"กลุ่มไอเอส" สูญเสียดินแดนที่ยึดครองในซีเรียและอิรัก 22 % หรือคิดเป็น 1 ใน 5 ของพื้นที่ทั้งหมด นับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2558

รายงานของกลุ่มวิเคราะห์ด้านการทหาร ไอเอชเอส เจน (IHS Jane) แห่งกรุงลอนดอน ระบุว่า กลุ่มไอเอสสูญเสียดินแดนที่ยึดครองในซีเรียและอิรัก ร้อยละ 22 ตั้งแต่เริ่มต้นปี พ.ศ. 2558 โดยปัจจัยสำคัญเกิดจากการโจมตีทางอากาศของสหรัฐและรัสเซีย ที่ช่วยให้ฝ่ายตรงข้ามของไอเอสรุกคืบ

กลุ่มไอเอสบุกยึดครองพื้นที่กว้างขวาง ทางภาคเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือของอิรัก ควบกับภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย แต่สูญเสียพื้นที่ร้อยละ 14 เมื่อปีที่แล้ว และอีกร้อยละ 8 ในปีนี้ รายงานของไอเอชเอส เจน ระบุว่า กลุ่มไอเอสควบคุมพื้นที่รวมทั้งหมด 73,440 ตารางกิโลเมตร นับถึงวันจันทร์ (14 มี.ค.) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของประเทศอังกฤษ

รัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด สามารถรุกคืบยึดพื้นที่คืนจากไอเอสได้ ทางภาคตะวันตกของประเทศ และล่าสุดอยู่ห่างประมาณ 5 กิโลเมตร จากใจกลางเมืองโบราณพัลไมรา ที่ถูกนักรบกลุ่มไอเอสบุกยึดครองเมื่อกลางปี 2558

นายคอลัมบ์ สแทรค หัวหน้าทีมนักวิเคราะห์ของ ไอเอชเอส เจน กล่าวว่า กลุ่มไอเอสกำลังถูกโดดเดี่ยวมากขึ้น และถือว่ากำลังอยู่ในช่วงขาลง และตกเป็นรองกลุ่มคู่แข่งสำคัญ คือกลุ่มอัล-นุสรา ฟรอนต์ แนวร่วมของกลุ่มอัล-กออิดะห์ในซีเรีย "การถูกโดดเดี่ยวและความพ่ายแพ้ในการรบมากขึ้น จะทำให้กลุ่มไอเอสยากลำบากมากกว่าเดิม ในการเรียกระดมนักรบร่วมอุดมการณ์จากต่างชาติเข้าสู่ซีเรีย" สแทรค กล่าว

ในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อเดือน ม.ค. พ.อ.สตีฟ วอร์เรน นายทหารกองทัพสหรัฐ ในฐานะโฆษกกองกำลังนานาชาติ ที่ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศรายวัน ต่อเป้าหมายกลุ่มไอเอส กล่าวว่า กลุ่มไอเอสสูญเสียพื้นที่ยึดครองในอิรักประมาณร้อยละ 40