ธนบูรณ์ เกษารัตน์ จากพี่ชายสู่น้อง สมเจตน์ เกษารัตน์

จากพี่ถึงน้อง ..... สมเจตน์,ธนบูรณ์
“คำพูดนั้น ......ผมจำมันได้เสมอ “
นักฟุตบอลในเมืองไทยจริงๆแล้วมีคู่พี่น้อง หรือครอบครัวฟุตบอลที่ลงเล่นมากมาย แต่จะประสบความสำเร็จแบบพีคสุดๆพร้อมๆกันคงน้อยนัก
เรื่องราวของฟุตบอลที่รักมักถูกถ่ายทอดผ่านทางการพูดคุยการแนะนำและอยากเห็นคนที่เราปรารถนาดีไปให้ถึงเส้นทางฝัน นั่นคือ “ทีมชาติไทย “
ฝันอันแสนยิ่งใหญ่ที่ทุกคนอยากคว้ามา ย้อนเวลากลับไปสัก ช่วงปี 2545-50 เป็นช่วงเวลานักเตะโนเนมแต่ชื่อดังในหมู่เพื่อนฝูงนักฟุตบอลและโค้ชไทย “จิ๊บ”สมเจตน์ เกษารัตน์ คือกองกลางตัวตัดเกมดาวรุ่งแถวหน้าของเมืองไทยในยุคที่ไม่มีทีวีถ่ายทอดสด การแย่งบอล ตัดบอลคู่แข่ง การอ่านเกม
การชิงจังหวะจ่ายบอล เขาคืออีกคนที่น่าจับตามองในยุคนั้น แต่สำหรับทีมชาติไทยแล้ว “จิ๊บ” อาจจะไปได้ไม่สุด เพราะติดแค่เพียงทีมนักเรียนไทย,
19 ปี ชิงแชมป์เอเชีย ที่ โอมาน และ มีชื่อติดทีม ซีเกมส์ ครั้งที่ 21 ที่มาเลเซีย ก่อนจะหลุดในช่วงโค้งสุดท้าย
สมเจตน์ คืออีกหนึ่งนักเตะที่ทยานฝันท้าแข้งฟุตบอลกึ่งอาชีพและอาชีพหลายทีมเกิน 10 สโมสร ของเมืองไทย ที่สุดแล้วแม้ว่าเขาจะไปไม่สุดแต่
เขาคือต้นแบบลูกหนังสายเลือดเดียวกันอย่าง “ตั้ม” ธนบูรณ์ เกษารัตน์ น้องชายแท้ๆที่คลานตามกันมา ฝันของเขาทั้งหมดในการเล่นฟุตบอลถูก
ถ่ายเทแบบยกเคล้าไปให้กับ “ตั้ม” แบบเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะนี่คือสิ่งที่พี่มีให้น้องและน้องก็พร้อมจะทำให้พี่

ครอบครัว “เกษารัตน์” คือครอบครัวฟุตบอลตัวยง คุณพ่อก็เป็นนักฟุตบอล ส่วนสมเจตน์ และ ธนบูรณ์ ก็ไม่ทิ้งลายเช่นกัน ตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวตัดเกม
คือปฐมบทความคิดของพี่กับน้องจากที่น้องเคยตามไปดูพี่เล่นทุกสนามเก็บสไตล์ใส่เมมโมรี่ตั้งแต่เยาว์วัย ก่อนที่ “ตั้ม”จะมาเกาะแขนพี่ชายแล้วพูด
คำหนึ่งออกมาว่าอยากเป็นนักฟุตบอล โรงเรียนกีฬากทม.คือเป้าหมายแรกที่พี่ชายคนนี้รวมไปถึงคนในครอบครัวเล็งไว้สำหรับปูฝันให้น้องชาย
ตลอดเวลาที่เรียน,เล่น ที่ ร.ร.กีฬาเมืองหลวง สมเจตน์ บอกว่าน้องชายพัฒนามาเรื่อยๆ ช่วงที่ว่างตัวเขาเองก็จะแนะนำในสิ่งที่เห็นในตัวน้องเวลา
ลงแข่งขันเพื่อบอกจุดเด่นและจุดด้อยจากประสบการณ์ ตอนนั้นที่เอาไปเรียนที่กีฬากทม.ก็ไม่ได้คาดคิดว่าน้องจะมาไกลได้ขนาดนี้เพราะแค่อยาก
ให้น้องได้ไปอยู่ที่ๆเขามีการฝึกซ้อมต่อเนื่องเพื่อพัฒนาในสิ่งที่น้องเลือก
แต่ก็มีเรื่องที่พี่ชายคนนี้ประทับใจในตัว ธนบูรณ์ ไม่เคยลืมคือคำมั่นสัญญาตอนเด็กๆ เป็นเรื่องที่เขาอยากเล่นฟุตบอลให้ดีเพื่อทำให้ครอบครัวสบาย
กว่าที่เป็นอยู่ในตอนนั้นหลับตานึกถึงคำพูดเหล่านั้นครอบครัวภูมิใจในตัว “ตั้ม” ซึ่งสมัยตัวเขาเองเล่นฟุตบอลเงินรายได้น้อยไม่เยอะแต่บางส่วน
ก็จะถูกแปรผันมาเป็นเรื่องค่ากินค่าใช้จ่ายในช่วงที่น้องเรียน ส่วนเรื่องอื่นๆก็มีเพิ่มเติมบ้างนิดหน่อยเพราะ “น้องตั้ม” เป็นคนไม่ฟุ่มเฟือย

อาชีพนักฟุตบอลก็เหมือนหมาล่าเนื้อ บางชิ้นหอมหวน บางชิ้นอาจจะรสชาติดีเฉพาะตอนเริ่มสำหรับน้องชายของเขาที่ก้าวมาถึงทีมชาติชุดใหญ่วันนี้
ได้ก็ไม่ได้หวังอะไรมากแค่ขอให้รักษามาตรฐานการเล่น,สภาพร่างกายให้ดีเพราะอาชีพ นี้ถ้าไม่ดูแลร่างกายสักวันก็จะไม่มีงานทำ พร้อมเป็นกำลังใจให้น้องเสมอดีใจแบบไม่รู้จะอธิบายอย่างไง? ที่วันนี้น้องมาถึงฝัน อยากให้เก็บฝันที่เป็นความจริงแบบนี้ไปนานๆ
นี่คือจุดเล็กๆ จากพี่ชาย สู่น้องชาย ไอดอลในชีวิตไม่ได้สร้างจากคนที่ร่ำรวยใหญ่โต แต่ร้อยละ 90 เปอร์เซ็นต์คนใกล้ตัวต่างหากที่ทำให้เกิดแนวทาง
และความฝันเพื่อจะไปมันให้ถึง
ขอบคุณภาพและข้อมูล --- สมเจตน์ เกษารัตน์



มาดูฟอร์มธนบูรณ์ ณ ตอนนี้กันค่ะ

นัดอิรัก

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
นัดเกาหลีใต้

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
และฟอร์มของธนบูรณ์ที่ผ่านมากับทีมชาติ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่