ไม่มี Spoil นะครับ
บุตรแห่งคริปตั้น
"พระเจ้า"
อัศวินแห่งรัตติกาล
"มนุษย์"
เทพีแห่งอเมซอนเนส
"ผู้หญิง"
Trinity แห่งคอมิคอเมริกัน สามซุปเปอร์ฮีโร่ที่ได้ชื่อว่า "ยิ่งใหญ่ที่สุด" ในประวัติศาสตร์วงการคอมิค ซึ่งแต่เดิมทีแล้ว ได้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อเป็นความบันเทิงราคาถูกบนนิตยสารไซไฟ ตั้งแต่ช่วงก่อนหน้าสงครามโลก ผสมกับการปลุกกระแสชาตินิยมอเมริกัน ซึ่งการกำเนิดของสามตัวละครใหญ่ในโลกคอมิคนี้ ส่งผลสะเทือนมหาศาลอย่างที่คนยุคนั้นคงไม่ได้คาดคิด มาร์เวลเองก็รับอิทธิพลไปด้วยจากสามตัวละครนี้ในช่วงแรกๆและช่วงยุคทอง ก่อนจะมาสร้างแนวทางใหม่ของตัวเองได้จากสไปเดอร์แมนและทีมฮีโร่สุดดราม่าแบบ X-Men
เดิมทีแล้ว สามฮีโร่นี้เกิดขึ้นมาเป็นเสมือนตัวแทนของแนวคิดบางอย่างที่แสดงออกมาบนแผ่นกระดาษคอมิค
ซุปเปอร์แมนคือตัวแทนของความหวัง เปรียบดั่งพระเจ้าผู้ทรงอำนาจ
แบทแมนคือตัวแทนของสติปัญญา การเกลียดชังความชั่วของมนุษย์
วันเดอร์วูเมนคือตัวแทนของความเที่ยงธรรมที่เป็นดั่งตาชั่ง และการต่อสู้ของผู้หญิงในสังคม

ตัวผู้เขียนเอง ก็ได้รับรู้ อ่าน และเห็นสามตัวละครนี้มาตั้งแต่จำความได้ สมัยก่อนพ่อไปต่างประเทศบ่อย ก็จะมีพวกนิตยสารคอมมิคติดมือกลับมาเยอะ และที่เอากลับมาด้วยบ่อยๆก็คือการ์ตูนคอมิคที่มีทั้ง ซุป แบท สไปดี้ แต่ที่จขกท.เห็นบ่อยที่สุดตอนเด็กๆ ทั้งที่ก็อ่านไม่ออก แต่ชอบเปิดดูบ่อยๆก็คือ JLA ที่รวมทีมฮีโร่ไว้ด้วยกัน
เมื่อรู้ว่า DC จะทำ JLA เป็นหนัง "ซะที" ก็ต้ั้งตารอดูมาตลอด และหนัง BvS ซึ่งจขกทเฝ้ารอมานานสองปีหลังจากรู้ข่าวคราว มาวันนี้ก็ตีตั๋วเข้าไปดูพร้อมกับแฟนด้วยใจระทึก แต่ก็พยายามที่จะไม่ได้คาดหวังมากนัก
ภาพที่เห็นและรับรู้ได้ นี่คือภาพยนตร์เรื่องที่ 5 ในชีวิตของการดูหนังมาเกือบ 30 ปีที่จขกท.ดูแล้ว ถึงกับใจเต้นระทึก และเข้าสุ่สภาพ นั่งไม่ติด รู้สึกลุ้นระทึกตลอด โดยเฉพาะตั้งแต่ช่วงครึ่งเรื่อง จนกระทั่งไปถึงจบเรื่อง ส่วนตัวแล้ว 5 เรื่องที่ว่าดูแล้วเข้าสภาพลุ้นระทึกแบบใจเต้นอย่างนั้น คือ Sign, Id4, TDK, Avengers คือมันอาจจะไม่ใช่หนังดีที่สุด แต่ผมดูแล้วเกิดเข้าฟีลที่ทำให้ลุ้นเกร็งตลอด
ช่วงเปิดเรื่องและต้นเรื่องยอดเยี่ยมมาก แม้ว่าจะรู้สึกการเดินเรื่องและตัดต่อดูแปลกๆหลังจากนั้น แต่เมื่อมาถึงกลางเรื่อง กับฉากๆหนึ่งที่โผล่มาแบบไม่ได้คาดคิด (การโผล่ขึ้นมาของตัวละครคนหนึ่งที่มีบทแค่นิดเดียว) ก็ทำให้รู้สึกตะลึงมาก และหลังจากนั้นก็เข้าสู่สภาพนั่งไม่ติดตลอด และปมเหตุของการต่อสู้ระหว่างสองคน ใครจะวิจารณ์มันยังไงก็ตาม แต่ปมการคลี่คลายของทั้งสองคนนั้น สำหรับผมแล้ว มันยิ่งใหญ่เกินบรรยาย เพราะมันเป็นอะไรเล็กๆที่หนังจงใจปล่อยออกมาตั้งแต่ฉากแรก และได้ใช้มันอย่างสุดอึ้งในตอนท้าย
อีกข้อที่ทำให้ผมหลงรักและตราตรึงกับหนังเรื่องนี้ เพราะมันเป็นหนังฮีโร่ที่มีแบทแมนเรื่องแรกแล้วผมได้รู้สึกว่าในที่สุดแล้วมันสามารถจะ
"ช่วยแบทแมนไว้ได้สำเร็จ"
ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีหนังแบทแมนภาคไหนทำเรื่องนี้ได้สำเร็จอย่างจริงจังเลย แม้แต่ TDK และ TDK Rise ซึ่งเป็นหนังสองเรื่องที่ผมชอบมากจนยกขึ้นหิ้ง ส่วนเรื่องที่ว่าจะช่วยยังไง ลองไปดูกันเองครับ ถ้าจะ Spoil ก็คือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มาร์ธา กับประโยคที่ทำให้ผมอึ้งและตราตรึงมากที่สุดในเรื่อง เพราะไม่คิดเลยว่า หนังเรื่องนี้จะช่วยแบทแมนได้ นั่นคือคำที่เขาพูดว่า "วันนี้มาร์ธาจะต้องไม่ตาย" และมันก็เป็นการคลี่คลายปมขัดแย้งของแบทและซุปลงอย่างสิ้นเชิง เพราะก่อนหน้านี้ แบททั้งกลัวและระแวงซุปมาตลอด เขาไม่เคยเห็นซุปเป็นมนุษย์ แต่เป็นเอเลี่ยนที่แสร้งทำตัวเป็นมนุษย์ แต่จากการที่ซุปพูดชื่อของมาร์ธา มันจึงทำให้แบทซึ่งกำลังตกอยู่ในความโกรธจนขาดสติได้รู้สึกตัวว่า เฮ้ย ไอ้พระเจ้าจอมปลอมที่เขากำลังกระทืบอยู่เนี่ย "มันก็มีแม่นะ" และแม่คนนั้น "ชื่อเดียวกับแม่ของเขา" นี่มันเป็นเหตุผลเพียงพอที่ทำให้แบทยอมละวางทุกอย่างครับ เพราะเขาเพิ่งตระหนักในเสี้ยววินาทีนั้นว่า "พระเจ้าจอมปลอมคนนี้ จริงๆแล้วเขาไม่ได้แตกต่างจากมนุษย์"
และแก่นสำคัญของหนังเรื่องนี้ที่ขาดไม่ได้ ก็คือ "False God" เกี่ยวกับเรื่องนี้ แฟนๆคอมิคจะรู้กันอยู่แล้วว่า ซุปเปอร์แมนเปรียบเสมือนพระเจ้า แล้วการตั้งคำถามเรื่อง False God ที่ว่านั้น ได้คลี่คลายลงแบบไหน ไม่อยากให้แฟนๆซุปเปอร์ฮีโร่ไม่ว่าจะค่ายไหนได้พลาดครับ
สำหรับ Spoil ประเด็นเรื่อง False God ว่าเมื่อพระเจ้ามาอยู่ในหมู่มนุษย์แล้ว (God Among Us) ซึ่งเป็นปมประเด็นใหญ่ของซุปเปอร์แมนมาตลอดในประวัติศาสตร์คอมมิคอันยาวนานนั้น ผมว่าหนังเรื่องนี้ได้คลี่คลายและตอบบทสรุปได้ชัดเจนมาแล้วครับ เป็นการสรุปแบบปลายเปิด และผู้ที่ให้คำตอบก็คือโลก ในตอนท้ายเรื่อง นั่นคือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เมื่อพระเจ้าสิ้นชีพด้วยการเสียสละตนเอง ปวงชนก็จะสรรเสริญ พระเจ้าจึงเป็นเสมือนความหวังที่อยู่ในรูปของการเคารพ แต่ยากนักที่จะมาเดินอยู่ในหมู่มนุษย์ได้ มันก็เหมือนกับคอนเซปต์ที่ว่า God among us ที่มักจะเอามาอิงกับตัวตนของซุปเปอร์แมนอยู่เสมอ อีกทั้งยังเป็นตวแทนแนวคิดแบบอเมริกันที่ก่อตัวมาตั้งแต่ก่อนและหลังสงครามโลก

เคยมีฝรั่งที่เป็นแฟนพันธุ์แท้วิจารณ์ว่าหลายสิบปีก่อนเกี่ยวกับสายสัมพันธ์ของฮีโร่ทั้งสองคนนี้ในแง่ที่ว่าพวกเขากลายเป็นเพื่อนรักกันได้อย่างไรนั้น ก็คือ
"ซุปเปอร์แมนเข้าใจความเจ็บปวดในจิตใจของแบทแมน"
และ
"แบทแมนมองเห็นความหวังในตัวซุปเปอร์แมน"
และ
"วันเดอร์วูเมน คือคนที่จะอยู่ระหว่างกลางเพื่อรักษาสมดุลย์ให้ทั้งสองคน"
ขอบคุณสไนเดอร์ ทีมงานและนักแสดงทั้งหมด เพราะมันทำให้ความฝันวัยของเด็กคนหนึ่งเมื่อ 30 กว่าปีก่อน ได้เป็นจริงครับ รวมถึงหนังเรื่องนี้ หวังว่ามันจะปูทางไปสู่ JLA การรวมทีมซุปเปอร์ฮีโร่สุดเก่าแก่ให้สำเร็จได้เสียทีในที่สุด
รีวิวคะแนน ส่วนตัวแล้วให้ 8/10 และขอยกให้เป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่ดีติด 10 อันดับในดวงใจ เพราะสาเหตุหลักๆที่ว่า
ปล.ผมแนะนำว่า คนที่อยากดูหรือแฟนๆฮีโร่จะตัวไหน ไม่จำเป็นต้องเชื่อคำวิจารณ์ถ้ายังลังเลอยู่ เพราะสิ่งที่ออกมาใน Trailer มันแทบไม่ได้ Spoil ในส่วนของ "แก่นและสาระหลัก" ของเรื่องเลยครับ
[CR] ์[No Spoil] รีวิวหนัง "Batman V Superman" เมื่อความฝันวัยเด็กเมื่อ 30 กว่าปีก่อนกลายเป็นจริง และเปิดตำนานแห่ง JLA
"พระเจ้า"
อัศวินแห่งรัตติกาล
"มนุษย์"
เทพีแห่งอเมซอนเนส
"ผู้หญิง"
Trinity แห่งคอมิคอเมริกัน สามซุปเปอร์ฮีโร่ที่ได้ชื่อว่า "ยิ่งใหญ่ที่สุด" ในประวัติศาสตร์วงการคอมิค ซึ่งแต่เดิมทีแล้ว ได้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อเป็นความบันเทิงราคาถูกบนนิตยสารไซไฟ ตั้งแต่ช่วงก่อนหน้าสงครามโลก ผสมกับการปลุกกระแสชาตินิยมอเมริกัน ซึ่งการกำเนิดของสามตัวละครใหญ่ในโลกคอมิคนี้ ส่งผลสะเทือนมหาศาลอย่างที่คนยุคนั้นคงไม่ได้คาดคิด มาร์เวลเองก็รับอิทธิพลไปด้วยจากสามตัวละครนี้ในช่วงแรกๆและช่วงยุคทอง ก่อนจะมาสร้างแนวทางใหม่ของตัวเองได้จากสไปเดอร์แมนและทีมฮีโร่สุดดราม่าแบบ X-Men
เดิมทีแล้ว สามฮีโร่นี้เกิดขึ้นมาเป็นเสมือนตัวแทนของแนวคิดบางอย่างที่แสดงออกมาบนแผ่นกระดาษคอมิค
ซุปเปอร์แมนคือตัวแทนของความหวัง เปรียบดั่งพระเจ้าผู้ทรงอำนาจ
แบทแมนคือตัวแทนของสติปัญญา การเกลียดชังความชั่วของมนุษย์
วันเดอร์วูเมนคือตัวแทนของความเที่ยงธรรมที่เป็นดั่งตาชั่ง และการต่อสู้ของผู้หญิงในสังคม
ตัวผู้เขียนเอง ก็ได้รับรู้ อ่าน และเห็นสามตัวละครนี้มาตั้งแต่จำความได้ สมัยก่อนพ่อไปต่างประเทศบ่อย ก็จะมีพวกนิตยสารคอมมิคติดมือกลับมาเยอะ และที่เอากลับมาด้วยบ่อยๆก็คือการ์ตูนคอมิคที่มีทั้ง ซุป แบท สไปดี้ แต่ที่จขกท.เห็นบ่อยที่สุดตอนเด็กๆ ทั้งที่ก็อ่านไม่ออก แต่ชอบเปิดดูบ่อยๆก็คือ JLA ที่รวมทีมฮีโร่ไว้ด้วยกัน
เมื่อรู้ว่า DC จะทำ JLA เป็นหนัง "ซะที" ก็ต้ั้งตารอดูมาตลอด และหนัง BvS ซึ่งจขกทเฝ้ารอมานานสองปีหลังจากรู้ข่าวคราว มาวันนี้ก็ตีตั๋วเข้าไปดูพร้อมกับแฟนด้วยใจระทึก แต่ก็พยายามที่จะไม่ได้คาดหวังมากนัก
ภาพที่เห็นและรับรู้ได้ นี่คือภาพยนตร์เรื่องที่ 5 ในชีวิตของการดูหนังมาเกือบ 30 ปีที่จขกท.ดูแล้ว ถึงกับใจเต้นระทึก และเข้าสุ่สภาพ นั่งไม่ติด รู้สึกลุ้นระทึกตลอด โดยเฉพาะตั้งแต่ช่วงครึ่งเรื่อง จนกระทั่งไปถึงจบเรื่อง ส่วนตัวแล้ว 5 เรื่องที่ว่าดูแล้วเข้าสภาพลุ้นระทึกแบบใจเต้นอย่างนั้น คือ Sign, Id4, TDK, Avengers คือมันอาจจะไม่ใช่หนังดีที่สุด แต่ผมดูแล้วเกิดเข้าฟีลที่ทำให้ลุ้นเกร็งตลอด
ช่วงเปิดเรื่องและต้นเรื่องยอดเยี่ยมมาก แม้ว่าจะรู้สึกการเดินเรื่องและตัดต่อดูแปลกๆหลังจากนั้น แต่เมื่อมาถึงกลางเรื่อง กับฉากๆหนึ่งที่โผล่มาแบบไม่ได้คาดคิด (การโผล่ขึ้นมาของตัวละครคนหนึ่งที่มีบทแค่นิดเดียว) ก็ทำให้รู้สึกตะลึงมาก และหลังจากนั้นก็เข้าสู่สภาพนั่งไม่ติดตลอด และปมเหตุของการต่อสู้ระหว่างสองคน ใครจะวิจารณ์มันยังไงก็ตาม แต่ปมการคลี่คลายของทั้งสองคนนั้น สำหรับผมแล้ว มันยิ่งใหญ่เกินบรรยาย เพราะมันเป็นอะไรเล็กๆที่หนังจงใจปล่อยออกมาตั้งแต่ฉากแรก และได้ใช้มันอย่างสุดอึ้งในตอนท้าย
อีกข้อที่ทำให้ผมหลงรักและตราตรึงกับหนังเรื่องนี้ เพราะมันเป็นหนังฮีโร่ที่มีแบทแมนเรื่องแรกแล้วผมได้รู้สึกว่าในที่สุดแล้วมันสามารถจะ
"ช่วยแบทแมนไว้ได้สำเร็จ"
ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีหนังแบทแมนภาคไหนทำเรื่องนี้ได้สำเร็จอย่างจริงจังเลย แม้แต่ TDK และ TDK Rise ซึ่งเป็นหนังสองเรื่องที่ผมชอบมากจนยกขึ้นหิ้ง ส่วนเรื่องที่ว่าจะช่วยยังไง ลองไปดูกันเองครับ ถ้าจะ Spoil ก็คือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และแก่นสำคัญของหนังเรื่องนี้ที่ขาดไม่ได้ ก็คือ "False God" เกี่ยวกับเรื่องนี้ แฟนๆคอมิคจะรู้กันอยู่แล้วว่า ซุปเปอร์แมนเปรียบเสมือนพระเจ้า แล้วการตั้งคำถามเรื่อง False God ที่ว่านั้น ได้คลี่คลายลงแบบไหน ไม่อยากให้แฟนๆซุปเปอร์ฮีโร่ไม่ว่าจะค่ายไหนได้พลาดครับ
สำหรับ Spoil ประเด็นเรื่อง False God ว่าเมื่อพระเจ้ามาอยู่ในหมู่มนุษย์แล้ว (God Among Us) ซึ่งเป็นปมประเด็นใหญ่ของซุปเปอร์แมนมาตลอดในประวัติศาสตร์คอมมิคอันยาวนานนั้น ผมว่าหนังเรื่องนี้ได้คลี่คลายและตอบบทสรุปได้ชัดเจนมาแล้วครับ เป็นการสรุปแบบปลายเปิด และผู้ที่ให้คำตอบก็คือโลก ในตอนท้ายเรื่อง นั่นคือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เคยมีฝรั่งที่เป็นแฟนพันธุ์แท้วิจารณ์ว่าหลายสิบปีก่อนเกี่ยวกับสายสัมพันธ์ของฮีโร่ทั้งสองคนนี้ในแง่ที่ว่าพวกเขากลายเป็นเพื่อนรักกันได้อย่างไรนั้น ก็คือ
"ซุปเปอร์แมนเข้าใจความเจ็บปวดในจิตใจของแบทแมน"
และ
"แบทแมนมองเห็นความหวังในตัวซุปเปอร์แมน"
และ
"วันเดอร์วูเมน คือคนที่จะอยู่ระหว่างกลางเพื่อรักษาสมดุลย์ให้ทั้งสองคน"
ขอบคุณสไนเดอร์ ทีมงานและนักแสดงทั้งหมด เพราะมันทำให้ความฝันวัยของเด็กคนหนึ่งเมื่อ 30 กว่าปีก่อน ได้เป็นจริงครับ รวมถึงหนังเรื่องนี้ หวังว่ามันจะปูทางไปสู่ JLA การรวมทีมซุปเปอร์ฮีโร่สุดเก่าแก่ให้สำเร็จได้เสียทีในที่สุด
รีวิวคะแนน ส่วนตัวแล้วให้ 8/10 และขอยกให้เป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่ดีติด 10 อันดับในดวงใจ เพราะสาเหตุหลักๆที่ว่า
ปล.ผมแนะนำว่า คนที่อยากดูหรือแฟนๆฮีโร่จะตัวไหน ไม่จำเป็นต้องเชื่อคำวิจารณ์ถ้ายังลังเลอยู่ เพราะสิ่งที่ออกมาใน Trailer มันแทบไม่ได้ Spoil ในส่วนของ "แก่นและสาระหลัก" ของเรื่องเลยครับ