บอกก่อนนะครับ อันนี้คือก๊อปมาจากที่เคยลงไป ไม่ได้เรียบเรียงเพิ่มครับเพราะคนขอเยอะมากจึงเอาที่ เพื่อนผมเล่ามาลงเลย
ปล ครับ ใครที่จะดราม่า จะจับผิดจะด่าหรืออะไร ถ้ามี ก็จะลบครับ จบนะ ^^
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ต่อนะครับ ขออภัยด้วยคือรหัสพันทิปเพื่อนผมที่ชื่อกรานต์เป็นอะไรไม่รู้ครับไม่สามารถเข้าได้ กรานต์เลยให้ผมมาเขียนต่อครับ ผมชื่อสมายด์นะครับ หรือชื่อย่อในเรื่องคือ เอส ครับ ก็จะมาขอเล่าต่อเลยนะครับ เพื่อทุกคนที่รอ [อาจเล่าไม่เก่งเท่ากรานต์นะครับ]
จากตอนที่กรานต์หยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปบ้านนะครับ(ขอแทนชื่อจริงเลยนะครับเพื่อไม่ให้พิมพ์ยาก) รูปที่ถ่ายมานั้นเป็นบ้านร้างที่เห็นในตอนกลางวันครับ(รูปทั้งหมดลบหมดแล้วนะครับเพราะอะไรเดี่ยวฟังตอนจบนะ) แล้วพวกผมก็เดินขึ้นไปต่อกัน เพื่อหาโอให้เจอครับ ครั้งนี้ทางเป็นเหมือนเดิมเลยครับ เหมือนเมื่อคืนที่เดินขึ้นไปเลย พวกผมก็เดินไปครั้งนี้พวกผมไม่เห็นศาลแล้วครับ แต่เป็นระยะทางจริงๆจากตอนแรกที่เดินขึ้นไปครับ
***** ขออณุญาติย้อนกลับไปเล่าฉากหนึ่งก่อนนะครับอันนี้กรานต์ลืมเล่าครับ จากตอนที่กรานต์และโอวิ่งหนีผญ ที่ยิ้มเข้ามาในบ้านผมซึ่งนอนติดริมหน้าต่าง ผมนอนกับเฟิร์สนะครับ ก็หันไปมองเห็นกรานต์วิ่งเข้ามาคนเดียว ทั้งๆที่กรานต์ยืนยันว่าวิ่งมาพร้อมโอ พอผมเห็นกรานต์วิ่งมาคลุ่มโปรง ผมก็ไม่สนใจอะไรก็เลยพลิกตัวไปทางหน้าต่างครับ จังหวะนั้นกำลังหรี่ตาลง ก็เห็นเต็มๆเลยครับ เป็นผู้หญิงตัวขาวๆ ใส่ชุดเอี้ยม หน้านี่ยิ้มครับ ถามว่ายิ้มถึงไหนก็ยิ้มกว้างมากครับ แต่ยิ้มไม่เห็นฟันนะครับ เกือบถึงใบหู กำลังนั่งห้อยขาแกว่งขาเล่น แล้วหัวเราะว่า ฮิๆๆๆๆๆๆ ฮิๆๆๆๆๆ ฮิๆๆๆๆๆๆ แล้วมองมาที่ผมครับ พอผมเห็นผมแบบตอนนั้น หน้าร้อนมากครับ นํ้าตานี่คลอออกมาเลย แล้วแบบตอนนั้น มันเหมือนตัวแข็งไปหมดครับ(เยี่ยวราด) ผมก็เลยหันหน้ามาอีกด้านละคลุมโปงไปครับ ซึ่งผู้หญิงคนนั้นตอนเช้ามากรานต์เล่าให้ฟังตรงกันเป๊ะเลยครับทั้งเสื่อผ้าหน้าผม ผมหน้าม้า
***** กลับมาต่อนะครับ พวกผมก็เดินขึ้นไปหาโอครับ เดินจนสุดเห็นต้นไม้ใหญ้ๆแล้วเห็นศาลๆนั้นครับ พวกผมก็เห็นเหมือนมีคนนอนอยู่ตรงข้างๆศาลครับ ใช่ครับ!!!!! คือโอนั้นเอง พวกผมก็วิ่งเข้าไปดูครับ ตอนดูใกล้ๆนี่ตัวซีดมากครับ คือรู้เลยว่า โอเสียเเล้ว ไม่มีใครกล้าเข้าไปจับเลยครับ ทั้งๆที่เพื่อนรักกันนะครับ สภาพศพคือ คอหักครับ สภาพเหมือนคนตกจากที่สูงครับ เเขนขาจะบิดเบี้ยว และคอจะเอียง แต่ที่แปลกที่สุดครับ ในปากของโอ อมถ้วยไว้ครับ ถามว่าถ้วยอะไร พวกผมมองแล้วรู้เลยครับ คือถ้วยที่เล่นผีถ้วยแก้วที่โอปาลงหน้าต่างไปครับ จำได้เลย ลายเดียวกันเป๊ะ พวกผมทุกคนงงมากครับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนั้นพวกผมได้แต่ ร้องไห้ครับ ว่ามันอะไรวะ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ เรากะมาสนุกๆ ไมเพื่อนต้องเสียด้วย ทุกคนต่างทำอะไรไม่ถูกครับได้แต่นั่งกอดเค่าร้องไห้คิดอะไรไม่ออกครับ ก็นั่งกันอย่างนั้น จนมีเสียงเสียงหนึ่งครับ ที่ทำให้พวกผมวิ่งกันสุดชีวิตและ เยี่ยวราดกันทุกคน ก็คือ เสียงของป้าเจ้าของครับ เดินมาแล้วพูดว่า พวกหนู ยังไม่ถึงห้องพักอีกหรอ มาๆ ตามป้ามา เท่านั้นหล่ะครับ พวกผมหันไปมอง พอเห็นว่าเป้นฟ้าคนเดิน ใส่ชุดเดิน ทำท่าเดิม ก็หันหลังวิ่งลงเขามาครับ จนมาสุดตีนเขา ก็จะเป้นบ้านของป้าแก เชื่อไหมครับ มีคนนั่งอยู่ในบ้านป้าแกครับ แล้วไม่ใช่ใครครับ ก็เป้นแกนี่หล่ะ ที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ที่พบกระดูกครับ พวกผมไม่มีใครกล้าเข้าไปดูครับ ได้แต่เดินเลาะๆมา แล้วโทรแจ้งตำรวจครับ บอกว่าพบศพ และเพือนเสียแล้ว ครับ แต่ไม่มีใครบอกทางได้เลยครับ เพราะคนขับมาคือโอ แล้วพวกผมหลับกันหมด ยกเว้นกรานต์ กรานต์ก็พยายามบอกตำรวจอยู่ครับแต่ก็ ไม่รู้ทางก็เลยเปิด GPS ครับแล้วบอกทางตำรวจ ตำรวจก็เดินทางมาครับ แต่ว่ามันไม่ง่ายแบบนั้นครับ เพราะว่าเขา หาเราไม่เจอครับ เขาหาป้ายสีขาวๆที่ กรานต์บอกไม่พบครับ พวกผมก็บอกว่าเดี๋ยวให้รอแถวนั้นก่อนครับ เดี๋ยวพวกผมขับรถออกไปครับ พอพวกผมขึ้นมาบนรถครับ เวลาตอนนั้นประมาณ เที่ยงคืนกว่าๆ โดย ผมเป็นคนขับ กรานต์นั่งหน้า และเฟิร์ส เติ้ล วิว นั่งหลังครับ ระหว่างที่ขับออกไป ผมก็มองกระจกหลังครับ สิ่งที่ผมเห็นและไม่กล้าเล่าให้ใครฟังก็คือ ผมเห็นโอ เอาตัวไถกับพื้นคลานตามมา แล้วหน้าตาดูร้องไห้อยู่ครับ ผมก็เลยหยุดรถละบอกเห้ย เพื่อนก็ถามว่าเป็นอะไร ผมก็เปิดประตูลงไปดู ก็ไม่มีอะไรครับ ก็เลยดินขึ้นมาขับต่อ จังหวะที่ปิดประตูแล้ว คาดเข็มขัดครับ ตาผมก็เหลือบไปเห็น เห็นโอครับนั่งอยู่ในรถ และนั่งข้างๆ เฟิร์สครับ สายตาของโอเหมือนโมโห และโกรธพวกผม พอผมหันไปดูก็ไม่พบใครครับ ผมเลยบอกให้เฟิร์สขยับมานั่งอย่าให้มีที่ว่างเดี๋ยวผมมองกระจกหลังไม่เห็นครับ แล้วผมก็ขับมาต่อครับ ระยะทางเท่ากับระยะที่เข้ามาเลยครับ ซึ่งไกลมาก น็ามันก็ใกล้จะหมดแล้วครับ ทางนี่ขรุขระมาก ต้องค่อยๆขับช้าๆครับ ข้างทางนี่มืดหมด ผมซึ่งเป็นคนขับก็ขับลำบากมากครับ จนหลุดออกมาจากซอยนั้นครับ ก็เป็นถนนเปลี่ยนอีก ก็ขับวน เปิดgps ก็แล้ว หลงกัน จนออกมาถนนใหญ่ได้ครับ เวลาประมาณ ตี2 แล้วครับ ก็ไปพบพี่ตำรวจ พี่ก็ถามว่านี่ยังไง ให้นำทางไป ผมก็ ขับพาตำรวจวนครับ และหาทางเข้าไม่เจอครับ ทั้งๆที่ขับออกมาก็ หลงครับ แล้วงงทางมากครับ GPS ก็งงครับ พี่เขาก็บอกว่าถ้าน้องจะมาแกล้งพี่เล่นแบบนี้ อย่าเลยครับ ผมก็บอกว่าเรื่องจริงครับ พี่เขาก็บอกงั้นเดี่ยวพี่มาใหม่ตอนเช้าละกัน ผมก็ตกลงครับ แล้วก็ขอเบอร์พี่เขาไว้ส่วนตัว พวกผมก็ไปจอดกันข้างถนนครับ มีไฟอยู่ ก็กะจะนอนพักครับ แต่นอนไม่หลับครับเพราะเพิ่งเสียเพื่อนไป ก็ได้แต่ร้องไห้ แล้วก็ด่ากันไปด่ากันมาครับ เถียงกันไป แล้วก็เอาเรื่องมาประติบประต่อกันของแต่ละคน จนสรุปได้ครับว่า โอเสียไปตั้งแต่ตอนที่ ป้าเจ้าของบ้าน พากเดินขึ้นไปข้างบน แล้วโอหายไปตอนนั้น ตอนนั้นเราอยู่หน้าศาล คาดว่าโอน่าจะไปทำอะไรกับศาล สักอย่างหรือเกิดอะไรขึ้นไม่มีใครรู้ครับ แล้วที่โอ เดินเข้ามาถือแก้วมาช่วนเล่นผีถ้วยแก้ว ตอนนั้นพวกผมคิดแล้วครับว่า ไม่ใช่โอที่เป้นคนแน่นอน เพราะลักษณะท่าทางของโอ ดูแปลกแล้ว ตอนที่เล่นผีถ้วยแก้ว นิ้วของโอก็เย็นเฉียบครับ คาดว่าโอคงไม่รู้ตัวว่าตัวเองเสียไปแล้ว แล้วตอนที่กรานต์นอนกับโอ มีแต่กรานต์ที่เห็นโอคนเดียวนะครับ พวกผมยืนยันได้ว่า ผมเห็นโอเดินออกไปนานแล้วตั้งแต่เล่นผีถวยแก้วเสร็จ ส่วนกรานต์นั้นนอนคนเดียวแน่นอนครับ เรื่องราวก็ประมาณนี้ละครับ เดี๋ยวจะมาเพิ่มเติมให้ฟัง เรื่องเล็กๆน้อยๆนะครับ และความจริงของบ้านพักนี้กันนะครับ รอสักครู่*****ครับ พวกผมได้ถ่ายรูปเก็บไว้หมดนะครับ แต่ว่าหลังงานศพโอ ทางคุณแม่ของโอ พอได้รู้เรื่องราวทั้งหมด จึงขอให้พวกผมลบรูป เกี่ยวกับเรื่องนี้ให้หมดครับ และโพสต่างๆ พร้อมปิดเฟสบุ๊ค ของโอ เรียบร้อยแล้วครับ เพราะโอไปสบายแล้วครับ
*****ตอนเช้าครับ ทางตำรวจได้ หาทางเข้าเจอ และพบศพของโอ และโครงกระดูก ต่างๆ จึงเก็บ มาทำพิธีต่อไปครับ แล้วก็เรื่องนี้ ได้ออกหนังสือพิมพ์ ซึ่งจำวันที่ไม่ได้แล้วครับ คือตายแปลกครับ เพราะอมถ้วยไว้ และทางตำรวจก็ได้ สำรวจไป พบว่าในบ้านพักที่พวกผมพักนั้น ใต้เตรียง พบศพชายแก่ ซึ่งเป็นกระดูกไปแล้วครับ ก็ไปสืบสวนกันต่อไป แล้วทำพิธีทางศาสนาต่างๆครับ
*****ขากลับ พวกผมก็ลองแวะไปถามๆ ดูครับก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย จนที่ร้านอาหารเล็กๆ ครับไม่ไกลจากที่นั่นมาก ก็ถามคนขาย คนขายก็บอกว่าเคยได้ยินอยู่ เดี๋ยวเรียกให้ปู่ทวดมาเล่าให้ฟังครับ ปู่นี่แก่มากครับ ก็เล่าว่า เมื่อก่อน บ้านหลังนั้นเคยเป็นบ้านเศรษฐีที่รวยมาก แล้วปลูกบ้านไว้สวยมาก แต่แต่งงานแล้ว แต่แกแอบมาปลูกบ้านที่นี้และมีเมียน้อย บ้านพักอีกหลังก็คือบ้านของเมียน้อยแกครับ (คาดว่าจะเป็นผญ ยิ้ม) ส่วนตอนแรกบ้านข้างล่างยังไม่มี มีบ้านแค่2หลัง พอเมียหลวงจับได้ก็เเกิดอะไรขึ้นไม่มีใครรู้ครับ ต่อมา ที่ตรงนั้นก็ เป็นของป้าแก่ๆ กับลูกสาวอีกคน ลูกสาวทำงานอยู่ในกรุงเทพ เลยทำบ้าน2หลังนั้นเป็นบ้านพัก แล้วให้ป้าซึ่งไม่รู้เป้นอะไรกัน เฝ้าไว้อยู่ ต่อมามีวัยรุ่นมาพัก ก็เกิดเหตุไฟไหมบ้านของเมียน้อย ไม่มีใครพบวัยรุ่นเลย แม้แต่ศพ แล้วก็ไม่ีมีใครพบศพของเมียน้อยหรือลุงเศรษฐีเลย ซึ่งงแปลกมาก แล้วศาลตรงนั้นเจ้าที่แรงมากๆครับ แล้วก็ไม่มีใครรู้เรื่องอะไรเลย จนผ่านมาถึงพวกผมนี้แหละครับ <<<<<ส่วนกระเป๋าของโอที่หายไปครับ ประมาณ30วันต่อมาก็มีคนไปพบอยู่แถวๆภูเขาครับ เหมือนจะเป็นคนไปเก็บของป่าขายเก็บมาได้ ในกระเป๋าพบไม่มีของๆโอเลยเสื้อผ้าไม่มีเลยครับ มีแต่ ฤาษีที่อยู่ในศาลที่หายไปครับ >>>>> ฝากแชร์ให้คนที่อยากอ่านด้วยครับ อ่านจบละมาเล่าให้ฟังด้วยนะน่ากลัวมั้ย (เรื่องมีต่อนะแต่ขอตัดจบครับเพราะมีพวกไม่เชื่อแล้วลบหลู่เพื่อนผม ทำให้ผมไม่อยากเล่าต่อ)
ตอนจบ บ้านพักบนภูเขา (ดราม่าไม่ต้องเข้ามาบอกละนะ สำหรับคนอยากอ่าน)
ปล ครับ ใครที่จะดราม่า จะจับผิดจะด่าหรืออะไร ถ้ามี ก็จะลบครับ จบนะ ^^
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้