ก่อนอื่นผมขอเล่าย้อนหลังกลับไปเล็กน้อย โดยส่วนตัวผมเป็นคนชอบBigbike ตอนม.6ผมสอบติดอาชีวอนามัย มหาลัยแห่งหนึ่ง(ขออนุญาติไม่บอกชื่อ กลัวจะมีปัญหาตามมาทีหลัง) ผมได้เข้ามาเรียนจนจบปี1 ตอนนั้นผมได้สมัครสอบใหม่เพราะจะซิ่วเอาพยาบาล ผมเลือกของสถาบันพระบรมราชนก ซึ่งอันดับมันเหลือ ผมไม่รู้จะเลือกอะไรดีก็เลยเลือกทันตสาธารณสุขไป ซึ่งผลออกมาผมติดทันตสาธารณสุข ตั้งแต่วันนั้นชีวิตผมเปลี่ยนไปมาก จากหน้ามือเป็นหลังมือ จากฟ้าเป็นเหว ผมถูกพ่อบังคับให้เรียนทันตสาธารณสุข เหตุผลเพราะจบมามีงานทำ ซึ่งถ้าผมไม่เรียนพ่อจะไม่ส่งผมเรียนมหาลัยต่อ ไล่ออกจากบ้าน ตัดขาดพ่อลูก ตอนนั้นผมไม่ยอมไปเรียน ยังไงก็ไม่เรียน พ่อผมไปกินเหล้าทุกวัน กลับมาก็อาละวาด ทำลายของ ทุ่มคอมผมจนพัง แม่ก็หนีไปบวชชี1อาทิตกว่า ตอนัน้นผมเครียดสุดๆ บ้านร้อนเป็นไฟ ผมทำอะไรไม่ได้ ก็เลยยอมจำใจซิ่วมาเรียน ตอนนั้นพ่อสัญญาว่าจะออกรถBigbikeให้คันนึง ซึ่งผมไม่เคยขอ พ่อพูดเอง ถึงพ่อไม่ซื้อให้ผมก็ตั้งใจจะเก็บเงินไปเรื่อยๆ ตอนนั้นผมมีเงินเก็บเกือบ1แสน ก็เลยเอาก็เอาว่ะ ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย จะไม่เรียนก็ไม่ได้ พอได้เข้ามาเรียนแล้ว มันคือฝันร้ายของผม มันไม่เหมือนที่คิดไว้เลย ร้านข้าวอาหาร ก็มีน้อย ไม่มีที่เที่ยวที่กิน มันเป็นวิทยาลัย เลยไม่มีอะไร ขนาดโรงเรียนที่ผมเรียนยังมีร้านข้าวขนมเยอะกว่าเป็น10เท่าเลย ตอนนั้น3อาทิตแรกผมทำใจไม่ได้ ผมขอพ่อกลับมาเรียนมหาลัยต่อ แต่ก็เหมือนเดิม ทะเลาะกัน บ้านร้อนเป็นไฟ ผมก็เลยจำใจมาเรียนต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งสิ่งอำนวย ความลำบาก ความน่าเบื่อทั้งหมดอยู่ไปเรื่อยๆก็ทำใจได้ไปเอง ถึงจะมีคิดถึงมหาลัยอยู่บ้างก็ตาม
ต่อไปขอเข้าเรื่องเลยนะครับ พอเริ่มเรียนจิงๆแล้ว ชีวิตปี1เทอม1เป็ฯการเรียนที่หลอกตามากๆ แบบยังไงๆก็เรียนไหว มีแต่วิชาพื้นฐาน พอเข้าปี1เทอม2 ผมเริ่มเรียนทันตกายวิภาค มันเริ่มยากขึ้น ต้องมานั่งหล่อขี้ผึ้งให้เป็นฟัน ไม่ใช่ง่ายๆ ต้องมีหลุ่มมีร่อง พูดง่ายๆภาษาคนไม่ได้เรียนด้านนี้ก็ประมาณว่า ถ้าฟันซี่นี้มีขรุขระตรงไหน มีหลุ่มตรงไหน มีร่องตรงไหน ต้องทำขี้ผึ้งออกมาให้เหมือน มันยากมากๆ ผมท้อมากเลย ผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย อยากซิ่วมากๆ จนจบปี1เทอม2 ก็ได้ขอพ่อกลับมาเรียนมหาลัยอีก ตอนนั้นผมดรอปเรียนไว้1ปี ซึ่งก็เหมือนเดิมครับ บ้านร้อนเป็นไฟ เกิดเรื่องเหมือนเดิม ผมเริ่มเข้าปี2เทอม1 ก็เริ่มเรียนยากขึ้น แต่ก็ยังเอาตัวรอดมาอยู่ พอเข้าปี2เทอม2เท่านั้นแหละ ตอนนี้ผมเริ่มรู้ตัวแล้ว รู้ว่าไม่รอดแน่ๆ การเรียนหนังสือผมอ่านเอาได้ แต่งานฝีมือผมทำไมได้จิง ปี2เทอม2 ต้องอุดฟัน กรอฟัน ชื่อเหมือนง่าย แต่มันยาก ผมรู้สึกท้อมาตั้งแต่เริ่มๆมีแลปอุดฟันกรอฟันครั้งแรกเลย ต้นๆเทอมเลย ผมทำไม่ได้ จนมาถึงตอนนี้ผมีจำนวนแลปที่ค้างมากกว่าเพื่อนอยู่เป็นคนท้ายๆ กรอฟันไม่ผ่านๆๆมาตลอด เมื่อกรอไม่ผ่านก็อุดฟันไมไ่ด้ แล้วงานก็ค้างขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาถึงตอนสอบกรอฟัน มีแลปค้างทั้งหมดครึ่งนึงของทั้งหมด สอบกรอฟันผมก็ไม่ผ่าน สอบซ่อมไป4ครั้งแล้วยังไม่ผ่านเลย ตอนนี้คือแบบผมไม่อยากเรียนแล้ว ไม่ไหวแล้วจริงๆ ผมไม่มีฝีมือทางด้านนี้เลย ไหนจะต้องมาทนเรียนกับสิ่งที่ไม่ชอบ ทนสภาพบรรยากาศภายในวิลัยที่มันไม่มีอะไรเลย ทนแรงกดดันจากอาจาร ถ้าแลปไม่ผ่านจนหมดเทอมนี้ก็ต้องลงเรียนใหม่กับน้องปีหน้า(เรียนซ้ำนั่นแหละ) ผมอยากซิ่วมากๆตอนนี้ ฝืนเรียนมาตลอด โดนบังคับให้เรียน แต่ตอนนี้ตัวผมเองเรียนไม่ไหวแล้ว ผมลองไปขอพ่อซิ่วอีกครั้งนึง คราวนี้ไม่เหมือนเดิม พ่อบอกว่าจะออกก็ออกมาเลย แล้วไปหางานทำเอา รถที่ซื้อมาก็ขายเอาเงินคืนให้เค้า วันนั้นแม่ผมแอบเห็นพ่อร้องไห้ แม่อยู่กับพ่อมา30-40ปี ไม่เคยเห็นพ่อร้องไห้ พ่อตั้งความหวังกับผมไว้สูงมาก อยากให้ผมเรียนจบมีงานทำ แต่พ่อไม่เคยฟังความจากผมเลย พ่อไม่เคยรู้ความเป็นอยู่ของผม ไม่เคยรู้ว่าผมเรียนอะไรยังไง ไม่เคยรู้ว่าผมต้องเจอกับอะไรบ้าง ผมต้องทนกับสถาพแวดล้อมบางวันผมก็ไม่กินข้าวกลางวันเลย มันไม่มีอะไร มีแต่ข้าวแบบเดิม ร้านข้าวมีไม่ถึง5ร้าน จะออกมากินข้างนอกมันก็เป็นถนนหญ่ รถเร็วอันตราย แถมเป็นชนบท ห่างจากเมือง15กิโล ผมต้องมาทนแรงกดดันจากอาจารที่ไม่อยากเป็นอาจาร มาทำงานใช้หนี้ทุน เพราะหมดทุนก็ไป แล้วก็มีอาจารใหม่เข้ามา อาจารทุกคนไมไ่ด้จบวิชาชีพครู แต่จบทันตแพทย์มา มีเพียงไม่กี่คนที่มีวิชาชีพครูถึงแม้จะไม่เคยเรียนมา ซึ่งแบบว่าผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง ยกตัวอย่างมาอย่างนึงสิ่งที่เพิ่งเจอผ่านไม่ได้ไม่นานเลย ผมนั่งทำงานเป็น10ชั่วโมงเพื่อเอามาส่งในวันจัน แต่ไม่ได้เอางานเก่ามาส่งด้วย เพราะผมไม่รู้ว่าต้องเอาอันเก่าส่งพร้อมอันใหม่ ก็มาส่งงานตามนัด ผมบอกอาจารไปไมไ่ด้เอางานเก่ามา อาจารก็บอกกลับไปเอางานเก่ามาด้วย ผมก็อธิบายให้ฟังว่า งานอยู่ที่บ้าน บ้านอยู่ในเมืองห่างจากที่วิลัย15โล ขอกลับไปเอาได้มั้ย อาจารก็บอกงั้นเรื่องของเธอ ผมก็เลยกลับไปเอา พอมาถึงวิลัยเอางานมาส่งก็ดันบอก นี่มันกี่โมง หมดเวลาส่งแล้ว ผมก็คิดในใจแล้วบอกให้กลับไปเอาทำไม ตอนนั้นรู้สึกเซ็งมาก คะแนนช่องนี้ผมได้0 ยังมีอีกหลายครั้งที่ผมเจอ เช่น ผมมีเรียนบ่าย1 แต่นัดส่งงาน8โมงเช้า ก็มาส่งตรงเวลา แต่กว่าอาจารจะมาก็8โมงครึ่ง ก็นั่งรอเอาไปส่ง สักพักมีอาจารอีกคนมาชวนอาจารไปกินข้าว อาจารที่ผมส่งงานอยู่ก็บอกว่างั้นไว้พรุ่งนี้มาส่งใหม่นะ โดยที่จะตรวจต่อก็ไม่ได้ เอาเรื่องส่วนตัวก่อนสะงั้น ยังมีอีกหลายเรื่องผมทนมาตลอด แต่เรื่องกรอฟันอุดฟัน ผมคงไม่ไหวจริงๆ พยายามสุดๆแล้วแต่ทำไม่ได้เลย ยิ่งถ้าขึ้นปี3ผมคงไม่รอดแน่ๆ ต้องมาทำฟันกับคนจริงๆ ไม่อยากนึกสภาพคนที่ต้องมาเป็นคนไข้ผมเลย
สุดท้ายนี้ผมควรจะทำยังไงต่อไปดีครับ ทั้งหมดนี้ผมทนได้ แต่เรื่องการเรียนผมไม่รอดจริงๆ ซึ่งตอนนี้ผมกำลังจะโดนเรียนซ้ำอีกปี ผมท้อมากๆเลย พ่อผมก็เอาแต่ใจ เอาตัวเองเป็นใหญ่ ไม่เคยฟังอะไรจากผมเลย ผมฝืนเรียนมาตั้งแต่ปี1 จนผมคิดว่าผมจะฝื่น่ิไปอีกไม่ไหวแล้ว ผมควรจะทำยังไงกับชีวิตดีครับ
เคยฝืนเรียนในสิ่งที่เราไม่ชอบ เพราะโดนพ่อแม่บังคับเรียนกันไหม
ต่อไปขอเข้าเรื่องเลยนะครับ พอเริ่มเรียนจิงๆแล้ว ชีวิตปี1เทอม1เป็ฯการเรียนที่หลอกตามากๆ แบบยังไงๆก็เรียนไหว มีแต่วิชาพื้นฐาน พอเข้าปี1เทอม2 ผมเริ่มเรียนทันตกายวิภาค มันเริ่มยากขึ้น ต้องมานั่งหล่อขี้ผึ้งให้เป็นฟัน ไม่ใช่ง่ายๆ ต้องมีหลุ่มมีร่อง พูดง่ายๆภาษาคนไม่ได้เรียนด้านนี้ก็ประมาณว่า ถ้าฟันซี่นี้มีขรุขระตรงไหน มีหลุ่มตรงไหน มีร่องตรงไหน ต้องทำขี้ผึ้งออกมาให้เหมือน มันยากมากๆ ผมท้อมากเลย ผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย อยากซิ่วมากๆ จนจบปี1เทอม2 ก็ได้ขอพ่อกลับมาเรียนมหาลัยอีก ตอนนั้นผมดรอปเรียนไว้1ปี ซึ่งก็เหมือนเดิมครับ บ้านร้อนเป็นไฟ เกิดเรื่องเหมือนเดิม ผมเริ่มเข้าปี2เทอม1 ก็เริ่มเรียนยากขึ้น แต่ก็ยังเอาตัวรอดมาอยู่ พอเข้าปี2เทอม2เท่านั้นแหละ ตอนนี้ผมเริ่มรู้ตัวแล้ว รู้ว่าไม่รอดแน่ๆ การเรียนหนังสือผมอ่านเอาได้ แต่งานฝีมือผมทำไมได้จิง ปี2เทอม2 ต้องอุดฟัน กรอฟัน ชื่อเหมือนง่าย แต่มันยาก ผมรู้สึกท้อมาตั้งแต่เริ่มๆมีแลปอุดฟันกรอฟันครั้งแรกเลย ต้นๆเทอมเลย ผมทำไม่ได้ จนมาถึงตอนนี้ผมีจำนวนแลปที่ค้างมากกว่าเพื่อนอยู่เป็นคนท้ายๆ กรอฟันไม่ผ่านๆๆมาตลอด เมื่อกรอไม่ผ่านก็อุดฟันไมไ่ด้ แล้วงานก็ค้างขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาถึงตอนสอบกรอฟัน มีแลปค้างทั้งหมดครึ่งนึงของทั้งหมด สอบกรอฟันผมก็ไม่ผ่าน สอบซ่อมไป4ครั้งแล้วยังไม่ผ่านเลย ตอนนี้คือแบบผมไม่อยากเรียนแล้ว ไม่ไหวแล้วจริงๆ ผมไม่มีฝีมือทางด้านนี้เลย ไหนจะต้องมาทนเรียนกับสิ่งที่ไม่ชอบ ทนสภาพบรรยากาศภายในวิลัยที่มันไม่มีอะไรเลย ทนแรงกดดันจากอาจาร ถ้าแลปไม่ผ่านจนหมดเทอมนี้ก็ต้องลงเรียนใหม่กับน้องปีหน้า(เรียนซ้ำนั่นแหละ) ผมอยากซิ่วมากๆตอนนี้ ฝืนเรียนมาตลอด โดนบังคับให้เรียน แต่ตอนนี้ตัวผมเองเรียนไม่ไหวแล้ว ผมลองไปขอพ่อซิ่วอีกครั้งนึง คราวนี้ไม่เหมือนเดิม พ่อบอกว่าจะออกก็ออกมาเลย แล้วไปหางานทำเอา รถที่ซื้อมาก็ขายเอาเงินคืนให้เค้า วันนั้นแม่ผมแอบเห็นพ่อร้องไห้ แม่อยู่กับพ่อมา30-40ปี ไม่เคยเห็นพ่อร้องไห้ พ่อตั้งความหวังกับผมไว้สูงมาก อยากให้ผมเรียนจบมีงานทำ แต่พ่อไม่เคยฟังความจากผมเลย พ่อไม่เคยรู้ความเป็นอยู่ของผม ไม่เคยรู้ว่าผมเรียนอะไรยังไง ไม่เคยรู้ว่าผมต้องเจอกับอะไรบ้าง ผมต้องทนกับสถาพแวดล้อมบางวันผมก็ไม่กินข้าวกลางวันเลย มันไม่มีอะไร มีแต่ข้าวแบบเดิม ร้านข้าวมีไม่ถึง5ร้าน จะออกมากินข้างนอกมันก็เป็นถนนหญ่ รถเร็วอันตราย แถมเป็นชนบท ห่างจากเมือง15กิโล ผมต้องมาทนแรงกดดันจากอาจารที่ไม่อยากเป็นอาจาร มาทำงานใช้หนี้ทุน เพราะหมดทุนก็ไป แล้วก็มีอาจารใหม่เข้ามา อาจารทุกคนไมไ่ด้จบวิชาชีพครู แต่จบทันตแพทย์มา มีเพียงไม่กี่คนที่มีวิชาชีพครูถึงแม้จะไม่เคยเรียนมา ซึ่งแบบว่าผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง ยกตัวอย่างมาอย่างนึงสิ่งที่เพิ่งเจอผ่านไม่ได้ไม่นานเลย ผมนั่งทำงานเป็น10ชั่วโมงเพื่อเอามาส่งในวันจัน แต่ไม่ได้เอางานเก่ามาส่งด้วย เพราะผมไม่รู้ว่าต้องเอาอันเก่าส่งพร้อมอันใหม่ ก็มาส่งงานตามนัด ผมบอกอาจารไปไมไ่ด้เอางานเก่ามา อาจารก็บอกกลับไปเอางานเก่ามาด้วย ผมก็อธิบายให้ฟังว่า งานอยู่ที่บ้าน บ้านอยู่ในเมืองห่างจากที่วิลัย15โล ขอกลับไปเอาได้มั้ย อาจารก็บอกงั้นเรื่องของเธอ ผมก็เลยกลับไปเอา พอมาถึงวิลัยเอางานมาส่งก็ดันบอก นี่มันกี่โมง หมดเวลาส่งแล้ว ผมก็คิดในใจแล้วบอกให้กลับไปเอาทำไม ตอนนั้นรู้สึกเซ็งมาก คะแนนช่องนี้ผมได้0 ยังมีอีกหลายครั้งที่ผมเจอ เช่น ผมมีเรียนบ่าย1 แต่นัดส่งงาน8โมงเช้า ก็มาส่งตรงเวลา แต่กว่าอาจารจะมาก็8โมงครึ่ง ก็นั่งรอเอาไปส่ง สักพักมีอาจารอีกคนมาชวนอาจารไปกินข้าว อาจารที่ผมส่งงานอยู่ก็บอกว่างั้นไว้พรุ่งนี้มาส่งใหม่นะ โดยที่จะตรวจต่อก็ไม่ได้ เอาเรื่องส่วนตัวก่อนสะงั้น ยังมีอีกหลายเรื่องผมทนมาตลอด แต่เรื่องกรอฟันอุดฟัน ผมคงไม่ไหวจริงๆ พยายามสุดๆแล้วแต่ทำไม่ได้เลย ยิ่งถ้าขึ้นปี3ผมคงไม่รอดแน่ๆ ต้องมาทำฟันกับคนจริงๆ ไม่อยากนึกสภาพคนที่ต้องมาเป็นคนไข้ผมเลย
สุดท้ายนี้ผมควรจะทำยังไงต่อไปดีครับ ทั้งหมดนี้ผมทนได้ แต่เรื่องการเรียนผมไม่รอดจริงๆ ซึ่งตอนนี้ผมกำลังจะโดนเรียนซ้ำอีกปี ผมท้อมากๆเลย พ่อผมก็เอาแต่ใจ เอาตัวเองเป็นใหญ่ ไม่เคยฟังอะไรจากผมเลย ผมฝืนเรียนมาตั้งแต่ปี1 จนผมคิดว่าผมจะฝื่น่ิไปอีกไม่ไหวแล้ว ผมควรจะทำยังไงกับชีวิตดีครับ