ในขณะที่เหล่าซุป’ตาร์ทีมชาติกำลังเตรียมตัวแข่งนัดสำคัญของชาติ เหล่านกน้อย เลือดม่วงทอง ถิ่นชงโค ก็พร้อมที่จะโบยบินเช่นกัน และนกน้อยเหล่านั้นคือ “BCC FC The Next Gen”
ในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา (ปี 2015) ถือว่าเป็นปีแห่งดราม่าที่ปะปนกันหลายอารมณ์เหลือเกินของทีมเรา จากที่ดีใจสุดขีดกับ การได้สิทธิ์เข้าไปแข่งรอบแชมเปี้ยนลีกเพื่อลุ้นขึ้นชั้น D.1 กลับต้องมาผิดหวังสุดชีวิตกับการถูกตัดสิทธิ์ลงเล่นรอบแชมเปี้ยนลีก ไปซะอย่างนั้น เหตุผลเพราะอะไรนั้นผมคงขออนุญาตไม่ขอพูดถึง เพราะมันได้ผ่านมาแล้วรวมถึง ณ ตอนนี้ทีมของเราได้มองไปข้างหน้า เท่านั้น เพื่อสร้างทีมแห่งอนาคตขึ้นมา หวังเล็กๆ คือทีมแห่งอนาคตของสโมสรเรา ที่ตั้งใจจะปั้นนักฟุตบอลอายุน้อยเพื่อช่วยทำผลงาน ของทีมให้ดีขึ้น และอาจจะได้สิทธิ์ได้เข้าไปเล่นรอบแชมเปี้ยนลีกอีกครั้ง (ซึ่งคงยังไม่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้แน่นอน เพราะน้องๆ ยังต้องเสริมกระดูกอีกเยอะพอสมควร) หวังใหญ่ๆ คือเรากำลังจะสร้างอนาคตของชาติ เพื่อก้าวไปเป็นกำลังสำคัญสู่ทีมชาติในรุ่นต่อๆ ไป
แน่นอนว่าฤดูกาลนี้ BCC FC จะใช้นักเตะลูกหม้อ เยาวชนของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยลงแข่งฟุตบอลดิวิชั่น 2 ล้วนๆ นั่นจึงทำให้อายุเฉลี่ยของนักเตะในทีมเรา น้อยที่สุดในลีก โดยจากแมทช์ล่าสุดในรายการโตโยต้าลีกคัำพค่าเฉลี่ยอายุของทีมอยู่ 17.5 ปี ซึ่งก็ถือว่าน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรด้วย
และในศึกดิวิชั่น 2 นัดเปิดสนาม ก็จะเริ่มในวันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคมนี้ BCC FC ประเดิมเกมแรกด้วยการออกไปเยือนถิ่น นาคามรกต ม.เกษตร (สนามเหย้าของทีมเราก็คือ PAT Stadium ของท่าเรือนั่นเอง) ซึ่งจะขออนุญาตแนะนำโค้ช และนักเตะของทีม BCC FC ที่น่าจับตามองในฤดูกาลนี้กันซักหน่อยแล้วกันครับ
โค้ชบู๋ จักรราช โทนหงษา อดีตดาวเตะกองหลัง BCC และทีมชาติไทย ก่อนหน้านี้โค้ชบู๋เป็น ผช.โค้ชที่อุบลฯ ยูเอ็มที มาครั้งนี้ขึ้นเป็นโค้ชใหญ่เต็มตัว ก็ต้องมาดูกันว่าทั้งในฐานะโค้ช และรุ่นพี่ของน้องๆ จะพาเหล่าลูกนกกลุ่มนี้บินไกล และบินได้สูงแค่ไหน ซึ่งวาทะเด็ดของโค้ชสำหรับคูแข่งฤดูกาลนี้ก็คือ "ปีนี้ใครประมาทมา มีร้องไห้กลับไปแน่ๆ"
ธรรมวุฒิ รุ่งเรือง พี่ใหญ่ของทีม และอายุเยอะที่สุดในทีม (29 ปี) ผ่านการค้าแข้งมามากมายทั้ง อุดรธานี เอฟซี, TTM พิจิตร, PTT ระยอง รวมถึงเคยได้รับโอกาสไปฝึกซ้อมกับทีม -ู เอฟซี ทีม D.2 ในลีกเกาหลีมาแล้ว ก็ต้องคาดหวังจากประสบการณ์ของวุฒิ แล้วว่าจะนำมาช่วยเด็กๆ ในทีมได้ดีแค่ไหน
โชแปง ทิตาธร และ ปาแปง ทิตาวีร์ อักษรศรี 2 พี่น้องฝาแฝดแบ๊คซ้ายขวา ที่ถือว่าเป็นแข้งที่มีประสบการณ์ในทีม เพราะพวกเขาก็ได้สัมผัสบรรยากาศการแข่งขันระดับอาชีพมาแล้วถึง 2 ปี ฤดูกาลนี้ทั้งคู่อายุ 19 ปีพอดี ก็ต้องดูว่าประสบการณ์ 2 ปีที่ผ่านมาทั้งคู่จะช่วยประคับประคองทีมได้ดีแค่ไหนเช่นกัน
กนกพล ปุษปาคม ลูกชายคนที่ 3 ของโต้ชแต๊ก โดยเจ้าบอส ถือว่ารับใช้โรงเรียนมาตลอดในทุกรุ่น และเป็นตัวหลักที่ช่วยให้ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนประสบความสำเร็จในการแข่งขัยมาหลายรายการ (ล่าสุดคว้ารองแชมป์ฟุตบอลกรมพละรุ่นอายุ 16 ปี) มาฤดูกาล 2016 นี้ บอสจะได้เลื่อนชั้นขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่เป็นปีแรก เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีม ได้ในอนาคต
สุดท้ายเด็กคนนี้ถือว่าเป็นผู้รักษาประตูอายุน้อยที่น่าจับตา และได้ลงเล่นเกมแรกอย่างเป็นทางการไปแล้ว ในชุดใหญ่ของ BCC ในการแข่งขันโตโยต้าลีกคัพที่ผ่านมา "กรกฎ พิพัฒน์นัดดา" อายุเพียง 16 ปี สูง 184 ซม. และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นที่ประทับใจของกองเชียร์และทีมงานเป็นอย่างมากด้วย รูปร่างดี หน่วยก้านแบบนี้ ก็ต้องดูกันยาวๆ ล่ะครับ ว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน
ยังไงก็ขอแนะนำทีมฟุตบอลทีมนี้อีก 1 ทีมด้วยนะครับ ช่วยเชียร์กันด้วยนะฮะ เชียร์เป็นทีมรองก็ได้ครับไม่เป็นไร 555
ขอทิ้งท้ายด้วยเสื้อเหย้า เยือนของเราปีนี้ครับ สวยงามไม่แพ้ใครเหมือนกันนะ ผมสอยสีเหลืองมาแล้วด้วย 1 ตัว ส่วนสีม่วงรอแถมจากโปรโมชั่นตั๋วปีจ้ะ
เสื้อเหย้าสีม่วงครับ
เสื้อทีมเยือนสีเหลือง
เสื้อสีม่วง สำหรับใส่เล่นในรายการฟุตบอลถ้วย
เด็กๆ ทีมเราก็น่ารัก และทะเล้นไม่แพ้ทีมอื่นนะครับ อิอิ
หากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
(รูปนักฟุตบอลบางคนอาจจะเล็กไป เพราะหารูปได้แค่นี้จริงๆ ฮะ แหะๆ)
ข้อมูลของนักฟุตบอลอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง (โดยเฉพาะวุฒิ) แต่ผมยังไม่ทราบแน่นอนนัก
ไว้พรุ่งนี้ไปดูที่สนามแล้ว จะเล่าให้ฟังอีกทีครับ ว่าวุฒิยังอยู่ไหม (ใน website ยังมีอยู่ ผมเลยถือโอกาสใส่เขาเข้ามาก่อน
เพราะเป็นนักเตะที่ผมชอบ มาตลอด 2 ปีที่อยู่กับ BCC FC เรา)
และก็ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.bccfootballclub.com และ
https://www.facebook.com/bccfc/ ด้วยครับ
BCC FC "The Next Gen"
ในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา (ปี 2015) ถือว่าเป็นปีแห่งดราม่าที่ปะปนกันหลายอารมณ์เหลือเกินของทีมเรา จากที่ดีใจสุดขีดกับ การได้สิทธิ์เข้าไปแข่งรอบแชมเปี้ยนลีกเพื่อลุ้นขึ้นชั้น D.1 กลับต้องมาผิดหวังสุดชีวิตกับการถูกตัดสิทธิ์ลงเล่นรอบแชมเปี้ยนลีก ไปซะอย่างนั้น เหตุผลเพราะอะไรนั้นผมคงขออนุญาตไม่ขอพูดถึง เพราะมันได้ผ่านมาแล้วรวมถึง ณ ตอนนี้ทีมของเราได้มองไปข้างหน้า เท่านั้น เพื่อสร้างทีมแห่งอนาคตขึ้นมา หวังเล็กๆ คือทีมแห่งอนาคตของสโมสรเรา ที่ตั้งใจจะปั้นนักฟุตบอลอายุน้อยเพื่อช่วยทำผลงาน ของทีมให้ดีขึ้น และอาจจะได้สิทธิ์ได้เข้าไปเล่นรอบแชมเปี้ยนลีกอีกครั้ง (ซึ่งคงยังไม่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้แน่นอน เพราะน้องๆ ยังต้องเสริมกระดูกอีกเยอะพอสมควร) หวังใหญ่ๆ คือเรากำลังจะสร้างอนาคตของชาติ เพื่อก้าวไปเป็นกำลังสำคัญสู่ทีมชาติในรุ่นต่อๆ ไป
แน่นอนว่าฤดูกาลนี้ BCC FC จะใช้นักเตะลูกหม้อ เยาวชนของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยลงแข่งฟุตบอลดิวิชั่น 2 ล้วนๆ นั่นจึงทำให้อายุเฉลี่ยของนักเตะในทีมเรา น้อยที่สุดในลีก โดยจากแมทช์ล่าสุดในรายการโตโยต้าลีกคัำพค่าเฉลี่ยอายุของทีมอยู่ 17.5 ปี ซึ่งก็ถือว่าน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรด้วย
และในศึกดิวิชั่น 2 นัดเปิดสนาม ก็จะเริ่มในวันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคมนี้ BCC FC ประเดิมเกมแรกด้วยการออกไปเยือนถิ่น นาคามรกต ม.เกษตร (สนามเหย้าของทีมเราก็คือ PAT Stadium ของท่าเรือนั่นเอง) ซึ่งจะขออนุญาตแนะนำโค้ช และนักเตะของทีม BCC FC ที่น่าจับตามองในฤดูกาลนี้กันซักหน่อยแล้วกันครับ
โค้ชบู๋ จักรราช โทนหงษา อดีตดาวเตะกองหลัง BCC และทีมชาติไทย ก่อนหน้านี้โค้ชบู๋เป็น ผช.โค้ชที่อุบลฯ ยูเอ็มที มาครั้งนี้ขึ้นเป็นโค้ชใหญ่เต็มตัว ก็ต้องมาดูกันว่าทั้งในฐานะโค้ช และรุ่นพี่ของน้องๆ จะพาเหล่าลูกนกกลุ่มนี้บินไกล และบินได้สูงแค่ไหน ซึ่งวาทะเด็ดของโค้ชสำหรับคูแข่งฤดูกาลนี้ก็คือ "ปีนี้ใครประมาทมา มีร้องไห้กลับไปแน่ๆ"
ธรรมวุฒิ รุ่งเรือง พี่ใหญ่ของทีม และอายุเยอะที่สุดในทีม (29 ปี) ผ่านการค้าแข้งมามากมายทั้ง อุดรธานี เอฟซี, TTM พิจิตร, PTT ระยอง รวมถึงเคยได้รับโอกาสไปฝึกซ้อมกับทีม -ู เอฟซี ทีม D.2 ในลีกเกาหลีมาแล้ว ก็ต้องคาดหวังจากประสบการณ์ของวุฒิ แล้วว่าจะนำมาช่วยเด็กๆ ในทีมได้ดีแค่ไหน
โชแปง ทิตาธร และ ปาแปง ทิตาวีร์ อักษรศรี 2 พี่น้องฝาแฝดแบ๊คซ้ายขวา ที่ถือว่าเป็นแข้งที่มีประสบการณ์ในทีม เพราะพวกเขาก็ได้สัมผัสบรรยากาศการแข่งขันระดับอาชีพมาแล้วถึง 2 ปี ฤดูกาลนี้ทั้งคู่อายุ 19 ปีพอดี ก็ต้องดูว่าประสบการณ์ 2 ปีที่ผ่านมาทั้งคู่จะช่วยประคับประคองทีมได้ดีแค่ไหนเช่นกัน
กนกพล ปุษปาคม ลูกชายคนที่ 3 ของโต้ชแต๊ก โดยเจ้าบอส ถือว่ารับใช้โรงเรียนมาตลอดในทุกรุ่น และเป็นตัวหลักที่ช่วยให้ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนประสบความสำเร็จในการแข่งขัยมาหลายรายการ (ล่าสุดคว้ารองแชมป์ฟุตบอลกรมพละรุ่นอายุ 16 ปี) มาฤดูกาล 2016 นี้ บอสจะได้เลื่อนชั้นขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่เป็นปีแรก เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีม ได้ในอนาคต
สุดท้ายเด็กคนนี้ถือว่าเป็นผู้รักษาประตูอายุน้อยที่น่าจับตา และได้ลงเล่นเกมแรกอย่างเป็นทางการไปแล้ว ในชุดใหญ่ของ BCC ในการแข่งขันโตโยต้าลีกคัพที่ผ่านมา "กรกฎ พิพัฒน์นัดดา" อายุเพียง 16 ปี สูง 184 ซม. และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นที่ประทับใจของกองเชียร์และทีมงานเป็นอย่างมากด้วย รูปร่างดี หน่วยก้านแบบนี้ ก็ต้องดูกันยาวๆ ล่ะครับ ว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน
ยังไงก็ขอแนะนำทีมฟุตบอลทีมนี้อีก 1 ทีมด้วยนะครับ ช่วยเชียร์กันด้วยนะฮะ เชียร์เป็นทีมรองก็ได้ครับไม่เป็นไร 555
ขอทิ้งท้ายด้วยเสื้อเหย้า เยือนของเราปีนี้ครับ สวยงามไม่แพ้ใครเหมือนกันนะ ผมสอยสีเหลืองมาแล้วด้วย 1 ตัว ส่วนสีม่วงรอแถมจากโปรโมชั่นตั๋วปีจ้ะ
เสื้อเหย้าสีม่วงครับ
เสื้อทีมเยือนสีเหลือง
เสื้อสีม่วง สำหรับใส่เล่นในรายการฟุตบอลถ้วย
เด็กๆ ทีมเราก็น่ารัก และทะเล้นไม่แพ้ทีมอื่นนะครับ อิอิ
หากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
(รูปนักฟุตบอลบางคนอาจจะเล็กไป เพราะหารูปได้แค่นี้จริงๆ ฮะ แหะๆ)
ข้อมูลของนักฟุตบอลอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง (โดยเฉพาะวุฒิ) แต่ผมยังไม่ทราบแน่นอนนัก
ไว้พรุ่งนี้ไปดูที่สนามแล้ว จะเล่าให้ฟังอีกทีครับ ว่าวุฒิยังอยู่ไหม (ใน website ยังมีอยู่ ผมเลยถือโอกาสใส่เขาเข้ามาก่อน
เพราะเป็นนักเตะที่ผมชอบ มาตลอด 2 ปีที่อยู่กับ BCC FC เรา)
และก็ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.bccfootballclub.com และ https://www.facebook.com/bccfc/ ด้วยครับ