ปัญหาของเรากับบุคคลในที่ฝึกงาน!

ขอพื้นที่ใหญ่ๆตรงนี้ ระบายหน่อยนะ

..คือตอนแรกก็ไม่มีปัญหากับที่ฝึกงานหรอก แต่ตอนนี้มีแล้วแหละคะ มีตอนใกล้จะจบด้วย ซึ่งเรื่องมันเกิดขึ้นจากสาเหตุอันใด ไม่แน่ใจเช่นกัน เราเป็นคนที่มี "สันดาน" มาสายเป็นประจำ เราผิดและน้อมรับมันและพยายามจะแก้ไข ซึ่งพี่ๆที่ฝึกงานเองบางคน บอกว่า ไม่เป็นไร แค่มาให้ทัน "คนนั้นก็พอ" แล้วมันจะไม่มีปัญหาอะไร เราก็รับทราบ และรีบมาให้ทัน จะมีน้อยครั้งที่มาไม่ทัน ด้วยสาเหตุใดก็ตามเรายอมรับผิดแต่โดยดี ถ้าเขาจะด่าเราในกรณีนี้ เราก็ยินดีรับ เพราะมันเป็นเรื่องจริง ..

..อีกประเด็นคือ ล่าสุด วันจันทร์และอังคาร เราลาเพื่อไปทำงานที่ลงประกวด โดยเพื่อนสนิทขอร้องให้เราช่วย เราก็ยินดีช่วย เราจึงขอลาไปถ่ายทำงานเป็นเวลา 2 วัน คือ จันทร์ และ อังคาร เป็นวันที่ มีการประชุมเกิดขึ้น โดยที่ไม่มีเรา และได้มีคำพูดออกมาว่า เพื่อนที่โต๊ะ มีผลงานกัน แต่เราไม่เห็นมีเลย ..เราเลยอยากถามว่า ความหมายของผลงานของพี่คืออะไรคะ??

เพราะงานที่เพื่อนทำ เราก็ช่วยเพื่อนทำเช่นกัน ที่โต๊ะมี น.ศ.ฝึกงานอยู่ 3 คน เราถนัดที่จะเป็น ครีเอทีฟ

เพื่อนอีกหนึ่งคน ถนัดประสานงาน ขอไอดีรายการ ขอรีสโตร์งาน และช่วยเกี่ยวกับเอกสารที่เกี่ยวข้องกับงานประสานหลายๆอย่าง งานประสานถือเป็นงานยิบย่อยแต่มีเยอะ เพื่อนจึงดูมีงานอยู่ตลอดเวลา

ส่วนเพื่อนอีกหนึ่งคน ถนัดงาน..โปรดักชั่น??หรือ ประชาสัมพันธ์มั้ง(ไม่แน่ใจ) เพราะเห็นพี่เค้าชอบใช้ให้หา คำแคปชั่นที่มันโดนๆ มาโพสต์ประกอบรูปซึ่งก็ผ่านโฟโต้ช็อปเล็กน้อยแค่เอารูปยัดๆใส่ ก็ได้ละ ส่วนใหญ่ก็เห็นแค่นี้

และสิ่งที่เราทำคือการหาฟีดแบคเพื่อนำมาผลิตรายการในแต่ละตอน ซึ่งรายการที่ทำมันไม่ได้เป็นรายการทั่วไป มันจะต้องเจาะลึกด้านสื่อ สะท้อนมุมมองต่างๆ ซึ่งเข้าถึงในการตั้งโจทย์ยาก แต่เราก็พยายามหามานำเสนอพวกพี่เค้า ประเด็นที่เราพยายามเสนอไป 2-3 ประเด็น พยายามเช็คว่ามันผ่านมั้ย มันจะไปติดตรงไหนรึเปล่าอยู่หลายครั้ง จนมั่นใจว่าเออมันน่าจะผ่าน แต่พอส่งไปให้พี่ๆดูกลับไม่ผ่าน แต่ก็ไม่บอกเราว่าไม่ผ่านเพราะอะไร อีกงานที่เรายื่นประเด็นไปก็เกือบจะได้ทำ แต่ติดที่ว่า ผู้ให้สัมภาษณ์นั้นได้เกษียณอายุราชการไปนานแล้ว จึงทำให้ประเด็นของเราถูกยกเลิกไป จนล่าสุดวันศุกร์คิดหาประเด็นที่น่าสนใจได้ แต่ก็ได้เกริ่นไว้แล้วกับพี่ที่โต๊ะบางคน พี่จึงบอกมาว่า ให้มาเสนอขายโปรดิวเซอร์!? เอ่อ ปัญหาคือ โปรดิวซ์โต๊ะนี้เป็นฟรีแลนซ์ จึงเข้างานเมื่อไหร่ก็ได้ ออกตอนไหนก็ได้ จึงแทบไม่ได้เจอกันเลย

และกับพี่อีกคนที่ขอพูดตรงนี้เลยว่า เราไม่อยากเดินเข้าไปพูดคุยด้วยเลย ด้วยเหตุผลอะไรก็ตามไม่รู้ แต่การเข้าถึงตัวเค้าทุกครั้งจะต้องมีคำพูดที่ทำให้เราสะดุดอยู่ตลอดเวลา อ่อกรณีนี้ไม่รู้ว่าเกี่ยวรึเปล่า พี่ที่โต๊ะเราเป็นญาติกับน.ศ.ที่โต๊ะเดียวกัน เราเลยไม่มั่นใจว่าเรากำลังคิดไปเองหรือใช้อคติกับเค้า แต่เราเคยโดนด่าเรื่องมาสาย แต่พอน.ศ.คนนี้มาสาย ก็ไม่เห็นว่าจะโดนต่อว่าอะไร แต่กลับพูดและยิ้มให้กันปกติ ซึ่งเราเองเห็นแล้วก็พยายามคิดว่า น.ศ.คนนั้นมาสายน้อยครั้งนัก จึงเป็นแค่การเตือนเฉยๆ แต่พอเราได้ถามเพื่อนอีกคนที่อยู่โต๊ะ คนนี้จะมาเช้ามาก บางทีคนที่โต๊ะยังไม่มีใครมา แต่คนน.ศ.เพื่อนเราคนนี้ก็มาก่อนแล้ว และจะรู้หมดว่าใครมากี่โมง และประมาณเวลาได้เลยว่าคนไหนมาเวลาไหน ..

โอเคกลับเข้าเรื่องต่อ ครั้งแรกผ่านไป เราจึงไม่พูดถึงมัน แต่น.ศ.ชายกลับมีรอบสอง ซึ่งเราเริ่มสงสัยหนักขึ้นว่าทำไมเขาถึงไม่โดนติเหมือนเรา หรือเขาอาจจะติส่วนตัวไปแล้วซึ่งเราไม่รู้ ไม่เห็น เราก็พยายามนึกแบบนี้มาตลอดเวลา แต่ที่ติดใจเรามากๆคือ เวลาประชุมกันทุกครั้งแล้วพี่โปรดิวเซอร์ถามว่า “ใครทำงานอะไรบ้างวันนี้” หรือ “วันนี้ใครทำอะไรบ้าง” โดยจะเริ่มจากเพื่อนเราก่อน เค้าก็ตอบด้วยตัวเอง แล้วต่อมาก็เป็นเรา เราก็ตอบด้วยตัวเอง แต่พอถามน.ศ. ที่มีญาติเป็นครีเอทีฟโต๊ะเดียวกัน พี่เขากลับคอยชิงตอบให้อยู่ตลอดเวลาว่าน.ศ. คนนี้ทำอะไรให้บ้าง ซึ่งงานบางงาน เราทำแต่เขาแค่ไปยืนดูด้วยซ้ำ เราเลยไม่พูดอะไรมาก โอเคให้มันผ่านไป  

จนล่าสุด

อย่างที่เราได้บอกไป พี่เขาพูดขึ้นมาว่าเราไม่มีผลงาน ?? แต่คนอื่นมี ?? เรายิ้มโคตรโมโหมากอะ
และวันศุกร์ที่ผ่านมา อย่างที่บอกไว้ด้านบนว่าเรามาช่วยเพื่อนถ่ายงาน เพราะทางมหาวิทยาลัยกำหนดชั่วโมง ในการฝึกงานไว้ และลองคำนวณดูแล้ว เราว่ามันเกินแล้วด้วยซ้ำ แต่ด้วยความที่เวลามันเหลือนั้น เราเข้าใจว่าทางมหาวิทยาลัย ต้องการเผื่อในส่วนของการขาด ลา มาสายด้วย พอเราฝึกครบจำนวนชั่วโมงเราก็ยังคงฝึกต่อ แต่ก็ขอลาไปทำภารกิจที่สำคัญจริงๆ


***
เลยอยากจะถามเพื่อนๆในพันทิปว่า

? เราควรจะทำยังไงดี ถ้าปัญหามันเกิดขึ้นกับตัวเพื่อนๆแบบนี้

พูดตรงๆว่าแรกๆ ก็ยอมรับได้ แต่รอบนี้มันหนักขึ้นมากจนเริ่มทนไม่ไหว

(นี่แค่ในส่วนที่เราโดนนะ ยังมีส่วนของพี่ที่โต๊ะ!! ย้ำว่าเป็นพี่โต๊ะเดียวกันเลย แต่เขาไม่สามารถทำงานได้ เพราะอึดอัดใจจากคนร่วมงาน ซึ่งเราก็พูดคุยอยู่กับพี่คนนี้ตลอดเวลาและรับรู้ปัญหาที่เขาเจอมาตลอด ซึ่งถ้าใครที่มายืนอยู่จุดเดียวกับเราตรงนี้ จะมีความรู้สึกเดียวกันแน่นอน!!)

แล้วอีก 2-3 อาทิตย์ เราก็จะฝึกจบแล้วด้วย เรากำลังคิดหนักมากว่า เราจะทนต่อไปให้มันจบ และตั้งใจทำในส่วนของเราให้มากที่สุด หรือ ...อะไรดี??

และที่สำคัญจริงๆคือเราห่วงคะแนนเวลาประเมินผลมากที่สุด ถ้าจะให้คะแนนเราน้อยในเรื่องการมาสาย เราไม่ว่า แต่เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าคะแนนอื่นๆที่ได้มานั้น จะเป็นธรรมพอ ? เราแค่ต้องการ การแจกกจงที่เป็นธรรม? ผิดตรงไหน ไม่ดีอะไร เราก็จะพยายามอย่างมากในการทำมันให้ดีขึ้น แต่ถ้าหากยังผิดอยู่ แต่คุณกลับเพิกเฉยเรา และไม่มีฟีดแบคตอบกลับต่อเรา แต่ตอบกลับต่อมหาวิทยาลัยแบบนี้ เราเองก็ต้องทำใจยอมรับ

เหมือนโดนตั้งข้อหาทั้งๆที่ ยังไม่รู้ตัวว่าทำผิดอะไร  


จอบอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่