มาแล้วววว....ตอนที่ 2 ของทริปพม่า 7 เมือง 8 วัน ส่วนตอนนี้ เราจะมารีวิว เมืองบากัน (Bagan) หรือที่เราเรียกว่า พุกามนั่นแหละ
ถ้าไม่อยากพลาดความฟินจากเมืองมัณฑะเลย์ หรือวิธีการเตรียมตัวแบกเป้เที่ยวพม่า ย้อนกลับไปอ่านตอนแรกก่อนได้
ตอนที่ 1 >> มัณฑะเลย์ - พุกาม :
http://pantip.com/topic/34675790
ต่อจากตอนที่ 1 ที่บอกเอาไว้ว่า ถ้าจะมาพุกาม จากเมืองมัณฑะเลย์ แนะนำให้นั่งรถบัสของค่าย OK รถจะมารับเราที่โรงแรม ที่เรา booking ticket เอาไว้
รถบัสของค่ายนี้จะมี 2 รอบ คือ 15.30 และ 17.30 อยู่ที่ราคาหัวละ 9,000 จ๊าด บัสจะจอดให้เข้าห้องน้ำ ทานอาหาร 1 รอบ ประมาณ 15 นาที แต่ควรกินให้อิ่มก่อนถึงท่ารถจอด จะดีกว่า เพราะเชื่อว่าไม่ค่อยมีอาหารถูกใจเราแน่ๆ ส่วนห้องน้ำ เป็นส้วมหลุมเล็กๆ น่ารัก งานทิชชู่เปียกก็ต้องมา ฮ่าๆๆๆ.....การนั่งบัสไป ก็ไม่นานมาก ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 5 ชั่วโมงในการเดินทางถึงเมืองพุกาม
เตรียมตัวก่อนไปพุกาม (Bagan)
1.เสื้อกันหนาวใส่ช่วงเดินทาง
2.ถ้าติดช่วงเทศกาลของฝรั่ง หาโรงแรมไว้หน่อยก็ดี เลือกที่พักฝั่งเมืองยองอู (ใกล้ Old Bagan) เที่ยวง่าย ในเมือง ถ้า New Bagan จะไกลเกินไป และไม่แน่ใจว่ารถ OK จะยอมไปส่งถึงหน้าโรงแรมมั้ย
3.เตรียมตัวพบกับความฟินของเมืองพุกาม
ในที่สุด เราก็มาถึงจุดที่นอนบนรถบัส ที่จอดอยู่ในอู่ ครั้งแรกในชีวิต ชอบหาโรงแรมหน้างานนักใช่มั๊ยยย.....โดนซะ JOURNEY รอบนี้เป็นการเปิดตัวเที่ยวเมืองพุกาม ที่สะใจมาก....
รถบัส OK ตอนออกจากเมืองมัณฑะเลย์ พนักงานบนบัส ก็มาเช็คชื่อ ตรวจตั๋ว เข้ามาถามโรงแรมที่จะลงกับเรา จะได้ไปส่งถูก เค้ามาถามเรา เราบอกว่า ไม่มีโรงแรม นางเลยบอกว่า โอเค เดี๋ยวพาไปหานะ แค่ตอนนั้นก็รู้สึกโอเคมากแล้ว ที่ไม่ต้องเดินหาโรงแรมตอนมืด
เวลา 3 ทุ่มกว่า...อยู่ดีๆ เพลงในรถก็ดังขึ้น เป็นเพลงแบบเหมือนเราสมัยเด็กๆ มีแต่ทำนอง ปลุกให้เราตื่นแบบน่ารักๆ
พี่โชว์เฟอร์ก็จะไล่จอดตามโรงแรม ที่แต่ละคนบอกเอาไว้ ตอนที่วนส่งคนของแต่ละโรงแรม พนักงานรถก็ลงไปถามให้ ว่ามีห้องว่างมั้ย ผ่านไป 10 โรงแรม วิ่งขึ้นมา ส่ายหัวบอกว่า FULL ห๊ะ......ส่งจอดจนครบ จนเหลือแค่เรา 2 คนกับเพื่อนในรถ คนขับก็ดีมาก พยามหาให้จนสุด ใช้เวลาหาประมาณ 1 ชั่วโมง วนไปวนมา ทางก็มืดมาก
จนในที่สุด พนักงานเค้าก็บอกว่า “จะโอเคมั้ยยยยยย ถ้านอนในรถที่อู่” ตอนนั้นใจคิด ยังแอบหวังเล็กๆ ว่ามันต้องมีดิวะ โรงแรมอ่ะ อะไรจะซวยขนาดนั้น แต่อีกใจก็เอาวะ พยักหน้า แล้วตอบว่า โอเค ไปก่อน ดีกว่าไม่มีที่นอน
แล้วสุดท้าย บัสก็ไปจอดที่อู่ พนักงานก็บอกว่านอนในรถนะ ลงไปเข้าห้องน้ำก่อนได้ ข้างในออฟฟิศของ OK ตอนที่เราเข้าห้องน้ำเพื่อนยืนเฝ้าอยู่หน้าห้อง อยู่ดีๆ มีผู้ชายคนนึงเดินมาถามเพื่อนเราว่า “Where you come from?” (ได้ยินจากในห้องน้ำ) ตอบไปว่า “Thailand” แบบอึกๆ อักๆ เพราะตอนที่ไปเป็นช่วงที่ไทย-พม่า กำลังมีปัญหากันเรื่องเกาะเต่า
“อ้าวววววว.....คนไทยหรอครับ” สวัสดีครับ นี่ไม่มีที่นอนเหมือนกันหรอครับ ผมก็เหมือนกัน แล้วก็นอนในอู่รถนี่เหมือนกัน นี่ผมมารถรอบตั้งแต่ 15.30 แล้ว มาถึงตั้งแต่ทุ่มกว่าๆ วนรถหาโรงแรม 2 ชั่วโมงกว่าแล้ว สุดท้ายก็มานอนนี่ตามเดิม ส่วนพี่แกได้นอนในตึกที่เต็มไปด้วยพนักงานของอู่บัส OK และบนเก้าอี้เหล็กเย็นๆ
เราเลยคุยกันว่า เดี๋ยวตอนเช้า เราหาแท๊กซี่เข้าไปในเมืองยองอูด้วยกัน แยกย้ายกันไปนอน พี่เค้านอนในตึก เราได้นอนในบัส OK ตอนแรก ก็ว่าโอเคนะ พนักงานก็โคดดดดดดด...ใจดีเลย สอนวิธีเปิดปิดประตูแบบรถเมล์ กดปุ่มนี้นะยูวววว โน่นนี่ เอากุญแจไว้นะ แล้วล็อคเอา สรุปว่า นางยกรถคันนี้ให้คืนนี้ พร้อมทั้งกุญแจจ้า หึ....รู้งี้นะจะเอาไปขับเล่นซะเลย
ที่ Bagan อากาศค่อนข้างเย็น ตอนกลางคืนประมาณ 12-13 องศาได้ แล้วยิ่งนอนในบัสแบบเบาะหลังสุด กับเบาะ 2 คน พูดเลยว่าคืนนั้นแทบไม่ได้นอน ต้องนั่งนอน แล้วอากาศก็เย็นมาก หนาวมากจนไม่รู้จะพูดยังไง ไม่มีผ้าห่ม ไม่รู้ทำไม ในรถมันเย็นขนาดนี้ แต่ก็อั้นจนสุดมาตอนเช้าจนได้ แต่ยังไงก็ขอบคุณรถค่ายโอเค ที่ทำให้เรามีที่ซุกหัวนอน
#day 3 in Myanmar : Bagan นอนในอู่รถทั้งคืน นั้นฟินกว่าที่ไหนๆ
06.00 : พี่ผู้ชายคนไทย มาเคาะเรียกที่รถ บอกว่าเข้าเมืองด้วยกันมั๊ย.....เดี๋ยวเหมาแท๊กซี่ไปกัน เดี๋ยวพี่ไปรอร้านกาแฟตรงข้าม
ผ่านไป 15 นาที...หลังจากที่พวกเราแนะนำตัว รู้จักคนที่ตกอยู่ในสภาพเดียวกันไปแล้ว ก็คุยกันถูกคอ ขอเรียกพี่เค้าตามชื่อว่า พี่เษม ก็แล้วกัน และแล้วก็มีคนพม่า เดินเข้ามาถามว่า TAXI ไหม??
เรา 3 คนตั้งใจจะเข้าไปในเมืองยองอูอยู่แล้ว อย่างแรกคือหาที่พัก คืนนี้จะไม่ยอมนอนในอู่รถอีกต่อไปแล้ว ต่อราคากันอยู่ 4 รอบ จนคนขับแท็กซี่ เดินไปเดินมา จนเรายอม เพราะเค้าก็ไม่ยอมลดราคาเหมือนกัน พีแท็กซี่แกก็พาไปจ่ายค่าผ่านเข้าเมือง 13,500 จ๊าดต่อหัว แล้วก็เก็บรักษาเอาไว้ให้ดี เอาไว้ยื่นเผื่อเค้าสุ่มตรวจ หรือเป็นบัตรแทนค่าเข้าตามที่ท่องเที่ยวเจดีย์ต่างๆ
แท็กซี่ส่งในเมือง พวกเราเลือกลงเดินหาที่พัก ระหว่างทาง หาไปด้วยก็เก็บความทรงจำของเช้าวันนี้ซะหน่อย ให้คุ้มค่ากับการนอนหนาวในอู่รถ
ในที่สุด คืนนี้เราก็จะมีที่นอน อยู่ใจกลางเมืองยองอู ใกล้ร้านอาหาร ใกล้ที่เช่า e-bike ถือว่าเดินดึกๆ ก็ยังไม่น่ากลัวเลยแหละ ใครที่ไม่ค่อยเรื่องมาก ที่นี่ก็โอเคอยู่นะ “pyinsa rupa guest house” มีแอร์ มีเครื่องทำน้ำอุ่น พร้อมอาหารเช้า นอนได้ 2 คน ราคา 30 USD ส่วนพี่เษม ที่เจอชะตากรรมเดียวกัน แกเลือกไปนอนอีกที่ในราคา 1 คน “Grand Empire” แต่ห้องจะค่อนข้างเล็กนิดนึง
เอาล่ะ หลังจากได้ห้องพักแล้ว ก็ถามที่เกสต์เฮาส์เรื่องตั๋วรถที่จะไปอินเลในวันรุ่งขึ้นได้เลย มันจะมีรถให้เลือกว่าเป็นธรรมดา หรือว่า VIP เราเลือกแบบธรรมดาไป (11,000 จ๊าด) เพราะสภาพน่าจะไม่ต่างกันมาก ถ้าแบบ VIP (18,000 จ๊าด)
เมืองพุกามนี้ แนะนำว่าอยู่สัก 2 วัน ก็ได้ดูพระอาทิตย์ตกดิน กับพระอาทิตย์ขึ้น เราเลยเช่า e-bike ตั้งแต่เที่ยงวัน ยันเย็นวันรุ่นขึ้น (1 วันครึ่ง) มันจะมีราคาแบบขี่คนเดียว (8,000 จ๊าด) หรือแบบมีคนซ้อน คันก็จะใหญ่ขึ้น (12,000 จ๊าด) ก็เหมาเค้าไปเลย ถ้าเราเป็นนักท่องเที่ยว เค้าจะไม่ให้ขี่มอไซค์นะ มันเป็นกฏหมายของเค้า เราเลยได้ขี่ e-bike มันก็คือจักรยานมอเตอร์ไฟฟ้านั่นแหละ ถ้าเช่าข้ามวัน ถ้าไม่ได้เที่ยวแล้ว ขับกลับไปจอดที่ร้าน ให้เค้าชาร์จไฟนะ เดี๋ยววันรุ่งขึ้นไปออกทริปเจดีย์ แล้วจะงานเข้าเอานะ
อาบน้ำแต่งตัวให้สะใจ กินข้าวให้แน่นท้อง ได้เวลาออกตะลุยเมืองแห่งเจดีย์ด้วย e-bike กันแล้ว
[CR] รีวิวแบกเป้เที่ยว “พม่า” ตอนพุกาม ยิ่งกว่าฟิน ไม่ไปแล้วจะเสียใจ ตอนที่ 2 by JOURNEY เจอนี่....
ถ้าไม่อยากพลาดความฟินจากเมืองมัณฑะเลย์ หรือวิธีการเตรียมตัวแบกเป้เที่ยวพม่า ย้อนกลับไปอ่านตอนแรกก่อนได้
ตอนที่ 1 >> มัณฑะเลย์ - พุกาม : http://pantip.com/topic/34675790
ต่อจากตอนที่ 1 ที่บอกเอาไว้ว่า ถ้าจะมาพุกาม จากเมืองมัณฑะเลย์ แนะนำให้นั่งรถบัสของค่าย OK รถจะมารับเราที่โรงแรม ที่เรา booking ticket เอาไว้
รถบัสของค่ายนี้จะมี 2 รอบ คือ 15.30 และ 17.30 อยู่ที่ราคาหัวละ 9,000 จ๊าด บัสจะจอดให้เข้าห้องน้ำ ทานอาหาร 1 รอบ ประมาณ 15 นาที แต่ควรกินให้อิ่มก่อนถึงท่ารถจอด จะดีกว่า เพราะเชื่อว่าไม่ค่อยมีอาหารถูกใจเราแน่ๆ ส่วนห้องน้ำ เป็นส้วมหลุมเล็กๆ น่ารัก งานทิชชู่เปียกก็ต้องมา ฮ่าๆๆๆ.....การนั่งบัสไป ก็ไม่นานมาก ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 5 ชั่วโมงในการเดินทางถึงเมืองพุกาม
เตรียมตัวก่อนไปพุกาม (Bagan)
1.เสื้อกันหนาวใส่ช่วงเดินทาง
2.ถ้าติดช่วงเทศกาลของฝรั่ง หาโรงแรมไว้หน่อยก็ดี เลือกที่พักฝั่งเมืองยองอู (ใกล้ Old Bagan) เที่ยวง่าย ในเมือง ถ้า New Bagan จะไกลเกินไป และไม่แน่ใจว่ารถ OK จะยอมไปส่งถึงหน้าโรงแรมมั้ย
3.เตรียมตัวพบกับความฟินของเมืองพุกาม
ในที่สุด เราก็มาถึงจุดที่นอนบนรถบัส ที่จอดอยู่ในอู่ ครั้งแรกในชีวิต ชอบหาโรงแรมหน้างานนักใช่มั๊ยยย.....โดนซะ JOURNEY รอบนี้เป็นการเปิดตัวเที่ยวเมืองพุกาม ที่สะใจมาก....
รถบัส OK ตอนออกจากเมืองมัณฑะเลย์ พนักงานบนบัส ก็มาเช็คชื่อ ตรวจตั๋ว เข้ามาถามโรงแรมที่จะลงกับเรา จะได้ไปส่งถูก เค้ามาถามเรา เราบอกว่า ไม่มีโรงแรม นางเลยบอกว่า โอเค เดี๋ยวพาไปหานะ แค่ตอนนั้นก็รู้สึกโอเคมากแล้ว ที่ไม่ต้องเดินหาโรงแรมตอนมืด
เวลา 3 ทุ่มกว่า...อยู่ดีๆ เพลงในรถก็ดังขึ้น เป็นเพลงแบบเหมือนเราสมัยเด็กๆ มีแต่ทำนอง ปลุกให้เราตื่นแบบน่ารักๆ
พี่โชว์เฟอร์ก็จะไล่จอดตามโรงแรม ที่แต่ละคนบอกเอาไว้ ตอนที่วนส่งคนของแต่ละโรงแรม พนักงานรถก็ลงไปถามให้ ว่ามีห้องว่างมั้ย ผ่านไป 10 โรงแรม วิ่งขึ้นมา ส่ายหัวบอกว่า FULL ห๊ะ......ส่งจอดจนครบ จนเหลือแค่เรา 2 คนกับเพื่อนในรถ คนขับก็ดีมาก พยามหาให้จนสุด ใช้เวลาหาประมาณ 1 ชั่วโมง วนไปวนมา ทางก็มืดมาก
จนในที่สุด พนักงานเค้าก็บอกว่า “จะโอเคมั้ยยยยยย ถ้านอนในรถที่อู่” ตอนนั้นใจคิด ยังแอบหวังเล็กๆ ว่ามันต้องมีดิวะ โรงแรมอ่ะ อะไรจะซวยขนาดนั้น แต่อีกใจก็เอาวะ พยักหน้า แล้วตอบว่า โอเค ไปก่อน ดีกว่าไม่มีที่นอน
แล้วสุดท้าย บัสก็ไปจอดที่อู่ พนักงานก็บอกว่านอนในรถนะ ลงไปเข้าห้องน้ำก่อนได้ ข้างในออฟฟิศของ OK ตอนที่เราเข้าห้องน้ำเพื่อนยืนเฝ้าอยู่หน้าห้อง อยู่ดีๆ มีผู้ชายคนนึงเดินมาถามเพื่อนเราว่า “Where you come from?” (ได้ยินจากในห้องน้ำ) ตอบไปว่า “Thailand” แบบอึกๆ อักๆ เพราะตอนที่ไปเป็นช่วงที่ไทย-พม่า กำลังมีปัญหากันเรื่องเกาะเต่า
“อ้าวววววว.....คนไทยหรอครับ” สวัสดีครับ นี่ไม่มีที่นอนเหมือนกันหรอครับ ผมก็เหมือนกัน แล้วก็นอนในอู่รถนี่เหมือนกัน นี่ผมมารถรอบตั้งแต่ 15.30 แล้ว มาถึงตั้งแต่ทุ่มกว่าๆ วนรถหาโรงแรม 2 ชั่วโมงกว่าแล้ว สุดท้ายก็มานอนนี่ตามเดิม ส่วนพี่แกได้นอนในตึกที่เต็มไปด้วยพนักงานของอู่บัส OK และบนเก้าอี้เหล็กเย็นๆ
เราเลยคุยกันว่า เดี๋ยวตอนเช้า เราหาแท๊กซี่เข้าไปในเมืองยองอูด้วยกัน แยกย้ายกันไปนอน พี่เค้านอนในตึก เราได้นอนในบัส OK ตอนแรก ก็ว่าโอเคนะ พนักงานก็โคดดดดดดด...ใจดีเลย สอนวิธีเปิดปิดประตูแบบรถเมล์ กดปุ่มนี้นะยูวววว โน่นนี่ เอากุญแจไว้นะ แล้วล็อคเอา สรุปว่า นางยกรถคันนี้ให้คืนนี้ พร้อมทั้งกุญแจจ้า หึ....รู้งี้นะจะเอาไปขับเล่นซะเลย
ที่ Bagan อากาศค่อนข้างเย็น ตอนกลางคืนประมาณ 12-13 องศาได้ แล้วยิ่งนอนในบัสแบบเบาะหลังสุด กับเบาะ 2 คน พูดเลยว่าคืนนั้นแทบไม่ได้นอน ต้องนั่งนอน แล้วอากาศก็เย็นมาก หนาวมากจนไม่รู้จะพูดยังไง ไม่มีผ้าห่ม ไม่รู้ทำไม ในรถมันเย็นขนาดนี้ แต่ก็อั้นจนสุดมาตอนเช้าจนได้ แต่ยังไงก็ขอบคุณรถค่ายโอเค ที่ทำให้เรามีที่ซุกหัวนอน
#day 3 in Myanmar : Bagan นอนในอู่รถทั้งคืน นั้นฟินกว่าที่ไหนๆ
06.00 : พี่ผู้ชายคนไทย มาเคาะเรียกที่รถ บอกว่าเข้าเมืองด้วยกันมั๊ย.....เดี๋ยวเหมาแท๊กซี่ไปกัน เดี๋ยวพี่ไปรอร้านกาแฟตรงข้าม
ผ่านไป 15 นาที...หลังจากที่พวกเราแนะนำตัว รู้จักคนที่ตกอยู่ในสภาพเดียวกันไปแล้ว ก็คุยกันถูกคอ ขอเรียกพี่เค้าตามชื่อว่า พี่เษม ก็แล้วกัน และแล้วก็มีคนพม่า เดินเข้ามาถามว่า TAXI ไหม??
เรา 3 คนตั้งใจจะเข้าไปในเมืองยองอูอยู่แล้ว อย่างแรกคือหาที่พัก คืนนี้จะไม่ยอมนอนในอู่รถอีกต่อไปแล้ว ต่อราคากันอยู่ 4 รอบ จนคนขับแท็กซี่ เดินไปเดินมา จนเรายอม เพราะเค้าก็ไม่ยอมลดราคาเหมือนกัน พีแท็กซี่แกก็พาไปจ่ายค่าผ่านเข้าเมือง 13,500 จ๊าดต่อหัว แล้วก็เก็บรักษาเอาไว้ให้ดี เอาไว้ยื่นเผื่อเค้าสุ่มตรวจ หรือเป็นบัตรแทนค่าเข้าตามที่ท่องเที่ยวเจดีย์ต่างๆ
แท็กซี่ส่งในเมือง พวกเราเลือกลงเดินหาที่พัก ระหว่างทาง หาไปด้วยก็เก็บความทรงจำของเช้าวันนี้ซะหน่อย ให้คุ้มค่ากับการนอนหนาวในอู่รถ
ในที่สุด คืนนี้เราก็จะมีที่นอน อยู่ใจกลางเมืองยองอู ใกล้ร้านอาหาร ใกล้ที่เช่า e-bike ถือว่าเดินดึกๆ ก็ยังไม่น่ากลัวเลยแหละ ใครที่ไม่ค่อยเรื่องมาก ที่นี่ก็โอเคอยู่นะ “pyinsa rupa guest house” มีแอร์ มีเครื่องทำน้ำอุ่น พร้อมอาหารเช้า นอนได้ 2 คน ราคา 30 USD ส่วนพี่เษม ที่เจอชะตากรรมเดียวกัน แกเลือกไปนอนอีกที่ในราคา 1 คน “Grand Empire” แต่ห้องจะค่อนข้างเล็กนิดนึง
เอาล่ะ หลังจากได้ห้องพักแล้ว ก็ถามที่เกสต์เฮาส์เรื่องตั๋วรถที่จะไปอินเลในวันรุ่งขึ้นได้เลย มันจะมีรถให้เลือกว่าเป็นธรรมดา หรือว่า VIP เราเลือกแบบธรรมดาไป (11,000 จ๊าด) เพราะสภาพน่าจะไม่ต่างกันมาก ถ้าแบบ VIP (18,000 จ๊าด)
เมืองพุกามนี้ แนะนำว่าอยู่สัก 2 วัน ก็ได้ดูพระอาทิตย์ตกดิน กับพระอาทิตย์ขึ้น เราเลยเช่า e-bike ตั้งแต่เที่ยงวัน ยันเย็นวันรุ่นขึ้น (1 วันครึ่ง) มันจะมีราคาแบบขี่คนเดียว (8,000 จ๊าด) หรือแบบมีคนซ้อน คันก็จะใหญ่ขึ้น (12,000 จ๊าด) ก็เหมาเค้าไปเลย ถ้าเราเป็นนักท่องเที่ยว เค้าจะไม่ให้ขี่มอไซค์นะ มันเป็นกฏหมายของเค้า เราเลยได้ขี่ e-bike มันก็คือจักรยานมอเตอร์ไฟฟ้านั่นแหละ ถ้าเช่าข้ามวัน ถ้าไม่ได้เที่ยวแล้ว ขับกลับไปจอดที่ร้าน ให้เค้าชาร์จไฟนะ เดี๋ยววันรุ่งขึ้นไปออกทริปเจดีย์ แล้วจะงานเข้าเอานะ
อาบน้ำแต่งตัวให้สะใจ กินข้าวให้แน่นท้อง ได้เวลาออกตะลุยเมืองแห่งเจดีย์ด้วย e-bike กันแล้ว