สวัสดีค่ะ วันนี้จะเล่าประสบการณ์ที่ประสบมากับตัว ดิฉันเลี้ยงแมวมาได้ซักพัก
รับมาเลี้ยงตั้งแต่อายุเค้าได้ 4 เดือน จนตอนนี้อายุได้ 1 ปีกับ 11 เดือนแล้ว
เลี้ยงพันธุ์อเมริกันช็อตแฮร์ สีซิลเวอร์ลายแท็บบี้ น้องเป็นแมวตัวผู้ เลี้ยงระบบปิด
อยู่มาวันนึง น้องมีอาการ ซึม ทานอาหารน้อย แล้วตอนเย็นก็จะอาเจียนออกมา
ลักษณะ ของอาเจียนที่ออกมา จะเป็นอาหารเม็ดที่เหมือนไม่ได้รับการย่อยจากกระเพาะอาหารเลย
สภาพของเหลวที่ออกมาเหมือนอาหารเม็ดแช่น้ำ แล้วน้องก็ไม่กินอะไรอีก กินแต่น้ำ แล้วก็นอนอ้าปาก หายใจทางปาก
เลยตัดสินใจพาไปหาหมอที่เคยพาไปฉีดวัคซีนประจำ หมอก็มาตรวจดูร่างกายก็บอกว่า
น้ำหนักน้องลดลงเกินเกณฑ์ของช่วงวัยมาก ตอนนั้นน้องผอมมาก ๆ เพราะกินอะไรไม่ได้
ทางคุณหมอก็เจาะเลือดไปตรวจหาเชื้อ FIP (โรคช่องท้องอักเสบในสัตว์) ก็ไม่เจอ หมอเลยสรุปอาการว่าน้องอาจจะเครียด
เลยถ่ายพยาธิให้ ช่วงป้อนยานี่โหดสุด ๆ เพราะน้องดิ้นแรงและไม่รับยาที่ป้อนเลย
หมอเลยให้ยาอีกครึ่งนึงมาป้อนที่บ้าน เพราะน้องเครียดมากแล้ว พอกลับมาถึงห้องน้องก็ไม่ดีขึ้น เลยปรึกษากันกับแฟน
และพยายามหาข้อมูลเพื่อประกอบกับอาการที่น้องเป็น แต่สุดท้ายก็ไม่เจอโรคไหนที่ตรงกับอาการเลย
จนวินาทีสุดท้าย บังเอิญเปิดไปเจอเพจนึงเข้า ที่เขาพูดถึงคุณหมอท่านนึง ที่รักษาอาการป่วยของสัตว์ได้อย่างน่าทึ่ง
ชนิดที่ว่าต่างจังหวัด หรือกรุงเทพก็นั่งเครื่องมารักษากับคุณหมอ เลยลองกดเบอร์ไปถามคุณหมอ
แล้วก็ได้รับคำตอบว่า ตอนนี้หมอไม่ได้เป็นหมอแล้วเพราะโดนยึดใบประกอบวิชาชีพ และมีเหตุผลหลายอย่างที่ทำให้ต้องปิดคลินิก
ลืมบอกไป ดิฉันเป็นคนจังหวัดอุดรธานีค่ะ และคุณหมอท่านนี้ก็คือ คุณหมอชูศักดิ์ ที่อยู่อุดรเหมือนกัน
ตอนแรกก็เริ่มท้อ แต่คุณหมอก็ถามอาการของน้องขึ้นมา เลยอธิบายให้คุณหมอฟัง คุณหมอก็เลยให้พาน้องไปตรวจ
พอพาไปที่คลินิกเก่า คุณหมอก็ออกมาดูอาการให้ แล้วก็บอกว่าน้องติดเชื้อ โคโรหน่าไวรัส ซึ่งเราเองก็ไม่มีความรู้เรื่องนี้
คุณหมอเลยไปค้นโบว์ชัวร์เก่า ที่คุณหมอเคยทำเกี่ยวกับโรคนี้ไว้ ตอนเมื่อยังเปิดคลินิกอยู่มาให้ โรคนี้ที่จริงแล้วคือ
FIP เพียงแต่แมวของหนูยังไม่เป็นถึงขั้นนั้น แต่มีเชื้อโคโรหน่าที่จะพัฒนาไปเป็น FIP ได้ ซึ่งก็รู้ ๆ กันอยู่แล้วว่า
ถ้าแมวเป้นโรคนี้ 90 % คือต้องทำใจ โอกาสรอดน้อยมาก
แล้วคุณหมอให้ยามา 1 ซอง คือ สมุนไพร พลูคาว หรือ คาวตอง อยู่ในรูปแบบแคปซูล มาให้ พร้อมทั้งสอนวิธีป้อนยา
คุณหมอให้ผสมพลูคาวกับโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ให้น้องกิน และให้ป้อนโยเกิร์ตเปล่า ๆ วันละ 10 CC และแนะนำให้ไปหาซื้อ
อาหารสำหรับแมวป่วย ( AD ) มาผสมน้ำอุ่นให้น้องกิน
หลังจากกลับจากหาหมอ ก็ทำตามที่คุณหมอบอกทุกอย่าง วันแรกที่กลับมา น้องก็ยังมีอาการอ้วกอยู่ แต่ก็ป้อน โยเกิร์ต และ AD เรื่อย ๆ
ให้ยาตามที่หมอสั่ง จนมาวันที่ 2 และ 3 เริ่มดีขึ้น และไม่อ้วก วันที่ 3 นี่ถ่ายเป็นก้อนแล้ว พอมาวันที่ 4 ป้อนยาหมดพอดี น้องก็สามารถทานอาหารได้
เยอะขึ้น และไม่อ้วก พอครบ 7 วันก็เลยลองให้ทานอาหารเปียกดู ปรากฏว่าทานได้อย่างเอร็ดอร่อย น้องเริ่มแข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ
และพอครบ 2 สัปดาห์ น้องก็สามารถทานอาหารเปียก และอาหารเม็ดได้อย่างปกติ พอน้องแข็งแรงหายเป้นปกติ แล้วก็ได้มีโอกาสกลับไปพบคุณหมออีกครั้ง เพื่อทำวัคซีน FIP คุณหมอใจดีและให้คำแนะนำดีมมาก เกี่ยวกับการดูแลและระวังไม่ให้เชื้อที่อยู่ในตัวน้องกำเริบ และพัฒนาไปเป็น FIP
คือน้องต้องไม่เครียดมากจนเกินไป และต้องทำความสะอาดที่อยู่ ชามน้ำ ชามอาหาร รวมทั้งกระบะทราย ของน้องบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการกลับมาของเชื้อ
และไม่ให้พาน้องไปคลุกคลีกับแมวตัวอื่นที่สงสัยว่าจะติดเชื้อ เหมือนสวรรค์มาโปรดเลยค่ะวินาทีที่น้องกินได้ และแข็งแรง
ต้องขอบพระคุณ คุณหมอชูศักดิ์ มาก ๆ เลยที่ให้แนะนำดี ๆ และให้คำปรึกษา ถ้าใครมีปัญหาหรืออยากปรึกษา เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง
โทรปรึกษาคุณหมอได้นะคะ ทุกวันนี้ หมอดี ๆ หายากแล้วค่ะที่จะนึกถึงจรรยาบรรพ์แพทย์
โทรได้ที่เบอร์นี้นะคะ 081-739-0937
ประสบการณ์ในการเลี้ยงน้องแมว เมื่อแมวติดเชื้อโคโรหน่าไวรัส !!
รับมาเลี้ยงตั้งแต่อายุเค้าได้ 4 เดือน จนตอนนี้อายุได้ 1 ปีกับ 11 เดือนแล้ว
เลี้ยงพันธุ์อเมริกันช็อตแฮร์ สีซิลเวอร์ลายแท็บบี้ น้องเป็นแมวตัวผู้ เลี้ยงระบบปิด
อยู่มาวันนึง น้องมีอาการ ซึม ทานอาหารน้อย แล้วตอนเย็นก็จะอาเจียนออกมา
ลักษณะ ของอาเจียนที่ออกมา จะเป็นอาหารเม็ดที่เหมือนไม่ได้รับการย่อยจากกระเพาะอาหารเลย
สภาพของเหลวที่ออกมาเหมือนอาหารเม็ดแช่น้ำ แล้วน้องก็ไม่กินอะไรอีก กินแต่น้ำ แล้วก็นอนอ้าปาก หายใจทางปาก
เลยตัดสินใจพาไปหาหมอที่เคยพาไปฉีดวัคซีนประจำ หมอก็มาตรวจดูร่างกายก็บอกว่า
น้ำหนักน้องลดลงเกินเกณฑ์ของช่วงวัยมาก ตอนนั้นน้องผอมมาก ๆ เพราะกินอะไรไม่ได้
ทางคุณหมอก็เจาะเลือดไปตรวจหาเชื้อ FIP (โรคช่องท้องอักเสบในสัตว์) ก็ไม่เจอ หมอเลยสรุปอาการว่าน้องอาจจะเครียด
เลยถ่ายพยาธิให้ ช่วงป้อนยานี่โหดสุด ๆ เพราะน้องดิ้นแรงและไม่รับยาที่ป้อนเลย
หมอเลยให้ยาอีกครึ่งนึงมาป้อนที่บ้าน เพราะน้องเครียดมากแล้ว พอกลับมาถึงห้องน้องก็ไม่ดีขึ้น เลยปรึกษากันกับแฟน
และพยายามหาข้อมูลเพื่อประกอบกับอาการที่น้องเป็น แต่สุดท้ายก็ไม่เจอโรคไหนที่ตรงกับอาการเลย
จนวินาทีสุดท้าย บังเอิญเปิดไปเจอเพจนึงเข้า ที่เขาพูดถึงคุณหมอท่านนึง ที่รักษาอาการป่วยของสัตว์ได้อย่างน่าทึ่ง
ชนิดที่ว่าต่างจังหวัด หรือกรุงเทพก็นั่งเครื่องมารักษากับคุณหมอ เลยลองกดเบอร์ไปถามคุณหมอ
แล้วก็ได้รับคำตอบว่า ตอนนี้หมอไม่ได้เป็นหมอแล้วเพราะโดนยึดใบประกอบวิชาชีพ และมีเหตุผลหลายอย่างที่ทำให้ต้องปิดคลินิก
ลืมบอกไป ดิฉันเป็นคนจังหวัดอุดรธานีค่ะ และคุณหมอท่านนี้ก็คือ คุณหมอชูศักดิ์ ที่อยู่อุดรเหมือนกัน
ตอนแรกก็เริ่มท้อ แต่คุณหมอก็ถามอาการของน้องขึ้นมา เลยอธิบายให้คุณหมอฟัง คุณหมอก็เลยให้พาน้องไปตรวจ
พอพาไปที่คลินิกเก่า คุณหมอก็ออกมาดูอาการให้ แล้วก็บอกว่าน้องติดเชื้อ โคโรหน่าไวรัส ซึ่งเราเองก็ไม่มีความรู้เรื่องนี้
คุณหมอเลยไปค้นโบว์ชัวร์เก่า ที่คุณหมอเคยทำเกี่ยวกับโรคนี้ไว้ ตอนเมื่อยังเปิดคลินิกอยู่มาให้ โรคนี้ที่จริงแล้วคือ
FIP เพียงแต่แมวของหนูยังไม่เป็นถึงขั้นนั้น แต่มีเชื้อโคโรหน่าที่จะพัฒนาไปเป็น FIP ได้ ซึ่งก็รู้ ๆ กันอยู่แล้วว่า
ถ้าแมวเป้นโรคนี้ 90 % คือต้องทำใจ โอกาสรอดน้อยมาก
แล้วคุณหมอให้ยามา 1 ซอง คือ สมุนไพร พลูคาว หรือ คาวตอง อยู่ในรูปแบบแคปซูล มาให้ พร้อมทั้งสอนวิธีป้อนยา
คุณหมอให้ผสมพลูคาวกับโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ให้น้องกิน และให้ป้อนโยเกิร์ตเปล่า ๆ วันละ 10 CC และแนะนำให้ไปหาซื้อ
อาหารสำหรับแมวป่วย ( AD ) มาผสมน้ำอุ่นให้น้องกิน
หลังจากกลับจากหาหมอ ก็ทำตามที่คุณหมอบอกทุกอย่าง วันแรกที่กลับมา น้องก็ยังมีอาการอ้วกอยู่ แต่ก็ป้อน โยเกิร์ต และ AD เรื่อย ๆ
ให้ยาตามที่หมอสั่ง จนมาวันที่ 2 และ 3 เริ่มดีขึ้น และไม่อ้วก วันที่ 3 นี่ถ่ายเป็นก้อนแล้ว พอมาวันที่ 4 ป้อนยาหมดพอดี น้องก็สามารถทานอาหารได้
เยอะขึ้น และไม่อ้วก พอครบ 7 วันก็เลยลองให้ทานอาหารเปียกดู ปรากฏว่าทานได้อย่างเอร็ดอร่อย น้องเริ่มแข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ
และพอครบ 2 สัปดาห์ น้องก็สามารถทานอาหารเปียก และอาหารเม็ดได้อย่างปกติ พอน้องแข็งแรงหายเป้นปกติ แล้วก็ได้มีโอกาสกลับไปพบคุณหมออีกครั้ง เพื่อทำวัคซีน FIP คุณหมอใจดีและให้คำแนะนำดีมมาก เกี่ยวกับการดูแลและระวังไม่ให้เชื้อที่อยู่ในตัวน้องกำเริบ และพัฒนาไปเป็น FIP
คือน้องต้องไม่เครียดมากจนเกินไป และต้องทำความสะอาดที่อยู่ ชามน้ำ ชามอาหาร รวมทั้งกระบะทราย ของน้องบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการกลับมาของเชื้อ
และไม่ให้พาน้องไปคลุกคลีกับแมวตัวอื่นที่สงสัยว่าจะติดเชื้อ เหมือนสวรรค์มาโปรดเลยค่ะวินาทีที่น้องกินได้ และแข็งแรง
ต้องขอบพระคุณ คุณหมอชูศักดิ์ มาก ๆ เลยที่ให้แนะนำดี ๆ และให้คำปรึกษา ถ้าใครมีปัญหาหรืออยากปรึกษา เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง
โทรปรึกษาคุณหมอได้นะคะ ทุกวันนี้ หมอดี ๆ หายากแล้วค่ะที่จะนึกถึงจรรยาบรรพ์แพทย์
โทรได้ที่เบอร์นี้นะคะ 081-739-0937