เอาของเก่าที่เคยโพสไว้ มารีโพสให้อ่านกันอีกรอบครับ
ก่อนจะแข่งในเวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
เอาล่ะครับ มาเริ่มที่ตัวผู้เล่น ในระบบ 4-3-3 ที่พิโก้ถือว่าระบบหลักที่ใช้ในทีมชาติ
โดย พื้นเพของพี่โก้ มักจะยึดติด รูปแบบการเล่นที่ทีมถนัด พูดง่ายๆคือ ไม่ค่อยเปลี่ยน Formation
ถ้าย้อนกลับไปสมัยผูเล่น เคยเกิดปัญหา เถียงกับโค๊ช ในเรื่องรูปแบบการเล่น ที่โค๊ช คาลอส
เปลี่ยนรูปแบบการเล่นที่ ทีมชาติไทยในยุคดรีมทีมถนัดมาช้านาน อย่าง 3-5-2 มาเป็น 4-4-2
โดยเกิดเป็นประเด็นที่ว่า เพราะแผนการเล่น รึเปล่า ที่ทำให้ทีมชาติไทยแพ้ ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2002
รอบคัดเลือกโซนเอเชีย ในรอบ 12 ทีมสุดท้าย
ดังนั้นตัวผู้เล่นและแผนการเล่นน่าจะเป็น
-------------------------------------กวิน (GK)-------------------------------------
โด (RFB)-------------ธนบูรณ์(RCB)----------กรวิท(LDF)------------ธีราธร(LFB)(C)
-----------------------ปกเกล้า(BBM)---------สารัช(DLM)-----------------------
------------------------------------ชนาธิป(AMF)----------------------------------
มงคล(RWG)-----------------------------------------------------เกริกฤทธิ์(LWG)
------------------------------------ ธีรศิล(Teq) ------------------------------------
กวิน (GK) - โกลมือ 1 ทีมชาติไทย น่าจะเป็นกวิน อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นผลงานในสโมสร หรือ ทีมชาติที่ผ่านมา ถือว่าเขาเป็น มือ 1 ของทีมชาติไทยอย่างเต็มตัว
โด (RFB) - ทริสตอง สมชาย โด ก้าวเข้ามาติดทีมชาติ และยึดตำแหน่งตัวจริงได้อย่างเหนียวแน่น โดยเบียดแย่งไปจาก ต้น นฤบดิน ที่พักหลังฟอม ดูจะ ดรอปลงไป โดยในทีมชาติจะทำหน้าทีเป็น Right Full-Back ซึ่งมี Duty ชัดเจนคือ Attack ประสานงานร่วมกับ มงคล ทศไกร ถือว่าเข้าขากันเป็นอย่างดี โดยเรามักจะเห็นการ Overlap จากโดอยู่บ่อยครั้ง ทั้งนี้ทั้งนั้นที่ผ่านมา โดมีทั้งพละกำลัง ความขยัน และทัศนคติแบบ นักฟุตบอลที่ดี ควรจะมี ข้อเสียเดียวในเกมส์รับคือ การหลุดตำแหน่ง
ธีราธร(LFB)(C) - อุ้ม กัปตันทีมชาติไทย แบ๊คซ๊ายพรสวรรค์ ผู้ได้รับการชื่นชมจากโค๊ชซิโก้ ว่าเก่งและคงเส้นคงวาที่สุดในทีมชาติ ขณะนี่ โดยซิโก้เคยถึงขั้นพูดว่า อุ้ม จะไปได้ไกลกว่า อดีต ดาวเตะรองเท้าทองคำเอเชีย อดีตเพื่อนร่วมทีมชาติของซิโก้ อย่าง ดุสิต เฉลิมแสน กันเลยทีเดียว โดยอุ้ม จะคอยมี Duty ในเชิง Support คือจะเป็นคนคุมจังหวะ มักจะเป็นคนโยนตัดหลังหรือจ่ายทะลุกองหลังฝั่งตรงข้ามเสมอ และไม่เติมสูงมากเกินไป ซึ่งจะเป็นการเล่นคนละแบบกับ โด
ธนบูรณ์(RCB) - โค๊ชซิโก้น่าจะยังไว้ใจ 'เจ้าตั้ม' ในตำแหน่ง Center Back ทีมชาติ ไปจนกว่าจะมีโอกาศได้ลองกองหลังคนอื่นๆ 'เจ้าตั้ม' ถูกจับมาเล่นกองหลัง เพราะ ความสามารถในการ อ่านเกมส์ และตัดบอลได้ดี เขาน่าจะได้ Duty ในเชิง Cover โดยคอยดักตัดบอล เพื่อไม่ให้เข้าสูเขตโทษ ทั้งนี้เพราะว่าเล่นตำแหน่ง DMF มาตลอดในสโมสร ดังนั้น เขาน่าจะสามารถใช้ความนิ่งในการจ่ายบอลกลับไปให้ MF ตัวทำเกมส์ได้ (แต่ไม่ค่อยได้เห็น ส่วนมากจะเครียทิ้ง)
กรวิท(LDF) - กรวิทย์ ถือว่าเป็นกองหลังที่ไว้ใจได้ที่สุดในทีมชาติ ตอนนี้ ในความสามารถ ทั้งความแข็งแกร่ง และในการเข้าสกัดจังหวะสำคัญๆ และเครียบอลจังหวะสุดท้ายได้ดี เป็นได้ทั้งตัวชนและซ้อน Role ของเขาจึงเป็น Limited Defender คือตัวทีเด็ดทีขาดในเกมส์รับ โดยมีDuty คือ Stopper คือ เครียให้ขาด นั่นเอง
ปกเกล้า (BBM) - มดงานกองกลางของทีมชาติ ในตำแหน่ง Box to Box Midfielder ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าฟอมของปกเกล้าในทีมชาติ ช่วงหลังๆมานี่ ดูดีทีเดียว สังเกตุได้จาก การมีส่วนร่วมในทั้งเกมส์รุกและรับ ในจังหวะสำคัญๆต่างๆ จะมี ปกเกล้า คอยเป็นคนสอดประสานให้เกิด เป็นคนหนึ่งที่เล่นและวิ่งในยามไม่มีบอลได้อันตราย อย่างมาก ข้อเสียเดีวของเขาคือ บางเกมส์ ชอบถูกตัดขาดออกไปจากเกมส์ จนโดนแฟนบอลกร่นด่า แต่ด่าได้ไม่ทันไร........... ดันเป็นคนยิงประตูซะงั้น เลยไม่รุ ว่าจะด่าอะไรดี (ฉายาเทพ วินวอค1)
สารัช(DLM) - สารัชเชือกวิเศษ มักถูกใช้เป็นกลางรับ(MDF) แต่จริงๆ ตำแหน่งของเขาที่ถูกใช้งานในทีมชาติ ดูเหมือนจะเป็น Deep-line Playmaker มากกว่า คือ มีหน้าที่ ช่วยเกมส์รับและ ควบคุมช่องว่างระหว่างกองหลังและกองกลางและเป็นคนเปิดเกมบุกด้วยการจ่ายบอลที่แม่นยำไปให้กับผู้เล่นที่อยู่ในแดนหน้า โดย Duty จะเป็น Defend ซึ่งจะเน้นเกมรับมากขึ้นโดยการยืนอยู่หน้ากองหลัง โดยจะไม่ค่อยเติมเกมรุกมากนัก จะอาศัยการจ่ายบอลไปยังตัวสร้างสรรค์เกมส์ หรือวางบอลยาวเพื่อเปลี่ยนจาก รับเป็นรุก แทน
ชนาธิป(AMF) - เจ้า เจ หรือ เมสซี่ เจ เจ้าของ MVP ในรายการ AFF suzuki cup 2014 ถูกคาดหวังว่าจะมาเป็น กองกลางตัวรุก ในตำแหน่ง AMF แม้ผลงานที่ผ่านมาในทีมชาติชุดใหญ่ จากการเล่นบอลโลก โดยรวมยังไม่ค่อยดี แต่ก็น่าจะดีพอในการยืนเป็นตัวจริง โดยซิโก้น่าจะต้องการลูกความสามารถเฉพาะตัวของ เจ้าเจ ในการทะลุทะลวงกองหลัง โดยการเล่น จะเป็นแบบ duty Support คือมีการคอยช่วยเกมรับและจะคอยหาที่ว่างในสนามมากว่าที่จะเข้าไปในกรอบเขตโทษ เจ้าเจยังมี ทีเด็ดในการวางเท้ายิงใกลอีกด้วย
มงคล(RWG) - มงคล ทำหน้าทีได้ดีเยี่ยมในตำแหน่ง Winger ด้านกราบขวา ทั้งในการสอดประสานกับ สมชาย โด ในการเล่นเกมส์รุก และการลงมาซ้อนตำแหน่งแทน เมื่อโด หลุดออกจากตำแหน่ง จุดแข็งของเขาคือ ความขยันวิ่งเหมือนม้า ไม่มีหมด และความเร็วที่จะคอยปั่นหัวกองหลัง โดย Duty น่าจะเป็น support ซึ่งหลักๆ คือการสอดประสานกับ โด และ กลายเป็น Inside Forward ในยามที่ทีมต้องการประตูได้อีกด้วย
เกริกฤทธิ์(LWG) - ขาประจำทีมชาติ อีกคนที่ทำงานร่วมกับ กัปตัน อุ้มได้ดี ทางด้านกราบซ้าย แม้จะไม่วูปวาบในเกมส์รุกเหมือนคู่ของ มงคล-โด แต่ถือว่าเกริกฤทธิ์-ธีราธร สามารถช่วยกันในเกมส์รับทางด้านซ้ายของทีมชาติไทย ค่อนข้างดี ในเกมส์ที่อึดอันเขาจะถูดลดตำแหน่งการยืนลงมากลายเป็น Defensive Winger ซึ่งจะอยู่บริเวณริมเส้นเมื่อเพื่อนร่วมทีมบุก พร้อมที่จะรับบอลในที่ว่างและเปิดบอลเข้าไปในพื้นที่ อันตราย
ธีรศิล(Teq) - สมัยก่อนในทีมชาติ หรือ สโมสร เราจะเห็นเทพมุ้ย ในตำแหน่ง Complete Forward คือ มีอิสระในการเล่นสูงมาก สามารถลงมาล้วงบอล แล้วชงเองกินเอง ได้หมดแบบครบเครื่อง แต่ตอนนี้ จะเห็นเทพมุ้ยในลักษณะเป็น Trequartista คือทำหน้าที่ได้ทั้งเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกหรืออาจเป็นกองหน้าก็ได้ลักษณะ การเล่นจะคล้ายๆ Advanced Playmaker โดยเขาจะยืนในช่องว่างระหว่างกองกลางและกองหลังของฝั่งตรงข้ามโดยจะพยายามขึ้นหน้าและหาที่ว่างในขณะที่ทีมเป็นฝั่งที่ครองบอล ทำได้ทั้งการทำประตูและการสร้างสรรค์โอกาสหน้าที่รองของเขาคือการตามเก็บบอลที่จ่ายผิดพลาดหรือการเคลียร์บอลจากในแนวลึกและแย่งการครอบครองบอลมา แล้วส่งบอลต่อไปยังเพื่อนร่วมทีม
เกมส์รุก
1. ทีมชาติไทยในยุคซิโก้กับระบบ 4-3-3 มักจะได้ประตูจากการ สวนกลับไว ทั้งทางด้าน กราบซ้ายและขวา ดังนั้น อุ้ม-โด จะมีส่วนร่วมในเกมส์บุก ค่อนข้างมาก โดยจะมีกลางเชื่อมเกมส์ คือ ปกเกล้า ที่มักมีส่วนร่วมอยู่เสมอๆ
2. มุ้ยมักจะสามารถดึงตัวประกบ ให้กองหลังออกจากตำแหน่งเพื่อเกิดช่องว่างในการโจมตีได้ ซึ่งเป็นที่มาของหลายประตูของทีมชาติไทย
3. ประตูในช่วงท้ายเกมส์ การใช้ความฟิต และการเปลี่ยนจังหวะความเร็ว (Tempo) ช่วงท้ายเกมส์ หลังจากคู่แข่งเริ่มล้า โดยใช้ ธนา และ ศราวุธ ยังคงเป็นแทคติกชินตา ถ้าคู่แข่งจับทางได้ ตรงนี้ก็จะหมดพิษสง
4. ทีมชาติไทย ไม่ได้มีการใช้ Tik-Tok หรือ Tiki-Taka ตั้งแต่ต้นเกมส์ แต่จะมีการเร่งจังหวะ วันทัช-ทูทัช เพื่อเข้าทำ ช่วงท้ายเกมส์ ซึ่งจะได้ผลดี เมื่อฝ่ายตั้งรับตามการเดินทางของบอลไม่ทัน
เกมส์รับ
1. เกมส์รับ ทีมชาติไทยยังทำได้ไม่ค่อยดีนัก ในการใช้กองหลัง 4 ตัว เพราะขาดตัวชะลอ(Delay)เกมส์กลางสนาม ซึ่งเป็นสาเหตให้เกิดการเสียประตูอยู่บ่อยครั้ง
2. คู่กองหลังตรงกลางที่มี ธนบูรณ์ เป็นตัวหลัก แม้จะทำได้ดี แต่ก็ไม่ใช่ตำแหน่งประจำในสโมสร ทั้งนี้ในเจ้าตั้มยังขาดด้านความแข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นปัญหาในการเข้าเบียดบังและสกัด กับกองหน้าตัวใหญ่
3. สมชาย โด มักหลุดตำแหน่ง แม้จะชดเชยมาด้วย การขยัน และการลงมาซ้อนของมงคล แต่จุดนี้ ก็อันตรายอย่างมาก ในการทำให้เกิดการเสียประตูได้
4. ไม่มีกลางรับ ธรรมชาติ กองใช้กองหลัง 4 คนมีความจำเป็นอย่างมาก ในการมีกลางรับแบบ Hard man เพื่อต่อกร กับกองหน้า แบบ 2 ตัว ซึ่งทีมชาติไทยไม่มี
จบไปแล้วกับการวิเคราะห์การจัดตัว แบบมั่วๆ ใครจะบอกว่า ยาวไปไม่อ่าน หรือ เบื่อที่จะอ่าน ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
ปล. ใครจะเสริมประเด็นอื่นๆ สามารถแนะนำติชมได้เลยนะครับ
[วิเคราะห์จัดตัว] ทีมชาติไทย 《《 Repost
ก่อนจะแข่งในเวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
เอาล่ะครับ มาเริ่มที่ตัวผู้เล่น ในระบบ 4-3-3 ที่พิโก้ถือว่าระบบหลักที่ใช้ในทีมชาติ
โดย พื้นเพของพี่โก้ มักจะยึดติด รูปแบบการเล่นที่ทีมถนัด พูดง่ายๆคือ ไม่ค่อยเปลี่ยน Formation
ถ้าย้อนกลับไปสมัยผูเล่น เคยเกิดปัญหา เถียงกับโค๊ช ในเรื่องรูปแบบการเล่น ที่โค๊ช คาลอส
เปลี่ยนรูปแบบการเล่นที่ ทีมชาติไทยในยุคดรีมทีมถนัดมาช้านาน อย่าง 3-5-2 มาเป็น 4-4-2
โดยเกิดเป็นประเด็นที่ว่า เพราะแผนการเล่น รึเปล่า ที่ทำให้ทีมชาติไทยแพ้ ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2002
รอบคัดเลือกโซนเอเชีย ในรอบ 12 ทีมสุดท้าย
ดังนั้นตัวผู้เล่นและแผนการเล่นน่าจะเป็น
-------------------------------------กวิน (GK)-------------------------------------
โด (RFB)-------------ธนบูรณ์(RCB)----------กรวิท(LDF)------------ธีราธร(LFB)(C)
-----------------------ปกเกล้า(BBM)---------สารัช(DLM)-----------------------
------------------------------------ชนาธิป(AMF)----------------------------------
มงคล(RWG)-----------------------------------------------------เกริกฤทธิ์(LWG)
------------------------------------ ธีรศิล(Teq) ------------------------------------
กวิน (GK) - โกลมือ 1 ทีมชาติไทย น่าจะเป็นกวิน อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นผลงานในสโมสร หรือ ทีมชาติที่ผ่านมา ถือว่าเขาเป็น มือ 1 ของทีมชาติไทยอย่างเต็มตัว
โด (RFB) - ทริสตอง สมชาย โด ก้าวเข้ามาติดทีมชาติ และยึดตำแหน่งตัวจริงได้อย่างเหนียวแน่น โดยเบียดแย่งไปจาก ต้น นฤบดิน ที่พักหลังฟอม ดูจะ ดรอปลงไป โดยในทีมชาติจะทำหน้าทีเป็น Right Full-Back ซึ่งมี Duty ชัดเจนคือ Attack ประสานงานร่วมกับ มงคล ทศไกร ถือว่าเข้าขากันเป็นอย่างดี โดยเรามักจะเห็นการ Overlap จากโดอยู่บ่อยครั้ง ทั้งนี้ทั้งนั้นที่ผ่านมา โดมีทั้งพละกำลัง ความขยัน และทัศนคติแบบ นักฟุตบอลที่ดี ควรจะมี ข้อเสียเดียวในเกมส์รับคือ การหลุดตำแหน่ง
ธีราธร(LFB)(C) - อุ้ม กัปตันทีมชาติไทย แบ๊คซ๊ายพรสวรรค์ ผู้ได้รับการชื่นชมจากโค๊ชซิโก้ ว่าเก่งและคงเส้นคงวาที่สุดในทีมชาติ ขณะนี่ โดยซิโก้เคยถึงขั้นพูดว่า อุ้ม จะไปได้ไกลกว่า อดีต ดาวเตะรองเท้าทองคำเอเชีย อดีตเพื่อนร่วมทีมชาติของซิโก้ อย่าง ดุสิต เฉลิมแสน กันเลยทีเดียว โดยอุ้ม จะคอยมี Duty ในเชิง Support คือจะเป็นคนคุมจังหวะ มักจะเป็นคนโยนตัดหลังหรือจ่ายทะลุกองหลังฝั่งตรงข้ามเสมอ และไม่เติมสูงมากเกินไป ซึ่งจะเป็นการเล่นคนละแบบกับ โด
ธนบูรณ์(RCB) - โค๊ชซิโก้น่าจะยังไว้ใจ 'เจ้าตั้ม' ในตำแหน่ง Center Back ทีมชาติ ไปจนกว่าจะมีโอกาศได้ลองกองหลังคนอื่นๆ 'เจ้าตั้ม' ถูกจับมาเล่นกองหลัง เพราะ ความสามารถในการ อ่านเกมส์ และตัดบอลได้ดี เขาน่าจะได้ Duty ในเชิง Cover โดยคอยดักตัดบอล เพื่อไม่ให้เข้าสูเขตโทษ ทั้งนี้เพราะว่าเล่นตำแหน่ง DMF มาตลอดในสโมสร ดังนั้น เขาน่าจะสามารถใช้ความนิ่งในการจ่ายบอลกลับไปให้ MF ตัวทำเกมส์ได้ (แต่ไม่ค่อยได้เห็น ส่วนมากจะเครียทิ้ง)
กรวิท(LDF) - กรวิทย์ ถือว่าเป็นกองหลังที่ไว้ใจได้ที่สุดในทีมชาติ ตอนนี้ ในความสามารถ ทั้งความแข็งแกร่ง และในการเข้าสกัดจังหวะสำคัญๆ และเครียบอลจังหวะสุดท้ายได้ดี เป็นได้ทั้งตัวชนและซ้อน Role ของเขาจึงเป็น Limited Defender คือตัวทีเด็ดทีขาดในเกมส์รับ โดยมีDuty คือ Stopper คือ เครียให้ขาด นั่นเอง
ปกเกล้า (BBM) - มดงานกองกลางของทีมชาติ ในตำแหน่ง Box to Box Midfielder ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าฟอมของปกเกล้าในทีมชาติ ช่วงหลังๆมานี่ ดูดีทีเดียว สังเกตุได้จาก การมีส่วนร่วมในทั้งเกมส์รุกและรับ ในจังหวะสำคัญๆต่างๆ จะมี ปกเกล้า คอยเป็นคนสอดประสานให้เกิด เป็นคนหนึ่งที่เล่นและวิ่งในยามไม่มีบอลได้อันตราย อย่างมาก ข้อเสียเดีวของเขาคือ บางเกมส์ ชอบถูกตัดขาดออกไปจากเกมส์ จนโดนแฟนบอลกร่นด่า แต่ด่าได้ไม่ทันไร........... ดันเป็นคนยิงประตูซะงั้น เลยไม่รุ ว่าจะด่าอะไรดี (ฉายาเทพ วินวอค1)
สารัช(DLM) - สารัชเชือกวิเศษ มักถูกใช้เป็นกลางรับ(MDF) แต่จริงๆ ตำแหน่งของเขาที่ถูกใช้งานในทีมชาติ ดูเหมือนจะเป็น Deep-line Playmaker มากกว่า คือ มีหน้าที่ ช่วยเกมส์รับและ ควบคุมช่องว่างระหว่างกองหลังและกองกลางและเป็นคนเปิดเกมบุกด้วยการจ่ายบอลที่แม่นยำไปให้กับผู้เล่นที่อยู่ในแดนหน้า โดย Duty จะเป็น Defend ซึ่งจะเน้นเกมรับมากขึ้นโดยการยืนอยู่หน้ากองหลัง โดยจะไม่ค่อยเติมเกมรุกมากนัก จะอาศัยการจ่ายบอลไปยังตัวสร้างสรรค์เกมส์ หรือวางบอลยาวเพื่อเปลี่ยนจาก รับเป็นรุก แทน
ชนาธิป(AMF) - เจ้า เจ หรือ เมสซี่ เจ เจ้าของ MVP ในรายการ AFF suzuki cup 2014 ถูกคาดหวังว่าจะมาเป็น กองกลางตัวรุก ในตำแหน่ง AMF แม้ผลงานที่ผ่านมาในทีมชาติชุดใหญ่ จากการเล่นบอลโลก โดยรวมยังไม่ค่อยดี แต่ก็น่าจะดีพอในการยืนเป็นตัวจริง โดยซิโก้น่าจะต้องการลูกความสามารถเฉพาะตัวของ เจ้าเจ ในการทะลุทะลวงกองหลัง โดยการเล่น จะเป็นแบบ duty Support คือมีการคอยช่วยเกมรับและจะคอยหาที่ว่างในสนามมากว่าที่จะเข้าไปในกรอบเขตโทษ เจ้าเจยังมี ทีเด็ดในการวางเท้ายิงใกลอีกด้วย
มงคล(RWG) - มงคล ทำหน้าทีได้ดีเยี่ยมในตำแหน่ง Winger ด้านกราบขวา ทั้งในการสอดประสานกับ สมชาย โด ในการเล่นเกมส์รุก และการลงมาซ้อนตำแหน่งแทน เมื่อโด หลุดออกจากตำแหน่ง จุดแข็งของเขาคือ ความขยันวิ่งเหมือนม้า ไม่มีหมด และความเร็วที่จะคอยปั่นหัวกองหลัง โดย Duty น่าจะเป็น support ซึ่งหลักๆ คือการสอดประสานกับ โด และ กลายเป็น Inside Forward ในยามที่ทีมต้องการประตูได้อีกด้วย
เกริกฤทธิ์(LWG) - ขาประจำทีมชาติ อีกคนที่ทำงานร่วมกับ กัปตัน อุ้มได้ดี ทางด้านกราบซ้าย แม้จะไม่วูปวาบในเกมส์รุกเหมือนคู่ของ มงคล-โด แต่ถือว่าเกริกฤทธิ์-ธีราธร สามารถช่วยกันในเกมส์รับทางด้านซ้ายของทีมชาติไทย ค่อนข้างดี ในเกมส์ที่อึดอันเขาจะถูดลดตำแหน่งการยืนลงมากลายเป็น Defensive Winger ซึ่งจะอยู่บริเวณริมเส้นเมื่อเพื่อนร่วมทีมบุก พร้อมที่จะรับบอลในที่ว่างและเปิดบอลเข้าไปในพื้นที่ อันตราย
ธีรศิล(Teq) - สมัยก่อนในทีมชาติ หรือ สโมสร เราจะเห็นเทพมุ้ย ในตำแหน่ง Complete Forward คือ มีอิสระในการเล่นสูงมาก สามารถลงมาล้วงบอล แล้วชงเองกินเอง ได้หมดแบบครบเครื่อง แต่ตอนนี้ จะเห็นเทพมุ้ยในลักษณะเป็น Trequartista คือทำหน้าที่ได้ทั้งเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกหรืออาจเป็นกองหน้าก็ได้ลักษณะ การเล่นจะคล้ายๆ Advanced Playmaker โดยเขาจะยืนในช่องว่างระหว่างกองกลางและกองหลังของฝั่งตรงข้ามโดยจะพยายามขึ้นหน้าและหาที่ว่างในขณะที่ทีมเป็นฝั่งที่ครองบอล ทำได้ทั้งการทำประตูและการสร้างสรรค์โอกาสหน้าที่รองของเขาคือการตามเก็บบอลที่จ่ายผิดพลาดหรือการเคลียร์บอลจากในแนวลึกและแย่งการครอบครองบอลมา แล้วส่งบอลต่อไปยังเพื่อนร่วมทีม
เกมส์รุก
1. ทีมชาติไทยในยุคซิโก้กับระบบ 4-3-3 มักจะได้ประตูจากการ สวนกลับไว ทั้งทางด้าน กราบซ้ายและขวา ดังนั้น อุ้ม-โด จะมีส่วนร่วมในเกมส์บุก ค่อนข้างมาก โดยจะมีกลางเชื่อมเกมส์ คือ ปกเกล้า ที่มักมีส่วนร่วมอยู่เสมอๆ
2. มุ้ยมักจะสามารถดึงตัวประกบ ให้กองหลังออกจากตำแหน่งเพื่อเกิดช่องว่างในการโจมตีได้ ซึ่งเป็นที่มาของหลายประตูของทีมชาติไทย
3. ประตูในช่วงท้ายเกมส์ การใช้ความฟิต และการเปลี่ยนจังหวะความเร็ว (Tempo) ช่วงท้ายเกมส์ หลังจากคู่แข่งเริ่มล้า โดยใช้ ธนา และ ศราวุธ ยังคงเป็นแทคติกชินตา ถ้าคู่แข่งจับทางได้ ตรงนี้ก็จะหมดพิษสง
4. ทีมชาติไทย ไม่ได้มีการใช้ Tik-Tok หรือ Tiki-Taka ตั้งแต่ต้นเกมส์ แต่จะมีการเร่งจังหวะ วันทัช-ทูทัช เพื่อเข้าทำ ช่วงท้ายเกมส์ ซึ่งจะได้ผลดี เมื่อฝ่ายตั้งรับตามการเดินทางของบอลไม่ทัน
เกมส์รับ
1. เกมส์รับ ทีมชาติไทยยังทำได้ไม่ค่อยดีนัก ในการใช้กองหลัง 4 ตัว เพราะขาดตัวชะลอ(Delay)เกมส์กลางสนาม ซึ่งเป็นสาเหตให้เกิดการเสียประตูอยู่บ่อยครั้ง
2. คู่กองหลังตรงกลางที่มี ธนบูรณ์ เป็นตัวหลัก แม้จะทำได้ดี แต่ก็ไม่ใช่ตำแหน่งประจำในสโมสร ทั้งนี้ในเจ้าตั้มยังขาดด้านความแข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นปัญหาในการเข้าเบียดบังและสกัด กับกองหน้าตัวใหญ่
3. สมชาย โด มักหลุดตำแหน่ง แม้จะชดเชยมาด้วย การขยัน และการลงมาซ้อนของมงคล แต่จุดนี้ ก็อันตรายอย่างมาก ในการทำให้เกิดการเสียประตูได้
4. ไม่มีกลางรับ ธรรมชาติ กองใช้กองหลัง 4 คนมีความจำเป็นอย่างมาก ในการมีกลางรับแบบ Hard man เพื่อต่อกร กับกองหน้า แบบ 2 ตัว ซึ่งทีมชาติไทยไม่มี
จบไปแล้วกับการวิเคราะห์การจัดตัว แบบมั่วๆ ใครจะบอกว่า ยาวไปไม่อ่าน หรือ เบื่อที่จะอ่าน ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
ปล. ใครจะเสริมประเด็นอื่นๆ สามารถแนะนำติชมได้เลยนะครับ