สวัสดีคะ วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์ เตรียมตัว และวันไปทำวีซ่า ที่สถานทูตอเมริกากันนะคะ
เราเป็นนักเรียนที่เพิ่งเรียนจบปอตรี แล้วต่อโททันที เลยไม่มีงานทำและไม่มี Transcript ของปอโท
และไม่มีญาติที่อเมริกา หญิงโสด เดินทางคนเดียวววว
ขั้นแรกทุกคน ต้องเตรียมเอกสารก่อนคะ
1. รูปถ่ายพื้นหลังสีขาว ขนาด 2*2 เปิดหูทั้งสองข้าง (ขอไฟล์ด้วยเอาไว้อัพใส่ DS-160)
ส่วนตัวเราประหยัด หยิบกล้องมาถ่ายเอง เอาไปปริ้นใบละ 2.5 บาท
http://www.epassportphoto.com/
2. ขอใบรับรองการศึกษา
3. เขียนจดหมายแนะนำตัว
4. จดหมายจาก Sponsor คุณแม่คะ
5. จดหมายรับรองการทำงานของคุณแม่
6. เขียนแผนการเดินทางภาษาอังกฤษ
7. ขอ Statement ของคุณแม่และตัวเอง
หลังจากเตรียมเอกสารเรียบร้อยขั้นตอนต่อไป กรอกใบ DS-160
โดยเข้าไปที่ Link นี้คะ
https://ceac.state.gov/GenNIV/Default.aspx
ขั้นตอนนี้มีรีวิว เยอะแล้ว ข้ามไป ขอบคุณทุกกระทู้มากคะ
ให้คำแนะนำคือ ควรกรอกเองนะคะ เพราะเจ้าหน้าที่จะถามเรา
โดยดูข้อมูลจาก แบบฟอร์มนี้คะ ว่าตอบตรงกับ DS-160 หรือเปล่า อย่าลืมอัพรูปภาพลงไปในระบบนะคะ
หลังจากกรอกข้อมูลเสร็จ เราต้องตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง เพราะถ้าเรา Confirm แล้ว จะไม่สามารถ
กลับมาแก้ไขข้อมูลในส่วนนี้ได้นะคะ เราก็กรอกที่อยู่ผิด ต้องทำ DS-160 อีกชุดเลยคะ TT
เมื่อตรวจสอบข้อมูลแล้ว ให้กด Confirm จะได้ใบออกมา ให้ปริ้นใบนี้ออกมาไว้ยื่นวันไปทำ VISA
หลังจากนั่น เข้ามาที่เว็บ
https://cgifederal.secure.force.com/confirmreceipt
เว็บนี้สามารถเลือกภาษาไทยได้นะคะ สบาย กดคลิ๊กไปตามขั้นตอน จนมาถึงขั้นตอนจ่ายเงิน
เราสามารถจ่ายเงินได้ที่ธนาคารกรุงศรีนะคะ เราใช้วิธีไปจ่ายที่ธนาคาร ราคา 5920 บาท (160US*37)
ไม่ผ่านนิไม่ได้เงินคืนนะคะ ทำใจจจจ เสี่ยงเอา แพงเกิ๊นนนน
** อย่าลืม จดเลข และปริ้นใบของธนาคารกรุงศรีไปด้วยคะ **
หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อย รอ อีกวัน จะได้รับเลข Confirm จ่ายเงินมาทาง Email
เราจะสามารถจองวันสัมภาษณ์ได้เลย ในวันรุ่งขึ้น ระบบใหม่นี้ สะดวกและทำง่ายมากคะ
มาถึงวันสัมภาษณ์ เรานัดรอบ 7.30 ก่อนจะมาถึงเพลินจิต ขับรถชนเสาไปก่อนมาถึง TT เศร้าเลย
แนะนำว่า ใช้บริการรถไฟฟ้าจะดีที่สุดคะ ลงสถานี เพลินจิต ทางออก5
เราเดินเอา จากสถานีรถไฟ มาถึงสถานทูต 700 เมตร ไกลพอตัว เห็นคนอื่นขึ้นแท๊กซี่กัน
เดินมาเรื่อยๆ เจอแถวคนยาวเหยียดดดดด ไปบนสะพานลอย อึ้งเลยคะ 555555+
คิดในใจจะเสร็จกี่โมง แถมชุดที่ใส่ ใส่สูทคะ ร้อนตับแตก 555+ เว่อร์ไปไหน จากกระทู้อื่นๆบอกให้แต่งตัวสุภาพ
ตื่นเต้นนิดหน่อย เพราะอ่านเจอรีวิวมาเยอะว่า โหดมากกก
สิ่งที่นำไปได้ คือโทรศัพท์ 1 เครื่องที่รับฝากเท่านั้น อย่างอื่นไม่ได้ แนะนำว่าเอาไปแต่เอกสารพอคะ
รอรอ ไปเรื่อยๆ ก็ได้คิว เข้ามาถึงข้างใน
ช่องที่ 1 เป็นบริการส่ง EMS Passport (จดเลข tag EMS เอาไว้ด้วย)
ช่องที่ 2 ถามข้อมูลทั่วไป แสกนนิ้วมือ เป็นเจ้าหน้าที่ไทย ใจดีมาก เราเลยบริการเช็ดที่แสกนนิ้วมือให้
ขอบคุณเราใหญ่เลย อิอิ
ช่องที่ 3 แสกนนิ้วมืออีกรอบ เป็นเจ้าหน้าที่ต่างชาติ
ช่องสุดท้าย จะผ่านไม่ผ่าน อยู่ขั้นนี้แล้ว แถวยาวมากคะ Speak English กันไป เราจะได้คนไหนนะ
คิดในใจ ทำไมนานกันจัง ใกล้ถึงคิวเราแล้ว คนก่อนหน้าเรา VISA ไม่ผ่าน เรานิเริ่มกังวลละ 5555+
ทำไมโหดจุงงงงง เราก็ไปเข้าช่องที่คนวีซ่าไม่ผ่าน ไฟท์บังคับ 555+ เจ้าหน้าที่ช่องเราเป็นต่างชาติ
แกทักเราก่อน สวัสดีคับ ภาษาไทยชัดเจน เราก็ทักทายแกเป็นไทยและอังกฤษ พร้อมยิ้มสยามแถม
แกถามเราคำถามเดียว เป็นนักเรียนไปทำอะไรคับ เราก็ตอบเป็นอังกฤษจ้ะ ว่าไปเที่ยวปิดเทอมที่
CA และ NY แค่นี้ ถามเราแค่นี้จริงงง คิดในใจ ถามอีก อยากตอบบบ เตรียมมาเยอะ 555555+
เป็นอันเสร็จ แกบอกเราว่า "Your visa is approved and we will send passport in 3 days."
เราก็เลยขอบคุณแกว่า "Thank you so much and have a good working day Bye."
เสร็จแล้วของเรา ถามคำถามเราคำถามเดียว ง่ายจัง เดินงงออกมา
สรุปปป
1. ใช้แค่ ใบ DS-160 และ Passport เอกสารอื่นไม่ขอดูใดใด
2. ไวมาก ถามคำถามเดียว
3. ทำตัวให้ดูน่าเชื่อเข้าไว้แต่งกายสุภาพ
4. มาก่อนเวลา 30 นาที
5. เตรียมแค่เอกสารและโทรศัพท์ บัตรประชาชนไว้ฝากโทรศัพท์
6. เจ้าของกระทู้ เป็นนักศึกษา
7. ใช้เวลา ถึง 7 โมง เสร็จออก 8 โมง (1ชั่วโมงเท่านั้น) ถึงคิวจะยาวแต่ทำงานไว
สถานที่ที่เราเคยไปและสแตมป์ในPassport ใน2ปี
สวิสเซอร์แลนด์ 1 รอบ , อิตาลี 1 รอบ , ฝรั่งเศส 1 รอบ,ญี่ปุ่น 4 รอบ,เกาหลี 1 รอบ,เวียดนาม 2 รอบ,สิงคโปร์ 2 รอบ,มาเลเซีย 1 รอบ
และ เชงเก้นวีซ่า เรายังไม่หมดอายุด้วยใน Passport ก็เลยทำให้เราผ่านง่ายมั่งคิดว่า (ทุกรอบเรา Backpack และเตรียมตัวเอง)
ก็อยากจะให้กำลังใจว่าทำวีซ่าไม่ยากเสมอไป เตรียมตัวให้ดี ทำให้มั่นใจว่าเราต้องกลับมาประเทศไทยจริงๆ แค่นี้คะ
เราก็รอลุ้นว่าวีซ่าของเราจะได้กี่ปี ^^ จบแล้ว ง่ายเนอะ!
[CR] Review ทำวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา 21/3/2559 นักศึกษา **ง่ายมาก**
สวัสดีคะ วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์ เตรียมตัว และวันไปทำวีซ่า ที่สถานทูตอเมริกากันนะคะ
เราเป็นนักเรียนที่เพิ่งเรียนจบปอตรี แล้วต่อโททันที เลยไม่มีงานทำและไม่มี Transcript ของปอโท
และไม่มีญาติที่อเมริกา หญิงโสด เดินทางคนเดียวววว
ขั้นแรกทุกคน ต้องเตรียมเอกสารก่อนคะ
1. รูปถ่ายพื้นหลังสีขาว ขนาด 2*2 เปิดหูทั้งสองข้าง (ขอไฟล์ด้วยเอาไว้อัพใส่ DS-160)
ส่วนตัวเราประหยัด หยิบกล้องมาถ่ายเอง เอาไปปริ้นใบละ 2.5 บาท
http://www.epassportphoto.com/
2. ขอใบรับรองการศึกษา
3. เขียนจดหมายแนะนำตัว
4. จดหมายจาก Sponsor คุณแม่คะ
5. จดหมายรับรองการทำงานของคุณแม่
6. เขียนแผนการเดินทางภาษาอังกฤษ
7. ขอ Statement ของคุณแม่และตัวเอง
หลังจากเตรียมเอกสารเรียบร้อยขั้นตอนต่อไป กรอกใบ DS-160
โดยเข้าไปที่ Link นี้คะ https://ceac.state.gov/GenNIV/Default.aspx
ขั้นตอนนี้มีรีวิว เยอะแล้ว ข้ามไป ขอบคุณทุกกระทู้มากคะ
ให้คำแนะนำคือ ควรกรอกเองนะคะ เพราะเจ้าหน้าที่จะถามเรา
โดยดูข้อมูลจาก แบบฟอร์มนี้คะ ว่าตอบตรงกับ DS-160 หรือเปล่า อย่าลืมอัพรูปภาพลงไปในระบบนะคะ
หลังจากกรอกข้อมูลเสร็จ เราต้องตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง เพราะถ้าเรา Confirm แล้ว จะไม่สามารถ
กลับมาแก้ไขข้อมูลในส่วนนี้ได้นะคะ เราก็กรอกที่อยู่ผิด ต้องทำ DS-160 อีกชุดเลยคะ TT
เมื่อตรวจสอบข้อมูลแล้ว ให้กด Confirm จะได้ใบออกมา ให้ปริ้นใบนี้ออกมาไว้ยื่นวันไปทำ VISA
หลังจากนั่น เข้ามาที่เว็บ https://cgifederal.secure.force.com/confirmreceipt
เว็บนี้สามารถเลือกภาษาไทยได้นะคะ สบาย กดคลิ๊กไปตามขั้นตอน จนมาถึงขั้นตอนจ่ายเงิน
เราสามารถจ่ายเงินได้ที่ธนาคารกรุงศรีนะคะ เราใช้วิธีไปจ่ายที่ธนาคาร ราคา 5920 บาท (160US*37)
ไม่ผ่านนิไม่ได้เงินคืนนะคะ ทำใจจจจ เสี่ยงเอา แพงเกิ๊นนนน
** อย่าลืม จดเลข และปริ้นใบของธนาคารกรุงศรีไปด้วยคะ **
หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อย รอ อีกวัน จะได้รับเลข Confirm จ่ายเงินมาทาง Email
เราจะสามารถจองวันสัมภาษณ์ได้เลย ในวันรุ่งขึ้น ระบบใหม่นี้ สะดวกและทำง่ายมากคะ
มาถึงวันสัมภาษณ์ เรานัดรอบ 7.30 ก่อนจะมาถึงเพลินจิต ขับรถชนเสาไปก่อนมาถึง TT เศร้าเลย
แนะนำว่า ใช้บริการรถไฟฟ้าจะดีที่สุดคะ ลงสถานี เพลินจิต ทางออก5
เราเดินเอา จากสถานีรถไฟ มาถึงสถานทูต 700 เมตร ไกลพอตัว เห็นคนอื่นขึ้นแท๊กซี่กัน
เดินมาเรื่อยๆ เจอแถวคนยาวเหยียดดดดด ไปบนสะพานลอย อึ้งเลยคะ 555555+
คิดในใจจะเสร็จกี่โมง แถมชุดที่ใส่ ใส่สูทคะ ร้อนตับแตก 555+ เว่อร์ไปไหน จากกระทู้อื่นๆบอกให้แต่งตัวสุภาพ
ตื่นเต้นนิดหน่อย เพราะอ่านเจอรีวิวมาเยอะว่า โหดมากกก
สิ่งที่นำไปได้ คือโทรศัพท์ 1 เครื่องที่รับฝากเท่านั้น อย่างอื่นไม่ได้ แนะนำว่าเอาไปแต่เอกสารพอคะ
รอรอ ไปเรื่อยๆ ก็ได้คิว เข้ามาถึงข้างใน
ช่องที่ 1 เป็นบริการส่ง EMS Passport (จดเลข tag EMS เอาไว้ด้วย)
ช่องที่ 2 ถามข้อมูลทั่วไป แสกนนิ้วมือ เป็นเจ้าหน้าที่ไทย ใจดีมาก เราเลยบริการเช็ดที่แสกนนิ้วมือให้
ขอบคุณเราใหญ่เลย อิอิ
ช่องที่ 3 แสกนนิ้วมืออีกรอบ เป็นเจ้าหน้าที่ต่างชาติ
ช่องสุดท้าย จะผ่านไม่ผ่าน อยู่ขั้นนี้แล้ว แถวยาวมากคะ Speak English กันไป เราจะได้คนไหนนะ
คิดในใจ ทำไมนานกันจัง ใกล้ถึงคิวเราแล้ว คนก่อนหน้าเรา VISA ไม่ผ่าน เรานิเริ่มกังวลละ 5555+
ทำไมโหดจุงงงงง เราก็ไปเข้าช่องที่คนวีซ่าไม่ผ่าน ไฟท์บังคับ 555+ เจ้าหน้าที่ช่องเราเป็นต่างชาติ
แกทักเราก่อน สวัสดีคับ ภาษาไทยชัดเจน เราก็ทักทายแกเป็นไทยและอังกฤษ พร้อมยิ้มสยามแถม
แกถามเราคำถามเดียว เป็นนักเรียนไปทำอะไรคับ เราก็ตอบเป็นอังกฤษจ้ะ ว่าไปเที่ยวปิดเทอมที่
CA และ NY แค่นี้ ถามเราแค่นี้จริงงง คิดในใจ ถามอีก อยากตอบบบ เตรียมมาเยอะ 555555+
เป็นอันเสร็จ แกบอกเราว่า "Your visa is approved and we will send passport in 3 days."
เราก็เลยขอบคุณแกว่า "Thank you so much and have a good working day Bye."
เสร็จแล้วของเรา ถามคำถามเราคำถามเดียว ง่ายจัง เดินงงออกมา
สรุปปป
1. ใช้แค่ ใบ DS-160 และ Passport เอกสารอื่นไม่ขอดูใดใด
2. ไวมาก ถามคำถามเดียว
3. ทำตัวให้ดูน่าเชื่อเข้าไว้แต่งกายสุภาพ
4. มาก่อนเวลา 30 นาที
5. เตรียมแค่เอกสารและโทรศัพท์ บัตรประชาชนไว้ฝากโทรศัพท์
6. เจ้าของกระทู้ เป็นนักศึกษา
7. ใช้เวลา ถึง 7 โมง เสร็จออก 8 โมง (1ชั่วโมงเท่านั้น) ถึงคิวจะยาวแต่ทำงานไว
สถานที่ที่เราเคยไปและสแตมป์ในPassport ใน2ปี
สวิสเซอร์แลนด์ 1 รอบ , อิตาลี 1 รอบ , ฝรั่งเศส 1 รอบ,ญี่ปุ่น 4 รอบ,เกาหลี 1 รอบ,เวียดนาม 2 รอบ,สิงคโปร์ 2 รอบ,มาเลเซีย 1 รอบ
และ เชงเก้นวีซ่า เรายังไม่หมดอายุด้วยใน Passport ก็เลยทำให้เราผ่านง่ายมั่งคิดว่า (ทุกรอบเรา Backpack และเตรียมตัวเอง)
ก็อยากจะให้กำลังใจว่าทำวีซ่าไม่ยากเสมอไป เตรียมตัวให้ดี ทำให้มั่นใจว่าเราต้องกลับมาประเทศไทยจริงๆ แค่นี้คะ
เราก็รอลุ้นว่าวีซ่าของเราจะได้กี่ปี ^^ จบแล้ว ง่ายเนอะ!