[CR] :: ฉันเคยเบื่อเกาะเกร็ด :: รู ป เ ย อ ะ ม า ก ก ก ก



ถ้าอ่านแล้วชอบรีวิวของพวกเราอย่าลืมไปกดไลค์ตัวรีวิวที่ใช้แข่งขันเพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะค้า ถ้าพวกเราได้รางวัลpopular voteเดี๋ยวจะมีรีวิวเที่ยวตรังมาฝาก
(รีวิวยังไม่สมบูรณ์)
“เชื่อว่าทุกคนเคยได้ยินชื่อเกาะเกร็ด ตอนเด็กๆที่บ้านฉันพาไปนั่งเรือชมรอบเกาะ ทำกิจกรรมต่างๆ เลือกซื้อของฝากจากร้านดังแล้วก็กลับบ้าน ดังนั้นเมื่อมีคนพูดถึงเกาะเกร็ดฉันจึงมีเพียงความคิดว่า "เกาะเกร็ดไม่เห็นมีอะไรเลย เคยไปแล้ว" แต่ความจริงฉันไม่รู้จักเกาะเกร็ดเลย...  จนวันหนึ่งฉันสนใจการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ทำให้นึกถึงเกาะเกร็ดขึ้นมาอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้เราจะไปตามเส้นทางใหม่เพื่อไปสัมผัสกับ"ความเป็นเกาะเกร็ด"ให้มากขึ้นกัน”


เรามารู้จักประวัติเกาะเกร็ดกันก่อน

        เกาะเกร็ด หรือตำบลเกาะเกร็ด เป็นตำบลนึงในอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เป็นเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ในสมัยอยุธยาตอนแรกไม่ได้เป็นเกาะนะ ส่วนที่เป็นแหลมมันมีแม่น้ำโค้งอ้อม แต่พอมันคดโค้งทำให้เดินทางไม่สะดวก เลยมีการขุดคลองเป็นทางตรงทำให้เดินทางง่ายละใกล้ด้วย เรียกกันว่า คลองลัดเตร็ด หรือ คลองลัดเกร็ด
        แล้วชาวมอญมาจากไหน? คาดกันว่าตอนสมัยเสียกรุงครั้งที่ ๒ เกาะเกร็ดน่าจะร้างไปจนถึงสมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินโปรดฯให้ชาวมอญเข้ามาตั้งถิ่นฐานในเกาะนี้จนเกิดเป็นชุมชนชาวไทยมอญอย่างในปัจจุบัน แต่ที่รูปแบบสถาปัตยกรรมของวัดบนเกาะเป็นแบบกรุงศรีอยุธยาเป็นเพราะเกาะนี้เจริญมากมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายแล้วนั่นเอง

แล้วถ้าจะไปเกาะเกร็ดไปทางไหนได้บ้าง?

ที่แน่ๆทุกทางต้องมาจบที่เรือข้ามฟาก5555555 เพราะเกาะเกร็ดมีแม่น้ำล้อมรอบ(เออก็ตามชื่อ) แต่เราจะไปท่าเรือข้ามฟากได้ตรงจุดไหนแล้วไปได้ยังไงบ้าง มาดูกัน!
1. รถเมล์ นั่งสาย 32, 51, 52, 104, ปอ.5 และ ปอ.6 ไปลงท่าน้ำปากเกร็ด ถ้าขึ้นสาย 166 ตรงอนุสาวรีย์ไปลงแถวซอยเข้าวัดสนามเหนือก็ได้ เดินเข้าไปในวัดจะเจอท่าเรือข้ามฟาก
2.  BTS+เรือ นั่งสายสีลมไปลงสะพานตากสิน แล้วลงเรือด่วนเจ้าพระยาไปลงท่านนทบุรีสุดสายเลยย ค่าเรือ22บาท ที่ท่าน้ำจะมีรถตู้ไปปากเกร็ด บอกรถตู้ว่าลงป้ายโรงหนังเมเจอร์ฮอลลีวู้ด แล้วต่อพี่วินไปท่าเรือวัดสนามเหนือ ประมาณ 10 บาท หรือถ้าไม่ชอบรถตู้จะนั่งเรือรถประจำทางจากท่านนทบุรีไปอำเภอปากเกร็ดแล้วไปต่อเรือข้ามฟากที่วัดสนามเหนือ หรือจะเช่าเหมาเรือยาวจากท่านนทบุรีไปเกาะเกร็ดเลยก็ได้
3. มีรถตู้ม.ราม-ปากเกร็ด ไปขึ้นเรือข้ามฟากที่ท่าปากเกร็ดต่อได้ กับอีกที่คือขึ้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จะเป็นรถตู้ทางด่วน อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-ปากเกร็ด ขึ้นที่ฝั่งที่ตรงไปเป็นสะพานควายนะ บอกคนขับว่าไปเกาะเกร็ด เค้าจะส่งแถวๆซอยเข้าวัดสนามเหนือ ต่อเรือข้ามฟากจ้าาา
4. แท็กซี่/รถยนต์ส่วนตัว มาได้ 3 ทางคือ ทางถนนติวานนท์ ถนนแจ้งวัฒนะ และทางสะพานพระราม4 ไปจนถึง 5 แยกปากเกร็ด ขับต่อไปประมาณ 20 เมตร ก่อนถึงโรงหนังเมเจอร์ฮอลลีวู้ดให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนภูมิเวทจนถึงวัดสนามเหนือ ในวัดจะมีที่จอดรถค่าบริการ 30 บาท แต่ฝั่งตรงข้ามก็มีที่จอดของเอกชนเหมือนกันราคา 40 บาท จอดรถเสร็จไปต่อเรือข้ามฟากด้านในวัด

สำหรับทางที่เราเลือกคือ รถยนต์ส่วนตัววว ขับเลยวัดสนามเหนือไปหน่อยแล้วไปจอดรถที่วัดบางจาก (จุดสังเกตวัดคือพระพุทธรูปสีทององค์ใหญ่มากกกกกมากๆๆๆๆและสวยมากด้วย) แล้วลงเรือข้ามฟากมาท่าวัดเสาธงทอง ฝั่งนี้จะราคา 5 บาท แต่ถ้าข้ามจากท่าวัดสนามเหนือมาวัดปรมัยคือแค่ 2 บาทอ่ะ คือแค่ 3 บาทแต่เสียดายมากมั้ย55555555 หลังจากนั้นพวกเราก็เดินสำรวจภายในเกาะกัน (มีแผนที่ประกอบท้ายรีวิว)





หรือจะเช่าจักรยานกันก็ได้ราคาไม่แพงเลย ร้านหาจากแผนที่ท้ายรีวิวได้นะ


เครื่องปั้นดินเผา เสน่ห์และสัญลักษณ์เกาะเกร็ด














วัดในเกาะเกร็ด


วัดเสาธงทอง (วัดสวนหมาก) คือเมื่อก่อนเป็นสวนหมากแล้วก็ถูกตัดเพื่อสร้างวัด และผ่านการบูรณะวัดมาพร้อมกับตั้งชื่อใหม่ว่าวัดเสาธงทอง ณ ปัจจุบันวัดแห่งนี้วัดจะมีพื้นที่ด้านหน้าส่วนหนึ่งเป็นโรงเรียนประถม(แห่งแรกของอำเภอปากเกร็ดด้วยนะเออ) ส่วนด้านหลังก็เป็นวัดตามปกติจ้า


วัดปรมัยยิกาวาส (วัดปากอ่าว) จุดเด่นของวัดนี้คือ เจดีย์เอียง!! ที่เอียงเพราะว่าน้ำท่วมตอน 2485 และซุงที่ค้ำอยู่ใต้เจดีย์มันเลยลอยออกไป ทำให้เจดีย์เอียง แต่จะทำให้มันกลับมาตรงก็ไม่ได้ เพราะมันอาจจะล้ม เลยต้องฉีดคอนกรีตเข้าไป เพื่อรักษาสภาพไว้อย่างนั้น เลยเห็นเป็นเจดีย์เอียงมาจนถึงปัจจุบัน น่าเสียดายที่ตอนไปดันปรับปรุงอยู่


โถบูชาไฟรูปนโปเลียนเหลือที่นี่ที่เดียว ยุโรปตามหากันหนักมากกก แต่คนไทยเอามาตั้งตระหง่านหน้าวัดเลย

วัดไผ่ล้อม เป็นวัดที่อยู่ตรงกลางระหว่างวัดปรมัยยิกาวาส กับวัดเสาธงทอง เป็นวัดที่มีอุโบสถงดงามมากแห่งหนึ่งถูกสร้างขึ้นสมัยอยุธยา และได้มีการซ่อมแซมใน สมัยร.2 และร.3 จุดเด่นของวัดนี้คือกิจกรรมการตั้งเหรียญ เค้าว่ากันว่าให้ขอพรแล้วตั้งเหรียญ ถ้าสามารถตั้งให้เหรียญไม่พลิกได้ พรนั้นจะเป็นจริงด้วยแหละ


สุดยอด 6 ของกินห้ามพลาด!

1.    ลุงแดง ข้าวแช่รามัญ ข้าวแช่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ คือ ทำเพื่อกินแก้ร้อนให้ลูกหลานกลับบ้านมาหาตอนสงกรานต์ สูตรของร้านนี้ น้ำข้าวจะแช่ด้วยแป้งร่ำ ดอกกระดังงา และดอกชมนาถ 2 ดอกนี้ต้องเก็บตามเวลา จะหอมที่สุด! คือกินแล้วหอมมาก กับข้าวที่เด็ดคือกะปิทอดที่เคี่ยวนานถึง 3 วัน บอกเลยว่าไม่มีกลิ่น คนที่ไม่ชอบกะปิกินได้แน่นอน และพริกหยวกไส้หมูห่อไข่ เนื้อหมูนุ่มลิ้นมากๆ เอาเป็นว่าถ้าอยากลองกินข้าวแช่แนะนำร้านนี้เลย

2.    น้องแฝด ทอดมันหน่อกะลา ทำเหมือนทอดมันทั่วไปแต่มีทีเด็ดที่ใช้หน่อกะลาเป็นส่วนผสมหลัก แล้วหน่อกะลาคืออะไร? หน่อกะลาเป็นผักพื้นบ้านของชาวมอญและพม่า เอาติดตัวมาด้วยตอนอพยพมาสยาม แล้วปลูกจนถึงทุกวันนี้ กินได้ทั้งสดและสุก แถมยังเป็นยาสมานแผลในท้องขนานดีทีเดียว ร้านนี้หาไม่ยาก อยู่ตรงหัวมุมทางเข้าวัดปรมัยเลย
3.    ร้านขนมไทยแม่ทองเติม ขนมไทยดั้งเดิมที่สืบทอดสูตรมาหลายชั่วคน เป็นกิจการที่คนในครอบครัวทำเองกับมือ ทั้งต้ม ทอด อบ นึ่ง เข้าไปในร้านเค้าจะมีถาดและที่คีบให้เราหยิบขนมได้ตามใจชอบราคาตามชนิดของขนม เริ่มต้นเพียง 2 บาทเท่านั้น อยากเพิ่มความหวานในหัวใจแนะนำให้มาที่นี่!
4.    Coffee Country ร้านที่ไม่ได้มีดีแค่ที่กาแฟ ขอบอกว่าของเด็ดที่นี่คือ “ขนมถ้วย” ที่กะทิหอม มัน และความหวานที่ลงตัว ได้ลองแล้วรับรองจะติดใจ มีไซส์ใหญ่และเล็ก แอบกระซิบว่า ถ้วยเล็กจะนัวในปากได้รสชาติมากที่สุด พร้อมราคาเบาๆ 20 บาท
5.      ณิศวรรณ ทีเด็ดอยู่ที่ขนมไข่ปลาและพุงปลา เอ้ะ! กินแล้วจะคาวมั้ย จะเหม็นมั้ย ไม่ต้องกลัวเพราะพี่เจ้าของร้านบอกว่าไม่ได้ทำมาจากปลา อย่างขนมไข่ปลาทำมาจากแป้งผสมกับลูกตาลสดจะเป็นสีเหลือง ส่วนขนมพุงปลาทำมาจากแป้งผสมกับเผือกได้เป็นสีขาวนวล กินคู่กับมะพร้าวที่นึ่งสดใหม่ทุกวัน อื้อหืมม บอกเลยว่าจะติดใจในความหอมและหวานแน่นอน
6.    ไอศกรีมมะพร้าว โอ้ยย ร้านนี้ไม่พูดไม่ได้จริงๆ คือความหอมของมะพร้าวและระดับความหวานที่ลงตัวในเนื้อไอศกรีมเข้ากันมากๆ ยิ่งได้กินพร้อมเนื้อมะพร้าวอ่อนขาวๆ ราดนมนิดๆ โรยถั่วหน่อยๆ ความร้อน ณ ตอนนั้นกลายเป็นรอยยิ้มบนหน้าขึ้นมาทันที ไปตามหารอยยิ้มกันได้ที่หน้าท่าเรือวัดไผ่ล้อม

และเพื่อความสะดวกในการไปตามรอยของอร่อย เราได้ทำลายแทงฉบับย่อขึ้นมาเพื่อความสะดวกอย่างมากก (โฮ่ๆๆ) ตามนี้เลยย


สรุปค่าใช้จ่าย (ต่อ1คน)
ค่าเรือข้ามฟากขาไป    5 บาท
ค่าเรือข้ามฟากขากลับ    2 บาท
ข้าวแช่ 50 บาท
ไอศกรีมมะพร้าว 13 บาท (25บาท)
ทอดมันหน่อกะลา 15 บาท (30บาท)
ขนมถ้วย 10 บาท (20บาท)
ขนมไทย 90 บาท (ซื้อเพลินไปหน่อย ฮ่าๆ)
ปั้นดิน 50
รวม 235 บาท
วันนี้การรีวิวของพวกเราก็ได้จบลงแล้ว หวังว่าทุกคนจะได้ความรู้เพื่อการเตรียมตัวก่อนไปเที่ยว
เกาะเกร็ด ทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม วิถีชีวิต เพื่อการท่องเที่ยวที่เข้าใจและมีความคิด
ร่วมกับสถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้
“ฉันไม่เบื่อเกาะเกร็ดอีกต่อไป”

แล้วเจอกันใหม่คราวหน้าค่ะ☺

รีวิวนี้เกิดจากการที่พวกเราได้เข้าร่วมการแข่งขัน CU Creative Travel แต่พื้นที่ในการส่งรีวิวมีจำกัดเลยได้นำเนื้อหาและรูปเพิ่มเติมมาลงในพันทิพเพื่อให้ได้รีวิวที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพราะเราอยากจะแบ่งปันในการไปเกาะเกร็ดให้กับทุกๆคน ถ้าใครชอบรีวิวของพวกเราอันนี้สามารถตามไปกดไลค์รีวิวที่ใช้แข่งขันเพื่อเป็นกำลังใจให้กับพวกเราได้ที่linkนี้เลยค่าาา

https://www.facebook.com/notes/cu-creative-travel-cuct/%E0%B8%89%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%94/1004215212991843







[img]http://f.ptcdn.info/230/041/000/o4l5w7k3kg36ULGOMcQ-o.jpg[/im
ชื่อสินค้า:   เกาะเกร็ด
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่