คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
1.ผมเข้าใจนะครับว่าพ่อ แม่ มีสิทธิ์ แต่ผู้หญิงเคยแต่งงานมาแล้ว และ อีกอย่างที่ผมไม่เข้าใจคือ อิสลามห้ามพูดโกหกถึงแม้ว่าจะกระทบกระเทือนใครก็ตาม แต่ต้องพูดในสิ่งที่เป็นความจริง และการที่ผมพูดก็พูดกับพ่อ แม่ และเธอ เท่านั้น ผมบาปหลอครับ
---พูดความจริงนั้นไม่บาป แต่ผมว่าการพูดความจริงนั้น เพราะมีจุดประสงค์มากกว่า ดังนั้น สิ่งที่คุณทำผิดผ่านมา มันบาปอยู่แล้ว บาปมันยังคงอยู่ เพียงแต่คุณไม่ได้สร้างมันให้เพิ่มขึ้น แต่... หลังจากที่คุณพูด หากมีคนไม่พอใจ หรือเขาอับอายจากสิ่งที่คุณพูด นั่นแหละจะทำให้คุณบาป
2.ถ้าหลังจากนี้ไปพ่อ แม่ และ เธอ ไปพูดกับคนอื่นว่าให้ร้ายผมหรือไม่พูดความเป็นจริง พวกเขาจะบาปไหม
---ต่อให้จริง หรือไม่จริง เขาก็บาปครับ หากไม่เล่าความจริง มันจะทำให้คุณเสียหาย จะเข้าข่ายใส่ร้ายป้ายสี หากเล่าความจริง มันจะทำให้คุณอับอาย เข้าข่ายนินทา ซึ่งสองสิ่งนั้นมันก็บาปหนักอยู่แล้ว
3.การที่เธอไม่ยอมรับ หรือ ไม่พูดความจริง ให้กับพ่อ แม่ ของเธอฟัง ไม่บาปใช่ไหมครับ
---ไม่พูดความจริง(หากโดนถาม) = โกหก ไม่พูดความจริง(ไม่โดนถาม) = ไม่ได้โกหก คุณคงแยกสองอย่างนี้ออกนะครับ
4.ข้อนี้ผมเข้าใจ
5.ข้อนี้ผมเข้าใจ
6.การที่ผมไม่เต็มใจที่จะกระทำการใดๆตามคำสั่งของพ่อ แม่ และ เธอ โดยคำสั่งนั้นไร้ความยุติธรรมกับผม และผมเองก็ไม่ยกโทษให้ ผมจะบาปไหมครับ
---อะไรคือคำสั่งของเขาละครับ เขาไม่มีสิทธิ์สั่งอะไรคุณได้นอกจากเรื่องไม่ให้ยุ่งกับครอบครัวเขา ซึ่งนั่นก็คือเขามีสิทธิ์ หากคุณยังไปทำให้เขาเดือดร้อนคุณก็บาป และเรื่องตอนนี้เขาทำให้คุณไม่พอใจ เขาก็บาป และคุณทำให้เขาไม่พอใจ คุณก็บาป เพียงแต่จะมีการพลิกล๊อคหรือไม่ คือครอบครัวเขาหรือคุณจะต้องขอมาอัฟต่อกัน นั่นคือข้อบังคับ ใครขอก่อน ผู้นั้นย่อมประเสริฐ และหากขอแล้ว อีกฝ่ายไม่มาอัฟให้ ฝ่ายนั้นจะบาป
ปล.ความผิดต่อมนุษย์นั้นมันน่ากลัวกว่าความผิดต่ออัลลอฮ์นะครับ เขาตายไป เราก็ไม่มีโอกาสที่จะขอมาอัฟได้แล้ว
---พูดความจริงนั้นไม่บาป แต่ผมว่าการพูดความจริงนั้น เพราะมีจุดประสงค์มากกว่า ดังนั้น สิ่งที่คุณทำผิดผ่านมา มันบาปอยู่แล้ว บาปมันยังคงอยู่ เพียงแต่คุณไม่ได้สร้างมันให้เพิ่มขึ้น แต่... หลังจากที่คุณพูด หากมีคนไม่พอใจ หรือเขาอับอายจากสิ่งที่คุณพูด นั่นแหละจะทำให้คุณบาป
2.ถ้าหลังจากนี้ไปพ่อ แม่ และ เธอ ไปพูดกับคนอื่นว่าให้ร้ายผมหรือไม่พูดความเป็นจริง พวกเขาจะบาปไหม
---ต่อให้จริง หรือไม่จริง เขาก็บาปครับ หากไม่เล่าความจริง มันจะทำให้คุณเสียหาย จะเข้าข่ายใส่ร้ายป้ายสี หากเล่าความจริง มันจะทำให้คุณอับอาย เข้าข่ายนินทา ซึ่งสองสิ่งนั้นมันก็บาปหนักอยู่แล้ว
3.การที่เธอไม่ยอมรับ หรือ ไม่พูดความจริง ให้กับพ่อ แม่ ของเธอฟัง ไม่บาปใช่ไหมครับ
---ไม่พูดความจริง(หากโดนถาม) = โกหก ไม่พูดความจริง(ไม่โดนถาม) = ไม่ได้โกหก คุณคงแยกสองอย่างนี้ออกนะครับ
4.ข้อนี้ผมเข้าใจ
5.ข้อนี้ผมเข้าใจ
6.การที่ผมไม่เต็มใจที่จะกระทำการใดๆตามคำสั่งของพ่อ แม่ และ เธอ โดยคำสั่งนั้นไร้ความยุติธรรมกับผม และผมเองก็ไม่ยกโทษให้ ผมจะบาปไหมครับ
---อะไรคือคำสั่งของเขาละครับ เขาไม่มีสิทธิ์สั่งอะไรคุณได้นอกจากเรื่องไม่ให้ยุ่งกับครอบครัวเขา ซึ่งนั่นก็คือเขามีสิทธิ์ หากคุณยังไปทำให้เขาเดือดร้อนคุณก็บาป และเรื่องตอนนี้เขาทำให้คุณไม่พอใจ เขาก็บาป และคุณทำให้เขาไม่พอใจ คุณก็บาป เพียงแต่จะมีการพลิกล๊อคหรือไม่ คือครอบครัวเขาหรือคุณจะต้องขอมาอัฟต่อกัน นั่นคือข้อบังคับ ใครขอก่อน ผู้นั้นย่อมประเสริฐ และหากขอแล้ว อีกฝ่ายไม่มาอัฟให้ ฝ่ายนั้นจะบาป
ปล.ความผิดต่อมนุษย์นั้นมันน่ากลัวกว่าความผิดต่ออัลลอฮ์นะครับ เขาตายไป เราก็ไม่มีโอกาสที่จะขอมาอัฟได้แล้ว
แสดงความคิดเห็น
ความคิดคนอิสลาม
1.ถ้าวันนี้ผมพูดความจริงทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับลูกสาวของเขา(ทำซินา) แล้วมารดาของเขายังขัดขวางไม่ให้แต่งงานกัน มารดาของเขาจะมีบาปไหมครับ
2.ถ้ามารดาของเธอ หรือ เธอ หรือ คนอื่น นำเรื่องของผมไปพูดแบบว่าใส่ร้ายผม ว่าผมไม่ดี เขาจะบาปไหมครับ
3.ถ้าตัวเธอไม่พูด หรือ ยอมรับความจริง(ทำซินา) ที่เกิดขึ้นเธอจะบาปไหมครับ
4.ถ้าวันนี้ผมกับเธอได้แต่งงานกัน เราสองสองจะบาปไหมครับ
5.ถ้าเธอไปแต่งงานกับคนอื่นโดยที่มารดาเธอเป็นคนจัดหาให้ แต่เธอกับมารดาไม่สนใจเรื่องที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ เขาสองคนจะบาปไหมครับ
ผมขอทราบคำตอบหน่อยนะครับ