#เรื่องมีอยู่ว่า คือผมชอบผู้หญิงคนนึงเธอเรียนแพทย์(หมอ) ผมชอบเธอตั้งแต่ ปี1 แล้ว จนตอนนี้ก็ผ่านมาแล้ว 4 ปี
#ขอเข้าเรื่องของผมเลยแล้วกันคือผมไม่เคยจีบผู้หญิงมาก่อนเลย ผมก็เลยศึกษาการจีบผู้หญิงจากเพื่อนหรือขอคำแนะนำจากเพื่อน เเล้วก็ลองเอามาใช้ แต่ไม่ได้เอามาใช้ตั้งหมด บางคำมันก็เสี่ยวเกินไป บางคำมันก็ดูไม่ค่อยดีสำหรับความคิดผม เวลาผมพิมพ์หรือคุยกับคนที่ผมชอบ ผมจะคิดหนักมากเวลาพิมพ์หาเขาหรือเวลาพูดคุย กลัวว่าที่พิมพ์/พูด ไปจะดูไม่ดี เขาจะไม่ชอบ ฯ แต่เวลาพิมพ์หรือพูดคุยกับ ผู้หญิงคนอื่น เช่น เพื่อน พี่ หรือรุ่นน้อง จะพิมพ์หรือพูดคุยแบบกันเอง คุยแบบไม่ติดขัดอะไร แต่เวลาคุยกับคนที่ชอบนี่สิ คิดหนักมาก ไม่รู้จะพูดหรือพิมพ์อะไรเลย จนผ่านมาประมาณ 3 เดือน ผมก็กล้าพูดคุยหรือพิมพ์กับเขามากขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้บ่งบอกว่าจีบหรือชอบเขา เพราะผมไม่รู้วิธีจีบผู้หญิง เอาง่ายๆคือจีบไม่เป็น จนผ่านมา 1 ปี (ใน 1 ปีมานี้ เจอกันแค่ 3-5 ครั้งนี่แหละเพราะเรียนคนละสาขาผมเรียนวิศวะ ส่วนเขาเรียนแพทย์) ผมก็เริ่มกล้าจีบเขา แรกๆก็ไม่รู้ว่าจีบหรือเปล่านะผมคิดว่าคงจีบแหละ ผมจะส่งสติ๊กเกอร์รูป ดอกไม้ ดอกกุหลาบให้ประจำเวลาเขาอ่านหนังสือ บอกหลับฝันดีทุกวัน นี่ไม่รู้เรียกจีบรึป่าวนะ ส่วนตัวคิดว่านี่แหละการจีบผู้หญิง จนมีอยู่ครั้งหนึ่งไม่รู้เล่นมุขนี้ได้ไง แบบว่าเขาพิมพ์มาว่า วันนี้เหนื่อยมากเลยสอบทั้งวัน ผมก็พิมพ์ไปว่า ถ้าเหนื่อยเดี๋ยวเราดูแลเอง จะดูแลทั้งกายและหัวใจอย่างดีเลย ไม่รู้ตอนนั้นกล้าพิมพ์ได้ยังไงไม่รู้ เหมือนอารมณ์ชั่ววูบ ฮ่าๆ เขาก็ส่งรูปสติกเกอร์รูปยิ้มมา ผมก็คุยกันแบบนี้ จนผ่านมา 2 ปี (ปีที่ 2 เจอกันครั้งเดียวตอนไปถ่ายทำวีดีโอที่คณะแพทย์) ประมาณเดือนกันยายนอยู่ๆเขาก็ถามผมทางแชทขึ้นมาเลยว่า นี่ตั้งแต่ที่เราคุยกันมา ... จีบเค้าอยู่ใช่มั้ย (...นี่สมมุติว่าเป็นชื่อเล่น) ผมก็ตอบไปว่าใช่จีบอยู่ เราชอบ ... มาตั้งแต่ที่ได้คุยกันวันแรกแล้ว ซักพักเขาก็พิมพ์มาว่า ขอบคุณนะที่ชอบเรา มีความรู้สึกดีๆให้เรามาโดยตลอด แต่เค้าไม่คิดอะไรนะ บอกไว้ก่อน ว่ากลัว...จะเสียเวลาเปล่าๆ ถ้าจะเลิกคุยกับเค้าก็ได้นะเค้าไม่ว่าอะไร จังหวะนั้นผมนี่ติดสตั้นไปหลายวิอยู่ ฮ่าๆ พอได้สติกับคืนมาก็พิมพ์ไปเลยว่า ไม่เลิกคุยหรอก ตอนนี้เราอาจจะชอบ...อยู่ฝ่ายเดียว แต่เราก็จะรอ รอจนว่า...จะชอบเราหรือเปิดโอกาศให้เราได้ทำความรู้จักกันมากกว่านี้ แล้วผมก็ส่งสติกเกอร์รูปยิ้มไปด้วย แล้วซักพักเขาพิมพ์กลับมาว่า เค้าเตือนแล้วนะ ถ้าจะรอก็รอไปนะ ผมก็ตอบไปว่าเวลามีเหลือเฟือรอนานแค่ไหนก็รอได้ ตอนนั้นมะรู้พิมพ์คำนี้ไปได้ไง เสี่ยวๆไงมะรู้ ฮ่าๆ แล้วเขาก็เงียบไปซักพัก แล้วก็พิมพ์กลับมาว่า แล้วแต่น๊า เตือนแล้ว
ละเราก็เปลี่ยนเรื่องคุย วันถัดๆมาก็คุยปกติเหมือนอย่างที่คุยกันมาตลอด ทำอะไรอยู่ กินข้าวรึยัง อ่านหนังสือถึงไหนแล้ว สอบเป็นยังไงบ้าง เรียนวันนี้เหนื่อยมั้ย สู้ๆนะเราเป็นกำลังใจให้ ฯ จนผ่านมาถึงตอนนี้ ก็ 4 ปีแล้วเหมือนที่บอกไปตอนต้น ผมก็กำลังจะเรียนจบแล้ว ส่วนเขาตอนนี้อยู่ปี 4 (หมอเรียน6ปี) ผมก็ยังคุยกับเขาเหมือนปกติ มีหยอดบ้างครั้งคราว ส่งสติกเกอร์ดอกกุหลาบให้ทุกวัน บอกหลับฝันดีทุกวัน ไม่เคยขาดแม้แต่วันเดียว

จนตอนนี้รู้สึกท้อๆยังไงไม่รู้ แต่ก็ไม่รู้จะหาคนแบบเขาได้จากที่ไหนอีก จะบอกยังไงดี คือแบบว่าผมจะมีโมเม้นแบบว่า ถึงจะไม่เคยเจอกันหรือคุยกันเลย แต่รู้สึกผูกพันธ์ รู้สึกว่าคนนี้แหละคือคนที่เราตามหาอยู่ อะไรทำนองนี้ ซึ่งทั้งชีวิต มีโมเม้นนี้แค่ 2 ครั้ง คือตอนอยู่มัธยมกับตอนอยู่มหาลัย

ตอนนี้ก็เริ่มคิดเริ่มถามตัวเองแล้วว่าควรจะรอต่อไปดีไหม หรือควรหยุดดี แต่ใจจริงคงไม่หยุดหรอกมาไกลขนาดนี้แล้ว แต่ลึกๆมันก็อดคิดไม่ได้ว่า ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว เขายังไม่สนใจเราหรือชอบเราบ้างเลยหรอ พอคิดแล้วก็รู้สึกเจ็บนิดๆ ฮ่าๆ
#ใครอ่านมาถึงตรงนี้ผมก็ขอขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ
#ใครจะออกความเห็นว่าจะรอ หรือจะหาคนใหม่ ก็ออกความเห็นได้นะครับ
ผมควรรอต่อไปดีไหม
#ขอเข้าเรื่องของผมเลยแล้วกันคือผมไม่เคยจีบผู้หญิงมาก่อนเลย ผมก็เลยศึกษาการจีบผู้หญิงจากเพื่อนหรือขอคำแนะนำจากเพื่อน เเล้วก็ลองเอามาใช้ แต่ไม่ได้เอามาใช้ตั้งหมด บางคำมันก็เสี่ยวเกินไป บางคำมันก็ดูไม่ค่อยดีสำหรับความคิดผม เวลาผมพิมพ์หรือคุยกับคนที่ผมชอบ ผมจะคิดหนักมากเวลาพิมพ์หาเขาหรือเวลาพูดคุย กลัวว่าที่พิมพ์/พูด ไปจะดูไม่ดี เขาจะไม่ชอบ ฯ แต่เวลาพิมพ์หรือพูดคุยกับ ผู้หญิงคนอื่น เช่น เพื่อน พี่ หรือรุ่นน้อง จะพิมพ์หรือพูดคุยแบบกันเอง คุยแบบไม่ติดขัดอะไร แต่เวลาคุยกับคนที่ชอบนี่สิ คิดหนักมาก ไม่รู้จะพูดหรือพิมพ์อะไรเลย จนผ่านมาประมาณ 3 เดือน ผมก็กล้าพูดคุยหรือพิมพ์กับเขามากขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้บ่งบอกว่าจีบหรือชอบเขา เพราะผมไม่รู้วิธีจีบผู้หญิง เอาง่ายๆคือจีบไม่เป็น จนผ่านมา 1 ปี (ใน 1 ปีมานี้ เจอกันแค่ 3-5 ครั้งนี่แหละเพราะเรียนคนละสาขาผมเรียนวิศวะ ส่วนเขาเรียนแพทย์) ผมก็เริ่มกล้าจีบเขา แรกๆก็ไม่รู้ว่าจีบหรือเปล่านะผมคิดว่าคงจีบแหละ ผมจะส่งสติ๊กเกอร์รูป ดอกไม้ ดอกกุหลาบให้ประจำเวลาเขาอ่านหนังสือ บอกหลับฝันดีทุกวัน นี่ไม่รู้เรียกจีบรึป่าวนะ ส่วนตัวคิดว่านี่แหละการจีบผู้หญิง จนมีอยู่ครั้งหนึ่งไม่รู้เล่นมุขนี้ได้ไง แบบว่าเขาพิมพ์มาว่า วันนี้เหนื่อยมากเลยสอบทั้งวัน ผมก็พิมพ์ไปว่า ถ้าเหนื่อยเดี๋ยวเราดูแลเอง จะดูแลทั้งกายและหัวใจอย่างดีเลย ไม่รู้ตอนนั้นกล้าพิมพ์ได้ยังไงไม่รู้ เหมือนอารมณ์ชั่ววูบ ฮ่าๆ เขาก็ส่งรูปสติกเกอร์รูปยิ้มมา ผมก็คุยกันแบบนี้ จนผ่านมา 2 ปี (ปีที่ 2 เจอกันครั้งเดียวตอนไปถ่ายทำวีดีโอที่คณะแพทย์) ประมาณเดือนกันยายนอยู่ๆเขาก็ถามผมทางแชทขึ้นมาเลยว่า นี่ตั้งแต่ที่เราคุยกันมา ... จีบเค้าอยู่ใช่มั้ย (...นี่สมมุติว่าเป็นชื่อเล่น) ผมก็ตอบไปว่าใช่จีบอยู่ เราชอบ ... มาตั้งแต่ที่ได้คุยกันวันแรกแล้ว ซักพักเขาก็พิมพ์มาว่า ขอบคุณนะที่ชอบเรา มีความรู้สึกดีๆให้เรามาโดยตลอด แต่เค้าไม่คิดอะไรนะ บอกไว้ก่อน ว่ากลัว...จะเสียเวลาเปล่าๆ ถ้าจะเลิกคุยกับเค้าก็ได้นะเค้าไม่ว่าอะไร จังหวะนั้นผมนี่ติดสตั้นไปหลายวิอยู่ ฮ่าๆ พอได้สติกับคืนมาก็พิมพ์ไปเลยว่า ไม่เลิกคุยหรอก ตอนนี้เราอาจจะชอบ...อยู่ฝ่ายเดียว แต่เราก็จะรอ รอจนว่า...จะชอบเราหรือเปิดโอกาศให้เราได้ทำความรู้จักกันมากกว่านี้ แล้วผมก็ส่งสติกเกอร์รูปยิ้มไปด้วย แล้วซักพักเขาพิมพ์กลับมาว่า เค้าเตือนแล้วนะ ถ้าจะรอก็รอไปนะ ผมก็ตอบไปว่าเวลามีเหลือเฟือรอนานแค่ไหนก็รอได้ ตอนนั้นมะรู้พิมพ์คำนี้ไปได้ไง เสี่ยวๆไงมะรู้ ฮ่าๆ แล้วเขาก็เงียบไปซักพัก แล้วก็พิมพ์กลับมาว่า แล้วแต่น๊า เตือนแล้ว
ละเราก็เปลี่ยนเรื่องคุย วันถัดๆมาก็คุยปกติเหมือนอย่างที่คุยกันมาตลอด ทำอะไรอยู่ กินข้าวรึยัง อ่านหนังสือถึงไหนแล้ว สอบเป็นยังไงบ้าง เรียนวันนี้เหนื่อยมั้ย สู้ๆนะเราเป็นกำลังใจให้ ฯ จนผ่านมาถึงตอนนี้ ก็ 4 ปีแล้วเหมือนที่บอกไปตอนต้น ผมก็กำลังจะเรียนจบแล้ว ส่วนเขาตอนนี้อยู่ปี 4 (หมอเรียน6ปี) ผมก็ยังคุยกับเขาเหมือนปกติ มีหยอดบ้างครั้งคราว ส่งสติกเกอร์ดอกกุหลาบให้ทุกวัน บอกหลับฝันดีทุกวัน ไม่เคยขาดแม้แต่วันเดียว
#ใครอ่านมาถึงตรงนี้ผมก็ขอขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ
#ใครจะออกความเห็นว่าจะรอ หรือจะหาคนใหม่ ก็ออกความเห็นได้นะครับ