ECONOMIC BUBBLE ถึงเวลาแล้วหรือยัง…?
เมื่อ 2015 มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง?
หลังจากที่เมื่อปีที่แล้ว(2015) เราได้มาถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ของเศรษฐกิจโลก ไม่ว่าจะเป็นพี่ใหญ่แห่งเอเชีย อย่างพญามังกรประเทศจีนซึ่งมีโอกาสเผชิญกับฟองสบู่แตกและความเสี่ยงจาก hard landing หรือจะเป็นประเด็นเก่านำมา rerun ยืดเยื้อเป็นไตรภาคแบบ greece ซึ่งยืดเยื้อมาเป็นเวลานาน รวมถึงประเทศกลุ่ม PIIGS (Portugal, Ireland, Italy, Greece & Spain) ก็ยังคงสะสมปัญหาต่อไปแบบดินพอกหางหมู รอวันให้ EURO ZONE ช่วยเยียวยารอบต่อรอบ และยังคงมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงเลย และสถานภาพของยูโรโซนที่สั่นคลอนจากการที่ ประเทศอุตสาหกรมหลักอย่างเยอรมันหรืออังกฤษนั้น ก็ไม่ไหวเต็มทีกับการที่ต้องแบกรับ การก่อหนี้ของประเทศในกลุ่ม PIIGS แต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้มากนักและยังคงต้องเกาะกลุ่มรักษาความเป็นสหภาพยุโรปเอาไว้ เนื่องจากเกรงว่าผลกระทบของการให้เกิดผิดนัดชำระหนี้หรือให้ประเทศหนึ่งประเทศใดออกจาก สหภาพยุโรปนั้น อาจจะสร้างผลเสียมากกว่าผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของยุโรป รวมไปถึง debt ceiling จากทางฝั่งอเมริกาที่ยังคงคอยตามหลอกหลอนปีต่อปีและคงต้องให้สภาคองเกรซอนุมัติการเพิ่มเพดานกันอยู่ตลอด
การขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 7 ปี
ในขณะที่ฝั่งยุโรปและเอเชียนั้นไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่อีกฟากหนึ่งของโลกอย่างพญาอินทรีย์นั้นกลับทำ surprise ต่อชาวโลก(จริงๆก็ไม่ค่อย surprise นักเนื่องจากเก็งกันมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว เรียกได้ว่าคอยกันจนเหงือกแห้งมากกว่า) ด้วยการขึ้นดอกเบี้ย เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ประกาศใช้ดอกเบี้ย 0.00% ตั้งแต่ 16 ธันวาคม 2008 จนมาวันที่ 16 ธันวาคม 2015 เป็นเวลา 7 ปี พอดิบพอดี ทำให้หลายคนนั้นอาจจะทำอะไรไม่ถูกเนื่องจากกลัวต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น แต่บางคนก็ไม่สนใจเนื่องจากแวะไปดูที่ธนาคารใกล้บ้านก็แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ซึ่งจากนักวิเคราะห์หลายสำนักนั้นก็เกรงกลัวกันว่าการขึ้นดอกเบี้ยของทาง FED นั้นปรับดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นแล้วทำให้เกิดวิกฤตอีกไหมเนื่องจากยังไม่ค่อยแน่ใจกับภาพรวมเศรษฐกิจอเมริกาว่าสามารถที่จะแข็งแกร่งได้ด้วยตนเองหรือไม่(ชาวเม่าทั้งหลายก็ยังคงอยู่ในอาการมึนงงกันต่อไป ไม่ขึ้นดอกก็งง ขึ้นดอกก็งง).....
อ่าน introduction กันมาแล้ว สามารถเข้าไปอ่านบทความฉบับเต็มได้ที่
http://www.optionszone.net/2016/03/2016-economic-bubble 
2016 ECONOMIC BUBBLE เมื่อทั่วโลกเห็นพ้องต้องกันว่า จะจับมือกันปั่นฟองสบู่ อะไรจะเกิดขึ้น?
เมื่อ 2015 มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง?
หลังจากที่เมื่อปีที่แล้ว(2015) เราได้มาถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ของเศรษฐกิจโลก ไม่ว่าจะเป็นพี่ใหญ่แห่งเอเชีย อย่างพญามังกรประเทศจีนซึ่งมีโอกาสเผชิญกับฟองสบู่แตกและความเสี่ยงจาก hard landing หรือจะเป็นประเด็นเก่านำมา rerun ยืดเยื้อเป็นไตรภาคแบบ greece ซึ่งยืดเยื้อมาเป็นเวลานาน รวมถึงประเทศกลุ่ม PIIGS (Portugal, Ireland, Italy, Greece & Spain) ก็ยังคงสะสมปัญหาต่อไปแบบดินพอกหางหมู รอวันให้ EURO ZONE ช่วยเยียวยารอบต่อรอบ และยังคงมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงเลย และสถานภาพของยูโรโซนที่สั่นคลอนจากการที่ ประเทศอุตสาหกรมหลักอย่างเยอรมันหรืออังกฤษนั้น ก็ไม่ไหวเต็มทีกับการที่ต้องแบกรับ การก่อหนี้ของประเทศในกลุ่ม PIIGS แต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้มากนักและยังคงต้องเกาะกลุ่มรักษาความเป็นสหภาพยุโรปเอาไว้ เนื่องจากเกรงว่าผลกระทบของการให้เกิดผิดนัดชำระหนี้หรือให้ประเทศหนึ่งประเทศใดออกจาก สหภาพยุโรปนั้น อาจจะสร้างผลเสียมากกว่าผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของยุโรป รวมไปถึง debt ceiling จากทางฝั่งอเมริกาที่ยังคงคอยตามหลอกหลอนปีต่อปีและคงต้องให้สภาคองเกรซอนุมัติการเพิ่มเพดานกันอยู่ตลอด
การขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 7 ปี
ในขณะที่ฝั่งยุโรปและเอเชียนั้นไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่อีกฟากหนึ่งของโลกอย่างพญาอินทรีย์นั้นกลับทำ surprise ต่อชาวโลก(จริงๆก็ไม่ค่อย surprise นักเนื่องจากเก็งกันมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว เรียกได้ว่าคอยกันจนเหงือกแห้งมากกว่า) ด้วยการขึ้นดอกเบี้ย เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ประกาศใช้ดอกเบี้ย 0.00% ตั้งแต่ 16 ธันวาคม 2008 จนมาวันที่ 16 ธันวาคม 2015 เป็นเวลา 7 ปี พอดิบพอดี ทำให้หลายคนนั้นอาจจะทำอะไรไม่ถูกเนื่องจากกลัวต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น แต่บางคนก็ไม่สนใจเนื่องจากแวะไปดูที่ธนาคารใกล้บ้านก็แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ซึ่งจากนักวิเคราะห์หลายสำนักนั้นก็เกรงกลัวกันว่าการขึ้นดอกเบี้ยของทาง FED นั้นปรับดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นแล้วทำให้เกิดวิกฤตอีกไหมเนื่องจากยังไม่ค่อยแน่ใจกับภาพรวมเศรษฐกิจอเมริกาว่าสามารถที่จะแข็งแกร่งได้ด้วยตนเองหรือไม่(ชาวเม่าทั้งหลายก็ยังคงอยู่ในอาการมึนงงกันต่อไป ไม่ขึ้นดอกก็งง ขึ้นดอกก็งง).....
อ่าน introduction กันมาแล้ว สามารถเข้าไปอ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ http://www.optionszone.net/2016/03/2016-economic-bubble