[CR] ขับรถเที่ยวลาว เพลินๆ

กระทู้นี้ขาดตกบกพร่อง หรือทำให้เกิดความสะเทือนใจ ก้าวร้าว ขอความอภัยไว้แต่เนิ่นๆด้วยค่ะ.
เป็นกระทู้รีวิวกระทู้แรกจริงๆ  มีจุดประสงค์เพื่อแบ่งปันเรื่องราวเล็กๆน้อยๆ ล็อคอินของตัวเอง ไม่มียืมเพื่อนมาตั้งกระทู้นะคะ ฮ่าๆ

     เริ่มจาก เก็บของแพ็คสัมภาระหลากหลายต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์camping ขนไปจัดเก็บไว้บนเจ้าม้าศึกที่จะใช้เดินทางครั้งนี้
วางวันคร่าวๆเอาไว้ประมาณ 1 อาทิตย์ ขับเพลินๆชมนกชมไม้ เราออกเดินทางจากบ้านเราเอง คือ นนทบุรี ไปปิดจ๊อบอีกที คือ
ที่จำปาวลาวบังกะโล เมืองวังเวียง ประเทศลาวค่ะ โดยเรื่องระหว่างทางนั้น เราวางกันคร่าวๆ ว่าจะ แวะนอนรอนแรมตามทาง
ข้างหน้าเอา เพื่อพักรถ และพักร่างคนขับด้วย

      แต่การข้ามแดนครั้งนี้ เราเลือกออกทางด่านข้ามแดน "ห้วยโก๋น จังหวัดน่าน" ซึ่งอยู่ทางเหนือของบ้านเรา ด่านนี้
ค่อนข้างละเอียดนิดนึงในเรื่องของการตรวจสัมภาระท้ายรถ ตรวจเอกสาร passportคน passportรถ ด้วยความรู้สึกเราแล้ว
อาจจะเพราะ ด่านนี้คนข้ามน้อยเจ้าหน้าที่เวลาเยอะ เลยตรวจดูเพลินๆไป เราไม่สามารถถ่ายรูปด่านชายแดนห้วยโก๋นมาให้ดูได้นะคะ
เนื่องจากเจ้าหน้าที่เข้มมาก ทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว

      ส่วนใหญ่รถที่ข้ามด่านนี้ จะเป็นรถบรรทุก และรถ4wd นะคะ รถเก๋งไม่มีเลยค่ะ แล้วก็ไม่แนะนำให้ออกด่านนี้ เนื่องจากเส้นทาง
ค่อนข้างลาดชัน อันตรายอยู่พอสมควร แนะนำว่าถ้าเป็นรถเก๋ง ควรออกด่านหนองคาย สะพานมิตรภาพไทย-ลาว จะโล่งใจและ
ค่อนข้างเบิกบานกว่าแน่นอนค่ะ

      เมื่อถึงเวลาออกเดินทาง เราเลือกที่จะเดินทางเวลากลางวัน เพราะห่วงคนขับมากค่ะ ระยะทางค่อนข้างไกล แล้วเผื่อว่า
เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อะไรขึ้น เวลากลางวันแลดูจะง่ายกว่าในการจัดการค่ะ เราออกจากนนทบุรีตอนเช้า ไปค่ำที่น่าน
แวะค้างแรมที่ตัวเมืองน่าน 1 คืน ตื่นเช้าก็ขับรถจากตัวเมืองน่าน มุ่งหน้าไปด่านชายแดนห้วยโก๋น
      แผนการเดินทางเริ่มชัดเจนขึ้น ว่า เมื่อออกจากชายแดนห้วยโก๋น ขับไปเรื่อยๆ ผ่านแขวงไชยบุลี แล้วไปพักแรม
ที่หลวงพระบางซัก 1-2 คืน แล้วค่อยไปพักยาวๆ นั่งกินภูเขาที่จำปาลาว เมืองวังเวียง พอขากลับ ก็กลับทางนครหลวงเวียงจันทน์
ออกด่านหนองคายสะพานมิตรภาพไทย-ลาว วิ่งเส้นมิตรภาพยาวๆ มาจบที่ นนทบุรี

เส้นทางจากแผนที่พอสังเขป



เส้นทางจากน่านเป็นภูเขาชัน ชันแบบดิ่งลง ออกไปทางน่ากลัว แต่ถนนค่อนข้างดีพอรับได้ค่ะ
หลังจากที่เราหลุดจากด่านห้วยโก๋นมาได้ประมาณ 5-10กิโล อยู่บนแผ่นดินลาว ความตื่นเต้นก็เริ่มขึ้น เส้นทางค่อนข้าง
คับแคบบีบหัวใจเล็กน้อยค่ะ ในใจตอนนั้นคือ เวรแล้ว รถจะสวนกันยังไง


สภาพอากาศค่อนข้างร้อนเหมือนกันตอนนั้น ขับไปเรื่อยๆ ภูมิทัศน์น่ารักและธรรมชาติดีค่ะ


หลังจากชื่นชมข้างทางจนฟ้าเริ่มมืด ในที่สุดเราก็ไปไม่ถึงหลวงพระบางใน 1 วัน ตัดสินใจค้างคืนที่หัวเมืองใหญ่ ไชยบุลี
ไชยบุลีสร้างความสะพรึงหลายอย่างมาก โรงแรมสำหรับคืนนี้ มีตัวเลือกที่ไม่มากนัก ทำให้เราพลาดท่าไปนอนโรงแรมจีน ฮ่าๆๆ
แต่บรรยากาศดีในตอนเช้า บวกกับสีหน้าแจ่มใสของผู้คน ทำให้รู้สึกสดชื่นแบบบอกไม่ถูก

หลังจากหาอะไรใส่ท้องกันเรียบร้อยที่ไชยบุลี เราก็เดินทางกันต่อ ข้ามสะพานแม่น้ำโขงไชยบุลี-เมืองนาน หรือ สะพานบ้านท่าเดื่อ
เมื่อหลายปีก่อน เคยมีเรือบัคข้ามฟาก แต่ตอนนี้หมดยุครุ่นเราแล้วค่ะ พอสร้างสะพานเสร็จแล้ว เรือบัคข้ามฟากก็ไม่มีอีกแล้ว


จากนั้นมุ่งหน้าสู่หลวงพระบาง
บรรยากาศสองข้างทาง ก็ชวนเพลินอีกแล้ว มีเนินเขาชัน สลับกับทางราบบ้าง อากาศดีมาก แม้จะเป็นเวลากลางวันที่แดดจัด
อาจจะเพราะด้วยความสูงก็เป็นได้ค่ะ  ฉากชีวิตสองข้างทางยังมีให้เราพบเห็นได้เรื่อยๆไม่มีเบื่อเลย


เรามาถึงหลวงพระบาง เกือบจะเย็นพอดี ก็ตามแต่เรื่องค่ะ พักผ่อน หาที่พัก เดินเล่นเพลินๆไป
พอเช้าเราก็หาอะไรใส่ท้อง แนบชิดริมน้ำซักหน่อย


จากนั้นก็ตรวจเช็ครถ ออกจากหลวงพระบาง เพื่อมุ่งหน้าสู่ วังเวียง


ภาพสองข้างทางพาเราเตลิดอีกครั้ง ภาพภูเขาที่มีรูปร่างแปลกตา จากที่เคยๆเห็น


สังเกตได้ว่า เราอยู่ใกล้ภูเขาแค่นิดเดียวเอง


ช่วงที่เดินทาง ข่าวการยิงกันของทหารลาวหนาหูมากค่ะ อยากจะบอกให้ทราบว่า เค้าก็ยิงกันมาตั้งนานแล้ว
แต่เอาเข้าจริง ตามแหล่วงสถานที่ท่องเที่ยว ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เลยค่ะ ทุกอย่างเป็นปกติราบเรียบ
เจอแต่ ฝูงแพะ ฝูงวัว เป็ด ไก่ แมว ที่เราต้องคอยระวัง ไม่ขับรถชนเท่านั้นแหละค่ะ


พอขับไปได้ซักระยะนึง ก็จะมาถึงจุดพักรถภูหลวง เส้นทางนี้ จากที่พยายามศึกษาข้อมูล เค้าว่าเป็นทางตัดใหม่
อันนี้จุดพักรถนะคะ ไม่ใช่ซาฮาร่า


หลังจากนั้น เราก็ไม่แวะพักอะไรกันอีกเลย ขับรถแบบตั้งใจ และขะมักเขม้นมาก
คนขับนี่ใส่เกียร์แบบรถเมล์สาย8เลยค่ะ ณ เวลานั้น ยอมรับด้วยกันทั้งคู่ว่า เริ่มเกิดความล้า อยากไปให้ถึงที่พัก
จวบจนสมควรแก่เวลา เราถึงที่พักที่วังเวียงเวลา 13.00 น. พอดิบพอดี


ที่พักนี้คือที่ไหน ที่นี่เลย วิวหลักล้าน "จำปาลาวบังกะโล"
เครดิตภาพนี้ จาก https://www.facebook.com/ChampalaoBungalows/?fref=ts



พี่เจ้าของบ้านต้อนรับเราด้วยน้ำดื่มที่เย็นชื่นใจ คอนทราสกับความร้อนตอนบ่ายแก่ๆมากๆ


เราเคยมาที่นี่เมื่อหลายปีก่อน แล้วก็กลับมาที่นี่อีกครั้งในทุกปี ความเปลี่ยนแปลงที่นี่มีมากทีเดียว
ตอนนี้สิ่งที่ ตื่นตาตื่นใจคงหนีไม่พ้น เมนูกาแฟสด ที่แรงทั้งรสชาติและราคา สมคุณภาพที่สุดในเมือง

ความพิถีพิถัน ของบาริสต้าที่เป็นกันเอง ถ่ายทอดผ่านรสชาติมาให้เราได้ชิม บอกตรงๆ ตาค้างค่ะ ฮ่าๆ





กาแฟอันนี้รู้สึกเป็นกาแฟลาวนะคะ ตอนนี้เมนูมีหลากหลายมากเลยค่ะ


ตามไปเก็บทุกกระบวนการ เจ้าของบ้านกันเองมาก


ช็อตนี้น้ำลายหกเลยบอกตรงๆ


อ่าาาฮ์ ... แล้วในที่สุด...
ดื่มด่ำมากค่ะ กาแฟอร่อย วิวดี วันนั้นบอกตรงๆค่ะไม่ได้ลุกไปไหนเลย สวยและอร่อยมากจริงๆ


หลังจากที่หลายคนเริ่มเพลินแล้ว เราก็ขโมยเมนู มาแอบถ่ายเก็บไว้ ให้คอกาแฟสดดู


      จำปาลาวเปลี่ยนไปเยอะมากเหมือนกันค่ะ เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น อินเตอร์เน็ตเร็วและทั่วถึงกว่าเดิม บางคืนมีดนตรีสดจากข้างบ้าน
ให้ฟังฟรีๆด้วยนะคะ แต่ถ้าใครชอบเงียบๆ ช่วงนี้ก็อาจจะดูมีสีสันไปบ้าง เพราะข้างบ้านเป็บบาร์น้อยๆ แต่ดนตรีเล่นไม่ดึกค่ะ
3-4 ทุ่มก็นอนหลับกันแล้ว อันนี้เรียก ดนตรีมีกาลเทศะค่ะ ฮ่าๆๆ

หลังจากนั่งคุย ถามสารทุกข์สุขดิบ คนนั้น คนนี้ ก็ขอหลบไปงีบค่ะ
ที่นี่ยังคงเป็นบ้านไม้เก่าแก่ บรรยากาศอบอุ่นเหมือนเดิม ส่วนใครชอบโซนบังกะโลที่นี่เค้าก็มีไว้บริการนะคะ
สำหรับคนขี้หนาว ไม่อาบน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่นก็มีไว้บริการเหมือนกัน แลดูเข้าอกเข้าใจ ฮ่าๆ


จะบอกว่าห้องน้ำที่นี่สะอาดมาก บางคนไปดื่มเหล้า ทานข้าวที่อื่น ยังแวะกลับมาใช้บริการที่นี่เลยค่ะ ฮ่าๆๆ


พอตกค่ำก็ไม่ต้องพูดถึง หลับสบาย สายลึก ด้วยกันทั้งคู่
ตื่นเช้ามาพร้อมกับ... กาแฟสดที่หอมเตะจมูก มาพร้อมกับข้าวไข่เจียว น้ำพริกกะปิของเจ้าของบ้านค่ะ ฮ่าๆ
ที่นี่มีอาหารไทย บริการนักท่องเที่ยวคนไทยนะคะ จะบอกว่ารสชาติถึงเครื่องค่ะจริงๆ



มุมนี้เด็ดค่ะ สดชื่นมาก แมกไม้เยอะมาก เข้าไปนั่งแทบจะสังเคราะห์แสง ออกมาเป็นคลอโรฟิลได้เลยค่ะ
ซึมซับความชื้นได้จากมุมนี้เลย


ที่นี่มีวิวสวยทุกมุมค่ะ ราคาไม่แพง วิวคุ้มค่ามาก


นั่งมองภูเขาเพลินๆ อดใจหายไม่ได้เลย
ทุกครั้งที่คิดจะกลับบ้าน เรานึกตลอดว่าที่นี่เหมือนบ้านอีก 1หลัง เราคิดว่าภูเขาที่นี่จำหน้าเราได้แม่นแล้วแน่ๆ


หลังจากใช้เวลาความสุขไปกับที่นี่ เราเดินทางกลับด้วยความรู้สึก เสียดาย ปนๆกับอิ่มเอม
แล้วเราจะกลับไปที่นี่อีกแน่นอน.

ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ

ฝากเรื่องหลักๆ ของการขับรถข้ามแดนค่ะ
1.ใบขับขี่ของเราที่ใช้ปัจจุบัน ถือเป็นใบขับขี่สากลใช้ได้ในประเทศอาเซี่ยน
2.ขอ passportรถ ได้ที่ขนส่ง พร้อมกับนำเล่มตัวจริงติดตัวไปด้วยเสมอตลอดการเดินทาง
3.เมื่ออยู่หน้าด่าน เอกสารข้ามแดน ตรวจดูลายเซ็นต์ของเจ้าหน้าที่ให้ครบถ้วน สังเกตุให้ดีว่าจะมีเอกสาร
เป็นใบสีเขียว ใบนั้นต้องมีลายเซ็นต์เจ้าหน้าที่ที่ครบถ้วน ระบุหมายเลขทะเบียน รุ่น ยี่ห้อรถ ชัดเจน
ใบนี้นั้น เมื่อถึงเวลาขาออกจากฝั่งลาว ต้องคืนเจ้าหน้าที่โดยตรวจสอบลายเซ็นต์เจ้าหน้าที่ลาวให้ครบถ้วนอีกที
เพราะถ้าเราลืมคืนใบเขียวนี้ เมื่อเรากลับมาเที่ยวลาวโดยใช้รถยนต์คันเดิมนี้ เค้าจะคิดภาษีย้อนหลังเป็นวัน เพราะเนื่องจาก
ถือว่า เรายังอยู่ในเขตแดนประเทศลาว ยังไม่ได้เอารถออก โดนภาษีย้อนหลัง อานแน่ๆค่ะ แล้วเจ้าหน้าที่ลาวชอบตุกติก
ลืมทวงใบสีเขียวก็มี ตรวจดูให้เรียบร้อยนะคะ
4.เมื่อข้ามแดนแล้ว ซื้อประกันภัยของลาวไว้ด้วยเสมอ
5.มีสติ พร้อมสตางค์เผื่อเหลือเพื่อขาดไว้ด้วย

ส่วนทริปนี้ค่าเชื้อเพลิง ไป-กลับ ใช้ไป 4,000 บาท ค่ะ
ค่าอาหารการกิน เอาไปตามสมควรเลยค่ะ ค่าครองชีพเค้าไม่ต่างจากบ้านเรามากเลย พอๆกัน
ค่าที่พัก พักทั้งหมด 5 ที่
1. โรงแรมสุขเกษม ที่น่าน 1คืน   650 บาท
2. โรงแรมจีน เมืองไชยบุลี 1 คืน  500 บาท
3. อรุณสวัสดิ์ เกสต์เฮาส์ หลวงพระบาง 1 คืน  1600 บาท
4. จำปาลาวบังกะโล 4 คืน 1300 บาท
5. B2 อุดรธานี บูทิค แอนด์ บัดเจ็ต โฮเต็ล 1 คืน  500 บาท
รวมทั้งหมด 8 คืน 4,550 บาท ค่ะ

ส่วนที่พัก ฝากด้วยค่ะ จำปาลาวบังกะโล ว่างๆ แวะไปเยี่ยมเจ้าของบ้านได้นะคะ
เราประทับใจที่นี่ จนอยากจะบอกต่อจริงๆค่ะ
https://www.facebook.com/ChampalaoBungalows/?fref=ts

การขับรถไปลาว เริ่มมีคนไทยนิยมขับกันไปมากขึ้น
ใครที่ไปมาแล้วรบกวนมาแชร์ประสบการณ์เพิ่มเติมด้วยกันได้นะคะ
เพื่ออย่างน้อยรีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ กับผู้ที่สนใจ และกำลังจะขับรถไปเที่ยวลาวค่ะ

ขอบคุณค่ะ
ชื่อสินค้า:   on the road.
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่