คนปั่นจักรยานเนี่ยนะมักมีโรคคัน ผมเองก็มีอาการนี้ เริ่มจาก บันไดคลิปเลส ต่อมาก็อยากวัดอัตราการเต้นของหัวใจ จะได้ปั่นแบบคุมโซน
ก็เลือกหาว่าแบบไหนดีนะ พอดีได้ลอง polar FT7 ก็เลย แถมมีคนบอกว่า polar เนี่เบอร์ต้นๆเลยในเรื่องนาฬิกาวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ทนดี แม่น
เราก็หลงลมจัดมา 1 เครื่อง แต่ดูราคาในเมืองไทยแล้วมันแพงจัง เลยฝากเพื่อนซื้อจาก amazon แล้วหิ้วมาให้ จำราคาไม่ได้ ตกแล้วก็สองพัน ถูกกว่าซื้อในเมืองไทยประมาณครึ่งนึง
ทั้งที่ตอนนั้นสามารถหาซื้อยี่ห้ออื่นในเมื่องไทยเช่น timeplus ในราคาพันกว่าแต่ไม่เอา
ปรากฏว่าใช้ได้ไม่นาน (จำไม่ได้ว่านานแค่ไหน แต่ไม่ถึงปีแน่นอน) นาฬิกามันเสียครับ มันยังทำงานได้ดีทุกอย่างยกเว้นมันกินแบตแบบวายป่วงเลย ใส่ถ่านใหม่ๆเข้าไป ทิ้งไว้ไม่ถึงคืนแบตหมดเกลี้ยง
จริงๆก็น่าจะเข็ด แต่ไม่เข็ด ที่นี้เริ่มคิดมาก อยากได้แบบเก็บข้อมูลได้ เทียบกับความเร็ว ความสูง อะไรพวกนี้ ก็เลยไปลงตัวที่สายคาดแบบ Bluetooth low energy
ทั้งๆที่มีคนเตือนว่า garmin ไปเลย เจ็บแต่จบ หรือถูกว่า garmin แต่ทนถึกเหมือนกันอย่าง cateye stealth
แต่ก็ไม่นำพา ไปหาสายคาดใน amazon แล้วก็ฝากเพื่อนหิ้วมาอีก
รอบนี้ก็ยังนิยมของถูก ถูกที่สุดเท่าที่มันมีขายในโลกนี้นั่นคือ jarv hrm ชนิด bluetooth LE ผลิตในไต้หวัน ราคาประมาณ 25 หรือ 30 us$ นี่แหละ
ของมาตอนเมษาปี 2014
และเพื่อให้วัดและวิเคราะห์โซนได้ เลยซื้อแอพ runtastic ซึ่งมัน ok นะเพราะจ่ายครั้งเดียวสามารถดู heart rate zone ได้ด้วย ต่างจาก endo ที่ต้องจ่ายรายเดือนถึงจะได้ feature heart rate zone
มาดูหน้าตากันครับ
เอาด้านหลังมาให้ดู จะเห็นชื่อรุ่นเป็น hrm-10
ด้านหน้าครับ
สรุปว่ามันคือตัวเดียวกับ heart rate monitor hrm10 ของ i got U ทุกประการ หน้าตาก็เหมือนกันเปี๊ยบ ต่างแค่สกรีนยี่ห้อ
ส่วนสายคาดอกนี่ห่วยมากครับ ยืดง่ายมาก พอยืดเข้ามากๆผมเลยใช้วิธีมัดให้มันสั้นลง
เล่นง่ายๆแบบนี้เลย 555
[CR] รีวิว jarv heart rate monitor ชนิด bluetooth low energy
ก็เลือกหาว่าแบบไหนดีนะ พอดีได้ลอง polar FT7 ก็เลย แถมมีคนบอกว่า polar เนี่เบอร์ต้นๆเลยในเรื่องนาฬิกาวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ทนดี แม่น
เราก็หลงลมจัดมา 1 เครื่อง แต่ดูราคาในเมืองไทยแล้วมันแพงจัง เลยฝากเพื่อนซื้อจาก amazon แล้วหิ้วมาให้ จำราคาไม่ได้ ตกแล้วก็สองพัน ถูกกว่าซื้อในเมืองไทยประมาณครึ่งนึง
ทั้งที่ตอนนั้นสามารถหาซื้อยี่ห้ออื่นในเมื่องไทยเช่น timeplus ในราคาพันกว่าแต่ไม่เอา
ปรากฏว่าใช้ได้ไม่นาน (จำไม่ได้ว่านานแค่ไหน แต่ไม่ถึงปีแน่นอน) นาฬิกามันเสียครับ มันยังทำงานได้ดีทุกอย่างยกเว้นมันกินแบตแบบวายป่วงเลย ใส่ถ่านใหม่ๆเข้าไป ทิ้งไว้ไม่ถึงคืนแบตหมดเกลี้ยง
จริงๆก็น่าจะเข็ด แต่ไม่เข็ด ที่นี้เริ่มคิดมาก อยากได้แบบเก็บข้อมูลได้ เทียบกับความเร็ว ความสูง อะไรพวกนี้ ก็เลยไปลงตัวที่สายคาดแบบ Bluetooth low energy
ทั้งๆที่มีคนเตือนว่า garmin ไปเลย เจ็บแต่จบ หรือถูกว่า garmin แต่ทนถึกเหมือนกันอย่าง cateye stealth
แต่ก็ไม่นำพา ไปหาสายคาดใน amazon แล้วก็ฝากเพื่อนหิ้วมาอีก
รอบนี้ก็ยังนิยมของถูก ถูกที่สุดเท่าที่มันมีขายในโลกนี้นั่นคือ jarv hrm ชนิด bluetooth LE ผลิตในไต้หวัน ราคาประมาณ 25 หรือ 30 us$ นี่แหละ
ของมาตอนเมษาปี 2014
และเพื่อให้วัดและวิเคราะห์โซนได้ เลยซื้อแอพ runtastic ซึ่งมัน ok นะเพราะจ่ายครั้งเดียวสามารถดู heart rate zone ได้ด้วย ต่างจาก endo ที่ต้องจ่ายรายเดือนถึงจะได้ feature heart rate zone
มาดูหน้าตากันครับ
เอาด้านหลังมาให้ดู จะเห็นชื่อรุ่นเป็น hrm-10
ด้านหน้าครับ
สรุปว่ามันคือตัวเดียวกับ heart rate monitor hrm10 ของ i got U ทุกประการ หน้าตาก็เหมือนกันเปี๊ยบ ต่างแค่สกรีนยี่ห้อ
ส่วนสายคาดอกนี่ห่วยมากครับ ยืดง่ายมาก พอยืดเข้ามากๆผมเลยใช้วิธีมัดให้มันสั้นลง
เล่นง่ายๆแบบนี้เลย 555