ประมูลคลื่น 900 ใหม่ มิ.ย. สกัดเบี้ยว-เพิ่มเงินประกัน

กระทู้ข่าว

ประมูลคลื่น 900 ใหม่ มิ.ย.สกัดเบี้ยว-เพิ่มเงินประกัน
คม ชัด ลึก (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2559

          บอร์ด กทค.มีมติเร่งเปิดประมูลคลื่น 900 รอบใหม่ ลุ้นไม่เกินปลาย มิ.ย.นี้ ปรับเงื่อนไขใหม่ เพิ่มวงเงินหลักประกันสูงขึ้นจากเดิม 10-30% เริ่มต้นที่ 7.5 หมื่นล้าน ย้ำไม่ตัดสิทธิ์ทรูมูฟเข้าร่วม

          เมื่อวันที่ 23 มีนาคม นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) กรณีบริษัทแจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ไม่มาชำระเงินค่าประมูล 4 จี บนคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ตามเวลาที่กำหนด ภายใน 90 วัน หลังจากเป็นผู้ชนะการประมูลเมื่อปลายปีที่ผ่านมาว่า ที่ประชุม กทค.มีมติให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อดูว่า กสทช.สามารถเรียกร้องค่าเสียหายอะไรเพิ่มเติมได้บ้าง และจะให้แจส โมบายรับผิดชอบอย่างไรบ้าง โดยคณะทำงานชุดดังกล่าวมีจำนวน 9 คน มีตัวแทนจากสำนักอัยการสูงสุด สำนักงานกฤษฎีกา กรมบัญชีกลาง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์  ร่วมด้วย เพื่อให้มีความรอบคอบก่อนทำหนังสือรายงานต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพิจารณาในสัปดาห์หน้า

          ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถสรุปความเสียหายได้ภายใน 30 วัน ขณะเดียวกัน กสทช.จะตรวจสอบคุณสมบัติของบริษัทในเครือแจสทั้งหมด ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ว่ามีคุณสมบัติหรือไม่ ส่วนการใช้อำนาจตามมาตรา 44 โดยให้ผู้ประมูลที่เสนอราคาเป็นอันดับ 2 มาบริหารคลื่นแทนหรือไม่นั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นผู้พิจารณา

          อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ กสทช.สามารถทำได้ตอนนี้คือการเร่งเปิดประมูลคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ ครั้งใหม่ให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ประชาชนและประเทศชาติเสียประโยชน์ โดยได้ปรับปรุงเงื่อนไขการประมูลในส่วนของวงเงินหลักประกันการเข้าร่วมประมูลจะต้องเพิ่มเติมจากเดิมที่กำหนดไว้ร้อยละ 5 ของราคาประมูลเริ่มต้น ซึ่งการประมูลครั้งก่อนคิดเป็นเงิน 644 ล้านบาท ก็อาจเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10-30 ของราคาประมูลเริ่มต้นใหม่ พร้อมทั้งปรับราคาเริ่มต้นประมูล  กทค.คาดว่าจะใช้ราคาสุดท้ายที่แจส โมบายเป็นผู้ชนะประมูลที่ราคา 75,654 ล้านบาท รวมทั้งปรับเงื่อนไขชำระเงินให้เข้มงวดขึ้น และจะปรับปรุงประกาศเรื่องมาตรการเยียวยาให้สอดคล้องกับเงื่อนไขการประมูล เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซิมดับทันที โดยจะแก้ไขร่างประกาศให้มีระยะเวลาเยียวยา 30 วัน

          นายฐากร กล่าวว่า การปรับปรุงเงื่อนไขต่างๆ จะนำเสนอเข้าไปยังที่ประชุมบอร์ด กทค.อีกรอบ หลังจากนั้น กสทช.จะนัดประชุม นัดพิเศษในวันที่ 12 เมษายนนี้ เพื่อให้ สามารถเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ได้ทันตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน-23 พฤษภาคม คาดว่าจะประกาศร่างดังกล่าวลงในราชกิจจานุเบกษาได้ทันวันที่ 31 พฤษภาคม และคาด ว่าจะประกาศเชิญชวนให้ผู้สนใจรับซองประมูลได้ช่วงกลางเดือนมิถุนายน จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการเคาะราคาต่างๆ ได้ไม่เกินปลายเดือนมิถุนายนนี้

          "คาดว่าการประมูลใหม่รอบนี้ น่าจะมี ผู้สนใจเข้าร่วมประมูลอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 3 ราย โดยไม่ตัดสิทธิ์การที่บริษัททรูมูฟ เอช จะเข้าร่วมประมูลด้วย และเชื่อว่างบประมาณในการจัดประมูลใหม่จะไม่เยอะ เพราะคาดว่าคงจะมีการเคาะราคากันไม่เกิน 5 ครั้ง และการเคาะราคาขึ้นแต่ละครั้งก็ต้องเพิ่มจากราคาเริ่มต้นร้อยละ 2.5 ซึ่งราคาเริ่มต้นครั้งนี้ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว จึงคิดว่าการเคาะประมูลจะไม่ยืดเยื้อ" นายฐากร กล่าว

          ด้าน นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ  และกรรมการกิจการโทรคมนาคม  ให้สัมภาษณ์ผ่านเนชั่น ทีวี ระบุว่า การจะเปิดประมูลรอบใหม่จะคิดราคาเริ่มต้นเท่าไหร่นั้น ต้องมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ เพราะมีหลายมุมมอง ซึ่งก็เห็นว่าหากตั้งราคา 7.5 หมื่นล้านบาท เป็นราคาที่ ผู้ประกอบการบางรายไม่สนใจอยู่แล้ว แม้จะเปิดประมูลใหม่ก็ไม่มีรายใดเสนออยู่ดี ก็จะทำให้ค่าจัดประมูลรอบใหม่เสียเปล่า และถ้าเก็บคลื่นไว้อีก 1 ปี ก็จะเกิดความเสียหายมากขึ้น จึงต้องรับฟังความเห็นรอบด้านว่าควรกำหนดราคาที่เท่าไร ส่วนผู้ชนะการประมูลในรอบที่แล้ว ก็ควรเข้าร่วมประมูลด้วยได้ เพื่อไม่ให้เกิดการกดราคาประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ และเพื่อให้ราคามีความเหมาะสม

          "ทรูประมูลคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ และ 900 เมกะเฮิรตซ์ ได้ โดยจ่ายค่าประมูล 2 คลื่นรวมทั้งหมดกว่า 1 แสนล้านบาทแล้ว ในขณะที่ เอไอเอส ได้คลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ จ่ายไปประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ส่วนดีแทคไม่ได้จ่ายค่าคลื่นใดๆ เลย แทบจะเป็นไปได้ถ้าสู้อีกและทรูจะชนะอีก เพราะทรูเงินในกระเป๋าหมดไปพอสมควร ขณะที่ดีแทคยังมีทุนเต็มกระเป๋าถ้าประมูลไม่ได้เพราะไม่สู้ราคาก็กล่าวโทษทรูไม่ได้ เช่นเดียวกัน เอไอเอส ถ้าไม่สู้ราคาก็ไปโทษทรูไม่ได้ แต่เชื่อว่าทรูคงไม่กล้าเสนอราคาสูง เพราะครั้งนี้ถ้าหนีไม่ทันตัวใครตัวมันแน่นอน" นพ.ประวิทย์ กล่าว

          ส่วนการฟ้องร้องเอาผิดกับแจส โมบายนั้น ต้องมาพิจารณากัน และจนถึงขณะนี้ แจส โมบาย ยังไม่มีการติดต่อกลับมายัง กสทช. ขณะที่แจส โมบายยอมรับการริบเงินประกัน จำนวน 644 ล้านบาท ตามที่ชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  แต่กรณีแจส โมบายละทิ้งงาน ก่อให้เกิดความผูกพันเรื่องสัญญาและการละเมิด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดังนั้น เป็นเรื่องปกติที่หน่วยงานของรัฐจะต้องฟ้องร้องค่าเสียหาย ได้แก่ ค่าจัดงานประมูลรอบใหม่ หรือต้องจ่ายส่วนต่างของราคาประมูลที่ลดลงเมื่อเทียบกับค่าประมูลครั้งที่แล้ว ซึ่งตรงนี้แจส โมบายต้องรับผิดชอบในฐานะผู้ทิ้งงานเมื่อศาลตัดสิน

          ทั้งนี้ การที่แจส โมบายระบุว่า พันธมิตรจีนไม่สามารถออกแบงก์การันตีได้ทันเวลาและ กสทช.ไม่ผ่อนปรนเวลา ในความเป็นจริง กรรมการ กทค.ไม่เคยรับทราบเรื่องนี้ และในทางประมูล กสทช.ได้ประกาศล่วงหน้า ทุกรายรู้กฎเกณฑ์เหมือนกัน ดังนั้น หากจะต้องมีการเจรจาพันธมิตร ควรจะเจรจาก่อนการประมูล ถ้าประมูลแล้วมาเจรจาภายใน 90 วันไม่มีทางทำทัน อย่างนี้เรียกว่าจับเสือมือเปล่า

          อย่างไรก็ตาม กสทช.ไม่สามารถเข้าตรวจสอบข้อมูลหุ้นได้ ต้องขอความร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และถ้าจะตรวจสอบสถาบันการเงินก็ต้องขอความร่วมมือจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกรมคดีสอบสวนพิเศษ (ดีเอสไอ) ถ้าสงสัยว่ามีเรื่องไม่ชอบ ควรตั้งทีมสืบสวนในเรื่องนี้ ซึ่งการกล่าวอ้างว่ามีพันธมิตรจีน ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน แจส โมบายก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่ามีการเจรจากันตั้งแต่เมื่อไร

          นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส เปิดเผยว่า บริษัทมีความสนใจเข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิร์ตซ์ รอบใหม่ แต่ต้องขอรอดูเงื่อนไขละราคาตั้งต้นที่มีการปรับปรุงใหม่ก่อน หากมีการประกาศเปิดประมูลดังกล่าวจาก กสทช. แล้วบริษัทก็จะนำเสนอเข้าคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาและตัดสินใจ

          "เราอยากเข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ตลอดเวลา แต่ขอดูเงื่อนไขที่ออกมาก่อน และราคาตั้งต้นประมูลด้วย และจะได้เสนอบอร์ดตัดสินใจ" นายสมชัย กล่าวและว่า ในการประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิร์ตซ์ ครั้งก่อน บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) ในกลุ่มเอไอเอส เข้าร่วมประมูลเพื่อนำคลื่นดังกล่าวมาดูแลลูกค้าที่ถือซิม 2จี ในระยะสั้น และจะพัฒนาให้รองรับ 3จี ในอนาคต ขณะที่เอไอเอสมีลูกค้า 2จี บนคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 4 แสนราย ซึ่งศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองให้ขยายเวลาใช้ต่อถึงวันที่ 14 เมษายน โดยขณะนี้บริษัทได้เร่งโอนย้ายไป 3จี หรือเปลี่ยนเครื่องใหม่ รวมทั้งยังมีลูกค้า 3จี บนคลื่น 2100 เมกะเฮิรตซ์ แต่ใช่เครื่อง 2จี จำนวน 7.6 ล้านราย ที่ต้องเร่งให้เปลี่ยนเครื่องเช่นกัน


แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2559 (หน้า 16)
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่