เราสองคน สามีภรรยาเป็นอีกคู่หนึ่งที่เหมือนคนอื่นๆที่ต้องการมีลูก และแน่นอนความปรารถนาของว่าที่คุณแม่ทุกคนก็คือ ความราบรื่นตลอดการตั้งครรภ์ ไม่คลอดก่อนกำหนด ไม่มีโรคใดๆมารบกวนระหว่างการตั้งครรภ์ รวมถึงขอให้ลูกน้อยออกมาครบ32 สมบูรณ์ทุกอย่าง
เราและสามีแต่งงานกันมา7ปี อยากมีลูกกันมาตลอด จน ณ วันที่ 1 มกราคม 2558 เรารู้ว่าเราตั้งครรภ์แบบงงๆทั้งน้ำตา เราตรวจมาหลายวันติดมาก ฮอร์โมนไม่ขึ้นเลยทั้งๆที่ประจำเดือนก็ไม่มา จนวันที่1 เราตรวจทิ้งไว้ในห้องน้ำ รอเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้นขีดเราจึงเฉยๆ แต่สักพักสามีเดินออกมาบอกว่า กำลังจะเป็นพ่อคนแล้ว เราทั้งคู่ดีใจมาก วินาทีนั้นคือ กอดกันน้ำตาไหล ต่างฝ่ายต่างบอกพ่อแม่ตัวเองกัน ทั้งๆที่ยังไม่แน่ใจ เลยใช้ pantip นี้แหละเลยมั่นใจว่า ขีดขึ้นจางแค่ไหนก็ท้อง เราก็รอสัก 2-3 อาทิตย์ ตั้งใจจะไปหาหมอเพื่อที่จะฝากครรภ์ไปด้วยเลย ผ่านไปเพียง 2 อาทิตย์ เราแพ้ท้องรุนแรงมาก กินอะไรไม่ได้ แม้กระทั่งน้ำเปล่ายังออกมาเลยค่ะ แพ้ไปสัก 3-4 วัน สามีดูท่าจะไม่ไหวเลยพาไปหาหมอ แจ้งว่าแพ้ท้อง หมอก็สักประวัติ และ อัลตร้าซาวน์ดู ณ ตอนนั้นเห็นถุงตั้งครรภ์แล้วแต่ยังไม่เห็นหัวใจลูก หมอบอกครรภ์ยังอ่อนต้องรออีกสัก2อาทิตย์ค่อยอัลตร้าซาวน์อีกที แต่ระหว่างนั้นเราต้องไปหาหมอทุกวันพุธ และ วันอาทิตย์ เพื่อฉีดยาแก้แพ้ท้อง และ ยากันแท้ง โดยรวมแล้วเราแพ้ท้องเกือบ 4 เดือน มาหายสนิทจริงๆตอนต้นๆเมษายน 2558 เราก็ดีขึ้น กินได้ นอนได้ เพราะช่วงที่แพ้นี้คือ เกาะกระโถนทั้งวันทั้งคืน กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ร้องไห้บ่อยมาก แต่ต้องสู้เพื่อลูก เราก็ไปหาหมอตามหมอนัดตลอด
พอหายแพ้ท้อง เราก็รีบเดินทางกลับมา กทม คิดถึงพ่อแม่เรามากๆ (เราเป็นคน กทม ส่วนสามีเป็นคนเชียงราย) มีนัดกลับไปหาหมออีกทีคือ หลังสงกรานต์ ถึงวันนัดเราก็ไปตามปกติเราก็ดีใจตื่นเต้นว่าจะได้เห็นลูกอีกแล้ว คุณหมอก็ตรวจตามปกติเลยค่ะ พอซาวน์เสร็จกลับมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นคือ คุณหมอแจ้งว่าลูกเรามีภาวะผนังหน้าท้องไม่ปิด หรือ ที่เรียกว่า Omphalocele ขนาด 0.7 มิลลิเมตร เราทั้งสองคนตกใจมาก แต่คุณหมอใจดีและบอกว่า อย่าเพิ่งตกใจไปน่ะ เป็นภาวะที่สามารถรักษาหลังคลอดได้ คุณหมอจึงทำการส่งตัวไปตรวจที่โรงพยาบาลมหานครเชียงใหม่ ว่าจะต้องให้อาจารย์หมอดู และ ตรวจโครโมโซมจากสายสะดือลูกว่า มีอาการผิดปกติอื่นร่วมมั้ย โครโมโซมครบมั้ย เราก็รีบไปตรวจวันรุ่งขึ้นเลยค่ะ อาจารย์หมอก็แจ้งว่า เป็นรูขนาดเล็กก็จริงแต่ก็ต้องรอดูผลโครโมโซมก่อนว่าเด็กแข็งแรงมั้ย ปกติมั้ย เราก็ตกลงทำการเจาะสายสะดือ หลังจากนั้นเราต้องรอผลเกือบ3สัปดาห์ เป็นช่วงเวลาที่เครียดมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ สวดมนต์ตลอดเวลา จนผลออกมาว่า ปกติทุกอย่างทำการตั้งครรภ์ต่อได้ เพียงแต่อายุครรภ์มากขึ้นขนาดรูอาจจะใหญ่ขึ้น หรือ มีภาวะเกี่ยวกับลำไส้ ต้องคอยซาวน์เดือนละ 2 ครั้ง จนถึงเดือนสุดท้ายก่อนคลอดซึ่งจะต้องซาวน์อาทิตย์ละ 1 ครั้งค่ะ
และในที่สุดวันที่เราและสามี รวมถึงพ่อแม่เรารอคอยก็มาถึง ลูกชายเราคลอดเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2558 โดยการผ่าตัด วินาทีแรกที่เราได้ยินเสียงร้องของลูกชายดังมาก น้ำตาไหลริน เพราะรู้ว่าลูกเราแข็งแรงและปลอดภัย แพทย์วิสัญญีบอกกับเราว่า น้องแข็งแรงดี น้ำหนัก 3000กรัมแน่นอน และ ภาวะผนังหน้าท้องไม่ปิด Omphalocele ขนาดเล็กมากไม่เกิน 2 ซม. แถมให้กำลังใจด้วยว่า วันก่อนมีเด็กภาวะเดียวกันนี้มีรูขนาดใหญ่มากเพิ่งทำการผ่าตัดเก็บลำไส้ไป
หลังจากกระบวนการคลอดปลอดภัยทั้งเราและลูกชาย หมอเด็กแรกเกิดแจ้งแฟนเราว่า ขอตรวจเช็คสภาพร่างกายน้องก่อน และอาจจะทำการผ่าตัดเก็บลำไส้ในวันรุ่งขึ้น พอเราถอดสายสวนปัสสาวะแล้ว เราพอมีแรงก็อยากจะเดินไปหาลูกที่ห้อง NICU ทันทีค่ะ แต่พยาบาลขอร้องคุณแม่ให้นั่งรถเข็นไปจะดีกว่าค่ะ และวันนั้นพยาบาลแจ้งเราว่า คุณหมอจะทำการผ่าตัดเก็บลำไส้ให้ลูกชายเราวันนั้นเลยค่ะ ช่วงบ่ายเราได้ส่งลูกเราเข้าห้องผ่าตัด และแน่นอนค่ะระหว่างรอ เราได้แต่สวดมนต์แผ่เมตตาให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองลูกชายให้ปลอดภัยตลอดเวลา ผ่านไป 2 ชม. พยาบาลแจ้งว่า ลูกชายออกจากห้องผ่าตัดแล้ว เรารีบไปดูที่ห้อง NICU เลยค่ะ น้ำตาไหลเลยเพราะไปถึงลูกชายเรานอนหลับตาพริ้ม มีไข้เล็กน้อยจากการผ่าตัด
พยาบาลบอกว่าการผ่าตัดเป็นไปอย่างปลอดภัยและราบรื่นค่ะ รอแผลหายถึงจะได้กลับบ้านอย่างน้อย 7-10 วัน เราก็รอค่ะ ไม่ยอมกลับ รอกลับบ้านพร้อมลูก แต่ระหว่างที่ลูกเราอยู่ในห้อง NICU เราตั้งหน้าตั้งตาปั๊มนมให้ลูกอย่างเดียวเลยน่ะค่ะเพื่อลูกชายเราจะได้แข็งแรงไวๆค่ะ ทุกวันนี้ลูกเรา 7 เดือนแล้วค่ะ แข็งแรงดี น้ำหนักดี พัฒนาการก็เป็นไปตามวัยค่ะ พ่อแม่เราเห่อหลานมากค่ะ เราเลยตกกระป๋องไปเลยค่ะ
เราอยากเขียนเรื่องของเราเพื่อให้แก่คุณแม่ที่ประสบปัญหา Omphalocele ว่า ไม่ได้ร้ายแรงหรืออันตราย เพียงแต่เราต้องสู้ให้มีกำลังใจเพื่อลูกน้อยของเราค่ะ ทั้งนี้เราอยากขอบคุณ คุณหมอ ณัฐพร สถาพรธีระ เราประทับใจคุณหมอมากๆ ดูแลดี คอยให้กำลังใจตลอดเวลา คุณหมอประจำอยู่ที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ และ รพ.เกษมราษฎร์ ศรีบุรินทร์ น่ะค่ะ ใครที่อาศัยอยู่ใน จ.เชียงราย กำลังหาหมอฝากครรภ์ ลองดูน่ะค่ะ
แชร์ประสบการณ์ตั้งครรภ์กับภาวะ Omphalocele
เราและสามีแต่งงานกันมา7ปี อยากมีลูกกันมาตลอด จน ณ วันที่ 1 มกราคม 2558 เรารู้ว่าเราตั้งครรภ์แบบงงๆทั้งน้ำตา เราตรวจมาหลายวันติดมาก ฮอร์โมนไม่ขึ้นเลยทั้งๆที่ประจำเดือนก็ไม่มา จนวันที่1 เราตรวจทิ้งไว้ในห้องน้ำ รอเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้นขีดเราจึงเฉยๆ แต่สักพักสามีเดินออกมาบอกว่า กำลังจะเป็นพ่อคนแล้ว เราทั้งคู่ดีใจมาก วินาทีนั้นคือ กอดกันน้ำตาไหล ต่างฝ่ายต่างบอกพ่อแม่ตัวเองกัน ทั้งๆที่ยังไม่แน่ใจ เลยใช้ pantip นี้แหละเลยมั่นใจว่า ขีดขึ้นจางแค่ไหนก็ท้อง เราก็รอสัก 2-3 อาทิตย์ ตั้งใจจะไปหาหมอเพื่อที่จะฝากครรภ์ไปด้วยเลย ผ่านไปเพียง 2 อาทิตย์ เราแพ้ท้องรุนแรงมาก กินอะไรไม่ได้ แม้กระทั่งน้ำเปล่ายังออกมาเลยค่ะ แพ้ไปสัก 3-4 วัน สามีดูท่าจะไม่ไหวเลยพาไปหาหมอ แจ้งว่าแพ้ท้อง หมอก็สักประวัติ และ อัลตร้าซาวน์ดู ณ ตอนนั้นเห็นถุงตั้งครรภ์แล้วแต่ยังไม่เห็นหัวใจลูก หมอบอกครรภ์ยังอ่อนต้องรออีกสัก2อาทิตย์ค่อยอัลตร้าซาวน์อีกที แต่ระหว่างนั้นเราต้องไปหาหมอทุกวันพุธ และ วันอาทิตย์ เพื่อฉีดยาแก้แพ้ท้อง และ ยากันแท้ง โดยรวมแล้วเราแพ้ท้องเกือบ 4 เดือน มาหายสนิทจริงๆตอนต้นๆเมษายน 2558 เราก็ดีขึ้น กินได้ นอนได้ เพราะช่วงที่แพ้นี้คือ เกาะกระโถนทั้งวันทั้งคืน กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ร้องไห้บ่อยมาก แต่ต้องสู้เพื่อลูก เราก็ไปหาหมอตามหมอนัดตลอด
พอหายแพ้ท้อง เราก็รีบเดินทางกลับมา กทม คิดถึงพ่อแม่เรามากๆ (เราเป็นคน กทม ส่วนสามีเป็นคนเชียงราย) มีนัดกลับไปหาหมออีกทีคือ หลังสงกรานต์ ถึงวันนัดเราก็ไปตามปกติเราก็ดีใจตื่นเต้นว่าจะได้เห็นลูกอีกแล้ว คุณหมอก็ตรวจตามปกติเลยค่ะ พอซาวน์เสร็จกลับมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นคือ คุณหมอแจ้งว่าลูกเรามีภาวะผนังหน้าท้องไม่ปิด หรือ ที่เรียกว่า Omphalocele ขนาด 0.7 มิลลิเมตร เราทั้งสองคนตกใจมาก แต่คุณหมอใจดีและบอกว่า อย่าเพิ่งตกใจไปน่ะ เป็นภาวะที่สามารถรักษาหลังคลอดได้ คุณหมอจึงทำการส่งตัวไปตรวจที่โรงพยาบาลมหานครเชียงใหม่ ว่าจะต้องให้อาจารย์หมอดู และ ตรวจโครโมโซมจากสายสะดือลูกว่า มีอาการผิดปกติอื่นร่วมมั้ย โครโมโซมครบมั้ย เราก็รีบไปตรวจวันรุ่งขึ้นเลยค่ะ อาจารย์หมอก็แจ้งว่า เป็นรูขนาดเล็กก็จริงแต่ก็ต้องรอดูผลโครโมโซมก่อนว่าเด็กแข็งแรงมั้ย ปกติมั้ย เราก็ตกลงทำการเจาะสายสะดือ หลังจากนั้นเราต้องรอผลเกือบ3สัปดาห์ เป็นช่วงเวลาที่เครียดมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ สวดมนต์ตลอดเวลา จนผลออกมาว่า ปกติทุกอย่างทำการตั้งครรภ์ต่อได้ เพียงแต่อายุครรภ์มากขึ้นขนาดรูอาจจะใหญ่ขึ้น หรือ มีภาวะเกี่ยวกับลำไส้ ต้องคอยซาวน์เดือนละ 2 ครั้ง จนถึงเดือนสุดท้ายก่อนคลอดซึ่งจะต้องซาวน์อาทิตย์ละ 1 ครั้งค่ะ
และในที่สุดวันที่เราและสามี รวมถึงพ่อแม่เรารอคอยก็มาถึง ลูกชายเราคลอดเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2558 โดยการผ่าตัด วินาทีแรกที่เราได้ยินเสียงร้องของลูกชายดังมาก น้ำตาไหลริน เพราะรู้ว่าลูกเราแข็งแรงและปลอดภัย แพทย์วิสัญญีบอกกับเราว่า น้องแข็งแรงดี น้ำหนัก 3000กรัมแน่นอน และ ภาวะผนังหน้าท้องไม่ปิด Omphalocele ขนาดเล็กมากไม่เกิน 2 ซม. แถมให้กำลังใจด้วยว่า วันก่อนมีเด็กภาวะเดียวกันนี้มีรูขนาดใหญ่มากเพิ่งทำการผ่าตัดเก็บลำไส้ไป
หลังจากกระบวนการคลอดปลอดภัยทั้งเราและลูกชาย หมอเด็กแรกเกิดแจ้งแฟนเราว่า ขอตรวจเช็คสภาพร่างกายน้องก่อน และอาจจะทำการผ่าตัดเก็บลำไส้ในวันรุ่งขึ้น พอเราถอดสายสวนปัสสาวะแล้ว เราพอมีแรงก็อยากจะเดินไปหาลูกที่ห้อง NICU ทันทีค่ะ แต่พยาบาลขอร้องคุณแม่ให้นั่งรถเข็นไปจะดีกว่าค่ะ และวันนั้นพยาบาลแจ้งเราว่า คุณหมอจะทำการผ่าตัดเก็บลำไส้ให้ลูกชายเราวันนั้นเลยค่ะ ช่วงบ่ายเราได้ส่งลูกเราเข้าห้องผ่าตัด และแน่นอนค่ะระหว่างรอ เราได้แต่สวดมนต์แผ่เมตตาให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองลูกชายให้ปลอดภัยตลอดเวลา ผ่านไป 2 ชม. พยาบาลแจ้งว่า ลูกชายออกจากห้องผ่าตัดแล้ว เรารีบไปดูที่ห้อง NICU เลยค่ะ น้ำตาไหลเลยเพราะไปถึงลูกชายเรานอนหลับตาพริ้ม มีไข้เล็กน้อยจากการผ่าตัด
พยาบาลบอกว่าการผ่าตัดเป็นไปอย่างปลอดภัยและราบรื่นค่ะ รอแผลหายถึงจะได้กลับบ้านอย่างน้อย 7-10 วัน เราก็รอค่ะ ไม่ยอมกลับ รอกลับบ้านพร้อมลูก แต่ระหว่างที่ลูกเราอยู่ในห้อง NICU เราตั้งหน้าตั้งตาปั๊มนมให้ลูกอย่างเดียวเลยน่ะค่ะเพื่อลูกชายเราจะได้แข็งแรงไวๆค่ะ ทุกวันนี้ลูกเรา 7 เดือนแล้วค่ะ แข็งแรงดี น้ำหนักดี พัฒนาการก็เป็นไปตามวัยค่ะ พ่อแม่เราเห่อหลานมากค่ะ เราเลยตกกระป๋องไปเลยค่ะ
เราอยากเขียนเรื่องของเราเพื่อให้แก่คุณแม่ที่ประสบปัญหา Omphalocele ว่า ไม่ได้ร้ายแรงหรืออันตราย เพียงแต่เราต้องสู้ให้มีกำลังใจเพื่อลูกน้อยของเราค่ะ ทั้งนี้เราอยากขอบคุณ คุณหมอ ณัฐพร สถาพรธีระ เราประทับใจคุณหมอมากๆ ดูแลดี คอยให้กำลังใจตลอดเวลา คุณหมอประจำอยู่ที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ และ รพ.เกษมราษฎร์ ศรีบุรินทร์ น่ะค่ะ ใครที่อาศัยอยู่ใน จ.เชียงราย กำลังหาหมอฝากครรภ์ ลองดูน่ะค่ะ