ตามหาคนที่บินเที่ยวเดียวกันตอนไปญี่ปุ่นค่ะ

เราบินวันที่ 7 มีนาคม 2559 ค่ะ จริงๆก็หลายวันมาแล้วเนาะ555555 (ตอนนี้วันนี้วันที่ 20 มีนาค่ะ) แต่มันคาใจเรามาก อยากหาให้เจอ5555555 คือพวกเค้ามาน่าจะ6-7คน เป็นเด็กวัยรุ่นผู้ชายใส่เสื้อสีขาวเกือบหมดเลย แล้วก็มีผู้หญิงรุ่นแม่คนนึงค่ะ ตอนนั้นน่าจะเวลาประมาณ5ทุ่มแล้ว แล้วที่เช็คอินมันเป็นที่เช็คอินรวมของคนจะไปญี่ปุ่นกับเกาหลี (TG642)ไอเราก็ภาวนาให้ไปญี่ปุ่นด้วยกันทีเถอะ.. (เอ้อแล้วถ้าเค้าไปจริงๆแล้วจะทำไรได้นะ5555555) แต่ยังไงก็อย่างน้อยได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันก็ยังดีเนาะ ตอนนั้นทุกอย่างดูติดขัดมาก ทั้งแม่เราเผลอเอาพาวเวอร์แบงค์ใส่ในกระเป๋าที่ต้องโหลด ต้องรื้ออกมา แล้วกว่าจะจัดเก็บเข้าไปได้ใหม่ กว่าพี่ที่เดินทางไปด้วยกันจะไปรับเอาวายฟายแบบพกพา นานมั่กมาก เราเองเลยคิดว่าคงคลาดกันแล้วแหละ

แต่พอมาถึงเกท มองลงไปปุ๊บ ในใจนี่กรี๊ดไปแล้วค่ะ แบบเฮ้ยยยยยยพวกเค้าไปญี่จริงๆด้วย แต่พอเดินผ่านกันจริงๆ เราเองก็ไม่กล้าสบตาค่ะ ได้แค่เดินผ่านไปเฉยๆ หึหึ พอตอนเข้าเครื่องก็ภาวนาให้ได้นั่งใกล้ๆกันนะ เราเข้าไปก่อนค่ะ พอเจอที่แล้วพวกเค้าก็เดินเข้ามาเป็นคนท้ายๆเลย พวกเค้านั่งด้านหลังโน่นค่ะ แบบไกลมากแล้วก็ไม่เห็นอีกเลย จนลงเครื่อง มาถึงสนามบินแล้ว ผู้หญิงอย่างเราๆก็อยากจะดูดีก่อนเข้าสนามบินก่อนจะเดินทางต่อใช่มั้ยคะ แวะเลยค่ะ มาถึงปั๊บก็แวะห้องน้ำ ก็พอนานอยู่ เท่านั้นไม่พอนะ เราอยากเช็คอินในแอพสวามแล้ว เลยวุ่นกับการเปิดดาต้าโรมมิ่งค่ะ พอเราได้แม่เราก็ยังไม่ได้ น้องเราอีก55555 คือนานอะ นานจริงๆ นานมากขนาดที่บันไดเลื่อนก็หยุดเลื่อน คนตรงที่ตรวจพาสปอร์ตก็ไม่มีแล้ว เหลือแต่พนักงานอะค่ะ55555

แต่ แต่ แต่... พอไปถึงตรงที่โหลดกระเป๋า โอ้ เจอด้วยอะ เฮ้ยพวกเค้ายังไม่ไป แล้วก็ได้ตรวจคนเข้าเมืองไปพร้อมๆกันค่ะ555555(ใช้คำศัพท์ไม่ถูก) เสร็จแล้วออมาพวกเราเลยไปซื้อตั๋วSkylinerค่ะ พวกเค้าก็มาต่อท้ายด้วยย แต่พวกเราทำนานไปหน่อย เค้าคงขี้เกียจรอแล้ว เลยเดินออกไปกันเลยอะค่ะ คือใจตอนนั้นแบบบ เออเนอะ คงไม่ได้เจอกันอีกแล้วแหละ คงเจอได้แค่นี้ พอเดินจะไปขี้นรถไฟก็ได้เดินผ่านแว้บๆ ได้แต่โบกมือในใจลาค่ะ แรดเนอะคนเรา55555 แล้วใจก็ยังคงภาวนาต่อ ขอให้ได้นั่งโบกี้ลำเดียวกันด้วยเถ้อะะ แต่แล้วก็ไม่เห็นผล คำภาวนานี้ไม่มีความหมาย ไม่เจอสักกะคนโผล่มา คือจะถามว่าเสียใจมั้ย คงนิดๆแหละ อยากจะโบกมือลาก่อนจาก55555

หลังจากนั้นมาถึงโรงแรมค่ะตอนนั้น10โมงเช้ากว่าๆ ซึ่งโรงแรมเช็คอินได้ตอนบ่าย3นู่น  (แต่เอากระเป๋ามาฝากไว้ได้แล้วคุณค่อยไปเดินเล่นแถวๆนี้ก็ได้นะ) เพราะแถวๆนี้มีPark ใหญ่ๆอยู่ใกล้ๆเลย คือแบบตรงข้ามกับโรงแรมเลยอะค่ะ เดินข้ามถนนไปก็ถึง ชื่อ Ueno Park ค่ะ ตอนนี้เริ่มมีซากุระบานบ้างแล้ว อืมมม น่าจะ 3-4 ต้นจากทั้งหมด555555 คือก็เข้าใจว่ายังไม่ถึงฤดูมันอะเนอะ แล้วคือนักท่องเที่ยวทั้งหลายเอยช่างภาพมากมายก็ต่างรอคิวถ่ายภาพอะค่ะ55555 อยากถ่ายก็ต้องรอ แถวนั้นมีสวนสัตว์ด้วย เคยเห็นภาพเด็กนักเรียนตัวน้อยๆเดินกันเป็นแถวใส่หมวกเหมือนกันมั้ยคะ ที่เห็นก็อย่างนั้นเลย คือน่ารักมาก เด็กๆมากับโรงเรียน มาทัศนศึกษาเดินกันต้วมเตี้ยมๆ น่าหยิกน่าโยน เอ้ยไม่ใช่แล้ว5555555

สักพักก็ใกล้ๆเที่ยงค่ะ พี่ที่มาด้วยเลยพาพวกเราไปที่ตลาด Ameya Yokocho Ueno หาของกินดูของใช้ไปด้วยเลย ขาดเหลืออะไรก็ซื้อเพิ่ม มีร้านรองเท้าร้านนึงใหญ่มากอยู่ มีหลายแบรนด์ที่พวกเราก็อยากได้ เล็งๆไว้แต่ไม่มีตัง55555 สักพักก็ไปตึกม่วงๆที่ชื่อ Takeya ซื้อของกันนานมาก จนแม่เราเริ่มเดินไม่ไหวแล้ว เลยชวนพี่กลับ เดินกลับทางเดิมเลยค่ะ เดินมาจากทางตลาดก็กลับเข้าทางตลาด มองไปก็ใกล้ถึงแล้ว ร้านรองเท้าร้านเดิมตรงนั้น พอมองเข้าไปเท่านั้นแหละค่ะ อื้มมม ทั้งแก๊งนั้นเลย อยู่กันครบ5555555 แต่พวกเค้าก็ดูๆรองเท้ากันอยู่อะเนอะ เอาจริงๆตอนเดินทั้งวันนั้นลืมไปแล้วนะเนี่ย แล้วก็มาเห็นอีกจนได้ แต่แล้วก็ทำได้แค่เดินผ่านแหละค่ะ เดินผ่านไปเลย ก็แอบหวังว่าจะได้พบกันอีก แต่ก็นั่นแหละค่ะ ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอ5555555 ต้องเศร้ามั้ยเนี่ยฮิอๆๆ

กลับมาถึงโรงแรมใช่ว่าความเหนื่อยจะสู้ความแรดที่มีได้ ค้นไปค่ะ รีบโหลดรูปลงไอจี ใส่โลเคชั่นเข้าไป ตามหาเลย ตามๆๆๆๆทุกที่แถวนี้ที่คิดว่าเค้าจะไป แต่สุดท้ายก็ไม่เจออะ ไม่เจอเลย ทั้งสนามบินก็แล้ว ตลาดก็แล้ว รถไฟก็แล้ว สวนสาธารณะอีก โตเกียวทาวเวอร์อีก.. ไม่เจอค่ะ ฮื้อออ

ตอนกลับไทยก็หวังจะได้เจออีก ก็ไม่มีแล้วค่ะ555555555 (TT) (เราบินกลับวันที่ 11ค่ะ ไม่เจ้อไม่เจออ ตอนถึงสุวรรณภูมิ กระเป๋ากว่าจะโหลดได้ เที่ยงคืนกว่าแหนะ ทั้งเศร้าทั้งง่วงไปอีกก)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่