ขอแชร์เป็นอุทาหรณ์สำหรับติวเตอร์มือใหม่ หรือที่กำลังรับงานตอนนี้ ตอนนี้เราทำงานประจำ ควบคู่กับงานสอนพิเศษ ทำมาเกือบ 2-3 ปี ปัจจุบันก็ยังรับสอนอยู่ตามบ้าน มีอยู่งานหนึ่ง ได้รับงานจากสถาบันให้ไปสอนที่ หมู่บ้านอโน........... แถวพระรามสาม (หน้าปากซอยมีเซเว่น และมีร้านก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่ ส้มตำ) ผู้ปกครองท่านนี้เป็นคุณแม่ มีลูก 2 คน เป็นครอบครัวเดี่ยว เธอให้เราสอนภาษาอังกฤษ วันแรกที่ไปสอน คุณแม่มาสายก่อนเวลาประมาณ 15 นาที หลังจากนั้นเราได้สอนประมาณ 2 ครั้งก่อนสอบปิดเทอม เธอก็บอกว่าตอนนี้ลูกเรียนหลายวิชา ทั้งเลข วิทย์ และยังมีอีกที่หนึ่ง อาจต้องเปลี่ยนเวลา หรือสลับวัน เราก็ตอบว่า ได้คะ คุณแม่ช่วยบอกล่วงหน้าก่อนนะคะว่า จะให้สอนวันไหน สะดวกกี่โมง (โชคดีว่าเราหมดงานสอนก่อนหน้า ตอนนี้เลยว่าง) หลังจากนั้น ครั้งที่ 3 เธอบอกล่วงหน้าว่าให้ไปสอนเป็นวันอาทิตย์ เวลา 9.00 - 11 โมง เราก็ได้ พอถึงสัปดาห์ที่ 3 เธอก็เลื่อนอีกไปเป็น เดือน เมษายน อ้างว่าจะพาลูกไปหัวหิน เราก็บอกว่า ได้คะ แล้วสักพักในวันเสาร์ที่ 19 มีนาคม ตอนเช้า เธอมาขอยกเลิกสอน ตามบทสนทนาตามนี้ฃ
คุณแม่ : ครู......คะ ขอโทษนะคะ คุณพ่อน้องต้องไปเรียนที่ british counsil วันอาทิตย์ น้อง 2 คนต้องไปเรียนด้วย
เรา : คุณแม่จะไม่ให้สอนแล้วใช่ไหมคะ
คุณแม่ : จ๊ะ
หลังจากนั้นก็เงียบ ไม่มีความรู้สึกอยากขอโทษจากใจจริง หรือรู้สึกผิดอะไรเลย เรารู้สึกว่า เขาไม่ได้มีความรู้สึกผิดอะไรเลย ก็เลยตอบไปว่า
เรา : ความจริง ถ้าคุณแม่ให้สอนน้องแค่ไม่กี่ครั้ง ควรบอกสถาบันหรือไม่ต้องให้สถาบันหาคนให้ เพราะว่าติวเตอร์ก็จะได้ไม่ต้องรับงาน มาเสียเวลา
รอคุณแม่ ทำให้ชวดงานอื่นไปในเวลาเดียวกัน ทางติวเตอร์ก็ต้องเสียเวลา เสียเงิน เสียความรู้สึก ทำให้คิดว่า เราอาจสอนไม่ดี หรือแย่อย่างไร คุณ แม่มายกเลิกงานสอน ถ้าเป็นติวเตอร์คนอื่นมารับงานแบบนี้ ก็คงเสียความรู้สึกเหมือนกัน
คุณแม่ : ไม่ใช่คะ ครูสอนดีมาก จนแนะนำไปสามบ้าน (แต่ก็ยังไม่โทรมา มีโทรมาคนเดียว ก็เงียบไป) แต่แม่เคยแจ้งว่าน้องคิวเต็มมาก จัดตารางเวลาไม่ ได้ แล้วถ้าครูสอนไม่ดี แม่ต้องทนเรียนต่อไหมคะ แม่ไม่มีสิทธิลองในวันนั้นเหรอ???? แม่ได้บอกเหตุผลไปแล้ว ย้อนไปอ่านนะคะ หนูเป็นคนสอนดี เก่งคะ แต่พ่อเพิ่งลงคอร์ส เอาน้องสองคนไปทีเดียว แม่ถึงว่าแจ้งเร็ว เพราะเรามีนัด เม.ษ. แล้วเธอก็บอกว่า 5555 หนูจ๊ะ ยืดหยุ่นไม่ได้ ลำบากเนอะ
เรา : เราบอกว่า ไม่ยืดหยุ่นยังไง เลื่อนให้ไปสอนวันเสาร์บ่าย เราก้ทำให้ เลื่อนให้ไปสอนวันอาทิตย์ เราก็ทำให้ตอนเช้า ถ้าเราสอนไม่ดี ไม่ตรียมสอน ไปสอนช้า เราผิด เราจะยอมรับผิด ไม่มีข้ออ้าง
เธอ : ก็เงียบ ไม่อ่านไลน์
เราบอกเรื่องนี้กับสถาบัน และเขาคงไปคุยกับคุณแม่ เธอบอกว่าเราโวยวาย สนใจแต่เงิน เราบอกว่าเราไม่ได้โวยวาย เราแค่ชี้แจงเหตุผล และการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ตอนนี้เขายกเลิกคนที่เขาแนะนำให้มาเรียนกับเรา เราไม่ได้สนใจเรื่องคนแนะนำ เพราะมันทดแทนกันไม่ได้หรอก เวลาและความรู้สึกที่เสียไป
ปล. ถึงผู้ปกครองคนนั้น - เราไม่อาจทนความรู้สึกเฉยของคุณได้ ถ้าไม่ให้สอนต่อ คุณควรจะขอโทษมากกว่าพูดเพียงตัดบทสั้นๆ เข้าใจนะว่า งานสอนต้องเจอแบบนี้ เราก็เคยเจอ เรารับมันได้ บางคนก็ขอโทษแล้วยอมรับว่าผิด แต่คุณเป็นผู้ใหญ่ ทำผิด ควรรับผิด ไม่ใช่เราพูด แล้วมาเถียงข้างๆ คูๆ หาว่าเราโวยวาย มันก็เหมือนกับเราไปขับรถชน ขอโทษลอยๆ ให้เงินฟาดหัว คนเป็นติวเตอร์ก็เหมือนครู ไม่ใช่ขอทาน ที่จะให้สอนก็สอน ยกเลิกก็พูดกันง่ายๆ ชดเชยโดยการหาคนอื่นให้ และถ้าคุณเห็นว่าตารางเรียนเต็ม คุณจะหาคนสอนวิชาอื่นเพิ่มทำไม ทำไมไม่จัดตารางเวลาให้แน่นอนก่อน ???? วันหลังถ้าคุณอยากหาคนสอน แล้วอยากยกเลิก คุณก็จะทำแบบนี้กับคนอื่นเหรอ ???? แล้วใครจะไปรู้ว่าคุณอยากยกเลิกสอนเมื่อไร ??? ถ้าผู้ใหญ่ทำผิด แล้วจะเป็นต้นแบบให้เด็กได้อย่างไร ??
ปล. ถึงสถาบันที่เรารับงานตลอด - เข้าใจนะว่ามันเป็นธุรกิจการศีกษา แต่คุณควรจะเห็นใจติวเตอร์บ้าง เพราะคุณก็รับเงินจากเขา ไม่ใช่เข้าข้างแต่ผู้ปกครอง ขอโทษเขาทั้งๆ ที่เขาผิด แต่คุณกับคิดว่าติวเตอร์ไม่ดี ทำไมไม่ยอมผู้ปกครองไป เพราะถ้าทุกคนทำแบบคุณ เห็นแก่เงินทอง สังคมก็จะปล่อยให้คนผิด คนไม่ดีลอยนวลเหรอ ???? ใครที่ต้องตกเป็นเหยื่อ ???? มันก็เหมือนกับทัวร์จีน บางคนทำไม่ดีที่เมืองไทย ก็ไม่ว่าอะไร ไกด์ก็ง้อและปล่อยไป อย่างนั้นเหรอ ???? อยากให้สถาบันรู้ด้วยว่า กว่าติวเตอร์ได้งานนึงไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องแย่งงานกันกี่พันคน บางคนมีตังค์น้อย หาจ่ายค่าแนะนำก็ยากละ ก็อยากได้งานยาวๆ ทุกคนก็ต้องกินต้องใช้ ถ้าผู้ปกครองยกเลิกงานง่ายๆ กว่าจะหางานใหม่ ต้องมาเก็บเงิน เริ่มจ่ายค่าแนะนำงานกันใหม่
*** แต่ขอบคุณที่คุณยังรับฟังและพร้อมจ่ายคืนเงินบางส่วนให้เรา อย่างน้อยมันก็ทำให้เรารู้สึกว่าได้อะไรเพิ่มมาบ้าง***
ปล. ถึงติวเตอร์ด้วยกัน -- ถ้ารับงาน แล้วเห็นผู้ปกครองเลื่อนบ่อย ให้เตรียมหางานใหม่ได้เลย เพราะงานตรงนี้ มันไม่แน่นอน ผู้ปกครองบางคนก็คิดว่า เงินคือพระเจ้า ไม่ได้มาสนใจคนสอน ไม่มีก็หาใหม่ได้
จากใจติวเตอร์ของสถาบัน ที่พบว่าการกระทำผู้ปกครองของสถาบันสอนพิเศษท่านหนึ่ง เป็นการกระทำที่แย่มาก
คุณแม่ : ครู......คะ ขอโทษนะคะ คุณพ่อน้องต้องไปเรียนที่ british counsil วันอาทิตย์ น้อง 2 คนต้องไปเรียนด้วย
เรา : คุณแม่จะไม่ให้สอนแล้วใช่ไหมคะ
คุณแม่ : จ๊ะ
หลังจากนั้นก็เงียบ ไม่มีความรู้สึกอยากขอโทษจากใจจริง หรือรู้สึกผิดอะไรเลย เรารู้สึกว่า เขาไม่ได้มีความรู้สึกผิดอะไรเลย ก็เลยตอบไปว่า
เรา : ความจริง ถ้าคุณแม่ให้สอนน้องแค่ไม่กี่ครั้ง ควรบอกสถาบันหรือไม่ต้องให้สถาบันหาคนให้ เพราะว่าติวเตอร์ก็จะได้ไม่ต้องรับงาน มาเสียเวลา
รอคุณแม่ ทำให้ชวดงานอื่นไปในเวลาเดียวกัน ทางติวเตอร์ก็ต้องเสียเวลา เสียเงิน เสียความรู้สึก ทำให้คิดว่า เราอาจสอนไม่ดี หรือแย่อย่างไร คุณ แม่มายกเลิกงานสอน ถ้าเป็นติวเตอร์คนอื่นมารับงานแบบนี้ ก็คงเสียความรู้สึกเหมือนกัน
คุณแม่ : ไม่ใช่คะ ครูสอนดีมาก จนแนะนำไปสามบ้าน (แต่ก็ยังไม่โทรมา มีโทรมาคนเดียว ก็เงียบไป) แต่แม่เคยแจ้งว่าน้องคิวเต็มมาก จัดตารางเวลาไม่ ได้ แล้วถ้าครูสอนไม่ดี แม่ต้องทนเรียนต่อไหมคะ แม่ไม่มีสิทธิลองในวันนั้นเหรอ???? แม่ได้บอกเหตุผลไปแล้ว ย้อนไปอ่านนะคะ หนูเป็นคนสอนดี เก่งคะ แต่พ่อเพิ่งลงคอร์ส เอาน้องสองคนไปทีเดียว แม่ถึงว่าแจ้งเร็ว เพราะเรามีนัด เม.ษ. แล้วเธอก็บอกว่า 5555 หนูจ๊ะ ยืดหยุ่นไม่ได้ ลำบากเนอะ
เรา : เราบอกว่า ไม่ยืดหยุ่นยังไง เลื่อนให้ไปสอนวันเสาร์บ่าย เราก้ทำให้ เลื่อนให้ไปสอนวันอาทิตย์ เราก็ทำให้ตอนเช้า ถ้าเราสอนไม่ดี ไม่ตรียมสอน ไปสอนช้า เราผิด เราจะยอมรับผิด ไม่มีข้ออ้าง
เธอ : ก็เงียบ ไม่อ่านไลน์
เราบอกเรื่องนี้กับสถาบัน และเขาคงไปคุยกับคุณแม่ เธอบอกว่าเราโวยวาย สนใจแต่เงิน เราบอกว่าเราไม่ได้โวยวาย เราแค่ชี้แจงเหตุผล และการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ตอนนี้เขายกเลิกคนที่เขาแนะนำให้มาเรียนกับเรา เราไม่ได้สนใจเรื่องคนแนะนำ เพราะมันทดแทนกันไม่ได้หรอก เวลาและความรู้สึกที่เสียไป
ปล. ถึงผู้ปกครองคนนั้น - เราไม่อาจทนความรู้สึกเฉยของคุณได้ ถ้าไม่ให้สอนต่อ คุณควรจะขอโทษมากกว่าพูดเพียงตัดบทสั้นๆ เข้าใจนะว่า งานสอนต้องเจอแบบนี้ เราก็เคยเจอ เรารับมันได้ บางคนก็ขอโทษแล้วยอมรับว่าผิด แต่คุณเป็นผู้ใหญ่ ทำผิด ควรรับผิด ไม่ใช่เราพูด แล้วมาเถียงข้างๆ คูๆ หาว่าเราโวยวาย มันก็เหมือนกับเราไปขับรถชน ขอโทษลอยๆ ให้เงินฟาดหัว คนเป็นติวเตอร์ก็เหมือนครู ไม่ใช่ขอทาน ที่จะให้สอนก็สอน ยกเลิกก็พูดกันง่ายๆ ชดเชยโดยการหาคนอื่นให้ และถ้าคุณเห็นว่าตารางเรียนเต็ม คุณจะหาคนสอนวิชาอื่นเพิ่มทำไม ทำไมไม่จัดตารางเวลาให้แน่นอนก่อน ???? วันหลังถ้าคุณอยากหาคนสอน แล้วอยากยกเลิก คุณก็จะทำแบบนี้กับคนอื่นเหรอ ???? แล้วใครจะไปรู้ว่าคุณอยากยกเลิกสอนเมื่อไร ??? ถ้าผู้ใหญ่ทำผิด แล้วจะเป็นต้นแบบให้เด็กได้อย่างไร ??
ปล. ถึงสถาบันที่เรารับงานตลอด - เข้าใจนะว่ามันเป็นธุรกิจการศีกษา แต่คุณควรจะเห็นใจติวเตอร์บ้าง เพราะคุณก็รับเงินจากเขา ไม่ใช่เข้าข้างแต่ผู้ปกครอง ขอโทษเขาทั้งๆ ที่เขาผิด แต่คุณกับคิดว่าติวเตอร์ไม่ดี ทำไมไม่ยอมผู้ปกครองไป เพราะถ้าทุกคนทำแบบคุณ เห็นแก่เงินทอง สังคมก็จะปล่อยให้คนผิด คนไม่ดีลอยนวลเหรอ ???? ใครที่ต้องตกเป็นเหยื่อ ???? มันก็เหมือนกับทัวร์จีน บางคนทำไม่ดีที่เมืองไทย ก็ไม่ว่าอะไร ไกด์ก็ง้อและปล่อยไป อย่างนั้นเหรอ ???? อยากให้สถาบันรู้ด้วยว่า กว่าติวเตอร์ได้งานนึงไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องแย่งงานกันกี่พันคน บางคนมีตังค์น้อย หาจ่ายค่าแนะนำก็ยากละ ก็อยากได้งานยาวๆ ทุกคนก็ต้องกินต้องใช้ ถ้าผู้ปกครองยกเลิกงานง่ายๆ กว่าจะหางานใหม่ ต้องมาเก็บเงิน เริ่มจ่ายค่าแนะนำงานกันใหม่
*** แต่ขอบคุณที่คุณยังรับฟังและพร้อมจ่ายคืนเงินบางส่วนให้เรา อย่างน้อยมันก็ทำให้เรารู้สึกว่าได้อะไรเพิ่มมาบ้าง***
ปล. ถึงติวเตอร์ด้วยกัน -- ถ้ารับงาน แล้วเห็นผู้ปกครองเลื่อนบ่อย ให้เตรียมหางานใหม่ได้เลย เพราะงานตรงนี้ มันไม่แน่นอน ผู้ปกครองบางคนก็คิดว่า เงินคือพระเจ้า ไม่ได้มาสนใจคนสอน ไม่มีก็หาใหม่ได้