[CR] จะเป็นอย่างไรเมื่อ "คนกากออนทัวร์ @ Korea" เที่ยว ช้อป ชิม !!!

สวัสดีค่ะชาวพันทิปทั้งขาประจำและขาจร
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ผู้เขียนกระทู้รีวิวการท่องเที่ยว ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้คนนี้ชื่อ "ออย" ค่ะ
สิ่งที่จะพูดถึงในกระทู้ส่วนใหญ่ที่พูดถึงจะเป็นเรื่องสถานที่ที่ได้ไป และอาหารที่ได้ลิ้มรสค่ะ จะเล่าเป็นตอนๆไปนะคะ
เพิ่งเคยเขียนกระทู้รีวิวเป็นครั้งแรก เพราะงั้นขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ : )



ทริปนี้มีสมาชิกผู้ร่วมเดินทางด้วยกัน 5 คนค่ะ
ล้วนแล้วแต่เป็นมนุษย์ที่ชอบไอดอลและซีรี่ย์เกาหลีกันทั้งสิ้น
จุดเริ่มต้นของทริปนี้มาจากการที่เรากับรูมเมทพูดกันว่า จะไปเที่ยวเกาหลีด้วยกัน แล้วสมาชิกก็เพิ่มเรื่อยๆ จนรวมเป็น 5 คน ตอนแรกไม่ได้เซ็ตวันไว้ล่วงหน้าเลย เราขอแค่อยากลองไปตอนอากาศหนาวๆ เพราะที่เคยไปนี่อากาศร้อนตลอด T^T เพื่อนๆก็โอเค เลยเริ่มหาตั๋วกัน มาจบที่ Air Asia X
เราได้ราคาถูกโดยบังเอิญ กดเล่นๆบ่อยๆจนวันนึงมาเจอราคาถูก รีบเซ็ตวันเป็นวันที่ 17 - 22 กุมภาพันธ์ 2016 รีบจอง รีบจ่ายกันเลย ซื้อล่วงหน้าเกือบครึ่งปี แต่แล้วทุกคนก็สั่นสะท้านรอ เพราะเพื่อนที่เกาหลีบอกว่า "มัน Super cold" 55555555

จากนั้นก็เริ่มเตรียมเสื้อผ้าต้อนรับความหนาว ใครที่ยังไม่ทำพาสปอร์ตก็ทำพาสปอร์ต เตรียมกระเป๋าเดินทาง จองที่พัก ทำโปรแกรม
เตรียมเอกสารเพื่อเผชิญหน้ากับตม.เนื่องจากที่นั่นตม.โหดสลัดรัสเซียมาก ส่วนเอกสารที่เราเตรียมกันไปก็มี...

- โปรแกรมการเดินทางที่พิมพ์อย่างละเอียด มีข้อมูลในการขึ้นลงรถไฟใต้ดินอย่างละเอียด เพื่อให้ตม.เห็นว่า "ฉันตั้งใจมาเที่ยวจริงๆนะแก"
- หนังสือรับรองการทำงาน (อันนี้เพื่อนบางคนเตรียมไป)
- สำเนาตั๋วเครื่องบินทั้งขาไปและขากลับ
- หลักฐานการจองที่พัก และแผนที่ในการเดินทางไปที่พัก
- เงินที่เพียงพอกับการใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 6 วัน

ขอบอกว่าเพื่อนร่วมทริปของออยกลัวตม.กันมากๆ มากจนสั่น นี่เลยบอกว่า
"มองหน้าเขาไปเลย มั่นใจ ไม่ต้องกลัว นี่มาดี ขอเข้าประเทศหน่อยสิตัวเองอิอิ"

หลังจากนั้นก็เช็คสภาพอากาศตลอด เพราะอากาศปีนี้แปรปรวนมาก โชคดีหน่อยค่ะที่อาทิตย์ที่ไปไม่ใช่อาทิตย์ที่หนาวสุดขั้ว
แต่ตอนกลางคืนก็หนักเอาการอยู่เหมือนกัน ความหนาวสั่นนี่ลึกไปยังทุกส่วนของร่างกาย

และแล้วก็ถึงวันเดินทาง นัดกันเจอที่สนามบินตอน 3 ทุ่ม (แต่บินตีสองกว่าแถมเครื่องยังดีเลย์)
เค้าเตอร์เช็คอินเต็มไปด้วยผู้คน ทั้งมนุษย์ไทย มนุษย์เกาหลี และมนุษย์จีน
ออยเตรียมความพร้อมตั้งแต่อยู่ไทยด้วยการใส่ลองจอน เสื้อแขนยาวมาจากบ้านเลยจ้า สรุปเป็นไง ร้อนจ้า 555555 ร้อนแบบวูบวาบ
และด้วยความที่บินดึกแถมยังดีเลย์ ร้านขายอาหารต่างๆก็ปิดหมด หิวมาก มีแค่แม็คที่เปิด เรามาหาเธอแล้วแม็คเพื่อนยาก
พอได้ขึ้นเครื่องก็นอนอย่างเดียวเลยจ้า เครื่อง Air asia X รอบนี้นุ่มมากขอบอก นุ่มจริงจังเพราะไม่เจอมรสุมเลย

ถึงอินชอน ก็ต้องนั่งรถไฟจากเทอมินอลที่ลงเครื่องไปที่อาคารหลัก แต่ด้วยความที่เห็นคนไทยเยอะมาก ทัวร์ไทยที่มาไฟลท์เดียวกันเยอะสุดๆ
เราเลยบอกเพื่อนให้รีบลงๆ แถวตม.ยาวแน่ๆ ไหนจะไฟลท์จากประเทศอื่นอีก
พวกเราก็รีบต่อรถไฟ แล้วไปที่ตม.โดยไว เพื่อนๆก็ใจตุ้มๆต่อมๆด้วยความกลัวพี่ตม.หน้ามนคนซื่อ
พอไปถึงตม. โหยยยยยยย แถวยาวจนจะไปถึงประเทศจีน ยาวเว่อร์วัง ทั้งฝรั่ง ญี่ปุ่น ไทย และอื่นๆ ต่อคิวรอเลยจ้า
และตอนนั้นเริ่มมีข่าวคนไทยเข้ายากขึ้นละ นี่เห็นคนโดนหิ้วเข้าห้องเย็นเต็มเลยค่ะ
ที่ตกใจคือ คนญี่ปุ่นก็โดน นี่เงิบกินเลย และสรุปทุกคนเจอเหตุการณ์การตรวจคนเข้าเมือง ดังนี้

เรา : ตม.เป็นผู้หญิง มองหน้าเราสลับพาสปอร์ต ทำหน้าเข้มใส่เรานิดๆ เราก็มอง เค้าก็คีย์ๆข้อมูล แสตมป์ให้ จบที่เงยหน้ามายิ้มให้เรานิดนึง อิอิ
เพื่อน 1 : ตม. ผู้หญิง ผ่านมาแบบง่ายๆ หน้าพาสปอร์ตขาว แต่ผู้หญิงข้างหน้าเพื่อนคนนี้เป็นคนไทย มากับทัวร์ โดนหิ้วเข้าห้องเย็น
เพื่อน 2 : ตม.คนไหนก็ไม่รู้ ผ่านมาแบบง่ายๆ หน้าพาสปอร์ตขาว
เพื่อน 3 : ตม.ผู้ชาย เห็นว่าหน้าเหมือนยูฮียอล (นักแต่งเพลงชื่อดัง) ถามเยอะ มากี่วัน มากี่คน มาทำอะไร บลาๆๆๆ (รอเพื่อนคนนี้พักนึงจนเริ่มกลัวแล้ว เพื่อนเราเคยผ่านการเข้าประเทศอื่นมาก่อน แต่อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรก็ได้) สรุปก็ผ่านมาสบายๆ
เพื่อน 4 : ตม.คนเดียวกับเพื่อน 3 โดนถามเหมือนกัน แต่ก็ผ่านมาได้ค่ะ

สรุปพวกเราห้าคนผ่านมาแบบตุ้มๆต่อมๆ คนโดนหิ้วไปห้องเย็นเยอะจริงๆ ไม่ใช่แค่คนไทยค่ะ
หลังจากนั้นก็ลงไปรับกระเป๋า ผ่านศุลกากร จากนั้นพาเพื่อนไปซื้อ T-money ที่เซเว่นในสนามบิน



T-money คืออะไร ??? มันคือบัตรที่เราใส่เงินเข้าไปแล้วใช้กับรถสาธารณะทุกชนิด และใช้ซื้อของตามมินิมาร์ทไรงี้ได้ด้วย
เสร็จแล้วก็ไปที่สถานีรถไฟเข้าเมือง เติมตังค์ใส่ทีมันนี่ก่อนเลย ซึ่งตู้เติมก็อยู่ที่สถานีเลยจ้า เติมเสร็จก็แตะบัตรเข้าไปรอรถไฟได้เลย
และสถานีที่เรามุ่งหน้าไปคือสถานีฮงอิกค่ะ

พวกเราทั้ง 5 คนได้นั่งรถไฟมาที่สถานีฮงอิก เดินออกมาจากสถานีนี่แบบนึกว่าเอลซ่ากำลังเสกน้ำแข็งใส่หน้า หนาว 5555
และด้วยความดีเลย์ของเครื่องบินและแถวตม.ที่ยาวสุดๆ ทำให้พวกเรามาถึงที่พักเอาเกือบเที่ยงแล้ว
หิวมากค่ะ หิวหน้ามืดตาลาย หิวแบบบรรยายไม่ออก เพราะไม่ได้กินมื้อเช้า เอากระเป๋าเข้าไปเก็บในห้องก็ไม่ได้
เพราะเกสเฮ้าส์ที่จองไว้สามารถเช็คอินได้ตั้งแต่บ่ายสาม
เกสเฮ้าส์ที่พวกเราเข้าพักคือ Kimchee Guesthouse ค่ะ (https://kimcheeguesthouse.com/th/)
ออยชอบการพักเกสเฮ้าส์นะคะ มันมีเสน่ห์ตรงที่เราได้เจอเพื่อนต่างชาติ เป็นมิตรภาพในต่างแดนที่น่าจดจำดี
พวกเราจึงเลยฝากกระเป๋าและออกไปที่ฮงแดอีกฝั่งที่อยู่ฝั่งเดียวกับมหาวิทยาลัยฮงอิก
ในโปรแกรมออยจัดให้ไปกินกิมจิชิเกร้านหนึ่ง แต่เดินไปแล้วไม่เจอร้าน !!!! ทำไงล่ะทีนี้ แงงงง หิววววววว
เพื่อนเลยบอกว่าสุ่มเอาเลย เลยได้ร้านนี้มาค่ะ เป็นร้านเมนูไก่ ชื่อร้าน 더닭 (The Chicken)
หากอยากทราบพิกัด ลองเข้าไปในนี้ค่ะ https://www.facebook.com/pages/%ED%99%8D%EB%8C%80%EB%8D%94%EB%8B%AD/360089654076987?fref=ts



พวกเราสั่งสตูว์ไก่กันมา เพิ่มมันดู (เกี๊ยว) แล้วก็ข้าว
ก็ตามสไตล์เกาหลีนั่นแหละค่ะ มาแบบไม่สุกนักหรอก มันดูนี่น้ำแข็งเกาะเลย มาต้มๆกันตรงหน้านี่แหละ
รอประมาณ 5 นาทีก็เดือดปุดๆๆๆๆ กินได้เลย คำแรกที่เข้าปากถึงกับน้ำตาซึม
"โอ้ พระเจ้า เราเกิดมาเพื่อกินจริงๆ เราจะพลาดของอร่อยแบบนี้ไปได้ยังไง"
แต่ไก่นี่ชิ้นใหญ่มาก ใหญ่ไม่พอ หลายชิ้นด้วยค่ะ คุ้มสุดๆ ยิ่งน้ำแห้งยิ่งอร่อย
รสชาติจะหวานๆ เค็มนิดหน่อย เผ็ดนิดนึง สามารถเลือกระดับความเผ็ดได้ค่ะ
จะเพิ่มรามยอน เพิ่มมันดู เพิ่มชีสก็แล้วแต่ความชอบเลยค่ะ อีกทั้งยังมีสลัดให้บริการ ซึ่งเมนูสลัดต้องบริการตัวเองนะคะ
พนักงานมีแค่สองคนคือคนทำอาหารกับคนรับออเดอร์
เป็นร้านเล็กๆ คนรับออเดอร์พูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย นิ้ดดดด นิด แต่หน้าตานี่พี่ให้สามผ่านครับ 💕




จากนั้นก็ออกมาถ่ายรูปนิดนึง แล้วก็เดินสำรวจฮงแด ออยชอบเสื้อผ้าฮงแดมากนะ ร้านอาหารอร่อยๆก็เยอะมาก
ร้านเครื่องสำอางค์ก็เยอะ เอาเป็นว่าชอบย่านนี้ที่สุดละกัน
ก็สอยนั่นนี่มาคนละสองสามอย่าง แล้วนี่ก็สอยลิปสติกของ Innisfree มาค่ะ สีแดงแปร้ดดด
เพราะพวกเราเห็นปากสาวเกาหลีกันแล้วต้องพูดว่า
"เรายอมไม่ได้" โอเคออยจะสู้ สรุปแดงสมใจ ป๊าดดดดดด



หลังจากที่เข้าที่พักได้ในตอนบ่ายสามกว่าๆ ก็ออกมาข้างนอกอีกครั้งตอนเกือบมืดแล้วค่ะ
จุดมุ่งหมายคืออีแด อีแดคือย่านที่มหาลัยอีฮวา ความน่าสนใจคือเสื้อผ้า ถุงเท้า และเครื่องสำอาง
ก็เดินซื้อนั่นโน่นนี่ เพื่อนได้ของกันมาเยอะแยะเลย (ด้วยความที่มืดแล้ว จึงไม่ได้ถ่ายรูปมาเลยค่ะ เสียใจ T^T)

หลังจากนั้นก็กลับมาที่ฮงแดอีกครั้งเพื่อกินข้าวเย็น อันที่จริงควรเรียกว่าข้าวค่ำมากกว่า
ร้านที่เล็งไว้คือร้าน James cheese กับเมนูซี่โครงหมูพันชีสอันเลื่องลือ !
ร้านนี้มีหลายสาขาค่ะ ลองเข้าไปในเพจของทางร้านได้ค่ะ สะดวกสาขาไหนก็ลิ้มรส ณ สาขานั้นได้เลยค่ะ ^^
https://www.facebook.com/pages/James-Cheese-Back-Ribs/790128061028491?fref=ts
น่ากินขนาดไหน ลองดูคลิปเอาค่ะท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน
มันอร่อยมากๆ พนักงานก็ดูแลดีค่ะ แต่ตาพวกพี่ลอยไปในครัวบ่อยมาก คิดว่าเด็กเสิร์ฟหน้าตาดีละนะ มองเข้าไปในครัวนี่งานดีกว่าอีก โถพ่อคุณ
ซี่โครงหมูจะมีรสชาติหวานๆ เผ็ดๆ พันด้วยชีสหอมๆ เค็มนิดๆ ขอออกตัวก่อนว่าออยเป็นคนไม่ชอบชีสค่ะ
แต่ ณ จุดนี้บอกเลยว่าชีสที่นี่ได้ใจไปเต็มๆ รสชาติและความนุ่มของซี่โครงผสานกับชีส รสชาติเลยออกมาลงตัวมาก
รอบๆกระทะมีไข่ สลัดข้าวโพด มีเครื่องเคียงเป็นแตงกวาดอง กิมจิ (แต่ขอเตือนว่าแตงกวาดองนี่ระเบิดลงมาก คายแทบไม่ทัน เหม็นมากค่ะ)

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

และที่จริงกะจะดื่มแค่สองคืน แต่พอถึงเวลาจริงๆ พี่ดื่มทุกคืนกันเลยครับ แต่เดี๋ยวววว ไม่ได้ลำยองนะ
อาหารมื้อค่ำแต่ละมื้อมันเหมาะจริงๆที่จะมีโซจูสักขวดสองขวด พวกเราเลยสั่งโซจูรสส้มไป บอกเลยอร่อยเหาะ เข้ากับอาหารอย่างดี
ออยไม่ค่อยชอบโซจูธรรมดา เลยลองสั่งเป็นรสผลไม้มาดีกว่า และมันก็ดีจริงๆ

และอีกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในร้านนี้คือการแอ๊วเด็กเสิร์ฟ พวกเราพูดถึงความน่ารักของเขาในระยะเผาขน
เขายืนอยู่ตรงหัวโต๊ะ พวกนี่ก็ชมว่าเค้าหน้ารัก แซวเธอแต่เธอไม่รู้ เพราะเราพูดภาษาไทย
และก็ต้องกลับมาเงิบ เพราะหลังจากที่กลับไทยมาได้ไม่นาน มีเพื่อนของเพื่อนไปร้านนั้น เขาเจอเด็กเสิร์ฟคนนั้นค่ะ
เขาบอกว่าเด็กเสิร์ฟคนนั้นพูดภาษาไทยได้......
ค่ะ......

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าคิดว่าอยู่ต่างประเทศ แล้วคนต่างประเทศจะไม่รู้ภาษาเราค่ะ บาย

จากนั้นก็กลับที่พักค่ะ เพราะร่างกายพวกเราทั้งห้าคนล้าและอากาศก็หนาวมาก
เก็บแรงไว้วันต่อไป เพราะโปรแกรมวันรุ่งขึ้นนั้นแน่นจริงๆค่ะ (แน่นทั้งสถานที่และแน่นท้อง)
คร่อกกกกกก


ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ ❤
ชื่อสินค้า:   SEOUL, SOUTH KOREA
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่