ฟุตบอลชายทีมชาติไทยถ้าอยากติด Top Asia ให้ลองดูกรณีศึกษาของ "ไอซ์แลนด์"

กระทู้สนทนา

ฟุตบอล ฟุตบอลไทย ฟุตบอลต่างประเทศ ฟุตบอลหญิง

หากพูดถึงฟุตบอลชายไทยช่วงนี้ที่มีข่าวอันดับ FIFA ขยับสูงขึ้น
นับตั้งแต่ปี 2013 ที่ 146, 2014 ที่ 142, 2015 ที่ 133 และ 2016 ที่ 118
หรือรวมแล้วขยับขึ้นมาเพียง 28 อันดับ

ทั้งนี้ ถ้าเป้าหมายของไทย คือ อยากติดอันดับ Top Asia ก่อน ไม่ว่าจะ Top 10 หรือ Top 5
ก็ต้องฝ่าฟันกับเหล่าบรรดาประเทศชั้นนำของ Asia ซึ่งหลายคนพอได้เห็นคงคิดว่า "ต้องใช้เวลานานหลายสิบปี"
และอันดับ FIFA นั้นเป็นก็เป็น 1 ในหลายๆ เงื่อนไขที่มีผลกับการที่ไทยจะได้โอกาสไป World Cup ทั้งทางตรงและทางอ้อม

แล้วไทยเราควรจะทำอย่างไรดี ? เราควรจะทำอะไรก่อนหลัง และอะไรคือสิ่งสำคัญในการขยับอันดับของไทย
ที่สำคัญเคยมีใครทำการศึกษาหรือวิจัยถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อผลงานของทีมชาติไทยกับอันดับ FIFA หรือไม่ ?
พอถึงประเด็นนี้ผมก็ลองสืบค้นข้อมูลไปเรื่อยๆ จนไปพบกับผลงานวิจัยเกี่ยวกับทีมชาติไอซ์แลนด์ขึ้นมา

จากภาพจะเห็นได้ว่าตั้งแต่ปี 2010 - 2014 อันดับ FIFA ของไอซ์แลนด์ขยับขึ้นสูงไปถึง 79 อันดับ
และเป็นเรื่องดีที่เขามีการทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมจึงขอลองเอาข้อมูลมาสรุปให้อ่านกัน

What can project managers learn from the Icelandic national
football team’s managers in project management?

by Anna S. Vilhelmsdóttir (April 2015)

โดยจากงาน Thesis นี้เป็นแบบ Qualitative และ Quantitative
จากผลงานของไอซ์แลนด์ก่อนหน้านี้ในปี 2004-2008 มีการไต่อันดับ FIFA ที่ช้ามากๆ
และอันดับก็ตกลงมาต่ำมากในปี 2010 ก่อนที่อันดับจะเพิ่มสูงขึ้นและรวดเร็วมากภายใน 3 ปี
อะไรคือสิ่งที่ทำให้ฟุตบอลชายทีมชาติไอซ์แลนด์ประสบความสำเร็จ เรามาลองดูกัน
(หากเรียบเรียงหรือแปลผิดพลาดขออภัย)

ผู้ร่วมมือในการให้ข้อมูลงาน Thesis นี้มีทั้งที่เป็นผู้จัดการทีมชาติไอซ์แลนด์ เช่น
Lars Lagerbäck และ Heimir Hallgrimsson ผู้ที่เคยนำทีมชาติไอซ์แลนด์ไต่อันดับจาก 104 ในปี 2011
ไปสู่อันดับ 33 ในปี 2014 จากการจัดอันดับ FIFA World Ranking List และรวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องคนอื่นๆ ด้วย

ผลการวิจัยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1. ข้อมูลจากผู้จัดการทีมชาติไอซ์แลนด์ 2. ข้อมูลจากผู้เล่นทีมชาติไอซ์แลนด์

1. ข้อมูลจากผู้จัดการทีมชาติไอซ์แลนด์

1.1 Project management success
อย่างแรกคือต้องมีผู้เล่นที่ดีและกำลังอยู่ในช่วงที่ทำผลงานดีที่สุด มีทัศนคติที่ดี มีภาพลักษณ์ที่เข้มแข็ง
และมีความกระตือรือร้นที่ต้องการเล่นให้กับทีมชาติ ซึ่งผู้จัดการทีมได้ให้ทางสมาคมฟุตบอลไอซ์แลนด์สนับสนุน
ในเรื่องของการจัดการโครงสร้างสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการทำงาน ผู้จัดการทีมต้องการให้พวกเขามีอิสระในการทำงาน
ยกเว้นเพียงแต่เรื่องการเงินที่ต้องผ่านการอนุมัติจากทางสมาคมฯ ก่อน
ผู้จัดการทีมมีส่วนร่วมในการพัฒนาความคิดเห็นว่าทีมควรจะเล่นกันอย่างไร
และพวกเขาต้องมีทักษะในการติดต่อสื่อสารกัน และสิ่งสำคัญก็คือ ผู้เล่นต้องทราบตลอดเวลาว่าผู้จัดการกำลังทำอะไรอยู่
สำหรับผู้จัดการทีมชาติไอซ์แลนด์นั้นจัดได้ว่ามีการจัดการทีมชาติที่ยอดเยี่ยมในระดับยุโรป
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีการพัฒนาปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

1.2 Interested parties
เมื่อทีมทำผลงานได้ดี ทั้งผู้จัดการทีมและผู้เล่นก็จะได้รับโอกาสมากขึ้น
ทางสมาคมฯ ก็ขายบัตรได้เยอะขึ้น มีผู้สนับสนุน มีการถ่ายทอดสด มีคนอยากลงโฆษณา
สื่อนั้นมีอิทธิพลมากต่อสาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญและส่งผลกระทบต่อผู้เล่น แต่มันก็เป็นเรื่องของสิ่งที่คิดอยู่ในหัว
ที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้เล่นและความสามารถของพวกเขา ทางทีมชาติไอซ์แลนด์จึงตัดสินใจว่า
จะมีส่วนร่วมกับสื่อตั้งแต่เริ่มต้นในการเขียนข่าว คือ ให้เป็นแบบมืออาชีพ
ที่ถึงแม้คนในทีมจะเป็นบุคคลสาธารณะแต่ก็สามารถมีความเป็นส่วนตัวได้

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

1.3 Project requirements & objectives
ผู้เล่นและผู้อยู่เบื้องหลังต้องสนับสนุนเรื่องของ hardworking, relentless, joyful, disciplined และ focused
เป้าหมายระยะสั้นคือชนะการแข่งครั้งหน้าและได้ 3 คะแนน ส่วนเป้าหมายจริงๆ คือชนะทุกครั้ง
ทุกคนควรจะทำให้ดีที่สุด เป้าหมายระยะยาวจะถูกตั้งไว้ทุกๆ 2 ปี ผู้เล่นต้องจำใส่ใจ
อย่างตอนนี้ก็คือ UEFA European Championship 2016
และตัว FIFA Ranking ก็คือสิ่งที่บ่งบอกว่าทีมกำลังมาถูกทางตามเป้าหมาย

ผู้จัดการทีมต้องพร้อมที่จะเปลี่ยนปรัชญาการทำทีม
อย่างเมื่อก่อนจะชอบใช้ผู้เล่นแนวรุก 2 คน แต่ตอนนี้ก็จะเห็นการใช้ผู้เล่นแนวรุก 1 คนอยู่บ่อยๆ
ถ้าหากเหลือผู้เล่นแนวรุกดีๆ เพียง 1 คน ก็ควรจะปรับเปลี่ยนแผนให้เหมาะสมกับผู้เล่นที่มีอยู่
ผู้เล่นนั้นจะเติบโตในหนทางที่ผู้จัดการทีมได้ตัดสินใจ เหล่าผู้เล่นหวังและเชื่อมั่นและเคารพผู้จัดการทีมของพวกเขา
กลยุทธ์และยุทธวิธีจะถูกแสดงออกมาผ่านผู้เล่นและน้อยครั้งจะถูกต่อต้าน ถ้าหากพวกเขาเล่นได้ดี

ความเชื่อมั่นว่าผู้เล่นเป็นมืออาชีพจากการเล่นให้สโมสร ทีมต้องสร้างแรงจูงใจ
และตั้งเป้าหมายให้กับผู้เล่นแต่ละคนเอาไว้ในทีมชาติ เมื่อพวกเขาตั้งเป้าหมายไว้แล้ว
ต้องมีนักจิตวิทยาและวิทยาศาสตร์การกีฬาคอยสนับสนุนพวกเขา

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

1.4 Risk and opportunity
ผู้จัดการทีมต้องวิเคราะห์การเล่นของทีมตัวเองและคู่แข่ง
ผู้เล่นต้องได้รับคำแนะนำว่าอะไรที่จะทำให้พวกเขาเล่นได้ดีกว่าเดิม
มีการจัดลำดับความสำคัญในการแข่งแต่ละครั้ง
มีการวิเคราะห์ทาง Internet เพื่อใช้เป็นข้อมูลเชิงสถิติ มีการนำ Video การแข่งล่าสุดมาดู
มีการ Scout ก่อนแข่งเสมอ การ Scout เป็นโอกาสที่ดีในการได้เห็นภาพรวมทั้งหมด
มากกว่าการดูผ่านทีวีที่จะได้เห็นผู้เล่นได้บอลเพียง 30-45 วินาที
เพราะเขาจะได้เห็นผู้เล่นทุกๆ คนกำลังทำอะไรอยู่ แบบที่ไม่ได้แสดงให้เห็นบนหน้าจอ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

1.5 Time and project phases
ผู้จัดการต้องทำงานของตัวเองให้เสร็จก่อนประชุมกับผู้เล่น
กลยุทธ์และการฝึกซ้อมต้องถูกตัดสินใจและผู้เล่นแต่ละคนต้องทราบหน้าที่ของเขาก่อนที่จะพบกัน
การเตรียมความพร้อมจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน 1. กระบวนการสร้างกลยุทธ์ 2. การนำไปใช้อย่างเข้มข้น
ผู้จัดการทีมใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนแข่งแต่ละครั้งในการทำงานวางแผนและเลือกผู้เล่นที่จะลงแข่ง
ทุกอย่างต้องพร้อมเมื่อผู้เล่นมาถึง การใช้เวลา 4-6 วัน คือเวลาที่เยอะสุดก่อนที่จะแข่ง
ทุกอย่างเป็นการทำงานแบบ routine แต่ก็ยืดหยุ่นภายใต้ตารางเวลา

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

2. ข้อมูลจากผู้เล่นทีมชาติไอซ์แลนด์

ต่อไปนี้คือ คำตอบที่ผู้เล่นทีมชาติไอซ์แลนด์ได้ให้ความสำคัญมากที่สุดในกระบวนการฝึกซ้อม
เพื่อความสำเร็จในทีมชาติ คือ structure, discipline, preparation, mutual trust, mutual respect และ repetition.

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

สรุป
ตัว structured environment เป็นสิ่งสำคัญสำหรับกีฬาระดับมืออาชีพ
และสิ่งสำคัญสำหรับผู้จัดการทีมคือ การสร้างสภาพแวดล้อมเหล่านั้นขึ้นมาให้ได้
การที่จะสร้างสภาพแวดล้อมเหล่านั้นได้ต้องสร้างแรงจูงใจให้กับ คนทำงาน ลูกจ้าง นักกีฬา

ผู้จัดการทีมต้องตั้งเป้าหมายให้สูงและนี่คือสิ่งที่อธิบายถึงความสำเร็จของทีมชาติได้
ผู้นำต้องมีกลยุทธ์และแผนวิสัยทัศน์ระยะยาว

ทีมชาติไอซ์แลนด์นั้นมีสถานที่ทำงานที่น่าตื่นตาตื่นใจและทีมก็มีแรงจูงใจในการที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม
นี่คือสิ่งสำคัญที่สุดในการที่จะประสบความสำเร็จ แต่นี่ไม่ใช่ทั้งหมด
นักฟุตบอลสามารถใช้ชีวิตภายใต้การเป็นบุคคลสาธารณะและแบบส่วนตัวได้แบบมืออาชีพ
ในทีมชาติไอซ์แลนด์ ผู้จัดการทีมอนุญาตให้ผู้เล่นมีความรับผิดชอบของตนเองด้วยกฏเล็กน้อย
และเคารพความเป็นมืออาชีพของผู้เล่น ประสบการณ์ของผู้จัดการทีมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เป็นผู้นำที่ดี
โดยส่วนตัวของผู้เขียน Thesis คิดว่าประสบการณ์ของผู้จัดการทีมและการทำงานเป็นทีมคือปัจจัยที่มีคุณค่า
สำหรับทีมชาติไอซ์แลนด์ในการประสบความสำเร็จ

ข่าวเพิ่มเติม

Iceland: The Hottest Team in European Football
http://www.footyfair.com/2015/09/iceland-hottest-team-in-european.html

Iceland shocked the world with EURO 2016 qualification
http://news.meridianbet.com/iceland-shocked-the-world-with-euro-2016-qualification/

*จากข้อมูลที่ได้นำมาให้อ่านกันและลองเอามาเปรียบเทียบกับทีมชาติไทยดู คิดว่ามีหลายจุดที่ไทยน่าจะเอาไปทดลองใช้กัน
**ใครสงสัยเรื่องไหนสามารถสอบถามได้ ส่วนใครช่วยตอบได้ก็ช่วยอธิบายกันไปนะครับ

เม่าเนิร์ด