ระบบการทำงาน อุปกรณ์ประหยัดน้ำมัน PRO REDUCER
อุปกรณ์ ประหยัดน้ำมัน PRO REDUCER จะเข้าไปทำงาน ไปปรับแต่ง กระแสไฟฟ้าที่เข้าสู่ไดร์ชาร์ต ให้เรียบขึ้น ลดสัญญาณรบกวนสนามแม่เหล็ก ที่เกิดขึ้นจากระบบการหมุนของเครื่องยนต์ ให้เกิดพลังสนามแม่เหล็กที่เป็นระเบียบ จากจุดนิวเคลียส ที่เป็นประจุบวก คือ พลังของนิวตรอนและโปรตอน โดยมีอิเล็กตรอนซึ่งเป็นประจุลบอิสระ ทำให้การเคลื่อนที่ของรถยนต์ มีการเสียดทานลดลง คนขับรู้สึกว่ารถยนต์เบาขึ้น เคลื่อนที่คล่องขึ้น และการทำงานของเครื่องยนต์ทำงานน้อยลง ส่งผลให้ประหยัดเชื้อเพลิงตามไปด้วย เมื่อเริ่มเสียบ อุปกรณ์ประหยัดน้ำมัน PROREDUCER หรือ ปลั๊กประหยัดน้ำมัน เข้ากับที่จุดบุหรี่ในรถยนต์ ระบบวงจรของปลั๊กจะเริ่มทำงานดังนี้
เริ่ม ตรวจสอบการทำงานของ แบตเตอรี่ และไดชาร์จ ว่าทำงานปกติหรือไม่ ถ้าทำงานปกติ จะขึ้นไฟเขียว 2 ดวง ถ้าทำงานไม่ปกติ จะขึ้นไฟแดงแทน ถ้าหากว่าขึ้นไฟสีแดงท่านควรให้ช่างตรวจเช็คแบตเตอรี่ และไดชาร์จ ว่าอยู่ในสภาพเหมาะสมในการใช้งานหรือไม่
ปลั๊ก ประหยัดน้ำมัน ประกอบด้วย วงจรปรับแต่งกระแสไฟฟ้าที่จ่ายให้อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดในรถยนต์ เช่น ระบบควบคุมอิเล็คโทรนิค (ECU), ระบบหัวฉีดน้ำมัน (Fuel Injection), ไดชาร์จ (Alternator), คอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศ (Compress Air) เป็นต้น จะทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าทำงานมีประสิทธิภาพดีขึ้น และส่งผลให้กินกระแสไฟลดลง และช่วยลดเสียงและคลื่นต่างๆ ที่รบกวนอุปกรณ์ไฟฟ้า
เมื่อ ระบบควบคุมอิเล็คโทรนิค (ECU) ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น จะไปสั่งให้การจุดระเบิดในห้องเผาไหม้ เร็วขึ้น ซึ่งมีผลทำให้น้ำมันที่ใช้ในการเผาไหม้ในแต่ละครั้งลดปริมาณลงตามระยะเวลา จุดระเบิดที่เร็วขึ้น นั่นคือปริมาณน้ำมันที่ประหยัดได้ในทุกๆครั้งที่เกิดการเผาไหม้
ตัวอย่าง หากเครื่องยนต์มีการจุดระเบิด ทุก 10 วินาที และน้ำมันถูกฉีดเข้าไปในห้องเผาไหม้ 1 ซีซี/วินาที หรือเท่ากับใช้น้ำมัน 10 ซีซี/การจุดระเบิด 1 ครั้ง ถ้าหากมีการจุดระเบิดเร็วขึ้น 1 วินาที คือจุดระเบิดทุก 9 วินาที หมายความว่า ทุกครั้งที่มีการจุดระเบิด จะใช้น้ำมัน 9 ซีซี ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันได้ 1 ซีซี หรือเท่ากับ 10 เปอร์เซ็นต์
เมื่อ เครื่องยนต์มีการจุดระเบิดเร็วขึ้น ทำให้การทำงานของเครื่องยนต์มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำลังของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นด้วย
เมื่อ เครื่องยนต์จุดระเบิดในเวลาที่ถูกต้อง ใช้ปริมาณน้ำมันที่เหมาะสมและมีการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ จะช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หลังจากการเผาไหม้
อุปกรณ์ประหยัดน้ำมันแบบนี้ทำงานยังไงครับ อ่านแล้วยังไม่เข้าใจ
อุปกรณ์ ประหยัดน้ำมัน PRO REDUCER จะเข้าไปทำงาน ไปปรับแต่ง กระแสไฟฟ้าที่เข้าสู่ไดร์ชาร์ต ให้เรียบขึ้น ลดสัญญาณรบกวนสนามแม่เหล็ก ที่เกิดขึ้นจากระบบการหมุนของเครื่องยนต์ ให้เกิดพลังสนามแม่เหล็กที่เป็นระเบียบ จากจุดนิวเคลียส ที่เป็นประจุบวก คือ พลังของนิวตรอนและโปรตอน โดยมีอิเล็กตรอนซึ่งเป็นประจุลบอิสระ ทำให้การเคลื่อนที่ของรถยนต์ มีการเสียดทานลดลง คนขับรู้สึกว่ารถยนต์เบาขึ้น เคลื่อนที่คล่องขึ้น และการทำงานของเครื่องยนต์ทำงานน้อยลง ส่งผลให้ประหยัดเชื้อเพลิงตามไปด้วย เมื่อเริ่มเสียบ อุปกรณ์ประหยัดน้ำมัน PROREDUCER หรือ ปลั๊กประหยัดน้ำมัน เข้ากับที่จุดบุหรี่ในรถยนต์ ระบบวงจรของปลั๊กจะเริ่มทำงานดังนี้
เริ่ม ตรวจสอบการทำงานของ แบตเตอรี่ และไดชาร์จ ว่าทำงานปกติหรือไม่ ถ้าทำงานปกติ จะขึ้นไฟเขียว 2 ดวง ถ้าทำงานไม่ปกติ จะขึ้นไฟแดงแทน ถ้าหากว่าขึ้นไฟสีแดงท่านควรให้ช่างตรวจเช็คแบตเตอรี่ และไดชาร์จ ว่าอยู่ในสภาพเหมาะสมในการใช้งานหรือไม่
ปลั๊ก ประหยัดน้ำมัน ประกอบด้วย วงจรปรับแต่งกระแสไฟฟ้าที่จ่ายให้อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดในรถยนต์ เช่น ระบบควบคุมอิเล็คโทรนิค (ECU), ระบบหัวฉีดน้ำมัน (Fuel Injection), ไดชาร์จ (Alternator), คอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศ (Compress Air) เป็นต้น จะทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าทำงานมีประสิทธิภาพดีขึ้น และส่งผลให้กินกระแสไฟลดลง และช่วยลดเสียงและคลื่นต่างๆ ที่รบกวนอุปกรณ์ไฟฟ้า
เมื่อ ระบบควบคุมอิเล็คโทรนิค (ECU) ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น จะไปสั่งให้การจุดระเบิดในห้องเผาไหม้ เร็วขึ้น ซึ่งมีผลทำให้น้ำมันที่ใช้ในการเผาไหม้ในแต่ละครั้งลดปริมาณลงตามระยะเวลา จุดระเบิดที่เร็วขึ้น นั่นคือปริมาณน้ำมันที่ประหยัดได้ในทุกๆครั้งที่เกิดการเผาไหม้
ตัวอย่าง หากเครื่องยนต์มีการจุดระเบิด ทุก 10 วินาที และน้ำมันถูกฉีดเข้าไปในห้องเผาไหม้ 1 ซีซี/วินาที หรือเท่ากับใช้น้ำมัน 10 ซีซี/การจุดระเบิด 1 ครั้ง ถ้าหากมีการจุดระเบิดเร็วขึ้น 1 วินาที คือจุดระเบิดทุก 9 วินาที หมายความว่า ทุกครั้งที่มีการจุดระเบิด จะใช้น้ำมัน 9 ซีซี ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันได้ 1 ซีซี หรือเท่ากับ 10 เปอร์เซ็นต์
เมื่อ เครื่องยนต์มีการจุดระเบิดเร็วขึ้น ทำให้การทำงานของเครื่องยนต์มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำลังของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นด้วย
เมื่อ เครื่องยนต์จุดระเบิดในเวลาที่ถูกต้อง ใช้ปริมาณน้ำมันที่เหมาะสมและมีการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ จะช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หลังจากการเผาไหม้