อีเอสพีเอ็น สื่อชื่อก้องโลกมองว่า ทีมชาติไทย ยังมีโอกาสที่จะได้เข้าไปลงเล่นในฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายที่รัสเซีย ถ้าหากว่าสามารถทำ 3 สิ่งที่พวกเขาวิเคราะห์ออกมาได้อย่างดีที่สุด
หลังจากที่ ทีมชาติไทย สามารถบุกไปเสมอกับ อิรัก มาได้ 2-2 พร้อมกับคว้าตำแหน่งแชมป์ของกลุ่มเอฟ และได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 12 สุดท้ายต่อไป ส่งผลให้แฟนบอลชาวไทยบางส่วนก็มองว่าครั้งนี้อาจจะเป็นไปได้ที่ทัพช้างศึกของพวกเขาจะได้มีโอกาสเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรก ซึ่งทาง ESPN ก็มองไม่ต่างจากแฟนบอลชาวไทย
3 สิ่งที่อาจทำให้ไทยได้ไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรก
1) ปรับปรุงระแบบแนวรับ
ทีมชาติไทย อาจจะยังมีปัญหาในแนวรับบ้างอยู่พอสมควร แต่ว่าพวกเขาก็ยังโชคดีที่มี กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นายประตูฝีมือดีคอยเป็นด่านสุดท้ายอยู่
ส่วนคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟนั้นดูเหมือนกว่าทาง เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง จะเลือกใช้งาน กรวิทย์ นามวิเศษ กับ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ เป็นหลัก โดยมี สุทธินันท์ พุกหอม เป็นตัวสอดแทรก แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ น่าจะเหมาะกับการเป็น มิดฟิลด์ตัวรับมากกว่าการมายืนเป็นเซ็นเตอร์ นั่นเป็นเพราะว่าการที่ทีมมีมิดฟิลด์ตัวรับหรือตัวโฮลดิ้งที่แข็งแกร่งยืนอยู่หน้ากองหลังนั้นน่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่ามาก
อีกอย่างเมื่อทีมต้องเจอกับทีมที่มีความแข็งแกร่งมากกว่า แล้วมีกองกลางตัวรับที่ไว้ใจได้กันท่าเอาไว้ก่อนในจังหวะแรกมันจะปลอดภัยมากกว่าอยู่แล้ว ซึ่งในส่วนนี้ ธนบูรณ์ จะทำได้แน่ ๆ ส่วนคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟกุนซือทีมชาติไทยก็ควรต้องเลือกดูให้ดีอีกที
2) ดึงความสามารถที่ดีที่สุดของ เมสซี่เจ ออกมาให้ได้
สำหรับ เมสซี่เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ คงไม่มีใครสงสัยในความสามารถของเขาอยู่แล้ว เพราะว่าอย่างที่รู้ ๆ กันเขาคือผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดของทีมชาติไทยในตอนนี้ อย่างในเกมกับเกาหลีใต้เมื่อเจ้าตัวถูกส่งลงสนามมา เขาสามารถครีเอทเกมได้อย่างชาญฉลาด อย่างจังหวะที่จ่ายบอลทะลุช่องให้กับ สารัช อยู่เย็น ได้โอกาสยิง แม้ว่าจะไม่เป็นประตูแต่ก็ถือว่าเป็นการจ่ายบอลที่เฉียบขาดจริง ๆ และอย่างที่เห็นกันว่าผู้เล่นเกาหลีใต้ก็ไม่สามารถจัดการกับเขาได้อย่างถนัดมากนัก จนต้องทำฟาวล์ครั้งแล้วครั้งเล่า
แน่นอนว่าหากโค้ชสามารถดึงเอาขีดสุดของความสามารถ เมสซี่เจ ออกมาใช้งานได้ รับรองว่าทีมชาติไทยจะน่ากลัวกว่านี้แน่นอน ยิ่งหากเขาพร้อมลงสนามเคียงข้างกับกัปตันทีมอย่าง ธีราทร บุญมาทัน แล้วด้วย ทีมชาติไทย ก็ต้องถือว่าเป็นอีกทีมที่น่ากลัวทีเดียว
3) แรงบันดาลใจจากแฟนบอลในราชมังคลาฯ
แฟนบอลของทีมชาติไทย ในสนามราชมังคลากีฬาสถานได้ทำให้เหล่าทีมชาติต่าง ๆ ที่มาลงเล่นได้รู้ถึงความน่ากลัวไปแล้วว่าแรงใจที่พวกเขาตะโกนเชียร์ทีมชาติของตนเองนั้นไม่มีหมดเลยจริง ๆ อย่างในเกมกับ อิรัก, ไต้หวัน หรือว่า เวียดนาม ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกที่ผ่านมา ทั้ง 3 ชาติ น่าจะรู้ซึ้งกันดี โดยเฉพาะอิรักที่นำไทยไปก่อนถึง 2-0 แต่สุดด้วยเสียงเชียร์จากแฟนบอลที่กระตุ้นผู้เล่นของเขาอย่างไม่มีหยุดส่งผลให้ทีมชาติไทยตามตีเสมอเป็น 2-2 ได้สำเร็จ
ล่าสุดในแมตช์อุ่นเครื่องกับ ทีมชาติเกาหลีใต้ อูลี่ สติลิเก้ นายใหญ่ของขุนพลจากแดนกิมจิ ยังยอมรับว่าแฟนบอลของทีมชาติไทยนั้นยอดเยี่ยมจริง ๆ แม้ว่าจะไม่ได้ใช้สนามราชมังคลาก็ตาม แต่ว่าแฟนบอลของทีมชาติไทยก็ยังยอดเยี่ยม เพราะว่าความยอดเยี่ยมมันอยู่ในสายเลือดของความรักชาติ
แน่นอนว่าแฟนบอลในสนามของทีมชาติไทยจะเป็นอีกหนึ่งคีย์หลักสำคัญที่จะเป็นตัวแปร และมีส่วนช่วยให้ขุนพลช้างศึกมีโอกาสได้ผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายที่ประเทศรัสเซีย แต่ยังไงก็ตามพวกเขายังมีเกมในรอบ 12 ทีมสุดท้ายรออยู่
ขอบคุณข้อมูลจาก : espnfcasia.com
ภาพข่าว : Thailand National Team Gallery, AFP
เครดิต :
http://football.kapook.com/news-24133 
ESPN วิเคราะห์ 3 ปัจจัยพาไทยไปบอลโลก : ปรับแนวรับ-เมสซี่เจ และแฟนบอลชาวไทย
หลังจากที่ ทีมชาติไทย สามารถบุกไปเสมอกับ อิรัก มาได้ 2-2 พร้อมกับคว้าตำแหน่งแชมป์ของกลุ่มเอฟ และได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 12 สุดท้ายต่อไป ส่งผลให้แฟนบอลชาวไทยบางส่วนก็มองว่าครั้งนี้อาจจะเป็นไปได้ที่ทัพช้างศึกของพวกเขาจะได้มีโอกาสเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรก ซึ่งทาง ESPN ก็มองไม่ต่างจากแฟนบอลชาวไทย
3 สิ่งที่อาจทำให้ไทยได้ไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรก
1) ปรับปรุงระแบบแนวรับ
ทีมชาติไทย อาจจะยังมีปัญหาในแนวรับบ้างอยู่พอสมควร แต่ว่าพวกเขาก็ยังโชคดีที่มี กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นายประตูฝีมือดีคอยเป็นด่านสุดท้ายอยู่
ส่วนคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟนั้นดูเหมือนกว่าทาง เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง จะเลือกใช้งาน กรวิทย์ นามวิเศษ กับ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ เป็นหลัก โดยมี สุทธินันท์ พุกหอม เป็นตัวสอดแทรก แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ น่าจะเหมาะกับการเป็น มิดฟิลด์ตัวรับมากกว่าการมายืนเป็นเซ็นเตอร์ นั่นเป็นเพราะว่าการที่ทีมมีมิดฟิลด์ตัวรับหรือตัวโฮลดิ้งที่แข็งแกร่งยืนอยู่หน้ากองหลังนั้นน่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่ามาก
อีกอย่างเมื่อทีมต้องเจอกับทีมที่มีความแข็งแกร่งมากกว่า แล้วมีกองกลางตัวรับที่ไว้ใจได้กันท่าเอาไว้ก่อนในจังหวะแรกมันจะปลอดภัยมากกว่าอยู่แล้ว ซึ่งในส่วนนี้ ธนบูรณ์ จะทำได้แน่ ๆ ส่วนคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟกุนซือทีมชาติไทยก็ควรต้องเลือกดูให้ดีอีกที
2) ดึงความสามารถที่ดีที่สุดของ เมสซี่เจ ออกมาให้ได้
สำหรับ เมสซี่เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ คงไม่มีใครสงสัยในความสามารถของเขาอยู่แล้ว เพราะว่าอย่างที่รู้ ๆ กันเขาคือผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดของทีมชาติไทยในตอนนี้ อย่างในเกมกับเกาหลีใต้เมื่อเจ้าตัวถูกส่งลงสนามมา เขาสามารถครีเอทเกมได้อย่างชาญฉลาด อย่างจังหวะที่จ่ายบอลทะลุช่องให้กับ สารัช อยู่เย็น ได้โอกาสยิง แม้ว่าจะไม่เป็นประตูแต่ก็ถือว่าเป็นการจ่ายบอลที่เฉียบขาดจริง ๆ และอย่างที่เห็นกันว่าผู้เล่นเกาหลีใต้ก็ไม่สามารถจัดการกับเขาได้อย่างถนัดมากนัก จนต้องทำฟาวล์ครั้งแล้วครั้งเล่า
แน่นอนว่าหากโค้ชสามารถดึงเอาขีดสุดของความสามารถ เมสซี่เจ ออกมาใช้งานได้ รับรองว่าทีมชาติไทยจะน่ากลัวกว่านี้แน่นอน ยิ่งหากเขาพร้อมลงสนามเคียงข้างกับกัปตันทีมอย่าง ธีราทร บุญมาทัน แล้วด้วย ทีมชาติไทย ก็ต้องถือว่าเป็นอีกทีมที่น่ากลัวทีเดียว
3) แรงบันดาลใจจากแฟนบอลในราชมังคลาฯ
แฟนบอลของทีมชาติไทย ในสนามราชมังคลากีฬาสถานได้ทำให้เหล่าทีมชาติต่าง ๆ ที่มาลงเล่นได้รู้ถึงความน่ากลัวไปแล้วว่าแรงใจที่พวกเขาตะโกนเชียร์ทีมชาติของตนเองนั้นไม่มีหมดเลยจริง ๆ อย่างในเกมกับ อิรัก, ไต้หวัน หรือว่า เวียดนาม ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกที่ผ่านมา ทั้ง 3 ชาติ น่าจะรู้ซึ้งกันดี โดยเฉพาะอิรักที่นำไทยไปก่อนถึง 2-0 แต่สุดด้วยเสียงเชียร์จากแฟนบอลที่กระตุ้นผู้เล่นของเขาอย่างไม่มีหยุดส่งผลให้ทีมชาติไทยตามตีเสมอเป็น 2-2 ได้สำเร็จ
ล่าสุดในแมตช์อุ่นเครื่องกับ ทีมชาติเกาหลีใต้ อูลี่ สติลิเก้ นายใหญ่ของขุนพลจากแดนกิมจิ ยังยอมรับว่าแฟนบอลของทีมชาติไทยนั้นยอดเยี่ยมจริง ๆ แม้ว่าจะไม่ได้ใช้สนามราชมังคลาก็ตาม แต่ว่าแฟนบอลของทีมชาติไทยก็ยังยอดเยี่ยม เพราะว่าความยอดเยี่ยมมันอยู่ในสายเลือดของความรักชาติ
แน่นอนว่าแฟนบอลในสนามของทีมชาติไทยจะเป็นอีกหนึ่งคีย์หลักสำคัญที่จะเป็นตัวแปร และมีส่วนช่วยให้ขุนพลช้างศึกมีโอกาสได้ผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายที่ประเทศรัสเซีย แต่ยังไงก็ตามพวกเขายังมีเกมในรอบ 12 ทีมสุดท้ายรออยู่
ขอบคุณข้อมูลจาก : espnfcasia.com
ภาพข่าว : Thailand National Team Gallery, AFP
เครดิต : http://football.kapook.com/news-24133