะตัวจนได้ เรื่องแบบนี้มันไม่ได้ไกลตัวเราๆ ท่านๆ กันเลยนะคะ
วันนี้เพื่อนน้องก็แนะนำให้เรียก taxi uber แต่ก็ก็คิดว่าไม่น่าจะเป็นไร ดึกแล้วก็ไม่อยากรอนานด้วยมั้งคะ ตัวเราเองเคยใช้บริการแท็กซี่ของนครชัยแอร์ ประทับใจ แต่คิดว่าคงรอนานเหมือนกัน และน้องบอกว่าเหมือนจะไม่ค่อยเห็นวิ่งเลย เราเสียดายนะคะ สิ่งดีๆ ปลอดภัย คนไทยควรสนับสนุนให้เยอะๆ ค่ะ
เราเลยอยากมาเตือน และขอคำแนะนำค่ะ บอกน้องไว้ว่าน่าจะไปแจ้งความ แต่ว่าการแจ้งความต้องแจ้งภายในกี่วันคะ พรุ่งนี้น้องต้องทำงานอีก เพิ่งเริ่มงาน จะลางานเลยก็ดูไม่ดีอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง คิดว่าเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในพันทิพ อาจจะพอให้คำแนะนำอะไรได้บ้าง ขอบคุณล่วงหน้านะคะ และขอให้ทุกๆ คน ปลอดภัยค่ะ