***[ทีมชาติเยอรมัน]**[27.03.16]**[ ภาพบรรยากาศหลังเกม Germany 2-3 England]

***[ทีมชาติเยอรมัน]**[27.03.16]**[ ภาพบรรยากาศหลังเกม Germany 2-3 England]



สวัสดีแฟนๆทีมชาติเยอรมันทุกๆคนนะค่ะ
นัดเมื่อคืนพ่ายคาบ้าน 2-3  ไม่รู้จะพูดไงถึงจะอุ่นเครื่องก็อยากให้ชนะ  สงสารหมีน้อยตัวใหญ่ๆได้ของขวัญวันเกิดไป3เม็ด..สุขสันต์วันเกิดนะมานูอมยิ้ม15
และโปรแกรมนัดต่อไปของเยอรมันจะเปิดอัลลิอันซ์ อารีนา รับการมาเยือนของอิตาลี คืนวันอังคารที่ 29 มีนาคม
  สำหรับวันนี้เราก็มีภาพบรรยากาศหลังเกมมาฝากเพื่อนๆเช่นเคย   ถ้าพร้อมแล้วก็ตามมาดูบรรยากาศของนัดเมื่อคืนด้านล่างกันเลยค่ะ ยิ้ม




ดาวยิงฟอร์มแรงจากเลสเตอร์ และดาวรุ่งจากสเปอร์ส ควงกันพังประตูแรกในทีมชาติชุดใหญ่ ช่วยให้ทัพสิงโตคำราม บุกพลิกชนะแชมป์โลกทีมล่าสุดได้ถึงกรุงเบอร์ลิน

โยอาคิม เลิฟ กุนซือเจ้าบ้าน ส่งนักเตะที่ค้าแข้งอยู่ในต่างแดนลงสนามถึง 6 ราย นำโดย มาริโอ โกเมซ ดาวยิงจอมเก๋าจากเบซิคตัส รวมถึงสองกองกลางชุดแชมป์โลก 2014 อย่าง โทนี โครส และ ซามี เคดิรา ซึ่งสวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีม







ด้านผู้มาเยือนของ รอย ฮอดจ์สัน ใช้ผู้เล่นจากรองจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกอย่างท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ลงสนามมากที่สุดถึง 4 คน ได้แก่ แฮร์รี เคน, เดเล อัลลี, เอริค ไดเออร์ และ แดนนี โรส ซึ่งได้โอกาสลงประเดิมสนามในนามทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรก




เริ่มเกมมาเป็นเยอรมันที่ชื่อชั้นรวมถึงประสบการณ์ของนักเตะดูดีกว่า เป็นฝ่ายครองบอลบุกเข้าใส่ และสามารถส่งบอลไปกองสู่ก้นตาข่ายได้แล้วด้วย ในนาทีที่ 26 จากจังหวะที่ เคดิรา จ่ายทะลุช่องเข้าเขตโทษให้ โกเมซ ยิงเรียดด้วยขวาเข้าไป แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินกลับยกธงให้เป็นลูกล้ำหน้า แม้ว่าจากภาพช้าหัวหอกวัย 30 ปีจะยืนเท่ากับไลน์แนวรับอังกฤษก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายครึ่งแรก นาทีที่ 43 อินทรีเหล็กก็สามารถพังประตูขึ้นนำสำเร็จจนได้ จากจังหวะที่ เมซุต โอซิล จ่ายบอลให้ โครส ค่อยๆลากบอลจากบริเวณวงกลมกลางสนาม ก่อนจะลองส่องไกลด้วยซ้าย ส่งบอลพุ่งเบียดเสาแรกเข้าไป ช่วยให้อดีตแชมป์โลก 4 สมัยออกนำ 1-0









และจากจังหวะที่ต่อเนื่องการเสียประตูนี่เอง ทัพสิงโตคำรามก็ต้องมาเสีย แจ็ค บัตแลนด์ ซึ่งมีปัญหามาก่อนหน้านี้แล้ว และไม่สามารถฝืนเล่นต่อไปได้ ทำให้ต้องส่ง เฟรเซอรื ฟอร์สเตอร์ ลงมาเฝ้าเสาแทน ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดจบ 45 นาทีแรก เป็นเจ้าบ้านที่นำอยู่ 1-0

เข้าสู่ครึ่งหลัง เยอรมันตัดสินใจเปลี่ยนตัวสำรองคนแรก โดยเลือกให้โอกาส โจนาธาน ทาห์ กองหลังดาวรุ่งจากไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ลงเล่นในฐานะนักเตะทีมชาติชุดใหญ่เป็นนัดแรก โดยเป็น มัตส์ ฮุมเมลส์ ซึ่งถูกถอดออกไป

เกมของอินทรีเหล็กยังดูดีกว่าเหมือนในช่วงครึ่งแรก จนกระทั่งนาทีที่ 57 ก็มาบวกลูกสองเพิ่มได้อีก จากจังหวะที่ เคดิรา บรรจงหยอดบอลเข้าเขตโทษให้ โกเมซ เทกตัวโขกเล่นทางเข้าไปอย่างเด็ดขาด ส่งให้เจ้าบ้านหนีห่างเป็น 2-0








แต่อังกฤษยังไม่ยอมง่ายๆ เมื่อมาตีไข่แตกได้สำเร็จ ในนาทีที่ 61 จากลูกเตะมุมฝั่งซ้ายที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เปิดไปโดนแนวรับแชมป์โลก 2014 สกัดไม่ขาดมาเข้าทาง เคน วิ่งตามไปเก็บลูกก่อนพลิกแล้วกลับตัวซัดด้วยขวาเข้าไปอย่างเฉียบคม ทำให้ขุนพลทรีไลออนส์ไล่มาเป็น 1-2




หลังตีไข่แตกได้ ทัพสิงโตคำรามก็เริ่มมั่นใจมากขึ้น จนกระทั่งมาตามตีเสมอจนได้ ในนาทีที่ 75 จากจังหวะที่ นาธาเนียล ไคลน์ เปิดบอลเรียดจากริมกรอบเขตโทษฝั่งขวาให้ เจมี วาร์ดี้ ที่เพิ่งลงมาเป็นตัวสำรองแทน แดนนี เวลเบ็ค แค่ 4 นาที ไขว้ยิงด้วยขวาเข้าไปอย่างเหนือชั้น และเป็นประตูแรกในทีมชาติชุดใหญ่ของเจ้าตัวด้วย ช่วยให้อดีตแชมป์โลก 1966 ไล่เจ๊าเป็น 2-2





เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยผลเสมออยู่แล้ว แต่ในนาทีที่ 90 กลับเป็นสิงโตคำรามที่มาได้ประตูชัย จากลุกเตะมุมฝั่งขวาที่ เฮนเดอร์สัน เปิดให้ ไดเออร์ ขึ้นโหม่งเข้าไป ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นทีมเยือนที่บุกมาพลิกแซงชนะไป 3-2 โดยโปรแกรมนัดต่อไปของเยอรมันจะเปิดอัลลิอันซ์ อารีนา รับการมาเยือนของอิตาลี คืนวันอังคารที่ 29 มีนาคม ส่วนอังกฤษจะลงเล่นในเวมบลีย์กับเนเธอร์แลนด์ คืนวันเดียวกัน








Photos and gifs aren’t mine, credit to the owners!


ขอบคุณข้อมูลและข่าวของทีมชาติเยอรมันจาก//https://twitter.com/DFB_TH」, และ www.goal.com
และภาพจาก Getty image

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่