แท็กซี่สุวรรณภูมิ ไม่กดมิเตอร์ เรียกค่าบริการชาวต่างชาติ 800 บาท

สวัสดีค่ะ  เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเพื่อนดิฉันเอง  ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ 2 คน(สามีและภรรยา) เพื่อนดิฉันทั้งสองคนนี้จะมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยเป็นประจำทุกปี แต่นี่เป็นเหตุการณ์ครั้งแรกที่เจอแท็กซี่เลวๆ แบบนี้ ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดิฉันไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วยในช่วงแรกระหว่างที่นั่งในรถแท็กซี่ แต่ดิฉันจะอยู่ในเหตุการณ์ด้วยเป็นช่วงท้ายๆ แล้ว ดังนั้นจะพยายามเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ละเอียดและชัดเจนที่สุดนะค่ะ

วันเสาร์ที่ 12 มี.ค. 2559
ณ บริเวณจุดบริการแท็กซี่สุวรรณภูมิ เวลา 14.00 นาที โดยประมาณ

เริ่มแรกเลย เพื่อนดิฉันได้บัตรคิวรถแท็กซี่ที่ช่อง 38 เพื่อเดินทางไปย่านห้วยขวาง แต่พอไปถึงช่องจอดรถแท็กซี่  คนขับแท็กซี่ได้ปฏิเสธการให้บริการโดยให้เหตุผลว่าเพื่อนดิฉันมีกระเป๋าเยอะเกินไป เพื่อนดิฉันมีกระเป๋าทั้งหมด 4 ใบ(ใบใหญ่ 2 และใบเล็กสำหรับถือขึ้นเครื่อง 2 ใบ) คนขับแท็กซี่คนนี้ได้บอกว่าต้องไปเรียกรถคันใหญ่เท่านั้น เพื่อนดิฉันเลยเดินกลับไปที่จุดรับบัตรคิวรถแท็กซี่เพื่อขอบัตรคิวใหม่ และได้บัตรคิวใหม่เป็นช่องที่ 35 เหตุการณ์ต่อจากนี้แหละค่ะที่เป็นสาเหตุให้ดิฉันต้องมาตั้งกระทู้ เพราะไม่อยากให้แท็กซี่เลวๆ คันนี้ใช้อาชีพสุจริตมาหากินในคราบมิจฉาชีพหลอกผู้โดยสารท่านอื่นๆ อีกต่อไป

พอเพื่อนดิฉันมาที่ช่องจอดรถแท็กซี่ ช่องที่ 35 คนขับรถแท็กซี่ก็รับเพื่อนดิฉันขึ้นรถตามปกติ พร้อมเรียกเก็บค่าบริการแท็กซี่ 50 บาททันที เพื่อนก็จ่ายไป 50 บาท และแท็กซี่ได้ขอใบสแกนบัตรคิวด้วย แต่เมื่อผ่านจุดสแกนบัตรคิว แท็กซี่ก็ไม่ได้คืนบัตรมาให้เพื่อนดิฉัน ซึ่งปกติจะต้องคืนมาให้ผู้โดยสารเพื่อเป็นหลักฐานข้อมูลคนขับรถแท็กซี่

หลังจากที่รถผ่านจุดสแกนบัตรคิวไปได้ไม่นาน เพื่อนดิฉันสังเกตุเห็นแท็กซี่ไม่ได้กดมิเตอร์ เลยท้วงถามไป แต่แท็กซี่บอกว่า ไม่กด พร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือกดตัวเลขบนมือถือยื่นให้ดูว่าค่าแท็กซี่ 800 บาท  แต่เพื่อนไม่ยอมและบอกว่าต้องกดมิเตอร์เท่านั้น ในระหว่างนั้นแท็กซี่คันนี้ได้วนรถไปทางคาร์โก ยังไม่ได้วนไปทางออก เพราะตกลงราคาไม่ได้ แท็กซี่คันนี้เลยบอกว่าจะจอดให้เพื่อนดิฉันลงตรงนี้เลย ซึ่งเป็นตรงคาร์โกที่สนามบิน แต่เพื่อนได้บอกว่า ถ้าปล่อยให้ลงตรงนี้จะแจ้งตำรวจ (ในขณะนั้นเพื่อนได้ถ่ายรูปประจำตัวคนขับรถที่อยู่ด้านหน้ารถไว้ด้วย แต่ตอนนี้ดิฉันยังไม่สามารถโพสได้ จะโพสให้ทีหลังนะค่ะ) แท็กซี่จึงยอมกดมิเตอร์และแสดงอาการไม่พอใจอย่างมากต่อเพื่อนดิฉัน หลังจากออกจากสนามบินก่อนที่จะขึ้นทางด่วน แท็กซี่ได้ปิดแอร์ในรถ และเปิดกระจกลง ทั้งที่ตอนแรกแอร์ก็เย็นปกติ ไม่น่าจะเสียกระทันหัน และตอนนั้นอากาศก็ร้อนมากๆ แต่เพื่อนดิฉันก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร เพราะไม่อยากมีปัญหาอีกและเหนื่อยจากการเดินทาง

ในระหว่างที่นั่งรถ เพื่อนดิฉันสังเกตุเห็นว่ามิเตอร์หมุนเร็วผิดปกติ จึงได้อัดวีดีโอไว้ ดิฉันจะโพสให้ทีหลังนะค่ะ ตอนนี้รอเพื่อนส่งวีดีโอให้ก่อน

ต่อมา เวลา 14.42 นาที
เพื่อนได้โทรศัพท์หาดิฉันเพื่อบอกว่าใกล้จะถึงแล้ว ให้มารับที่ข้างล่างคอนโดหน่อย (ลืมบอกไปค่ะว่า เพื่อนได้เดินทางมาหาฉันที่คอนโด) เพราะคิดว่าต้องโดนแท็กซี่โกงมิเตอร์แน่ๆ และแท็กซี่พูดจาไม่ดีด้วย ทำท่าหงุดหงิดตลอดทางขณะขับรถ ซึ่งดิฉันก็ตกใจและเป็นห่วงเพื่อนมากเพราะเคยเห็นข่าวแท็กซี่ทำร้ายผู้โดยสาร จึงรีบลงไปรับเพื่อนข้างล่างคอนโด

โดยปกติค่าแท็กซี่จากสุวรรณภูมิมาที่คอนโดประมาณ 250บาท ไม่เคยเกินจากนี้แม้จะรถติดมากก็ตาม ดิฉันก็แปลกใจมาก ทำไมมิเตอร์ราคานี้ได้ และเป็นช่วงที่รถไม่ติดด้วย

พอดิฉันลงมาถึงข้างล่างคอนโด ดิฉันเห็นเพื่อนที่เป็นผู้หญิงยืนอยู่คนเดียวพร้อมกระเป๋าเดินทาง ส่วนเพื่อนผู้ชายไปแลกเงินที่มินิมาร์ทหน้าคอนโด เพราะเพื่อนมีแบงค์ย่อยแค่สามร้อยกว่าบาทและที่เหลือมีแต่แบงค์พัน ซึ่งไม่พอค่ามิเตอร์ที่ขึ้นโชว์เป็นจำนวนเงิน 397 บาท ในขณะที่ดิฉันกำลังยืนคุยกับเพื่อนเพื่อถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แท็กซี่คนนี้ก็ได้ตะโดนมาจากในรถในขณะที่เค้ากำลังถอยรถเพื่อเตรียมวนรถออก ตะโกนถามดิฉันว่า มีอะไร มีอะไรเปล่า เป็นน้ำเสียงที่ดุดันไม่สุภาพและไม่มีมารยาทเลย เพราะตะโดนด้วยน้ำเสียงแบบหาเรื่องมาก และดิฉันกำลังยืนคุยกับเพื่อน ก็งงว่าทำไมไม่เข้ามาถามกันดีๆ คือไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะโมโหอะไร น่าจะเป็นเพื่อนดิฉันมากว่ากว่าที่จะโมโห ที่ได้รับการบริการแย่ๆ แบบนี้

หลังจากนั้น แท็กซี่คนนี้ได้เดินมาหาดิฉันกับเพื่อน บทสนทนาดังนี้ค่ะ
แท็กซี่ -  มีอะไร มีปัญหาอะไรเปล่า
ดิฉัน   -  ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นค่ะ เรื่องราวเป็นอะไรยังไงมาคะ ขณะนั้น ดิฉันก็พยายามพูดจาให้ดีที่สุด เพราะคิดว่าอาจเป็นการเข้าใจผิดกันก็ได้ เพราะในขณะนั้น เพื่อนยังไม่ได้เล่ารายละเอียดอะไรให้ดิฉันฟังเลย

แท็กซี่  -  ก็เนี่ยบอกว่าจะจ่าย 400 จ่ายมาซิ
ดิฉัน    -  จ่ายค่ะ ค่ามิเตอร์เท่าไหร่คะ เพื่อนไปแลกเงินอยู่ค่ะ แล้วพี่รับเพื่อนมาจากไหนคะ ที่ดิฉันถาม เพราะอยากให้แน่ใจว่าเป็นแท็กซี่สุวรรณภูมิจริงๆ ไม่ใช่แท็กซี่เถื่อน จะสามารถตามตัวได้ทีหลังหากมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น

ซึ่งดิฉันก็ถามไปตั้งสองรอบ แต่ก็ไม่ตอบคำถามดิฉัน ได้แต่ตะคอกดิฉันกับเพื่อนว่า จ่ายมา 400 ก็บอกว่าจะจ่าย 400 ซึ่งในขณะนั้น ดิฉันถามเพื่อนว่า ยูบอกว่าจะจ่ายสี่ร้อยเหรอ เพื่อนตอบว่าไม่ ดิฉันเลยถามแท็กซี่อีกครั้งว่า ค่ามิเตอร์เท่าไหร่คะ แต่ก็ไม่ตอบดิฉัน แล้วตะคอกใส่เพื่อนดิฉันว่า 400 จะจ่ายไม่จ่าย จ่ายมาเดี๋ยวนี้ ซึ่งเพื่อนดิฉันก็ไม่ได้ตอบอะไร เพราะฟังไทยและพูดไทยไม่ได้ เพื่อนก็ตกใจและยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก เพราะแท็กซี่คนนี้ตะคอกถามแบบไม่พอใจมากๆ ดิฉันก็พยายามพูดดีๆ ถามด้วยคำพูดที่สุภาพมี คะ ค่ะ ทุกคำ แต่เค้าก็ตอบกลับแบบมีอารมณ์โมโหมากๆ ทำไมไม่ฟังว่าเพื่อนไปแลกเงินอยู่  ซึ่ในกรณีนี้ ดิฉันคิดว่า แท็กซี่อาจจะเข้าใจผิดคิดว่าเพื่อนดิฉันจะไม่จ่ายหรือเปล่า เค้าคงไม่ค่อยเข้าใจภาษอังกฤษที่เพื่อนดิฉันบอกว่าจะไปแลกเงินมาให้ แต่เพื่อนดิฉันก็ไม่ได้เดินหนีไปไหน ก็ยืนอยู่กับกระเป๋า คือไม่เข้าใจเหมือนกันว่า เค้าไม่พอใจอะไร

ในขณะนั้น เพื่อนผู้ชายได้เดินมาพอดี พร้อมกับยื่นเงินให้แท็กซี่ 400 บาท แล้วแท็กซี่ก็ได้หันมาพูดกับดิฉันว่า
แท็กซี่  -  จบนะ มีปัญหาอะไรไหม จบไหม
ดิฉัน    -  ไม่จบค่ะ พี่พูดจาไม่ดีอย่างนี้ หนูก็พยายามพูดกับพี่ดีๆ แล้วทำไมมาพูดแบบนี้ แล้วพี่ทำแบบนี้กับเพื่อนหนุไม่ถูกต้องนะค่ะ
แท็กซี่  -  ทำไมไมจบ
ดิฉัน    -  ก็พี่พูดไม่ดี มาพูดไม่ดีกับหนูกับเพื่อนหนูทำไมคะ พี่ทำแบบนี้ไม่ถูกต้องนะค่ะ

ดิฉันก็พยายามพูดจาดีๆ และใจเย็นมากที่สุดแล้ว แต่มาปรี๊ดแตกตรงนี้แหละค่ะ

แท็กซี่  -  เออ ไม่จบก็ไม่ต้องจบ มายิ้มทำไม (เค้าพูดในขณะที่กำลังเดินกลับรถ)
ดิฉัน    -  อ้าว..ก็เป็นเพื่อนหนูนี่ค่ะ มาพูดจาไม่ดีก่อนนะ ไม่จบแน่
แท็กซี่  -  ไม่จบก็ไม่จบ ไม่ใช่แม่กูนี่

พอดิฉันเจอคำนี้เท่านั้นแหละค่ะ คือไม่อดทนพูดจาสุภาพดีๆ ด้วยแล้ว เลยพูดสวนกลับไปทันทีว่า เออ..ก็ไม่ใช่พอกูนี่ มานี่ กูไม่จบ

ในขณะนั้น แท็กซี่ได้เดินกลับไปที่รถ และพูดอีกว่า ไม่ใช่แม่กูนี่ ดิฉันก็ตะโกนกลับไปอีกว่า ไม่ใช่พ่อกูเหมือนกัน กูไม่จบ มานี่ แต่แท็กซี่ก็ได้รีบขับรถออกไป เพราะตอนนั้น รปภ.คอนโดกำลังเดินมาหา เนื่องจากเสียงเริ่มดังขึ้นมากเพราะตะโดนใส่กันไปมา

นี่คือเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดค่ะ อาจจะมีบางคำที่ตกหล่นไปบ้าง แต่ใจความสำคัญก็ประมาณนี้ค่ะ พอเหตุการณ์ผ่านได้ เพื่อนดิฉันได้เล่ารายละเอียดทั้งหมดให้ดิฉันฟัง ดิฉันก็ได้แต่เจ็บใจตัวเองที่คิดไม่ทันว่า ทำไมไม่บอกเพื่อนว่า ยังไม่ต้องจ่ายเงิน ให้ไปตกลงกันที่สน.ดีกว่า ถ้าเจอแท็กซี่มิจฉาขีพแบบนี้ เรียกเงินจากผู้โดยสาร มันผิดกฏหมายอยู่แล้ว ด้วยความที่ตกใจ ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกันค่ะ เลยคิดไม่ทันจริงๆ  

ดังนั้น ดิฉันเลยตัดสินใจเล่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เพื่อเตือนภัยผู้โดยสารแท็กซี่ทุกท่านค่ะ และหากเพื่อนๆ พันทิพท่านใดมีข้อเสนอแนะในการร้องเรียนแท็กซี่เพื่อที่จะให้มีบทลงโทษแท็กซี่มิจฉาชีพคนนี้ รบกวนช่วยแนะนำด้วยนะค่ะ ดิฉันพร้อมที่จะให้ข้อมูลและรายละเอียดทุกอย่าง มีทั้งรูปและวีดีโอ ครบค่ะ ขอบคุณค่ะ





***ตอนนี้ดิฉันมีรูปทั้งหมด 3 รูป สามารถโพสได้ 2 รูปก่อน ส่วนอีก 1 รูปที่เหลือ จะโพสเพิ่มทีหลังนะค่ะ เนื่องจากมีรูปบุคคลอื่นในรูป ขอทำการแต่งรูปก่อน ส่วนวีดีโอที่เพื่อนดิฉันถ่ายไว้ขณะที่มิเตอร์หมุนเร็วผิดปกติ รอเพื่อนส่งวีดีโอทั้งหมดมาให้ก่อนค่ะ แล้วจะโพสเพิ่มเติมทีหลัง

***ดิฉันคิดว่าหลังจากที่เขียนกระทู้นี้เสร็จแล้วจะโทรแจ้งศูนย์ร้องเรียนแท็กซี่ 1584 แต่ก็ไม่แน่ใจว่า ศูนย์ร้องเรียนแท็กซี่จะมีมาตรการยังไงที่จะลงโทษแท็กซี่มิจฉาชีพแบบนี้ เพราะได้ยินมาว่า ร้องเรียนไปก็ไม่เกิดอะไรขึ้น ก็ยังมี่แท็กซี่ทำแบบนี้กับผู้โดยสารอยู่เรื่อยๆ

***ตอนแรกตั้งใจว่าจะโพสตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องเลย แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะต้องทำการยืนยันบัตรประชาชนกับพันทิพก่อน ที่ผ่านไม่ได้ยืนยันเพราะแค่เข้ามาอ่านและแชร์ในเฟสบุ๊คเฉยๆ ไม่คิดว่าจะต้องเป็นคนตั้งกระทู้เอง ดังนั้นครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่ได้ตั้งกระทู้ หากมีอะไรผิดพลาด ขอคำแนะนำด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่