ถึงแม้ว่าจะมีคำสั่งศาลปกครองออกมาคุ้มครองชั่วคราวลูกค้า 2G ในคลื่น 900 ออกไปจนถึงวันที่ 14 เม.ย. 59 เวลาเที่ยงคืนก็ตาม
ซึ่งบรรทัดฐานนี้ จะเป็นบรรทัดฐานเดียวกันให้กับผู้ให้บริการอีกหนึ่งเครือข่าย (DTAC) ว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า อาจจะเกิดเหตุการณ์เดียวกันกับที่ทาง AIS ที่ไปยื่นฟ้องศาลปกครองให้ออกคำสั่งออกมาดูแลลูกค้าของตนเองชั่วคราว
หวังว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า คงไม่มีเหตุการณ์ที่ DTAC จะรั้งลูกค้าไม่ให้ย้ายเครือข่ายกันอีกนะครับ
ปัญหาในแวดวงโทรคมนาคม ยังไม่จบสิ้น โดยเฉพาะ “เรื่องซิมดับ” ซึ่งกำลังสร้างความวิตกกังวลใจ ให้กับประชาชนหลายแสนคน
ยังวุ่นวายไม่จบไม่สิ้นจริง ๆ กับ ปัญหาในแวดวงโทรคมนาคม ยังไม่จบสิ้น โดยเฉพาะ “เรื่องซิมดับ” ซึ่งกำลังสร้างความวิตกกังวลใจ ให้กับประชาชนหลายแสนคน บอกเลยว่า งานนี้ถ้าใครทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน สังคมต้องเรียกร้องหาความรับผิดชอบ จากบุคคลหรือ “องค์กรนั้น” ทันที
แม้ “นายฐากร ตัณฑสิทธิ์” เลขาธิการ กสทช. จะยืนยันว่า เจ้าของสัญญาสัมปทานเดิมจะต้องยุติการให้บริการหรือซิมดับ ทันทีที่ผู้ชนะการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ รายหนึ่งรายใดมาชำระเงินค่าประมูลงวดที่ 1 พร้อมส่งมอบแบงก์การันตีให้แก่ กสทช.
โดยเมื่อ วันที่ 11 มีนาคม 2559 “ทรู” ซึ่งเป็น 1 ในผู้ชนะการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ ได้นำเงินมาชำระการประมูลงวดที่ 1 พร้อมส่งมอบแบงก์การันตีให้แก่ กสทช. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย กสทช.เตรียมออกใบอนุญาต 900 เมกะเฮิรตซ์ ให้ “ทรู” อย่างช้าสุดคือ วันที่ 15 มีนาคม
ดังนั้น โอกาสที่ประชาชนหลายแสนคน ต้องเจอกับปัญหาซิมดับเข้าใกล้มาทุกที เราจะทำอย่างไร ที่ไม่ให้ ประชาชนหลายแสนคนต้องประสบกับปัญหา เรื่องสำคัญแบบนี้ คงต้องขอวิงวอนและขอพึ่ง กสทช. ผู้ที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลผู้ประกอบการโทรคมนาคม ให้กระโดดลงมาช่วยเหลือ และคลี่คลายปัญหาเรื่องซิมดับ เพื่อไม่ให้ประชาชนต้องได้รับผลกระทบ
ก่อนหน้านี้มีข่าวมาโดยตลอดว่า “ทรู” พยายาม แก้ไขเรื่องปัญหาซิมดับมาโดยตลอด หาทางออกเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค ทั้งการเร่งรัดย้ายค่าย ขอเช่าอุปกรณ์โครงข่ายจากทีโอที และ เสนอให้ “กสทช.” เป็นคนกลางเจรจากับ เอไอเอส ด้วยการให้ใช้คลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ แต่ถูก “เอไอเอส” ปฏิเสธถึง 2 ครั้ง แต่กลับไปจ่ายเงินใช้โรมมิ่งร่วมกับ “คลื่นดีแทค” 1800 เมกะเฮิรตซ์
ทางออกที่ดีที่สุดคงหนีไม่พ้นที่ กสทช. ต้องใช้อำนาจตามมาตรา 63 พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 ที่ว่าด้วยการป้องกันประโยชน์สาธารณะในกรณีฉุกเฉิน เพื่อไม่ให้ลูกค้าที่ยังใช้งานบนโครงข่าย 900 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 8.8 ล้านราย ซึ่งเป็น ลูกค้า เอไอเอส 2 จี 8 แสนราย ลูกค้า เอไอเอส 3 จีที่โรมมิ่งอีก 8 ล้านราย ต้องเจอกับปัญหาซิมดับ ซึ่งถือเป็นการป้องกันประโยชน์สาธารณะในกรณีฉุกเฉิน และลดผลกระทบต่อการใช้งานของประชาชนน้อยที่สุด
พูดตามความเป็นจริง แม้ “นายฐากร” จะยืนยันว่า ไม่ต้องการให้ซิมดับ เนื่องจากอาจโดนประชาชนต่อว่าได้ กสทช. จึงให้เอไอเอสพิจารณาเช่าใช้งานคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์
ไม่เพียงแต่ของ “ทรู” แต่รวมถึง “แจส โมบาย” ด้วย รวมทั้งหมดปริมาณ 20 เมกะเฮิรตซ์ แม้ความต้องการใช้งานของ “เอไอเอส” ที่เคยแจ้ง กสทช. ไปจะอยู่ที่ 7.5 เมกะเฮิรตซ์ หรือ แม้ “แจส โมบาย” จะทิ้งใบอนุญาตด้วยหรือไม่ก็ตาม
ขณะที่ “ทรู” ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายเล็ก สัญชาติไทย เลือดไทย ได้ขอพักเรื่องการแข่งขันเอาไว้ก่อน โดยเน้นถึงความสำคัญของประชาชน ทำทุกวิถีทางที่จะไม่ให้ประชาชนผู้ที่ใช้คลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ทั้งพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร และ พื้นที่ห่างไกลความเจริญ ต้องได้รับผลกระทบ
โดยทรู เสนอยืดหยุ่นค่าใช้จ่าย หรือยอม ให้ “เอไอเอส” ใช้คลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ฟรี ถึงพฤษภาคม 2559 เพื่อแก้ปัญหาซิมดับ หวังเพื่อไม่ให้ประชาชนต้องเดือดร้อน
ต้องถามกันตรง ๆ เลยว่า เมื่ออีกฝ่ายยอมเสียสละ ให้ เอไอเอส ในฐานะ ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมโทรคมนาคมรายใหญ่ ที่มีต่างชาติถือหุ้น ได้ใช้คลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ฟรีไปอีก 3 เดือน เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน เพราะ ผู้บริหารของทรู แถลงให้สังคมได้ยินกันชัด ออกสื่อสาธารณะไปทั่ว ไม่มีบิดพลิ้วไม่มีเบี่ยงเบน ถามใจ “เอไอเอส” จะตอบแทนอย่างไร กับประชาชนคนไทยที่เป็นลูกค้าของตัวเอง
วันนี้ไม่ใช่ช่วงเวลา ต้องมาถือเขาถือเรา เป็นช่วงที่ทุกฝ่าย จะต้องหาทางช่วยเหลือกัน เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน อย่าลืมว่า การสื่อสารถือเป็นปัจจัยที่สำคัญ บนโลกใบนี้ไปแล้วจริง ๆ.
“เขื่อนขันธ์”“
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ : คมคิดฅนเขียน "อย่าทำร้ายคนไทย"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.dailynews.co.th/article/385831
อย่าทำร้ายคนไทย
ซึ่งบรรทัดฐานนี้ จะเป็นบรรทัดฐานเดียวกันให้กับผู้ให้บริการอีกหนึ่งเครือข่าย (DTAC) ว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า อาจจะเกิดเหตุการณ์เดียวกันกับที่ทาง AIS ที่ไปยื่นฟ้องศาลปกครองให้ออกคำสั่งออกมาดูแลลูกค้าของตนเองชั่วคราว
หวังว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า คงไม่มีเหตุการณ์ที่ DTAC จะรั้งลูกค้าไม่ให้ย้ายเครือข่ายกันอีกนะครับ
ปัญหาในแวดวงโทรคมนาคม ยังไม่จบสิ้น โดยเฉพาะ “เรื่องซิมดับ” ซึ่งกำลังสร้างความวิตกกังวลใจ ให้กับประชาชนหลายแสนคน
ยังวุ่นวายไม่จบไม่สิ้นจริง ๆ กับ ปัญหาในแวดวงโทรคมนาคม ยังไม่จบสิ้น โดยเฉพาะ “เรื่องซิมดับ” ซึ่งกำลังสร้างความวิตกกังวลใจ ให้กับประชาชนหลายแสนคน บอกเลยว่า งานนี้ถ้าใครทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน สังคมต้องเรียกร้องหาความรับผิดชอบ จากบุคคลหรือ “องค์กรนั้น” ทันที
แม้ “นายฐากร ตัณฑสิทธิ์” เลขาธิการ กสทช. จะยืนยันว่า เจ้าของสัญญาสัมปทานเดิมจะต้องยุติการให้บริการหรือซิมดับ ทันทีที่ผู้ชนะการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ รายหนึ่งรายใดมาชำระเงินค่าประมูลงวดที่ 1 พร้อมส่งมอบแบงก์การันตีให้แก่ กสทช.
โดยเมื่อ วันที่ 11 มีนาคม 2559 “ทรู” ซึ่งเป็น 1 ในผู้ชนะการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ ได้นำเงินมาชำระการประมูลงวดที่ 1 พร้อมส่งมอบแบงก์การันตีให้แก่ กสทช. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย กสทช.เตรียมออกใบอนุญาต 900 เมกะเฮิรตซ์ ให้ “ทรู” อย่างช้าสุดคือ วันที่ 15 มีนาคม
ดังนั้น โอกาสที่ประชาชนหลายแสนคน ต้องเจอกับปัญหาซิมดับเข้าใกล้มาทุกที เราจะทำอย่างไร ที่ไม่ให้ ประชาชนหลายแสนคนต้องประสบกับปัญหา เรื่องสำคัญแบบนี้ คงต้องขอวิงวอนและขอพึ่ง กสทช. ผู้ที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลผู้ประกอบการโทรคมนาคม ให้กระโดดลงมาช่วยเหลือ และคลี่คลายปัญหาเรื่องซิมดับ เพื่อไม่ให้ประชาชนต้องได้รับผลกระทบ
ก่อนหน้านี้มีข่าวมาโดยตลอดว่า “ทรู” พยายาม แก้ไขเรื่องปัญหาซิมดับมาโดยตลอด หาทางออกเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค ทั้งการเร่งรัดย้ายค่าย ขอเช่าอุปกรณ์โครงข่ายจากทีโอที และ เสนอให้ “กสทช.” เป็นคนกลางเจรจากับ เอไอเอส ด้วยการให้ใช้คลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ แต่ถูก “เอไอเอส” ปฏิเสธถึง 2 ครั้ง แต่กลับไปจ่ายเงินใช้โรมมิ่งร่วมกับ “คลื่นดีแทค” 1800 เมกะเฮิรตซ์
ทางออกที่ดีที่สุดคงหนีไม่พ้นที่ กสทช. ต้องใช้อำนาจตามมาตรา 63 พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 ที่ว่าด้วยการป้องกันประโยชน์สาธารณะในกรณีฉุกเฉิน เพื่อไม่ให้ลูกค้าที่ยังใช้งานบนโครงข่าย 900 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 8.8 ล้านราย ซึ่งเป็น ลูกค้า เอไอเอส 2 จี 8 แสนราย ลูกค้า เอไอเอส 3 จีที่โรมมิ่งอีก 8 ล้านราย ต้องเจอกับปัญหาซิมดับ ซึ่งถือเป็นการป้องกันประโยชน์สาธารณะในกรณีฉุกเฉิน และลดผลกระทบต่อการใช้งานของประชาชนน้อยที่สุด
พูดตามความเป็นจริง แม้ “นายฐากร” จะยืนยันว่า ไม่ต้องการให้ซิมดับ เนื่องจากอาจโดนประชาชนต่อว่าได้ กสทช. จึงให้เอไอเอสพิจารณาเช่าใช้งานคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์
ไม่เพียงแต่ของ “ทรู” แต่รวมถึง “แจส โมบาย” ด้วย รวมทั้งหมดปริมาณ 20 เมกะเฮิรตซ์ แม้ความต้องการใช้งานของ “เอไอเอส” ที่เคยแจ้ง กสทช. ไปจะอยู่ที่ 7.5 เมกะเฮิรตซ์ หรือ แม้ “แจส โมบาย” จะทิ้งใบอนุญาตด้วยหรือไม่ก็ตาม
ขณะที่ “ทรู” ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายเล็ก สัญชาติไทย เลือดไทย ได้ขอพักเรื่องการแข่งขันเอาไว้ก่อน โดยเน้นถึงความสำคัญของประชาชน ทำทุกวิถีทางที่จะไม่ให้ประชาชนผู้ที่ใช้คลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ทั้งพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร และ พื้นที่ห่างไกลความเจริญ ต้องได้รับผลกระทบ
โดยทรู เสนอยืดหยุ่นค่าใช้จ่าย หรือยอม ให้ “เอไอเอส” ใช้คลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ฟรี ถึงพฤษภาคม 2559 เพื่อแก้ปัญหาซิมดับ หวังเพื่อไม่ให้ประชาชนต้องเดือดร้อน
ต้องถามกันตรง ๆ เลยว่า เมื่ออีกฝ่ายยอมเสียสละ ให้ เอไอเอส ในฐานะ ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมโทรคมนาคมรายใหญ่ ที่มีต่างชาติถือหุ้น ได้ใช้คลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ฟรีไปอีก 3 เดือน เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน เพราะ ผู้บริหารของทรู แถลงให้สังคมได้ยินกันชัด ออกสื่อสาธารณะไปทั่ว ไม่มีบิดพลิ้วไม่มีเบี่ยงเบน ถามใจ “เอไอเอส” จะตอบแทนอย่างไร กับประชาชนคนไทยที่เป็นลูกค้าของตัวเอง
วันนี้ไม่ใช่ช่วงเวลา ต้องมาถือเขาถือเรา เป็นช่วงที่ทุกฝ่าย จะต้องหาทางช่วยเหลือกัน เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน อย่าลืมว่า การสื่อสารถือเป็นปัจจัยที่สำคัญ บนโลกใบนี้ไปแล้วจริง ๆ.
“เขื่อนขันธ์”“
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ : คมคิดฅนเขียน "อย่าทำร้ายคนไทย" [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้