22 ตำนานข้อห้ามทางไสยศาสตร์ - The Ghost Tellers

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


22 ตำนานข้อห้ามทางไสยศาสตร์ - The Ghost Tellers

ตำนานเรื่องเล่าสยองขวัญ
The Ghost Tellers

ให้เสียงภาษาไทยโดย มัทรี



วันนี้เสนอตอน ตำนานข้อห้ามทางไสยศาสตร์



สำหรับคนไทยตั้งแต่สมัยโบราณกาลมาแล้ว ได้มีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องราวทางไสยศาสตร์และโชคชะตาต่างๆ ที่ได้ส่งต่อกันมารุ่นต่อรุ่น

เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่า ข้อแนะนำ หรือข้อห้ามต่างๆ จากคนเฒ่าคนแก่ ว่าเวลาไปไหนมาไหน หรือเวลาทำกิจกรรมอะไรบางอย่าง มีข้อห้ามอย่าง ซึ่งแต่ละข้อนั้นจะเป็นอย่างไรลองมาฟังกันดูนะคะ



1.ห้ามผิวปากเวลากลางคืนเชื่อว่าจะโดนคุณไสยที่ล่องลอยอยู่

โดยเชื่อกันว่า ผู้ที่ศึกษาวิชาทางไสยศาตร์นั้นจะมีการลองของ หรือการทดสอบวิชาที่ตนร่ำเรียนมา ซึ่งบางทีวิชาคุณไสย์เหล่านั้นอาจจะลอยมาทางอากาศซึ่งเรียกว่า ลมเพ-ลมพัด



2.ห้ามโพกหัว สวมหมวกในวัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เพราะเชื่อว่าหัวจะล้าน

สำหรับความเชื่อนี้น่าจะเป็นความเชื่อที่อยากสอนให้ทุกคนนั้นได้ทำการแสดงเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างใจจริง



3.ห้ามบ้วนน้ำลายลงในโถส้วมเพราะเชื่อว่าวาจาจะเสื่อม

สำหรับความเชื่อส่วนใหญ่นั้นเชื่อว่าโถส้วม ซึ่งเป็นภาชนะสำหรับถ่ายเทของเสีย หรือของเน่าเหม็น โดยมากสมัยก่อนจะมีการจัดแยกระหว่างกระโถนอุจจาระ

และกระโถนสำหรับบ้วนน้ำลาย หากผู้ใดได้ฝึกฝน และร่ำเรียนวิชาทางไสยศาสตร์จะค่อนข้างระมัดระวังมาก เพราะเชื่อว่าอาจจะทำให้อาคมเสื่อมได้



4.ห้ามนั่งบนขั้นบันไดเพราะผีบ้านผีเรือนไม่ชอบ

เนื่องจากผีบ้านผีเรือนนั้นมีหน้าที่ในการดูแล และปกปักรักษาสมาชิกบนเรือน ดังนั้นการนั่งบนขั้นบันไดจึงเป็นข้อห้ามเพราะจะทำให้ผีบ้านผีเรือนผ่านไม่ได้ เนื่องจากผีบ้านผีเรือนนั้นไม่อยากข้ามหัวคน



5.ห้ามนั่งบนหมอนเชื่อว่าคาถาจะเสื่อม

สำหรับตำนานเกี่ยวกับการนั่งบนหมอนนั้น ยังมีอีกว่าจะทำให้ก้นเป็นฝีเป็นหนอง และเช่นกันอาคมจะเสื่อม เนื่องจากหมอนหนุนหัวนั้นใช้สำหรับวางศรีษะเพื่อทำการนอน และใช้ในการกราบพระ



6.ห้ามเล่าความฝันในขณะทานข้าวเชื่อว่าแม่โพสพท่านไม่ชอบ

สำหรับตำนานนี้ โดยมารยาทของไทยแล้ว มักจะไม่ให้คุยกันขณะกินข้าวซึ่งถือว่าเป็นการแสดงมารยาทในการเข้าสังคม แต่สำหรับความฝันแล้วซึ่งเป็นเรื่องของจิตใต้สำนึก บางครั้งจึงไม่ควรเล่าขณะกำลังทานข้าว



7.ห้ามเดินข้ามหนังสือเพราะเชื่อว่าจะเรียนไม่จำ

ในสังคมไทย เมื่อเราได้ศึกษาหาความรู้จากสิ่งใด เราจะให้ความเคารพ และความสำคัญกับสิ่งนั้นๆ เชื่อว่าหนังสือก็เปรียบเสมือนตัวแทนพระครู ผู้ประสาทวิชา



8.ห้ามนุ่งผ้าเปียกเข้าบ้านเพราะเชื่อว่าผีไม่กลัวและจะทำให้ปวดท้อง

สำหรับสมัยก่อนนั้นมักปลูกบ้านเรือนด้วยไม้ การนุ่งผ้าเปียกเข้าบ้านจึงไม่สมควร สำหรับอาการเรื่องผีไม่กลัว และปวดท้องนั้น เชื่อว่ามาจากเจ้าบ้านเจ้าเรือน



9.ห้ามหญิงมีครรภ์ห้ามไปงานศพ เพราะจะมีวิญญาณติดตามมา

หญิงมีครรภ์นั้นควรจะมีจิตใจที่ผ่องใส และอารมณ์ดีอยู่เสมอ เพื่อพัฒนาการของทารกที่ดี โดยการไปงานศพถือว่าทำให้เกิดจิตใจเศร้าหมอง แต่ความเชื่อส่วนใหญ่นั้นคือ ผีจะชอบตามมาขอส่วนบุญจากคนทีครรภ์ เชื่อว่าบุญเยอะ เพราะอุ้มบุญอยู่



10.ห้ามดมดอกไม้ที่จะนำไปถวายพระเชื่อกันว่าจมูกจะเป็นไซนัสหรือริดสีดวงจมูก

ถือเป็นการไม่ควรสำหรับการดมดอกไม้ก่อน หรือหลังถวายพระ เพราะเป็นเหมือนการถวายของใช้แล้ว



11.ห้ามหลับเวลาฟังพระเทศเชื่อว่าชาติหน้าจะเกิดเป็นงู

สำหรับตำนานนี้ คงจะเป็นการไม่ควร และเสียมารยาทหากเรากำลังเล่าเรื่องให้ใครฟังแล้วผู้ฟังไม่สนใจไม่พอ ยังเกิดอาการหลับ โดยส่วนใหญ่ผู้เล่า ครูผู้สอน หรือผู้เทศน์คงเกิดอาการประหม่า ให้ขอตัวออกจากสถานที่หากทนไม่ไหวจริงๆ



12.ห้ามเอาของคืนเมื่อให้ผู้ใดไปแล้วเชื่อว่าจะเป็นเปรต(นอกจากให้ยืม)

ทาน คือการให้ที่ประเสริฐที่สุด หากวันใดเราอยากได้ของที่เราให้ผู้อื่นคืน จิตใจของเราคงเศร้าหมอง โกรธเคือง เกลียดชังน่าดู ไม่ต่างจากเปรต



13.ห้ามกวาดขยะกลางคืนเชื่อว่าผีไม่คุ้มและกวาดทรัพย์ออกหมด

เชื่อว่าการทำความสะอาดให้ทำตอนกลางวัน เพราะเป็นเวลาที่เหมาะสม สามารถเก็บรายละเอียดได้แยบยล ดังนั้นเรื่องที่ทำในที่สว่างก็ควรทำเวลานั้นๆ ไม่ควรผลัดวันประกันพรุ่งหรือกว่าจะทำก็ตกกลางคืนเสียแล้ว เป็นต้น



14.ห้ามตัดเล็บกลางคืนเชื่อว่าอายุจะสั้น

ข้อนี้นั้นก็ไม่ต่างจากข้อก่อนหน้า คือในสมัยก่อนการให้แสงสว่างเวลากลางคืนยังใช้ตะเกียงเจ้าพายุ วิสัยทัศน์ในการมองเห็นจะลดลงมาก อาจจะทำให้เกิดบาดเจ็บได้



15.ห้ามลอดไม้ค้ำต้นกล้วย ไม้ค้ำบ้าน ราวผ้าและห้ามลอดใต้แขนคนอื่นเพราะจะทำให้ของเสื่อม

ตำนานข้อนี้ สำหรับผู้มีวิชาอาคม เชื่อว่าตนเองมีสิ่งศักสิทธิ์คุ้มครองซึ่งเป็นของสูง และอีกตัวอย่างคือ การลอดราวต่างๆ นั้นอาจเป็นกับดักของศัตรู กล่าวคือศัตรูอาจนำของต่ำต่างๆ เช่นเลือดเสีย มาทาตามสิ่งต่างๆ ที่ไม่ควรลอดเป็นต้น



16.อย่าให้ใครข้ามหัวเพราะจะทำให้อาคมเสื่อมและของทุกอย่างเสื่อม

เช่นกันสำหรับข้อนี้คือของดีต้องรักษาให้ดี ไม่ใช่ทิ้งขว้างแบบของที่ตกต่ำ



17.ห้ามด่าแม่ผู้อื่นเพราะสาริกาลิ้นทองจะเสื่อม

ทั้งการด่าบุพการีของตนเองก็เช่นกัน จะทำให้ของในตัวทุกอย่างเสื่อมลงได้ เพราะเชื่อว่าบิดามารดา เปรียบเสมือนพระอรหันต์ของลูกๆ



18.คนสักยันต์ห้ามกินฟักแฟงบวบน้ำเต้าและปลาไม่มีเกล็ดเพราะเชื่อว่าหนังจะไม่เหนียว

สำหรับเรื่องการกินของคนสักนั้นมีข้อห้ามแตกต่างกันไปตามภูมิภาค และสมัย เนื่องจากศัตรู หรือผู้ศึกษามนต์ดำมักมีการปล่อยของหรือทดลองกับพืชผักที่มีผลบนพื้นดิน ซึ่งอาจทำให้อาคมเสื่อมลงได้



19.หากไปต่างสถานที่ ห้ามทักเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆเพราะเชื่อกันว่านั่นคือคุณไสย หรือของไม่ดี หากใครทักจะเข้าตัวทันที

บางทีไม่ใช่แค่คุณไสยมนต์ดำ แต่หากเป็นผีที่มาขอส่วนบุญ หากทำการขานรับ พวกเค้าเหล่านั้นจะถือว่าคุณได้ยิน และติดตามคุณไป



20.ห้ามนอนหันหัวไปทางทิศตะวันตกเพราะเชื่อว่าวิญญาณจะออกจากร่าง(อีกอย่างหนึ่งเป็นทิศที่หันหัวของคนตาย)

ตำนานนี้ยังเป็นที่แพร่หลาย บางคนเชื่อว่าพอนอนแล้วจะรู้สึกว่าหายใจไม่ออกบ้าง ฝันร้ายบ้าง หรือเกิดอาการไม่สบายเนื้อสบายตัว เป็นไข้ หรือเจ็บป่วยได้



21.ห้ามขึ้นบ้านวันเสาร์ เผาศพวันศุกร์ โกนจุกวันอังคาร แต่งงานวันพุธ เพราะเป็นอัปมงคล

ความเชื่อนี้หากหลีกเลี่ยงได้ก็ควร เพราะวันเหล่านี้ผู้ประกอบการพิธีต่างๆ มักถือไว้เป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ หรือเป็นวันที่ตนต้องทำภารกิจอื่นๆ หมายความว่าหากสะดวกเรา ต้องสะดวกเขาด้วย



22.ห้ามเคาะจานข้าวเวลารับประทานอาหาร โบราณท่านถือว่า ห้ามเคาะจานข้าว เพราะจะเป็นการเรียนวิญญาณที่พเนจร เมื่อได้ยินเสียงเราเคาะจาน

ก็จะพากันมาแย่งเรากินข้าว กินอาหารคาวหวาน ท่านต้องเคยเห็นเวลาเราไหว้ศพหรือไหว้วันสำคัญ เราจะจัดชุดสำหรับพวกผีไม่มีญาติ และทำพิธิเรียกมากิน

โดยใช้การเคาะถ้วยชาม ดังนั้นผู้ใหญ่จึงถือมาก ห้ามลูกหลานเคาะจานชามเวลากินข้าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่