ปัญหาอย่างหนึ่งที่เป็นมาตั้งแต่ Man of Steel และมันก็ยังเป็นอยู่ใน Batman V Superman คือการเล่าเรื่อง
ผมรู้สึกว่า Zack ชอบทำหนังเหมือนคนสมาธิสั้น คือนิยมถ่ายแต่ละฉากสั้นๆ ตัดไปตัดมา เหมือนกลัวที่จะเล่าอะไรยาวๆ
มันเลยเหมือนคนมาเล่าเรื่องอะไรสักอย่างให้เราฟัง แต่พอเล่าไปได้นิดๆหน่อยๆก็จะเปลี่ยนไปพูดถึงเหตุการณ์อื่นเอาดื้อๆ (ซึ่งก็เล่าแบบสั้นๆอีกเช่นเคย) แล้วสักพักก็วกกลับมาพูดเรื่องเดิมต่อ เป็นแบบนี้อยู่ 2 ชม.กว่าๆ มันเลยทำให้รู้สึกว่า แต่ละซีนมันเป็นท่อนๆแบบเห็นชัด โดดๆออกมา ไม่เป็นเนื้อเดียวกันเท่าไหร่ (ซึ่งถ้ามันถูกตัดออกมาเป็นคลิปสั้นๆ หรือเป็นตัวอย่างหนัง มันจะดูดีมากๆ แต่พอเอามารวมกันเป็นหนังเรื่องนึง มันกลับไม่ดีนัก)
การเล่าเรื่องแบบตัดไปตัดมา บวกกับระยะเวลาที่ยาวของหนัง ทำให้รู้สึกว่าหนังใส่เกียร์เดินหน้าอยู่ตลอดเวลา เล่าอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมด ยังไม่ทันจะอิน ไม่ทันจะมีอารมณ์ร่วม หนังก็ตัดฉาก เดินหน้าต่อไปอีก (หนังที่ทำแบบนี้ได้ คือหนัง AV ครับ จะเดินเรื่องเร็วหรือจะกรอดูเราก็มีอารมณ์อยู่ดี)
ซึ่งในแง่หนึ่งมันก็ดี แต่ผมคิดว่าหนังที่ดีมันไม่จำเป็นต้องเดินหน้าตลอดเวลาก็ได้ ย่ำอยู่กับที่บ้างก็ได้ ถ้าการย่ำ การพัก มันทำไปเพื่อดึงอารมณ์ของคนดูให้ตามเหตุการณ์ในหนังได้ทัน
ถ้าเปรียบกับการกินข้าว เหมือนเราจ่ายตังค์ 200 ให้ Zack ป้อนข้าวที่เขาเป็นคนทำ (ซึ่งข้าวจานนี้มีวัตถุดิบระดับโลก และจริงๆแล้วรสชาติอาจไม่เลว) แต่เรายังเคี้ยวไม่เสร็จเลย เค้าก็ป้อนคำใหม่มาให้แล้ว รวมๆแล้ว กินได้เยอะ แต่ไม่อร่อย ไม่ดื่มด่ำกับรสชาติได้เท่าที่ควรจะเป็น
สรุป Zack มีวัตถุดิบดีและอาจจะทำกับข้าวเป็น แต่ Zack ป้อนข้าวไม่เป็นครับ (จบการรีวิว Zack Snyder)
สำหรับตัวหนัง ผมก็ว่ามันไม่ใช่หนังที่ดีจริงๆนั่นแหละ เพราะโดยรวมๆมันไม่สนุกเท่าไหร่ โดยเฉพาะกับคนดูทั่วๆไปที่ไม่ได้เป็นแฟนตัวละครสองตัวนี้ อาจจะเบื่อเลยก็ได้ (ลองจินตนาการว่าถ้ามองมันในฐานะตัวละครธรรมดา ไม่ใช่ตัวละครโปรด ผมคงไม่ชอบหนังเรื่องนี้เหมือนกัน)
แถมฉากบู๊ช่วงท้ายๆยังเลอะเทอะเหมือนกำลังดู Transformers อีกต่างหาก (ให้ตายเถอะ ต้องแวะแขวะ Transformers จนได้)
สำหรับคนที่เป็นแฟนการ์ตูน หนังอาจจะทำได้ดีพอใช้และทำให้รู้สึกอยากดู JLA ได้ แต่ผมว่ามันล้มเหลวในการดึงกลุ่มคนดูทั่วไปที่ไม่ใช่แฟน ให้อยากดูหนังเรื่องต่อๆไปในจักรวาล DCEU
แต่ถ้าถามว่าชอบหนังเรื่องนี้ไหม ผมก็ตอบว่าชอบ
เพราะผมเป็นติ่งแบทแมน นี่คือตัวละครที่ผมรัก
แค่ได้เห็นบรูซเวย์น เห็นแบทแมน ผมก็มีความสุขแล้ว
และเบน แอฟเฟลค ก็เป็นแบทแมนได้ดีมากด้วย
ทำให้รู้สึกอยากดูหนังเดี่ยวแบทแมนมากกว่าจัสติคลีคอีก
ส่วน Lex Luthor ตอนดูตัวอย่างผมคิดว่าตัวเองจะชอบตัวละครตัวนี้นะ
เพราะ Lex ดูเป็นนักธุรกิจฉลาดๆที่เพี้ยนหน่อยๆ แอบบ้านิดๆ
เป็นคนที่เพี้ยนแบบลุ่มลึก บ้าแบบมีกึ๋น เป็นอุปนิสัยที่เกิดขึ้นกับคนฉลาดแบบ Lex
แต่พอมาดูในหนัง ผมรู้สึกว่าตัวละครนี้ราคาเกิน 5 บาทมาหน่อยเดียว
คือยังเป็นนักธุรกิจฉลาดๆที่ติดเพี้ยนอยู่ แต่รู้สึกว่าความเพี้ยนที่แสดงออกมามันเป็นความตั้งใจจะเพี้ยน ทำให้ตัวละครที่น่าจะดูน่ากลัว ดูลุ่มลึก กลายเป็นตัวละครที่การ์ตู๊นการ์ตูนไปแทน แค่คนละแบบกับ Lex เวอร์ชั่นก่อนๆเท่านั้นเอง
แต่ที่ดีงามที่สุดในหนังคือ WW
สวยด้วย - เท่ด้วย - เก่งด้วย
ตอนสู้ก็นิ่งสมเป็นนักรบหญิงมากๆ
เรียกได้ว่าเป็นนิยามของคำว่าผู้หญิงที่สง่างามโดยแท้
ทั้งๆที่ก่อนไปดูผมเฉยๆกับตัวละครนี้นะ แต่พอถึงฉากต่อสู้ของเธอแล้ว ถ้าผมเป็นแบทแมนจะขอแต่งงานตรงนั้นเลย (คือจริงๆก็ดีงามตั้งแต่ใน Trailer แล้วแหละ แต่ผมสาย mass ไม่อ่านการ์ตูนเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยรู้จัก WW)
ถ้าให้คะแนนคงสัก 7/10
แต่ถ้ามันไม่ใช่แบทแมนและซูเปอร์แมน
อาจเหลือแค่ 6 หรืออาจจะ 5
[CR] [CR][Review ไม่สปอย] Batman V Superman วัตถุดิบดี ข้าวอร่อย แต่คนป้อน ป้อนไม่เป็น
ผมรู้สึกว่า Zack ชอบทำหนังเหมือนคนสมาธิสั้น คือนิยมถ่ายแต่ละฉากสั้นๆ ตัดไปตัดมา เหมือนกลัวที่จะเล่าอะไรยาวๆ
มันเลยเหมือนคนมาเล่าเรื่องอะไรสักอย่างให้เราฟัง แต่พอเล่าไปได้นิดๆหน่อยๆก็จะเปลี่ยนไปพูดถึงเหตุการณ์อื่นเอาดื้อๆ (ซึ่งก็เล่าแบบสั้นๆอีกเช่นเคย) แล้วสักพักก็วกกลับมาพูดเรื่องเดิมต่อ เป็นแบบนี้อยู่ 2 ชม.กว่าๆ มันเลยทำให้รู้สึกว่า แต่ละซีนมันเป็นท่อนๆแบบเห็นชัด โดดๆออกมา ไม่เป็นเนื้อเดียวกันเท่าไหร่ (ซึ่งถ้ามันถูกตัดออกมาเป็นคลิปสั้นๆ หรือเป็นตัวอย่างหนัง มันจะดูดีมากๆ แต่พอเอามารวมกันเป็นหนังเรื่องนึง มันกลับไม่ดีนัก)
การเล่าเรื่องแบบตัดไปตัดมา บวกกับระยะเวลาที่ยาวของหนัง ทำให้รู้สึกว่าหนังใส่เกียร์เดินหน้าอยู่ตลอดเวลา เล่าอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมด ยังไม่ทันจะอิน ไม่ทันจะมีอารมณ์ร่วม หนังก็ตัดฉาก เดินหน้าต่อไปอีก (หนังที่ทำแบบนี้ได้ คือหนัง AV ครับ จะเดินเรื่องเร็วหรือจะกรอดูเราก็มีอารมณ์อยู่ดี)
ซึ่งในแง่หนึ่งมันก็ดี แต่ผมคิดว่าหนังที่ดีมันไม่จำเป็นต้องเดินหน้าตลอดเวลาก็ได้ ย่ำอยู่กับที่บ้างก็ได้ ถ้าการย่ำ การพัก มันทำไปเพื่อดึงอารมณ์ของคนดูให้ตามเหตุการณ์ในหนังได้ทัน
ถ้าเปรียบกับการกินข้าว เหมือนเราจ่ายตังค์ 200 ให้ Zack ป้อนข้าวที่เขาเป็นคนทำ (ซึ่งข้าวจานนี้มีวัตถุดิบระดับโลก และจริงๆแล้วรสชาติอาจไม่เลว) แต่เรายังเคี้ยวไม่เสร็จเลย เค้าก็ป้อนคำใหม่มาให้แล้ว รวมๆแล้ว กินได้เยอะ แต่ไม่อร่อย ไม่ดื่มด่ำกับรสชาติได้เท่าที่ควรจะเป็น
สรุป Zack มีวัตถุดิบดีและอาจจะทำกับข้าวเป็น แต่ Zack ป้อนข้าวไม่เป็นครับ (จบการรีวิว Zack Snyder)
สำหรับตัวหนัง ผมก็ว่ามันไม่ใช่หนังที่ดีจริงๆนั่นแหละ เพราะโดยรวมๆมันไม่สนุกเท่าไหร่ โดยเฉพาะกับคนดูทั่วๆไปที่ไม่ได้เป็นแฟนตัวละครสองตัวนี้ อาจจะเบื่อเลยก็ได้ (ลองจินตนาการว่าถ้ามองมันในฐานะตัวละครธรรมดา ไม่ใช่ตัวละครโปรด ผมคงไม่ชอบหนังเรื่องนี้เหมือนกัน)
แถมฉากบู๊ช่วงท้ายๆยังเลอะเทอะเหมือนกำลังดู Transformers อีกต่างหาก (ให้ตายเถอะ ต้องแวะแขวะ Transformers จนได้)
สำหรับคนที่เป็นแฟนการ์ตูน หนังอาจจะทำได้ดีพอใช้และทำให้รู้สึกอยากดู JLA ได้ แต่ผมว่ามันล้มเหลวในการดึงกลุ่มคนดูทั่วไปที่ไม่ใช่แฟน ให้อยากดูหนังเรื่องต่อๆไปในจักรวาล DCEU
แต่ถ้าถามว่าชอบหนังเรื่องนี้ไหม ผมก็ตอบว่าชอบ
เพราะผมเป็นติ่งแบทแมน นี่คือตัวละครที่ผมรัก
แค่ได้เห็นบรูซเวย์น เห็นแบทแมน ผมก็มีความสุขแล้ว
และเบน แอฟเฟลค ก็เป็นแบทแมนได้ดีมากด้วย
ทำให้รู้สึกอยากดูหนังเดี่ยวแบทแมนมากกว่าจัสติคลีคอีก
ส่วน Lex Luthor ตอนดูตัวอย่างผมคิดว่าตัวเองจะชอบตัวละครตัวนี้นะ
เพราะ Lex ดูเป็นนักธุรกิจฉลาดๆที่เพี้ยนหน่อยๆ แอบบ้านิดๆ
เป็นคนที่เพี้ยนแบบลุ่มลึก บ้าแบบมีกึ๋น เป็นอุปนิสัยที่เกิดขึ้นกับคนฉลาดแบบ Lex
แต่พอมาดูในหนัง ผมรู้สึกว่าตัวละครนี้ราคาเกิน 5 บาทมาหน่อยเดียว
คือยังเป็นนักธุรกิจฉลาดๆที่ติดเพี้ยนอยู่ แต่รู้สึกว่าความเพี้ยนที่แสดงออกมามันเป็นความตั้งใจจะเพี้ยน ทำให้ตัวละครที่น่าจะดูน่ากลัว ดูลุ่มลึก กลายเป็นตัวละครที่การ์ตู๊นการ์ตูนไปแทน แค่คนละแบบกับ Lex เวอร์ชั่นก่อนๆเท่านั้นเอง
แต่ที่ดีงามที่สุดในหนังคือ WW
สวยด้วย - เท่ด้วย - เก่งด้วย
ตอนสู้ก็นิ่งสมเป็นนักรบหญิงมากๆ
เรียกได้ว่าเป็นนิยามของคำว่าผู้หญิงที่สง่างามโดยแท้
ทั้งๆที่ก่อนไปดูผมเฉยๆกับตัวละครนี้นะ แต่พอถึงฉากต่อสู้ของเธอแล้ว ถ้าผมเป็นแบทแมนจะขอแต่งงานตรงนั้นเลย (คือจริงๆก็ดีงามตั้งแต่ใน Trailer แล้วแหละ แต่ผมสาย mass ไม่อ่านการ์ตูนเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยรู้จัก WW)
ถ้าให้คะแนนคงสัก 7/10
แต่ถ้ามันไม่ใช่แบทแมนและซูเปอร์แมน
อาจเหลือแค่ 6 หรืออาจจะ 5