ทริปนี้เริ่มต้นจากความเหงาๆในวันว่างๆในวันธรรมดาแต่เราจะทำให้มันไม่ธรรมดา เป็นผู้ชายที่ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้าและเบียร์ ไม่ชอบปาตี้กลางคืน (หลายคนมักไม่เชื่อ) ก็เลยมีแค่2ล้อพาเที่ยวเนี่ยแหละที่เป็นกิจกรรมคลายเหงาเราได้ ไม่ว่าจะเป็น2ล้อแม่บ้านธรรมดาๆ หรือจะ2ล้อสไตล์enduro สุดท้ายก็คลายเหงาและให้ความสุขเราได้เหมือนกัน โดยไม่เดือดร้อนสังคมและคนรอบข้าง
. หลังจากจอดรถทิ้งให้ฝุ่นเกาะในโรงรถมานาน เลยจับสบัดฝุ่น พาออกไปวอมเครื่องไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพสักหน่อย
เพราะความเหงาทริปนี้จึงเกิด เลยเลือกจังหวัดนครนายก เพราะไม่ไกลจากบ้านมาก เพียง140km. เพราะเป็นจังหวัดที่ถนัด เป็นจังหวัดที่ไปบ่อย ขนาดแค่อยากกินไก่ย่างส้มตำยังขับไปกินถึงนี่ จังหวัดนครนายกเป็นจังหวัดที่มีครบทุกอย่าง น้ำตก หน้าผา เขื่อน ป่า ภูเขา ยกเว้นทะเลอย่างเดียว วันที่เดินทางเป็นวันธรรมดาจึงไม่วุ่นวาย คนน้อย ถนนโล่ง เลยขับไปคิดไปว่าจะไปหานอนแชน้ำตรงไหนดี
>>จุดต้องแวะที่1<<วัดพืชมงคล
เป็นจุดที่ตลึงและ ต้องจอดถ่ายรูปเป็นที่ระลึกสักหน่อย นั้นก็คือ เครื่องบินปลดระวาง เจ้าอาวาสได้นำมาจิดไว้ที่ลานวัด จึงเป็นที่สนใจของผู้มาเยือนอย่างมาก เลยเอา เจ้ายักษ์ จอดถ่ายคู่สัก2รูป

>>จุดต้องแวะที่2<<อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ กรมชลประทานที่9
เป็นอ่างเก็บน้ำที่มีคนชอบตกปลาเข้ามาตกกันเยอะ บางคนถึงกับขนเรื่องยางใส่ท้ายกระบะ มาที่อ่าง และเอาเรือออกไปบนน้ำ ขับไปตามกอหญ้าเพื่อตกปลา ที่นี่สามารถมากางเต็นท์ ที่ริมอ่าง จุดกองไฟ และตกปลาจากอ่างน้ำมาเป็นอาหารได้ ที่สำคัญที่นี่ฟรี ธรรมชาติที่นี่ยังสวยงาม จะได้เจอชาวบ้านจูงฝูงควายลงมากินหญ้า แช่โคลนที่ริมอ่าง เพราะที่นี่เค้าอนุรักษ์ เลี้ยงวัวควายไว้ทำนาแทนเครื่องจักรยนต์ เป็นโครงการพระเทพ
>>จุดต้องแวะที่3<< จุดสุดท้าย. คลองมะเดื่อ
..มาเป็นครั้งที่7.. ที่บอกว่ารัก ก็ยิ่งกว่ารัก เพราะมันผูกพันธ์กับที่นี่มาก เพราะอะไรหรอ ถ้าอยากรู้ลองมาหน้าฝนหรือปลายฝนดู แล้วคุณจะระสึกผ่อนคลาย และสัมผัสถึงความสงบของที่นี่ (แต่ต้องวันธรรมดานะ) น้ำที่นี่ใสมาก ไหลเย็น หินงาม ต้นไม้เยอะ มาน้ำให้สายลุยได้ลุยข้าม จึงเห็นมอไซร์มาที่นี่กันเยอะเพราะสิ่งนี้นี่แหละ

ขับตามทางเข้ามาเรื่อยๆ ข้ามลำห้วยที่1 และต่อด้วยลำห้วยที่2 เพราะหาที่ส่วนตัวเหมาะๆ ในการนอนแชน้ำพักผ่อน ก็เลยเริ่มขับออกนอกเส้นทาง ขี่ลุยเข้าไปบนเส้นทางธารน้ำตก ในครั้งนี้ขี่ลุยลำธารน้ำตกได้เพราะมันแล้ง จึงทำได้ ถ้าหน้าน้ำละก็ ลึกมาก. ขี่ลุยหินลุยทราย ลุยบ่อน้ำไปเรื่อยๆตามในรูป มาติดหล่มบ้าง ก็ต้องช่วยตัวเองกันไป ตามสไตล์คันเดียว คันเดียว
. สุดท้ายก็มาเจอจุดที่ใช่จุดที่ชอบ มาเจอแคร่เก่าๆพังทิ้งไว้อยู่ในโพงหญ้า จึงเดินไปลากออกมา และเดินไปหาต้นกล้วยกันต่อจนเจอต้นกล้วยเลยยกมือไหว้ก่อนตัดก่อนสักที เพื่อนำใบตองมาลองนอนบนแคร่ และเอายางจากก้านของกล้วยมาทากันมดกัด วันที่ไปคลองมะเดื่อเป็นวันธรรดา จึงไม่มีคนเข้ามาแม้แต่คนเดียว ร้านค้า บ้านพักจึงปิดหมด แต่นั้นก็คือสิ่งที่เราต้องการ คือความสงบ เลยมาคนเดียว คันเดียว นั่งบนแคร่สักพักก็รู้สักวังเวงขึ้นมา และยกมือไหว้ขอขมาเจ้าป่าเจ้าเขา สักหน่อยเผื่อทำอะไรผิดพลาดไป. เชื่อหรือไม่เชื่อ ก็ไหว้ไว้ก่อนดีกว่า. เรามาในครั้งนี้เพื่อมาฝึกจิตการอยู่คนเดียวในที่เงียบสักหน่อย. นอนฟังเสียวป่าจนได้สมาธิอยู่สักพัก (ใครอยากรู้ว่าเสียงป่าเป็นยังไงลองเข้ามาคนเดียว นอนเงียบๆแล้วหลับตา) เสียงแมลง เสียงใบไม้พลิ้วไหว เสียงสายน้ำที่ไหลกระทบหิน มันชั่งไพรเราะเพราะพิ้งกว่าเสียวเพลงในกรุงกว่าเป็นไหนๆ นั่งคนเดียวก็เหมือนรู้สึกเหมือนจะมีคนมองเราตลอดเวลาจากในป่า ล้วนแล้วมันเกิดจากจินตนาการของจิตเราทั้งสิ้น เผลอหลับไปตื่นทำสมาธิลึกไปหน่อย
[CR] >>คนเดียว คันเดียว กับ วันเหงาๆ สายEnduro<<
เพราะความเหงาทริปนี้จึงเกิด เลยเลือกจังหวัดนครนายก เพราะไม่ไกลจากบ้านมาก เพียง140km. เพราะเป็นจังหวัดที่ถนัด เป็นจังหวัดที่ไปบ่อย ขนาดแค่อยากกินไก่ย่างส้มตำยังขับไปกินถึงนี่ จังหวัดนครนายกเป็นจังหวัดที่มีครบทุกอย่าง น้ำตก หน้าผา เขื่อน ป่า ภูเขา ยกเว้นทะเลอย่างเดียว วันที่เดินทางเป็นวันธรรมดาจึงไม่วุ่นวาย คนน้อย ถนนโล่ง เลยขับไปคิดไปว่าจะไปหานอนแชน้ำตรงไหนดี
เป็นจุดที่ตลึงและ ต้องจอดถ่ายรูปเป็นที่ระลึกสักหน่อย นั้นก็คือ เครื่องบินปลดระวาง เจ้าอาวาสได้นำมาจิดไว้ที่ลานวัด จึงเป็นที่สนใจของผู้มาเยือนอย่างมาก เลยเอา เจ้ายักษ์ จอดถ่ายคู่สัก2รูป
เป็นอ่างเก็บน้ำที่มีคนชอบตกปลาเข้ามาตกกันเยอะ บางคนถึงกับขนเรื่องยางใส่ท้ายกระบะ มาที่อ่าง และเอาเรือออกไปบนน้ำ ขับไปตามกอหญ้าเพื่อตกปลา ที่นี่สามารถมากางเต็นท์ ที่ริมอ่าง จุดกองไฟ และตกปลาจากอ่างน้ำมาเป็นอาหารได้ ที่สำคัญที่นี่ฟรี ธรรมชาติที่นี่ยังสวยงาม จะได้เจอชาวบ้านจูงฝูงควายลงมากินหญ้า แช่โคลนที่ริมอ่าง เพราะที่นี่เค้าอนุรักษ์ เลี้ยงวัวควายไว้ทำนาแทนเครื่องจักรยนต์ เป็นโครงการพระเทพ
..มาเป็นครั้งที่7.. ที่บอกว่ารัก ก็ยิ่งกว่ารัก เพราะมันผูกพันธ์กับที่นี่มาก เพราะอะไรหรอ ถ้าอยากรู้ลองมาหน้าฝนหรือปลายฝนดู แล้วคุณจะระสึกผ่อนคลาย และสัมผัสถึงความสงบของที่นี่ (แต่ต้องวันธรรมดานะ) น้ำที่นี่ใสมาก ไหลเย็น หินงาม ต้นไม้เยอะ มาน้ำให้สายลุยได้ลุยข้าม จึงเห็นมอไซร์มาที่นี่กันเยอะเพราะสิ่งนี้นี่แหละ