สวัสดีดีครับ
วันนี้อยากจะมาแบ่งปัน ความรู้สึกที่ได้รับเชิญไปร่วมงาน Workshop ที่ปัตตานีครับ เพราะเพื่อนเป็นสถาปนิกอยู่ในพื้นที่
มันคงเป็นการ Workshop ทั่วไป ถ้าไม่ได้จัดที่ปัตตานี ......
แต่ครั้งนี้พิเศษกว่า เพราะในฐานะคนที่ไม่เคยมาเที่ยวจังหวัดนี้ คงหวั่นเล็กๆ เกี่ยวกับคราวคราวที่เกิดขึ้นตลอด 10 ปี ที่ผ่านมา
กับงาน "WORKSHOP การเลือกใช้วัสดุและเคมีภัณฑ์กับการปรับปรุงอาคาร" เมื่อวันเสาร์ที่ 19 มีนาคม 2559
สถานที่ ห้องแถวติดกับร้าน IN_T_AF จัดโดย กลุ่ม Melayu Living - ซึ่งเป็นการรวมตัวของกลุ่มสถาปนิกสามจังหวัดชายแดนใต้ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส
งานจัดแบบเรียบง่ายเป็นกันเอง โดยคนในพื้นที่ เพื่อคนในพื้นที่ โดยได้รับการสนับสนุน จากหน่วยงานต่างๆ
เพราะเท่าที่ทราบมา หลายๆครั้ง ที่มีการจัดงานอบรม หรือ Workshop เขาจะไปจัดกันที่ หาดใหญ่ ซึ่งคนในสามจังหวัด ก็อยากไปเข้าร่วม แต่ ก็ต้องเดินทางมาร่วมงานเอง เพราะไม่มีใครลงไปจัดกิจกรรมที่นั่น
แต่วันนี้ ด้วยพลัง และกำลังใจจากผองเพื่อน ทีมงานผู้จัด ออกปากเชิญ พร้อมให้ความมั่นใจ
จึงเป็นที่มาของการรวมพลังในการจัดการ และความประทับใจ ในทริปครั้งนี้ ขอพูดด้วยภาพนะครับ
นี่คือบริเวณลงทะเบียนที่ ใช้บ้านเก่า ที่ผนัง และโครงสร้าง ค่อนข้างมีอายุ แต่แผงด้วยด้วยเสน่ห์ ของ ร่องรอยบนพื้นผนังที่ผ่านกาลเวลา
จัดขึ้นแบบเรียบง่าย โดยใช้ถังเก่ามาทาสีใหม่ คุมโทนสีขาว เทา เพื่อเข้ากับบรรยากาศ
เดินเข้ามาในงานทุกคนให้การต้อนรับและรอยยิ้ม อย่างเป็นกันเอง
เดินเข้ามาภายใน จะพบกับ ห้องสัมมนา ที่ใช้ผืนผ้าสีขาว ในการกั้นพื้นที่ใช้สอย ทำเป็นห้องสัมมนาแบบ Open Air ให้ความรู้สึกเป็นกันเองเหมือนอยู่บ้านที่อบอุ่นด้วยกัน
น้ำเย็นๆไว้ต้อนรับแขกที่เข้ามาร่วมงาน
เสื้อที่ระลึก ที่ออกแบบเป็นโลโก้รูปสามเหลี่ยมโค้งมน แทนสามจังหวัด ที่มีความเคลื่อนไหว และสอดผสานกัน ขายแค่ตัวละ 160 บาท
ซึ่งราคานี้ ผมเข้าใจว่า ให้ซื้อไว้ เป็นที่ระลึก จะได้นึกถึงกัน เพราะราคาไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับ คุณภาพและความตั้งใจของทีมงานในการแพคทีละชิ้นอย่างตั้งใจ
ตอนมาแรกๆ ทีมงานยังคงยุ่งอยู่กับการเขียนขอบคุณ แขกที่มาร่วมงาน และผู้สนับสนุน
เขียนเอง ตกแต่งเอง แบบเรียบง่าย แต่ให้ความรู้สึก เขาขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานจริงๆ
โต้ะแสดง สินค้า ของผู้สนับสนุน ที่ใช้อิฐบล๊อค วางเรียงกัน แล้ว ใช้วีว่าบอร์ด ปู , เพิ่มความสดชื่นด้วย ต้นไม้แขวน และหลอดไฟที่ตกแต่งแบบเรียบๆ แต่มีจังหวะ
เมื่อคนเริ่มมากันครบ การ Workshop จึงเริ่มขึ้น
เริ่มจากบ.วิบูลย์วัฒนอุตสาหกรรม และ บ.สยามคลาสสิก ที่นำผลิตภัณฑ์ VIVA Board มาเป็นทางเลือกในการตกแต่งบ้าน ที่สามารถใช้ได้บริเวณ พื้น ผนัง และฝ้า ติดตั้งและดูแลรักษาง่าย และช่วยเก็บเสียง ที่สำคัญราคาไม่แพง ได้รับความสนใจจากผู้ร่วมอบรมอย่างมาก
ต่อด้วยบ. ทีโอเอ ที่นำสินค้าเคมีภัณฑ์ก่อสร้าง และสีตกแต่งพิเศษ Supershield Decor นำมาแสดงในงานนี้
และบ. VC Fabric ที่นำ ผ้าม่านสวยๆ มาโชว์ภายในงานด้วย มี 3 Collection ใหม่ ที่ลายหรูหรามากๆครับ
ของว่างเป็นขนมพื้นเมือง ที่หากินที่นี่ที่เดียว พร้อม ชา กาแฟ ที่เป็นเมนู Signature ของร้าน IN_T_AF
เติมพลังกันเสร็จเรียบร้อยก็ ได้เวลา WorkShop จริงจัง
ทีมงาน VIVA Board สาธิตการติดตั้ง VIVA Board แบบง่ายๆ ที่ทำได้เอง ให้กับผู้ร่วมอบรมลองติดตั้ง
ใช้พื้นที่ลานดินหลังบ้าน ริมแม่น้ำ ใต้ร่มเงาไม้
ต่อด้วย Workshop Supershield Decor สีสร้างลวดลายแทน Wallpaper ที่ทนกว่า ราคาไม่แพง และไม่มีเชื้อรา
ทุกคนที่ร่วม Workshop ได้ผ้ากันเปื้อน กลับบ้านเป็นที่ระลึกด้วย
หลังจบงานมีปาร์ตี้ ไก่กอและ(ฆอและ) ข้าวยำ อาหารพื้นเมือง ที่อร่อยมากกกกกกกกกกก กินคู่กัน ฟินสุดๆ
แต่ะคนเติมกันสองรอบสามรอบ เพราะเครื่องแกง เข้าเนื้อ ไก่ก็เหนียวหนุ่ม ย่างด้วยเตาถ่าน เหมือนมาปาร์ตี้บาร์บีคิว บ้านเพื่อน
แต่สารภาพผิดจริงๆ ว่าลืมถ่ายภาพมาฝาก เพราะ มัวแต่เพลินกับไก่อยู่ ยังไงจะเอามาฝากคราวหน้านะครับ
ผมได้มีโอกาสคุยกับเจ้าภาพเล็กน้อยเกี่ยวกับงาน เขาบอกว่า อยากจัดงานแบบเรียบง่าย ที่สะท้อนตัวตนของและเสน่ห์ของปัตตานี
เพราะจัดที่โรงแรมก็จัดได้ แต่ก็จะเหมือนงานนสัมมนาทั่วไป เขาอยากให้ทุกคนเป็นกันเอง เหมือนอยู่บ้านตัวเอง เหมือนมาบ้านเพื่อน
แล้วเพื่อนทำขนม ทำกับข้าวให้กินกันแบบสบายๆ อาหารก็ใช้อาหารพื้นบ้านที่เราคุ้นเคย แบบนี้ได้อารมณ์ความรู้สึกมากกว่า
.....ผมเห็นด้วยอย่างเต็มที่ สิ่งที่เจ้าภาพตั้งใจจัด ประสบความสำเร็จ เพราะผมรู้สึกเป็นกันเองและปลอดภัย....เหมือนมาบ้านเพื่อนจริงๆ
จบงานก็มานั่งชิลล์กินชามะนาว กาแฟ และไก่บอนชอนสูตรพิเศษต่อที่ร้าน กาแฟข้างๆ
ที่ใครผ่านมาแถวนี้ แนะนำ ไข่กระทะ และไก่บอนชอน และน้ำมะม่วงเบาปั่นครับ (ลูกค้าบางคนอาจต้องสั่งล่วงหน้า)
ก่อนกลับ ผมได้เงยหน้าขึ้นไปมองต้นไม้ในบ้านที่ถูกทิ้งร้างมานาน ก่อนจะถูกเปลี่ยนสภาพเป็นสถานที่จัดงานนี้
ต้นไม้ต้นนี้ ไม่มีคนดูแลรดน้ำ แต่ก็ยังคงมีรากแก้วแข็งแรง มีมีกิ่งก้านเถาวัลที่เชื่อมโยงกันมากมาย ใบไม้อาจจะเล็กไปหน่อย
แต่ยังสามารถให้ร่มเงาคนที่มาเยี่ยมบ้านหลังนี้ และยืนต้นอยู่อย่างสง่างาม ผมรู้สึกผูกพันธ์กับต้นไม้ต้นนี้อย่างประหลาด
เพราะเป็นต้นไม้ที่แผ่กิ่งก้านสาขา เหมือนจะโอบอุ้มแขกทุกคนที่มาเยือน ให้รู้สึกร่มเย็น ปลอดภัย เหมือนกับต้นไม้ที่สวนบ้านผมเช่นกัน
ผมได้พบเพื่อนใหม่มากมาย และได้เห็นรอยยิ้มของคนที่นั่น ที่ดีใจเวลามีคนไปเยี่ยม เหมือนเพื่อนพี่น้องที่ไม่ได้เจอกันนาน
ผมถ่ายรูปเป็นที่ระลึก....กล่าวลา เพื่อนใหม่ของผม และสัญญาว่าจะมาเยี่ยมอีกครั้ง....
"..... มาหลายๆครั้งก็ได้ ที่นี่ยินดีตอนรับเสมอ เดี่ยวเราจะพาไปเที่ยว มีที่เที่ยวสวยๆเยอะ อาหารอร่อย...." เพื่อนใหม่ของผมกล่าว
ผมยิ้มพร้อมโบกมือให้อีกครั้ง ......
......จนกว่าเราจะพบกันใหม่.....ปัตตานี
*แก้ไขตัวสะกดผิด
1 DAY TRIP ปัตตานี กับ กิจกรรม WORKSHOP .... ที่ได้มากกว่า Workshop
วันนี้อยากจะมาแบ่งปัน ความรู้สึกที่ได้รับเชิญไปร่วมงาน Workshop ที่ปัตตานีครับ เพราะเพื่อนเป็นสถาปนิกอยู่ในพื้นที่
มันคงเป็นการ Workshop ทั่วไป ถ้าไม่ได้จัดที่ปัตตานี ......
แต่ครั้งนี้พิเศษกว่า เพราะในฐานะคนที่ไม่เคยมาเที่ยวจังหวัดนี้ คงหวั่นเล็กๆ เกี่ยวกับคราวคราวที่เกิดขึ้นตลอด 10 ปี ที่ผ่านมา
กับงาน "WORKSHOP การเลือกใช้วัสดุและเคมีภัณฑ์กับการปรับปรุงอาคาร" เมื่อวันเสาร์ที่ 19 มีนาคม 2559
สถานที่ ห้องแถวติดกับร้าน IN_T_AF จัดโดย กลุ่ม Melayu Living - ซึ่งเป็นการรวมตัวของกลุ่มสถาปนิกสามจังหวัดชายแดนใต้ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส
งานจัดแบบเรียบง่ายเป็นกันเอง โดยคนในพื้นที่ เพื่อคนในพื้นที่ โดยได้รับการสนับสนุน จากหน่วยงานต่างๆ
เพราะเท่าที่ทราบมา หลายๆครั้ง ที่มีการจัดงานอบรม หรือ Workshop เขาจะไปจัดกันที่ หาดใหญ่ ซึ่งคนในสามจังหวัด ก็อยากไปเข้าร่วม แต่ ก็ต้องเดินทางมาร่วมงานเอง เพราะไม่มีใครลงไปจัดกิจกรรมที่นั่น
แต่วันนี้ ด้วยพลัง และกำลังใจจากผองเพื่อน ทีมงานผู้จัด ออกปากเชิญ พร้อมให้ความมั่นใจ
จึงเป็นที่มาของการรวมพลังในการจัดการ และความประทับใจ ในทริปครั้งนี้ ขอพูดด้วยภาพนะครับ
นี่คือบริเวณลงทะเบียนที่ ใช้บ้านเก่า ที่ผนัง และโครงสร้าง ค่อนข้างมีอายุ แต่แผงด้วยด้วยเสน่ห์ ของ ร่องรอยบนพื้นผนังที่ผ่านกาลเวลา
จัดขึ้นแบบเรียบง่าย โดยใช้ถังเก่ามาทาสีใหม่ คุมโทนสีขาว เทา เพื่อเข้ากับบรรยากาศ
เดินเข้ามาในงานทุกคนให้การต้อนรับและรอยยิ้ม อย่างเป็นกันเอง
เดินเข้ามาภายใน จะพบกับ ห้องสัมมนา ที่ใช้ผืนผ้าสีขาว ในการกั้นพื้นที่ใช้สอย ทำเป็นห้องสัมมนาแบบ Open Air ให้ความรู้สึกเป็นกันเองเหมือนอยู่บ้านที่อบอุ่นด้วยกัน
น้ำเย็นๆไว้ต้อนรับแขกที่เข้ามาร่วมงาน
เสื้อที่ระลึก ที่ออกแบบเป็นโลโก้รูปสามเหลี่ยมโค้งมน แทนสามจังหวัด ที่มีความเคลื่อนไหว และสอดผสานกัน ขายแค่ตัวละ 160 บาท
ซึ่งราคานี้ ผมเข้าใจว่า ให้ซื้อไว้ เป็นที่ระลึก จะได้นึกถึงกัน เพราะราคาไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับ คุณภาพและความตั้งใจของทีมงานในการแพคทีละชิ้นอย่างตั้งใจ
ตอนมาแรกๆ ทีมงานยังคงยุ่งอยู่กับการเขียนขอบคุณ แขกที่มาร่วมงาน และผู้สนับสนุน
เขียนเอง ตกแต่งเอง แบบเรียบง่าย แต่ให้ความรู้สึก เขาขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานจริงๆ
โต้ะแสดง สินค้า ของผู้สนับสนุน ที่ใช้อิฐบล๊อค วางเรียงกัน แล้ว ใช้วีว่าบอร์ด ปู , เพิ่มความสดชื่นด้วย ต้นไม้แขวน และหลอดไฟที่ตกแต่งแบบเรียบๆ แต่มีจังหวะ
เมื่อคนเริ่มมากันครบ การ Workshop จึงเริ่มขึ้น
เริ่มจากบ.วิบูลย์วัฒนอุตสาหกรรม และ บ.สยามคลาสสิก ที่นำผลิตภัณฑ์ VIVA Board มาเป็นทางเลือกในการตกแต่งบ้าน ที่สามารถใช้ได้บริเวณ พื้น ผนัง และฝ้า ติดตั้งและดูแลรักษาง่าย และช่วยเก็บเสียง ที่สำคัญราคาไม่แพง ได้รับความสนใจจากผู้ร่วมอบรมอย่างมาก
ต่อด้วยบ. ทีโอเอ ที่นำสินค้าเคมีภัณฑ์ก่อสร้าง และสีตกแต่งพิเศษ Supershield Decor นำมาแสดงในงานนี้
และบ. VC Fabric ที่นำ ผ้าม่านสวยๆ มาโชว์ภายในงานด้วย มี 3 Collection ใหม่ ที่ลายหรูหรามากๆครับ
ของว่างเป็นขนมพื้นเมือง ที่หากินที่นี่ที่เดียว พร้อม ชา กาแฟ ที่เป็นเมนู Signature ของร้าน IN_T_AF
เติมพลังกันเสร็จเรียบร้อยก็ ได้เวลา WorkShop จริงจัง
ทีมงาน VIVA Board สาธิตการติดตั้ง VIVA Board แบบง่ายๆ ที่ทำได้เอง ให้กับผู้ร่วมอบรมลองติดตั้ง
ใช้พื้นที่ลานดินหลังบ้าน ริมแม่น้ำ ใต้ร่มเงาไม้
ต่อด้วย Workshop Supershield Decor สีสร้างลวดลายแทน Wallpaper ที่ทนกว่า ราคาไม่แพง และไม่มีเชื้อรา
ทุกคนที่ร่วม Workshop ได้ผ้ากันเปื้อน กลับบ้านเป็นที่ระลึกด้วย
หลังจบงานมีปาร์ตี้ ไก่กอและ(ฆอและ) ข้าวยำ อาหารพื้นเมือง ที่อร่อยมากกกกกกกกกกก กินคู่กัน ฟินสุดๆ
แต่ะคนเติมกันสองรอบสามรอบ เพราะเครื่องแกง เข้าเนื้อ ไก่ก็เหนียวหนุ่ม ย่างด้วยเตาถ่าน เหมือนมาปาร์ตี้บาร์บีคิว บ้านเพื่อน
แต่สารภาพผิดจริงๆ ว่าลืมถ่ายภาพมาฝาก เพราะ มัวแต่เพลินกับไก่อยู่ ยังไงจะเอามาฝากคราวหน้านะครับ
ผมได้มีโอกาสคุยกับเจ้าภาพเล็กน้อยเกี่ยวกับงาน เขาบอกว่า อยากจัดงานแบบเรียบง่าย ที่สะท้อนตัวตนของและเสน่ห์ของปัตตานี
เพราะจัดที่โรงแรมก็จัดได้ แต่ก็จะเหมือนงานนสัมมนาทั่วไป เขาอยากให้ทุกคนเป็นกันเอง เหมือนอยู่บ้านตัวเอง เหมือนมาบ้านเพื่อน
แล้วเพื่อนทำขนม ทำกับข้าวให้กินกันแบบสบายๆ อาหารก็ใช้อาหารพื้นบ้านที่เราคุ้นเคย แบบนี้ได้อารมณ์ความรู้สึกมากกว่า
.....ผมเห็นด้วยอย่างเต็มที่ สิ่งที่เจ้าภาพตั้งใจจัด ประสบความสำเร็จ เพราะผมรู้สึกเป็นกันเองและปลอดภัย....เหมือนมาบ้านเพื่อนจริงๆ
จบงานก็มานั่งชิลล์กินชามะนาว กาแฟ และไก่บอนชอนสูตรพิเศษต่อที่ร้าน กาแฟข้างๆ
ที่ใครผ่านมาแถวนี้ แนะนำ ไข่กระทะ และไก่บอนชอน และน้ำมะม่วงเบาปั่นครับ (ลูกค้าบางคนอาจต้องสั่งล่วงหน้า)
ก่อนกลับ ผมได้เงยหน้าขึ้นไปมองต้นไม้ในบ้านที่ถูกทิ้งร้างมานาน ก่อนจะถูกเปลี่ยนสภาพเป็นสถานที่จัดงานนี้
ต้นไม้ต้นนี้ ไม่มีคนดูแลรดน้ำ แต่ก็ยังคงมีรากแก้วแข็งแรง มีมีกิ่งก้านเถาวัลที่เชื่อมโยงกันมากมาย ใบไม้อาจจะเล็กไปหน่อย
แต่ยังสามารถให้ร่มเงาคนที่มาเยี่ยมบ้านหลังนี้ และยืนต้นอยู่อย่างสง่างาม ผมรู้สึกผูกพันธ์กับต้นไม้ต้นนี้อย่างประหลาด
เพราะเป็นต้นไม้ที่แผ่กิ่งก้านสาขา เหมือนจะโอบอุ้มแขกทุกคนที่มาเยือน ให้รู้สึกร่มเย็น ปลอดภัย เหมือนกับต้นไม้ที่สวนบ้านผมเช่นกัน
ผมได้พบเพื่อนใหม่มากมาย และได้เห็นรอยยิ้มของคนที่นั่น ที่ดีใจเวลามีคนไปเยี่ยม เหมือนเพื่อนพี่น้องที่ไม่ได้เจอกันนาน
ผมถ่ายรูปเป็นที่ระลึก....กล่าวลา เพื่อนใหม่ของผม และสัญญาว่าจะมาเยี่ยมอีกครั้ง....
"..... มาหลายๆครั้งก็ได้ ที่นี่ยินดีตอนรับเสมอ เดี่ยวเราจะพาไปเที่ยว มีที่เที่ยวสวยๆเยอะ อาหารอร่อย...." เพื่อนใหม่ของผมกล่าว
ผมยิ้มพร้อมโบกมือให้อีกครั้ง ......
......จนกว่าเราจะพบกันใหม่.....ปัตตานี
*แก้ไขตัวสะกดผิด