สวัสดีทุกคนครับ สมัครพันทิพนานแล้วแหละ ได้แต่เขียนอะไรเรื่อยเปือย แต่ไม่เคยมาเล่าประสบการณ์เรื่องเที่ยว เรื่องนี้จะเป็นเรื่องแรกครับ
********** กระทู้นี้ไม่ใช่รีวิว แต่เป็นการเล่าไปเรื่อยเปือยที่อยากจะเล่า เพราะฉะนั้น จะต้องมีรูปของกระผมด้วย และอาจมีมากด้วย เราไม่ใช่กระทู้รีวิวจ้า โปรดเข้าใจด้วยครับ และเนื่องจากเล่า อาจะไม่มีรายละเอียดมากเท่าที่ควร
เท้าความก่อนนะครับ ผมได้ไปสิงคโปร์ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วโดยครั้งแรกได้ไปกับทัวร์กับทางครอบครัว แต่นี่เป็นการไปต่างประเทศด้วยตัวเองครั้งแรกไปกับคุณแฟนครับ ปกติก็เที่ยวภายในประเทศกันอยู่แล้วครับ แต่อยากลองออกนอกประเทศบ้าง เลยทำการเลือกประเทศที่ระบบขนส่งที่ดี ไปไหนมาไหนสะดวก สำหรับมือใหม่หน่อย เลยมาตกที่ประเทศเล็กๆ ใต้ประเทศไทยนี่เองครับ
เล่าเลยหละกัน . . .
วันแรก : Day 1
ผมกับแฟนตื่นกันตั้งแต่ตี 4 ครับ เครื่องออก 6.15 ไปถึงสนามบินดอนเมือง 5.20 ครับ เราใช้บริการสายการบิน Air Asia ครับ ออกเช้าหน่อยจะได้มีเวลาเที่ยวเยอะ เวลาหลงเยอะ ฮ่าๆๆ ไปถึงสนามบินปุ๊ป ตลึงมากเลยครับ คนมากมายมหาศาล!!! ดีที่เราได้ Check in ผ่านเว็บไซต์ และได้ปริ้น Broading Pass เตรียมไว้แล้ว แค่ไปหยิบใบออกนอกประเทศ แล้วเราเข้าไปได้เลย แต่ถ้ามีสัมภาระที่จะต้องโหลด ต้องต่อคิวที่เคาน์เตอร์นะครับ ผ่านไป 1 Step
ถัดมาก็ต้องตลึงกับคนมากมายมหาศาลอีกแล้วครับ ต่อคิวปั้มลายนิ้วมือ สแกน Passport กันยาวเหยียด คิดอยู่ในใจกูจะไปทันไหมเนี่ย ถึงจะเป็นเครื่องอัตโนมัต แต่บางคนก็ไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเองต้องคอยมีเจ้าหน้าที่ช่วยทำให้ช้า พวกเรากว่าจะผ่านกันมาได้แข่งกับเวลาสุด ๆ เข้า Gate ปุ๊ป วิ่งกันเลยครับ ไปถึงนี่เค้ากำลังขึ้นรถบัสกันเลยครับ ทันพอดีแต่เหนื่อยหิวน้ำมาก อยู่บนเครื่องเลยซื้อน้ำจากพนักงาน 1 ขวด 40 บาท !!! โดนไปดอกหนึ่ง
ตัดมาถึงสนามบินสิงคโปร์เลยครับ เราถึง 9.30 กำลังตะลึงกับการอยู่นอกประเทศครั้งแรก ไม่คุ้นอะไรเลยทั้งสิ้น เดินตามป้ายอย่างเดียว งงตึ๊บ ไปไม่ถูก รู้สึกว่าใช้เวลากับการหาทาออกที่สนามบินนานมาก เดินตามป้าย เราต้องไป Terminal 2 ครับเพื่อเข้าเมือง SkyTrain To MRT อยู่ Terminal 2 นะครับ พอไปถึงเราก็ซื้อบัตร Singapore Tourist Pass แบบ 3 วันครับ ในราคา 30 SGD แต่สามารถ Refund หรือสามารถนำบัตรไปคืน จะได้เงินคืน 10 SGD ครับ *** ต้องขอบอกก่อนว่า Singapore Tourist Pass เมื่อมาถึง Terminal 2 แล้วบันไดเลื่อนแรก จะไม่มีเคาน์เตอร์ขาย Singapore Tourist Pass นะครับ ต้องเดินต่อไปลงอีกฝั่งนึงของบันไดเลื่อนครับ จนในที่สุดเราก็ได้มา และได้ออกจากสนามบินซะที !!!
เป้าหมายที่เราต้องไปคือสถานี Promenade เพื่อเอาของไปฝากที่พักเราก่อน โดยที่ดูมาส่วนใหญ่ โรงแรมจะให้ Check in บ่าย 3 โมง เพราะฉะนั้นเราขอไปฝากไว้ก่อน
โดยตอนแรกนั้นเราคิดว่า MRT จะต้องผ่าน สถานนี PayaLebar เพราะมันเป็นสายสีเขียว สุดสายมันต้อง Joo Koon แน่ ๆ !!! พอถึงสถานีที่ 3 ( Tanah Merah เท่านั้นแหละ MRT มันย้อนกลับไปสถานี Airport อีก งงละสิครับ เรากลับมาตั้งหลักอีกรอบ ดูป้ายให้ครบถ้วน เราลงมาสถานี Tanah Merah อีกรอบ คราวนี้เราลง แล้วเราก็ดูป้ายต่าง ๆ มีป้ายข้างสถานีว่า To City เราก็รออยู่ตรงนั้น แต่เพื่อความมั่นใจเราจำเป็นต้องใช้ทักษะภาษาอังกฤษอันน้อยนิด ถามสาวสิงคโปร์ ว่าเส้นนี้จะไป Paya Lebar ใช่ไหม เพื่อต่อไป Promenade ใช่ไหม เค้าก็บอกว่าใช่ แล้วเค้าก็ได้แสดงมารยาทที่ดี มนุษยสัมพันธ์ดีที่ถามเรากลับ ว่ามาจากไหน Vacation ใช่ไหม ดีนะที่เค้าถามแค่นั้นเราสามารถตอบได้ ฮ่าๆๆ คิดในใจไม่ต้องมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีก็ได้ เดี่ยวกูตอบไม่ได้
และแล้วก็ถึงสถานี Promenade ซะที !!! กว่าจะถึงเกือบเที่ยงวันครับ ถึงสนามบิน 9.30 นะเนี่ย!!! ผมไม่รู้เรียกว่าออกประตูไหน เห็นป้าย Millenia walk ก็ไปทางนั้นเลย เพราะชื่อโรงแรมมันลงท้ายด้วย Millenia ก็เลยคิดว่าน่าจะใช้ พอออกจากใต้ดินและได้เหยียบบนพื้นดินเท่านั้นแหละครับ ไปไหนต่อไม่เป็นเลย (อีกแล้ว) ฮ่าๆๆๆ จึงจำเป็นต้องใช้บริการ Google Map ครับ
***(ก่อนเดินทาง ผมได้ทำการเปิดบริการ Roaming ของ Dtac ไว้ครับค่าบริการ 280/วัน หลายคนสงสัยว่าทำไมไม่ซื้อซิมสิงคโปร์ ตอนแรกผมก็คิดแบบนั้นแหละครับ แต่เนื่องด้วยผมต้องทำงานด้วย ต้องมีการติดต่อลูกค้าที่ไทย และด้วยผมมาเที่ยวโดยไม่บอกที่บ้าน และจำเป็นต้องโทรกลับบ้าน จึงจำเป็นต้องให้เค้าเห็นเป็นเบอร์ไทยครับ!!! ต้องเปิดบริการ 2 อย่างนะครับ Roaming และบริการโทรข้ามแดน โดยรวมแล้วค่าบริการ Roaming รับได้ครับ แต่ค่าโทรหนักอยู่เหมือนกัน )
เมื่อเราเดินมาตามทาง Millenia Walk และถึงทางออกสถานี Pormenade สิ่งที่เราเจอเลยก็คือ Singapore Flyer ครับ ตั้งตระหงานอยู่ซ้ายมือของเรา แว๊บแรกที่เห็นแอบดีใจตื่นเต้นครับ กูถึงสิงคโปร์จริงๆแล้ว ฮ่าๆๆ แต่ดูคุณแฟนเฉยมาก ไม่รู้ในใจเป็นไง เราเปิด Google Map ดูแล้วโรงแรมเราไม่ไกลจากสถานีเท่าไหร่ จึงเดินไปโดยเนื้อตัวเหงือโชก
ณ โรงแรม เราก็เอามือถือเปิดเมล์ให้เค้าเช็คดู พนักงานก็ต้อนรับเรา เช็คชื่อเราอยู่สักพักนึง แล้วเค้าก็บอกว่า เนื่องจากปกติเวลานี้โรงแรมจะยังไม่ให้เข้าได้ ยังไม่ถึงเวลา แต่นี่ให้เป็นพิเศษ กระผมควรจะดีใจไหม ฮ่าๆๆๆ เราเข้าไปเก็บของ เปลี่ยนกางเกง ก่อนออกก็ถ่ายรูปวิวนอกห้องมารูปนึง
ตามตารางที่เรากำหนดไว้แต่แรก เราต้องไปซื้อบัตรต่าง ๆ ที่ China Town ก่อน แต่เนื่องด้วยเราหลงทางกันนานไปหน่อยเราจึงต้องเปลี่ยนแปลงกำหนดการ กิจกรรมที่เราจะทำคือ ไปเล่น IFly Singapore อยู่ที่ Sentosa ครับ ต้องไปต่อที่ Vivo เพื่อข้ามไปเกาะ Sentosa เราหาข้อมูลที่ไทยได้น้อยมากว่าคนเล่นเป็นยังไง สนุกไหม ได้แต่ดูภายในเว็บของเค้า ดูวิดีโอใน Youtube ตอนดูมันเป็นคลิปที่โดดมาจากเครื่องบิน มันเท่ห์ ดูที่เค้าเล่นเครื่องเล่น ที่เป็นโปรแล้วเท่ห์ น่าสนุกเกิดความอยาก ก็เลยมา ทั้งๆที่ เราเล่นคงเล่นได้นิดเดียว เพราะไม่เป็น ฮ่าๆๆ ผมได้ซื้อผ่านเว็บมากจากไทยแล้วครับ มีให้เลือกราคา เลือก Combo Pack ต่างๆ ว่าจะเอา Digital Photo Printed Photo Video แต่ละอันจะไม่เหมือนกันครับว่าจะได้กี่รูป กี่ไฟล์ ผมเลือก1 Printed Photo, 1 Ditgital Photo แล้วก็ 1 HDVideo USB
ที่จริงมีวิดีโอ แต่ผมอัพโหลดไม่เป็นครับ ขออภัยด้วย ก่อนจะเล่นก็จะมีผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำ บอกสัญญาณมือ สอนลักษณะท่าทางการลอยในอากาศให้ก่อนจะลอยจริงครับ ขอบอกเลยว่า ตอนเราไปคนไม่ค่อยเยอะ รู้สึกเล่นแป๊ปเดียวมาก อยากเล่นอีก ฮ่าๆๆ ถ้าเราอยากลอยขึ้นไปสูงๆพร้อมผู้เชี่ยวชาญ ต้องจ่ายเพิ่ม 40 เหรียญนะครับ ผมอยากอยู่ แต่มันแพงไปหน่อย ฮ่าๆๆ ผมกับแฟนซื้อแบบได้เล่นคนละ 2 dive ครับ หลังจากเล่นเสร็จเราก็ต้องไปเลือกรูปภาพที่จะปริ้นออกมาก แล้วก็ไฟล์รูป ไฟล์วิดีโอ ใบ Certificate
สถานีถัดไปของผมกับแฟนคือ China Town ครับ เพื่อไปซื้อบัตรเข้า Universal Studio ที่ Sea Wheel Travel ครับ เมื่อเราถึง China Town เราก็หา People Park ตามในพันทิพเลยครับ แต่ถ้าไม่มึน ไม่หลง ก็ไม่ใช่เรา เนื่องด้วยออกมาก็เจอ People Park อยู่ด้านซ้าย ด้านหน้า ด้านขวาเลย เราไม่รูปว่าตึกไหน เราก็เข้ามันหมดทุกตึกครับไล่ตั้งแต่ตึกซ้าย ฮ่าๆๆ และแล้วเราก็มาเจอครับที่ตึกขวา เดินวนครบไปและ ฮ่าๆๆๆๆ เหนื่อยฟรี เสียเวลาไปมาก พนักงานขายบัตร คุ้นเคยกับคนไทยดีครับ ใจดี ชวนคุย พูดไทยได้นิดหน่อย ภายในร้านเจอแต่คนไทยครับที่เข้ามาซื้อบัตรครับ
สถานี China Town กับวัดพระเขี้ยวแก้วไม่ไกลมากเท่าไหร่ ***พวกผมพอเดินไหว จึงเดินไปกัน เดินไปดูตึกราบ้านช่องเค้าไปเรื่อย ๆ ก็ดีครับ วัดพระเขี้ยวแก้วนั้นคงไม่บรรยายอะไรมากครับ ไม่มีความรู้เท่าไหร่ คุยกับแฟนบอกว่า ถ่ายรูปลงไปบางมุม แล้วเช็คอินเค้าจะเชื่อไหมว่าอยู่สิงคโปร์ เพราะบางมุมแทบแยกกันไม่ออกครับ ฮ่าๆๆ จึงมีแต่รูปนะครับ
ถัดจากวัดพระเขี้ยวแก้ว คุณแฟนอยากไป Red Dot Design Museum จึงใช้วิธีเดินไปเหมือนเดิมครับ เดินไปชมเมืองไป ถ่ายรูปไปครับ
ถ่ายรูปกันพอใจแล้วก็กลับที่พักครับ ฮ่าๆๆ เราไม่ได้เข้านะครับ เราสามารถเข้าไปชมได้ แต่ต้องเสียเงินครับ แค่มาถ่ายรูปด้านนอกเฉยๆ เมื่อถึงโรงแรม ก็พักเหนื่อยสักครู่ ถ่ายรูปซักหน่อย โรงแรมที่เราพักคือ The Ritz Carlton ครับ
********* เดี๋ยวมาต่อครับ ไม่เคยพิมพ์อะไรนานขนาดนี้ ฮ่าๆๆ ***********
********* พิมพ์ต่อยังไงครับ จะใช้เกินตัวอักษรแล้ว หรือว่าต้องพิมพ์ต่อในแสดงความคิดเห็นครับ **********
[CR] Singapore ประเทศเล็ก ๆ แต่กิจกรรมเยอะ 3 วัน 2 คืน
สวัสดีทุกคนครับ สมัครพันทิพนานแล้วแหละ ได้แต่เขียนอะไรเรื่อยเปือย แต่ไม่เคยมาเล่าประสบการณ์เรื่องเที่ยว เรื่องนี้จะเป็นเรื่องแรกครับ
********** กระทู้นี้ไม่ใช่รีวิว แต่เป็นการเล่าไปเรื่อยเปือยที่อยากจะเล่า เพราะฉะนั้น จะต้องมีรูปของกระผมด้วย และอาจมีมากด้วย เราไม่ใช่กระทู้รีวิวจ้า โปรดเข้าใจด้วยครับ และเนื่องจากเล่า อาจะไม่มีรายละเอียดมากเท่าที่ควร
เท้าความก่อนนะครับ ผมได้ไปสิงคโปร์ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วโดยครั้งแรกได้ไปกับทัวร์กับทางครอบครัว แต่นี่เป็นการไปต่างประเทศด้วยตัวเองครั้งแรกไปกับคุณแฟนครับ ปกติก็เที่ยวภายในประเทศกันอยู่แล้วครับ แต่อยากลองออกนอกประเทศบ้าง เลยทำการเลือกประเทศที่ระบบขนส่งที่ดี ไปไหนมาไหนสะดวก สำหรับมือใหม่หน่อย เลยมาตกที่ประเทศเล็กๆ ใต้ประเทศไทยนี่เองครับ
เล่าเลยหละกัน . . .
วันแรก : Day 1
ผมกับแฟนตื่นกันตั้งแต่ตี 4 ครับ เครื่องออก 6.15 ไปถึงสนามบินดอนเมือง 5.20 ครับ เราใช้บริการสายการบิน Air Asia ครับ ออกเช้าหน่อยจะได้มีเวลาเที่ยวเยอะ เวลาหลงเยอะ ฮ่าๆๆ ไปถึงสนามบินปุ๊ป ตลึงมากเลยครับ คนมากมายมหาศาล!!! ดีที่เราได้ Check in ผ่านเว็บไซต์ และได้ปริ้น Broading Pass เตรียมไว้แล้ว แค่ไปหยิบใบออกนอกประเทศ แล้วเราเข้าไปได้เลย แต่ถ้ามีสัมภาระที่จะต้องโหลด ต้องต่อคิวที่เคาน์เตอร์นะครับ ผ่านไป 1 Step
ถัดมาก็ต้องตลึงกับคนมากมายมหาศาลอีกแล้วครับ ต่อคิวปั้มลายนิ้วมือ สแกน Passport กันยาวเหยียด คิดอยู่ในใจกูจะไปทันไหมเนี่ย ถึงจะเป็นเครื่องอัตโนมัต แต่บางคนก็ไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเองต้องคอยมีเจ้าหน้าที่ช่วยทำให้ช้า พวกเรากว่าจะผ่านกันมาได้แข่งกับเวลาสุด ๆ เข้า Gate ปุ๊ป วิ่งกันเลยครับ ไปถึงนี่เค้ากำลังขึ้นรถบัสกันเลยครับ ทันพอดีแต่เหนื่อยหิวน้ำมาก อยู่บนเครื่องเลยซื้อน้ำจากพนักงาน 1 ขวด 40 บาท !!! โดนไปดอกหนึ่ง
ตัดมาถึงสนามบินสิงคโปร์เลยครับ เราถึง 9.30 กำลังตะลึงกับการอยู่นอกประเทศครั้งแรก ไม่คุ้นอะไรเลยทั้งสิ้น เดินตามป้ายอย่างเดียว งงตึ๊บ ไปไม่ถูก รู้สึกว่าใช้เวลากับการหาทาออกที่สนามบินนานมาก เดินตามป้าย เราต้องไป Terminal 2 ครับเพื่อเข้าเมือง SkyTrain To MRT อยู่ Terminal 2 นะครับ พอไปถึงเราก็ซื้อบัตร Singapore Tourist Pass แบบ 3 วันครับ ในราคา 30 SGD แต่สามารถ Refund หรือสามารถนำบัตรไปคืน จะได้เงินคืน 10 SGD ครับ *** ต้องขอบอกก่อนว่า Singapore Tourist Pass เมื่อมาถึง Terminal 2 แล้วบันไดเลื่อนแรก จะไม่มีเคาน์เตอร์ขาย Singapore Tourist Pass นะครับ ต้องเดินต่อไปลงอีกฝั่งนึงของบันไดเลื่อนครับ จนในที่สุดเราก็ได้มา และได้ออกจากสนามบินซะที !!!
เป้าหมายที่เราต้องไปคือสถานี Promenade เพื่อเอาของไปฝากที่พักเราก่อน โดยที่ดูมาส่วนใหญ่ โรงแรมจะให้ Check in บ่าย 3 โมง เพราะฉะนั้นเราขอไปฝากไว้ก่อน
โดยตอนแรกนั้นเราคิดว่า MRT จะต้องผ่าน สถานนี PayaLebar เพราะมันเป็นสายสีเขียว สุดสายมันต้อง Joo Koon แน่ ๆ !!! พอถึงสถานีที่ 3 ( Tanah Merah เท่านั้นแหละ MRT มันย้อนกลับไปสถานี Airport อีก งงละสิครับ เรากลับมาตั้งหลักอีกรอบ ดูป้ายให้ครบถ้วน เราลงมาสถานี Tanah Merah อีกรอบ คราวนี้เราลง แล้วเราก็ดูป้ายต่าง ๆ มีป้ายข้างสถานีว่า To City เราก็รออยู่ตรงนั้น แต่เพื่อความมั่นใจเราจำเป็นต้องใช้ทักษะภาษาอังกฤษอันน้อยนิด ถามสาวสิงคโปร์ ว่าเส้นนี้จะไป Paya Lebar ใช่ไหม เพื่อต่อไป Promenade ใช่ไหม เค้าก็บอกว่าใช่ แล้วเค้าก็ได้แสดงมารยาทที่ดี มนุษยสัมพันธ์ดีที่ถามเรากลับ ว่ามาจากไหน Vacation ใช่ไหม ดีนะที่เค้าถามแค่นั้นเราสามารถตอบได้ ฮ่าๆๆ คิดในใจไม่ต้องมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีก็ได้ เดี่ยวกูตอบไม่ได้
และแล้วก็ถึงสถานี Promenade ซะที !!! กว่าจะถึงเกือบเที่ยงวันครับ ถึงสนามบิน 9.30 นะเนี่ย!!! ผมไม่รู้เรียกว่าออกประตูไหน เห็นป้าย Millenia walk ก็ไปทางนั้นเลย เพราะชื่อโรงแรมมันลงท้ายด้วย Millenia ก็เลยคิดว่าน่าจะใช้ พอออกจากใต้ดินและได้เหยียบบนพื้นดินเท่านั้นแหละครับ ไปไหนต่อไม่เป็นเลย (อีกแล้ว) ฮ่าๆๆๆ จึงจำเป็นต้องใช้บริการ Google Map ครับ
***(ก่อนเดินทาง ผมได้ทำการเปิดบริการ Roaming ของ Dtac ไว้ครับค่าบริการ 280/วัน หลายคนสงสัยว่าทำไมไม่ซื้อซิมสิงคโปร์ ตอนแรกผมก็คิดแบบนั้นแหละครับ แต่เนื่องด้วยผมต้องทำงานด้วย ต้องมีการติดต่อลูกค้าที่ไทย และด้วยผมมาเที่ยวโดยไม่บอกที่บ้าน และจำเป็นต้องโทรกลับบ้าน จึงจำเป็นต้องให้เค้าเห็นเป็นเบอร์ไทยครับ!!! ต้องเปิดบริการ 2 อย่างนะครับ Roaming และบริการโทรข้ามแดน โดยรวมแล้วค่าบริการ Roaming รับได้ครับ แต่ค่าโทรหนักอยู่เหมือนกัน )
เมื่อเราเดินมาตามทาง Millenia Walk และถึงทางออกสถานี Pormenade สิ่งที่เราเจอเลยก็คือ Singapore Flyer ครับ ตั้งตระหงานอยู่ซ้ายมือของเรา แว๊บแรกที่เห็นแอบดีใจตื่นเต้นครับ กูถึงสิงคโปร์จริงๆแล้ว ฮ่าๆๆ แต่ดูคุณแฟนเฉยมาก ไม่รู้ในใจเป็นไง เราเปิด Google Map ดูแล้วโรงแรมเราไม่ไกลจากสถานีเท่าไหร่ จึงเดินไปโดยเนื้อตัวเหงือโชก
ณ โรงแรม เราก็เอามือถือเปิดเมล์ให้เค้าเช็คดู พนักงานก็ต้อนรับเรา เช็คชื่อเราอยู่สักพักนึง แล้วเค้าก็บอกว่า เนื่องจากปกติเวลานี้โรงแรมจะยังไม่ให้เข้าได้ ยังไม่ถึงเวลา แต่นี่ให้เป็นพิเศษ กระผมควรจะดีใจไหม ฮ่าๆๆๆ เราเข้าไปเก็บของ เปลี่ยนกางเกง ก่อนออกก็ถ่ายรูปวิวนอกห้องมารูปนึง
ตามตารางที่เรากำหนดไว้แต่แรก เราต้องไปซื้อบัตรต่าง ๆ ที่ China Town ก่อน แต่เนื่องด้วยเราหลงทางกันนานไปหน่อยเราจึงต้องเปลี่ยนแปลงกำหนดการ กิจกรรมที่เราจะทำคือ ไปเล่น IFly Singapore อยู่ที่ Sentosa ครับ ต้องไปต่อที่ Vivo เพื่อข้ามไปเกาะ Sentosa เราหาข้อมูลที่ไทยได้น้อยมากว่าคนเล่นเป็นยังไง สนุกไหม ได้แต่ดูภายในเว็บของเค้า ดูวิดีโอใน Youtube ตอนดูมันเป็นคลิปที่โดดมาจากเครื่องบิน มันเท่ห์ ดูที่เค้าเล่นเครื่องเล่น ที่เป็นโปรแล้วเท่ห์ น่าสนุกเกิดความอยาก ก็เลยมา ทั้งๆที่ เราเล่นคงเล่นได้นิดเดียว เพราะไม่เป็น ฮ่าๆๆ ผมได้ซื้อผ่านเว็บมากจากไทยแล้วครับ มีให้เลือกราคา เลือก Combo Pack ต่างๆ ว่าจะเอา Digital Photo Printed Photo Video แต่ละอันจะไม่เหมือนกันครับว่าจะได้กี่รูป กี่ไฟล์ ผมเลือก1 Printed Photo, 1 Ditgital Photo แล้วก็ 1 HDVideo USB
ที่จริงมีวิดีโอ แต่ผมอัพโหลดไม่เป็นครับ ขออภัยด้วย ก่อนจะเล่นก็จะมีผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำ บอกสัญญาณมือ สอนลักษณะท่าทางการลอยในอากาศให้ก่อนจะลอยจริงครับ ขอบอกเลยว่า ตอนเราไปคนไม่ค่อยเยอะ รู้สึกเล่นแป๊ปเดียวมาก อยากเล่นอีก ฮ่าๆๆ ถ้าเราอยากลอยขึ้นไปสูงๆพร้อมผู้เชี่ยวชาญ ต้องจ่ายเพิ่ม 40 เหรียญนะครับ ผมอยากอยู่ แต่มันแพงไปหน่อย ฮ่าๆๆ ผมกับแฟนซื้อแบบได้เล่นคนละ 2 dive ครับ หลังจากเล่นเสร็จเราก็ต้องไปเลือกรูปภาพที่จะปริ้นออกมาก แล้วก็ไฟล์รูป ไฟล์วิดีโอ ใบ Certificate
สถานีถัดไปของผมกับแฟนคือ China Town ครับ เพื่อไปซื้อบัตรเข้า Universal Studio ที่ Sea Wheel Travel ครับ เมื่อเราถึง China Town เราก็หา People Park ตามในพันทิพเลยครับ แต่ถ้าไม่มึน ไม่หลง ก็ไม่ใช่เรา เนื่องด้วยออกมาก็เจอ People Park อยู่ด้านซ้าย ด้านหน้า ด้านขวาเลย เราไม่รูปว่าตึกไหน เราก็เข้ามันหมดทุกตึกครับไล่ตั้งแต่ตึกซ้าย ฮ่าๆๆ และแล้วเราก็มาเจอครับที่ตึกขวา เดินวนครบไปและ ฮ่าๆๆๆๆ เหนื่อยฟรี เสียเวลาไปมาก พนักงานขายบัตร คุ้นเคยกับคนไทยดีครับ ใจดี ชวนคุย พูดไทยได้นิดหน่อย ภายในร้านเจอแต่คนไทยครับที่เข้ามาซื้อบัตรครับ
สถานี China Town กับวัดพระเขี้ยวแก้วไม่ไกลมากเท่าไหร่ ***พวกผมพอเดินไหว จึงเดินไปกัน เดินไปดูตึกราบ้านช่องเค้าไปเรื่อย ๆ ก็ดีครับ วัดพระเขี้ยวแก้วนั้นคงไม่บรรยายอะไรมากครับ ไม่มีความรู้เท่าไหร่ คุยกับแฟนบอกว่า ถ่ายรูปลงไปบางมุม แล้วเช็คอินเค้าจะเชื่อไหมว่าอยู่สิงคโปร์ เพราะบางมุมแทบแยกกันไม่ออกครับ ฮ่าๆๆ จึงมีแต่รูปนะครับ
ถัดจากวัดพระเขี้ยวแก้ว คุณแฟนอยากไป Red Dot Design Museum จึงใช้วิธีเดินไปเหมือนเดิมครับ เดินไปชมเมืองไป ถ่ายรูปไปครับ
ถ่ายรูปกันพอใจแล้วก็กลับที่พักครับ ฮ่าๆๆ เราไม่ได้เข้านะครับ เราสามารถเข้าไปชมได้ แต่ต้องเสียเงินครับ แค่มาถ่ายรูปด้านนอกเฉยๆ เมื่อถึงโรงแรม ก็พักเหนื่อยสักครู่ ถ่ายรูปซักหน่อย โรงแรมที่เราพักคือ The Ritz Carlton ครับ
********* เดี๋ยวมาต่อครับ ไม่เคยพิมพ์อะไรนานขนาดนี้ ฮ่าๆๆ ***********
********* พิมพ์ต่อยังไงครับ จะใช้เกินตัวอักษรแล้ว หรือว่าต้องพิมพ์ต่อในแสดงความคิดเห็นครับ **********