เมื่อคุกไม่ได้มีไว้ขังคนจนอีกต่อไป
เจตนารมณ์ของกฎหมาย เพิ่มประสิทธิภาพในการอำนวยความยุติธรรมและลดความเหลื่อมล้ำ
(ร่างพระราชบัญญัติมาตรการแทนการฟ้องคดีอาญา พ.ศ. ....)

เครดิต :
http://www.marylandcriminallawyer.com/wp-content/uploads/2014/01/Courtroom.jpg
1. อำนวยความยุติธรรมอย่างรวดเร็ว – ลดขั้นตอนการดำเนินงาน ลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล
ปัจจุบันมีปริมาณคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมมากกว่าเจ็ดแสนคดีต่อปี ทั้งในชั้นการสอบสวนฟ้องร้อง และชั้นการพิจารณา ทำให้คดีค้างการพิจารณาเป็นจำนวนมาก ซึ่งผลที่ตามมาคือไม่สามารถอำนวยความยุติธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ต้องหาหรือจำเลย ต้องถูกคุมขังเป็นเวลานาน ผู้เสียหายก็ไม่ได้รับการชดใช้เยียวยาทันท่วงที ก่อให้เกิดภาวะคดีล้นศาล ผู้ต้องขังล้นเรือนจำ โดยกลไกตามร่างพระราชบัญญัตินี้จะทำให้คดีอาญาดังกล่าวระงับลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคดีจำคุกไม่เกินห้าปีมีหลายแสนคดี ซึ่งอยู่ในข่ายการไกล่เกลี่ยและชะลอฟ้อง ซึ่งจะทำให้คดีส่วนใหญ่ไม่จำเป็นที่จะต้องนำคดีขึ้นสู่ศาล อันจะเป็นการลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล ลดระยะเวลาและความยุ่งยากซับซ้อนในการดำเนินการในกระบวนการยุติธรรมของคู่กรณี ลดภาระการพิจารณาคดีของศาล และสามารถมีการชดใช้เยียวยาความเสียหายกันด้วยความสมัครใจและสมานฉันท์
2. เข้าถึงได้ง่าย – เปิดโอกาสให้ผู้เสียหายและผู้ต้องหาในการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้ง
ปัจจุบันมีเสียงสะท้อนจากประชาชนว่า การเข้าถึงบริการในกระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องยาก ทั้งในแง่ของกระบวนการที่ยุ่งยาก ซับซ้อน มีขั้นตอนมาก ผู้ที่ไม่รู้กฎหมายต้องตกเป็นเบี้ยล่าง ไม่มีกระบวนการเยียวยาความเสียหายด้วยความสมัครใจ จึงทำให้ประชาชนไม่ได้รับความยุติธรรม ซึ่งร่างกฎหมายฉบับนี้จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยการเปิดโอกาสให้ผู้เสียหายและผู้ต้องหาได้มีโอกาสในการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งและร่วมกันกำหนดแนวทางการเยียวยาชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมทั้งผู้กระทำผิดจะมีโอกาสในการกลับตนเป็นคนดีได้โดยไม่จำต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนทุกระดับเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา และสังคมจะเกิดการบูรณาการมีความสมานฉันท์ และเอื้ออาทรต่อกัน ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรม เพื่อให้สังคมไทยมีความสามัคคีและสันติสุขที่ยั่งยืน
3. ราคาถูก – ลดค่าใช้จ่ายในกระบวนการดำเนินคดีทางอาญา
มีคำกล่าวว่า
“คุกมีไว้ขังคนจน” เนื่องจากประชาชนเห็นว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยมีค่าใช้จ่ายสูง คนจนจึงไม่มีโอกาสต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งความยุติธรรม จึงต้องติดคุก เกิดความเหลื่อมล้ำเป็นอย่างมาก แต่กลไกตามร่างพระราชบัญญัตินี้ลดค่าใช้จ่ายของคู่กรณีทั้งในส่วนค่าทนายความ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปศาล ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีต่างๆ เป็นต้น และยังเป็นการเพิ่มทุนมนุษย์ เนื่องจากผู้ต้องหาไม่ต้องถูกคุมขัง ได้กลับมาสร้างงาน สร้างอาชีพ ไม่เป็นปัญหาครอบครัวและสังคม นอกจากนี้ ยังเป็นการจะลดงบประมาณในกระบวนการยุติธรรม ทั้งในส่วนของการพัฒนาพฤตินิสัยโดยกรมราชทัณฑ์ กรมคุมประพฤติ หลายพันล้านบาทต่อปี
4.สร้างความไว้วางใจ – จัดให้มีผู้ไกล่เกลี่ยที่มีความเป็นกลาง
ร่างพระราชบัญญัตินี้มีสร้างกระบวนการยุติคดีด้วยความสมานฉันท์ ให้ผู้ต้องหากลับตนเป็นคนดี และผู้เสียหายได้รับการชดเชยเยียวยา สร้างความไว้วางใจและความพึงพอใจให้กับคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะเป็นความยุติธรรมสูงสุด ด้วยกระบวนการไกล่เกลี่ยในขั้นตอนของพนักงานสอบสวน โดยผู้ไกล่เกลี่ยที่มีความเป็นกลาง เพื่อให้ผู้ต้องหามีโอกาสแสดงความสำนึกในการกระทำและพยายามบรรเทาผลร้ายแห่งความผิด เช่นการชดใช้เยียวยาความเสียหาย นอกจากนี้ยังกำหนดให้มีการชะลอการฟ้องในชั้นพนักงานอัยการ โดยให้นำวิธีการคุมประพฤติมาใช้เพื่อให้ผู้ต้องหาได้มีโอกาสแก้ไขความผิดของตนโดยไม่มีมลทินติดตัวอันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ต้องหา ผู้เสียหาย และสังคม มากกว่าการดำเนินการให้มีการพิจารณาลงโทษ
5. มีกลไกการตรวจสอบถ่วงดุล – กระบวนการตรวจสอบในหลายขั้นตอน
ร่างพระราชบัญญัตินี้มีกระบวนการตรวจสอบถ่วงดุลในหลายขั้นตอน ทำให้กระบวนการดังกล่าวเกิดความชอบธรรม โดยมาตรการแทนการฟ้องมีการตรวจสอบถ่วงดุลในขั้นตอนต่างๆ ทำให้กระบวนการเกิดความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ประกอบด้วย
(1) การไกล่เกลี่ยคดีอาญา กำหนดให้มีการตรวจสอบโดยพนักงานอัยการ เพื่อตรวจสอบว่าการไกล่เกลี่ยเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่
(2) การชะลอการฟ้อง กำหนดให้มีการตรวจสอบภายในองค์กรโดยอัยการสูงสุดก่อนที่จะมีคำสั่งชะลอการฟ้อง รวมทั้งหากการชะลอการฟ้องเกิดจากฉ้อฉล ผู้เสียหายฟ้องต่อศาลได้
ประชาชนจะได้รับประโยชน์อะไรบ้าง
ประชาชนจะได้รับประโยชน์จากกฎหมายฉบับนี้ ทำให้ผู้เสียหายและผู้ต้องหาได้มีโอกาสในการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งและร่วมกันกำหนดแนวทางการเยียวยาชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้น เกิดความพึงพอในของคู่กรณีอย่างแท้จริง รวมทั้งผู้กระทำผิดจะมีโอกาสในการกลับตนเป็นคนดีได้โดยไม่มีมลทินติดตัว
จะเป็นการช่วยเยียวยา ฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำความผิด
ลดระยะเวลาและความยุ่งยากซับซ้อนในการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ลดภาระการพิจารณาคดีของศาล ลดความขัดแย้งในชุมชน
ลดงบประมาณภาครัฐและเป็นการลดผู้ต้องขัง ในขณะที่ผู้กระทำความผิดได้มีโอกาสแก้ไขความผิดของตน และส่งผลให้ประชาชนทุกระดับเข้ามามีส่วนร่วมในการอำนวยความยุติธรรมและป้องกันอาชญากรรม อันเป็นการเสริมสร้างให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข
ร่างพระราชบัญญัติมาตรการแทนการฟ้องคดีอาญา พ.ศ. ....
เมื่อคุกจะไม่ได้มีไว้ขังคนจนอีกต่อไป?
เจตนารมณ์ของกฎหมาย เพิ่มประสิทธิภาพในการอำนวยความยุติธรรมและลดความเหลื่อมล้ำ
(ร่างพระราชบัญญัติมาตรการแทนการฟ้องคดีอาญา พ.ศ. ....)
เครดิต : http://www.marylandcriminallawyer.com/wp-content/uploads/2014/01/Courtroom.jpg
1. อำนวยความยุติธรรมอย่างรวดเร็ว – ลดขั้นตอนการดำเนินงาน ลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล
ปัจจุบันมีปริมาณคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมมากกว่าเจ็ดแสนคดีต่อปี ทั้งในชั้นการสอบสวนฟ้องร้อง และชั้นการพิจารณา ทำให้คดีค้างการพิจารณาเป็นจำนวนมาก ซึ่งผลที่ตามมาคือไม่สามารถอำนวยความยุติธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ต้องหาหรือจำเลย ต้องถูกคุมขังเป็นเวลานาน ผู้เสียหายก็ไม่ได้รับการชดใช้เยียวยาทันท่วงที ก่อให้เกิดภาวะคดีล้นศาล ผู้ต้องขังล้นเรือนจำ โดยกลไกตามร่างพระราชบัญญัตินี้จะทำให้คดีอาญาดังกล่าวระงับลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคดีจำคุกไม่เกินห้าปีมีหลายแสนคดี ซึ่งอยู่ในข่ายการไกล่เกลี่ยและชะลอฟ้อง ซึ่งจะทำให้คดีส่วนใหญ่ไม่จำเป็นที่จะต้องนำคดีขึ้นสู่ศาล อันจะเป็นการลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล ลดระยะเวลาและความยุ่งยากซับซ้อนในการดำเนินการในกระบวนการยุติธรรมของคู่กรณี ลดภาระการพิจารณาคดีของศาล และสามารถมีการชดใช้เยียวยาความเสียหายกันด้วยความสมัครใจและสมานฉันท์
2. เข้าถึงได้ง่าย – เปิดโอกาสให้ผู้เสียหายและผู้ต้องหาในการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้ง
ปัจจุบันมีเสียงสะท้อนจากประชาชนว่า การเข้าถึงบริการในกระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องยาก ทั้งในแง่ของกระบวนการที่ยุ่งยาก ซับซ้อน มีขั้นตอนมาก ผู้ที่ไม่รู้กฎหมายต้องตกเป็นเบี้ยล่าง ไม่มีกระบวนการเยียวยาความเสียหายด้วยความสมัครใจ จึงทำให้ประชาชนไม่ได้รับความยุติธรรม ซึ่งร่างกฎหมายฉบับนี้จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยการเปิดโอกาสให้ผู้เสียหายและผู้ต้องหาได้มีโอกาสในการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งและร่วมกันกำหนดแนวทางการเยียวยาชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมทั้งผู้กระทำผิดจะมีโอกาสในการกลับตนเป็นคนดีได้โดยไม่จำต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนทุกระดับเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา และสังคมจะเกิดการบูรณาการมีความสมานฉันท์ และเอื้ออาทรต่อกัน ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรม เพื่อให้สังคมไทยมีความสามัคคีและสันติสุขที่ยั่งยืน
3. ราคาถูก – ลดค่าใช้จ่ายในกระบวนการดำเนินคดีทางอาญา
มีคำกล่าวว่า “คุกมีไว้ขังคนจน” เนื่องจากประชาชนเห็นว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยมีค่าใช้จ่ายสูง คนจนจึงไม่มีโอกาสต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งความยุติธรรม จึงต้องติดคุก เกิดความเหลื่อมล้ำเป็นอย่างมาก แต่กลไกตามร่างพระราชบัญญัตินี้ลดค่าใช้จ่ายของคู่กรณีทั้งในส่วนค่าทนายความ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปศาล ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีต่างๆ เป็นต้น และยังเป็นการเพิ่มทุนมนุษย์ เนื่องจากผู้ต้องหาไม่ต้องถูกคุมขัง ได้กลับมาสร้างงาน สร้างอาชีพ ไม่เป็นปัญหาครอบครัวและสังคม นอกจากนี้ ยังเป็นการจะลดงบประมาณในกระบวนการยุติธรรม ทั้งในส่วนของการพัฒนาพฤตินิสัยโดยกรมราชทัณฑ์ กรมคุมประพฤติ หลายพันล้านบาทต่อปี
4.สร้างความไว้วางใจ – จัดให้มีผู้ไกล่เกลี่ยที่มีความเป็นกลาง
ร่างพระราชบัญญัตินี้มีสร้างกระบวนการยุติคดีด้วยความสมานฉันท์ ให้ผู้ต้องหากลับตนเป็นคนดี และผู้เสียหายได้รับการชดเชยเยียวยา สร้างความไว้วางใจและความพึงพอใจให้กับคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะเป็นความยุติธรรมสูงสุด ด้วยกระบวนการไกล่เกลี่ยในขั้นตอนของพนักงานสอบสวน โดยผู้ไกล่เกลี่ยที่มีความเป็นกลาง เพื่อให้ผู้ต้องหามีโอกาสแสดงความสำนึกในการกระทำและพยายามบรรเทาผลร้ายแห่งความผิด เช่นการชดใช้เยียวยาความเสียหาย นอกจากนี้ยังกำหนดให้มีการชะลอการฟ้องในชั้นพนักงานอัยการ โดยให้นำวิธีการคุมประพฤติมาใช้เพื่อให้ผู้ต้องหาได้มีโอกาสแก้ไขความผิดของตนโดยไม่มีมลทินติดตัวอันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ต้องหา ผู้เสียหาย และสังคม มากกว่าการดำเนินการให้มีการพิจารณาลงโทษ
5. มีกลไกการตรวจสอบถ่วงดุล – กระบวนการตรวจสอบในหลายขั้นตอน
ร่างพระราชบัญญัตินี้มีกระบวนการตรวจสอบถ่วงดุลในหลายขั้นตอน ทำให้กระบวนการดังกล่าวเกิดความชอบธรรม โดยมาตรการแทนการฟ้องมีการตรวจสอบถ่วงดุลในขั้นตอนต่างๆ ทำให้กระบวนการเกิดความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ประกอบด้วย
(1) การไกล่เกลี่ยคดีอาญา กำหนดให้มีการตรวจสอบโดยพนักงานอัยการ เพื่อตรวจสอบว่าการไกล่เกลี่ยเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่
(2) การชะลอการฟ้อง กำหนดให้มีการตรวจสอบภายในองค์กรโดยอัยการสูงสุดก่อนที่จะมีคำสั่งชะลอการฟ้อง รวมทั้งหากการชะลอการฟ้องเกิดจากฉ้อฉล ผู้เสียหายฟ้องต่อศาลได้
ประชาชนจะได้รับประโยชน์อะไรบ้าง
ประชาชนจะได้รับประโยชน์จากกฎหมายฉบับนี้ ทำให้ผู้เสียหายและผู้ต้องหาได้มีโอกาสในการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งและร่วมกันกำหนดแนวทางการเยียวยาชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้น เกิดความพึงพอในของคู่กรณีอย่างแท้จริง รวมทั้งผู้กระทำผิดจะมีโอกาสในการกลับตนเป็นคนดีได้โดยไม่มีมลทินติดตัว
จะเป็นการช่วยเยียวยา ฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำความผิด
ลดระยะเวลาและความยุ่งยากซับซ้อนในการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ลดภาระการพิจารณาคดีของศาล ลดความขัดแย้งในชุมชน
ลดงบประมาณภาครัฐและเป็นการลดผู้ต้องขัง ในขณะที่ผู้กระทำความผิดได้มีโอกาสแก้ไขความผิดของตน และส่งผลให้ประชาชนทุกระดับเข้ามามีส่วนร่วมในการอำนวยความยุติธรรมและป้องกันอาชญากรรม อันเป็นการเสริมสร้างให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข
ร่างพระราชบัญญัติมาตรการแทนการฟ้องคดีอาญา พ.ศ. ....