กระทู้เตือนภัย "โดนล้วงกระเป๋าที่ฌอง เอลิเซ่ เพราะมัวแต่ลั้ลลาช้อปปิ้ง" (มีแต่ตัวหนังสือ)

สวัสดีครับ ชาวพันทิพธ์ทุกคน ฮัลโหลววว ฟรอม ดิ อาเธอไซด์นะครับ
เกริ่นก่อน .. คือใจจริงอยากจะมารีวิวเที่ยวปารีสแบบทริปยาจก(ไม่เอาเรียกว่าเที่ยวแบบประหยัดละกันเนอะ)มากกว่าเพราะตอนที่ไปเที่ยว คือกำเงินสดไปแค่17,xxxแล้วความพี้คของทริปคือไรคะนักเรียน? คือเงินสดเหลือกลับมาด้วยนะฮะนักเรียน โอ้วโหววว งงตัวเองมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็รูดบัตรเครดิตไปแบบหน้ามืดเหมือนกันครับ กลับมาทำงานใช้หนี้หัวฟูสุดพลัง อ้อ!แล้วก็อีกอย่างที่เลือกจะไม่ทำกระทู้รีวิวเพราะ "ฝีมือการถ่ายรูปห่วยมาก" และรูปน้อยมากครับ เต่าเอือม

เอาล่ะ เข้าเรื่องเลยละกันเนอะ เรื่องมันมีอยู่ว่าเมื่อกลางเดือนกุมภาฯผมไปเที่ยวปารีสมาครับ ถือเป็นทริปในฝันเลยก็ว่าได้ วางแผนอยู่นานมาก เกือบจะล่มไปหลายครั้ง แต่ในที่สุดก็ได้บินลัดฟ้าไปสู้ปารีสจนได้ อยู่ที่ปารีสทั้งหมดประมาณ8วันครับ ตลอดทั้ง7วันที่ผ่านมา ไม่มีเรื่องร้ายๆอะไรเกิดขึ้นเลยยยยยย ย้ำว่า ไม่มีเลยยยยยย คืออาจจะมีบ้างแต่ด้วยความโ ง่ของเราเองก็อาจจะไม่รู้ตัวว่า เอ้า นี่กุโดนหลอกอยู่รึป่าวนะ? หรือยังไงนะ อย่างเช่น ไปซื้อเครปราคาหน้าร้านแปะไว้ 3,5 Euro พอเข้าไปซื้อจริง จ่ายจริง แม่ค้าแซ่บ นางบอกราคา 5 Euro ตอนนั้นก็สตั้นท์ไปหลายวิเลยครับ แล้วก็พูดไปเลยว่า เอ้าไหนที่ป้ายมันเขียนไว้ 3,5 ไงว ะ (อันนี้พูดในใจ) แล้วก็ควักเงินจ่ายไปแบบสตั้นท์ๆแบบนั้นแหล่ะ(น้ำตาไหลทำไม? เม่าฝนตก)

เกือบลืมเลยว่าเล่าอะไรอยู่..ละตะนี้ พอวันสุดท้ายก่อนกลับครับ มีญาติที่ไทย ฝากซื้อน้ำหอม คือจริงๆกะว่าวันสุดท้ายจะไม่ออกไปไหนแล้วแก อยากนั่งชิลๆอยู่แถวๆโรงแรมไง ทำตัวเป็นปารีเซียงงี้ไง จิบสตาร์บั้คส์เก๋ๆง่ะ แต่สุดท้ายก็ต้องออกครับ จุดหมายของวันนี้คือถนนที่มีชื่อเสียงว่างดงาม ตระการตา มีความสวยเบอร์สุดของโลก นั่นคือถนนอะไรคะนักเรียน? ใช่แล้ว ถนนวิทยุ นั่นเอง ถุ้ยยยยยยย ฌอง เอลิเซ่ มั้ยยูวววว อมยิ้ม09 คือจริงๆ ฌอง เอลิเซ่นี่ไปมาเกือบจะทุกวันตลอดทั้งทริปนี้เลยครับ เพราะมันสวยจริงๆพ่อคุณ แม่คุณเอ๊ย ให้ตายเหอะ ไม่เชื่อไปหาภาพปลากรอบได้เลยครับ

หลังจากที่เดินเล่น เข้าร้านนู้น ออกร้านนี้ จนเงินในกระเป๋าบินไปถึงไซบีเรียแล้ว ก็มาจบสุดท้ายตัวฟินนาเล่ที่ร้าน Sephora สาขา ฌอง เอลิเซ่ ครับ ในนี้หมดไปค่อนข้างเยอะพอตัว (ใช้เงินราวกับเป็นเศษกระดาษ อะไรมันจะรวยเฟ่อร์ขนาดนั้น) หลังจากที่เลือกของที่ถูกใจได้หมดทุกอย่างแล้วคราวนี้ก็ถึงเวลาคิดเงิน มีพนง.แหม่มสาวนางนึงเดินเข้ามาทักทายว่า Bonjour, vous parlez francais? ผมก็เลยตอบไปด้วยความมั่นหน้า มั่นโหนกเลยว่า Non,Je ne parles francais. แล้วพนง.ก็ถามกลับมาอีกว่า You speak English? อ่ะโอเคคราวนี้ค่อยพูดกันรู้เรื่องหน่อย อย่าต้องให้ถึงขั้นลงไม้ลงมือ(ใช้ภาษาใบ้)เลย คือตอนแรกพนง.บอกให้ผมคิดเงินที่เค้าเตอร์ย่อย ซึ่งมันอยู่ไกลจากเค้าเตอร์คิดเงินรวมพอสมควร แต่มันเกิดมีปัญหาอะไรบางอย่างที่ผมไม่เข้าใจ พนง.แหม่มนางนี้เลยพาไปคิดเงินที่เค้าเตอร์ใหญ่ พึ่งผู้คนพลุกพล่านมากทีเดียว

ณ โมเม้นท์นั้น ผมก็หยิบประเป๋าสตางค์ที่มีบัตรเครดิตอยู่ แล้วส่งบัตรเครดิจให้พนง.แหม่มสาว หลังจากพอคิดเงินเสร็จ สาบานได้ว่าเก็บทุกอย่างลงกระเป๋าสะพายแล้ว ก็เดินออกไปนอกร้านด้วยความสบายใจ(และที่สะเพร่ามากๆคือการสะพายกระเป๋าไว้ด้านหลังครับ)แล้วก็เดินไปขึ้นเมโทรเพื่อจะกลับโรงแรม

ความพี้คมันอยู่ที่ตรงนี้!!! กำลังจะดูว่าเงินในกระเป๋าสตางค์เหลืออยู่เท่าไหร่ แต่..ฮัลโหลววววว กระเป๋าสะพายข้างหลังเปิดออกมาครึ่งใบแล้วจร้า พยายามควานหาทุกซอกทุกมุมในกระเป๋าก็ไม่เจอ ไม่มีวี่แววกระเป๋าสตางค์เลยครับคุณผู้ชม ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเลย อากาศประมาณ 4องศาแต่เหงื่อนี้แตกผลั่กๆยิ่งกว่าตอนอยู่เมืองไทย เอาไงดี? ลงรถไฟเลย นั่งย้อนกลับไปที่ ฌอง เอลิเซ่อีกรอบ ไปตามทางเดิม ที่เดิม เข้าSephoraหาพนง.แหม่มคนเดิมที่คิดเงินให้ ถามนางว่า ยู ยู จำไอได้มั้ย? ไอที่ซื้อของกับยูเมื่อกี้อ่ะ นางก็บอกว่าจำได้ ทำไมหรอ? คือไอทำกระเป๋าสตางค์หาย ยูช่วยไอหน่อยได้มั้ย? พอจะทำอะไรบ้างมั้ย? นางก็ทำหน้าตกใจแล้วถามว่า ยูหาดีแล้วหรอ? ยูลองหาดูดีๆอีกรอบนะ ผมก็เลยบอกไปว่า ไอหาดีแล้วหาทั่วแล้วไม่มีเลย พนง.แหม่มสาวเลยบอกว่า ยูรอแป้บนะ ไอไปตามการ์ดก่อน(ใครที่ไปแถวนั้นคงจะรู้ดีว่าทุกๆร้านจะมีการ์ดตรวจกระเป๋าก่อนเข้าร้าน) แล้วบทเพลงภาษาฝรั่งเศสระหว่างพนง.แหม่มสาวกับการ์ดหนุ่ม3คนก็เริ่มบรรเลงขึ้น อิกระเหรี่ยงนี้ยืนงงหน้ามืดเหงื่อแตกสุดพลัง

สรุปคร่าวๆคือ การ์ดเห็นผญ.น่าสงสัยนางหนึ่ง เดินเข้ามาในร้านแต่ก็ช้าไปแล้ว คงทำอะไรไม่ได้แล้ว กล้องวงจรปิดในร้านก็ขอดูไม่ได้ จะไปแจ้งความ?ก็คงทำอะไรไม่ได้เพราะวันรุ่งขึ้นต้องกลับไทยแล้ว พนง.แหม่มนางนั้นก็ดีครับ พยายามช่วยเหลือเท่าที่จะช่วยได้ บอกที่ตั้งสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุด หลังจากรู้ว่าคงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปตามจับนักล้วงแห่งปารีสแล้วก็เลยตัดสินใจ มุ่งหน้ากลับโรงแรมเลยครับ เฟลนิดนึงเพราะวาดฝันเกี่ยวกับมุมสวยๆโรแมนติก ฟรุ้งฟริ้งของปารีสไว้เยอะมาก ไม่คิดว่าจะมาเจอเอาวันสุดท้าย แต่ในโชคร้ายก็ยังมีโชคดีอยู่ครับ(ไม่รู้จะเรียกว่าโชคดีได้รึป่าวด้วย)คือ กระเป๋าสตางค์ใบที่โดนล้วงไปมีแค่เงินไทยอยู่ประมาณ1,000บาท บัตรเครดิตอีก4ใบ ไม่มีเงินยูโรอยู่เลย แบร่ๆๆๆๆๆ อมยิ้ม06 เพราะเงินยูโรเก็บไว้ที่ถุงเงินเน่าๆอีกใบ แล้วเอกสารสำคัญอย่างพาสปอร์ตก็ไม่หาย เลยไม่ได้ตื่นตระหนกตกใจอะไรมากมาย ไม่มีหวีดร้อง โนๆๆๆ

ถึงตรงนี้ก็อยากเตือนนักท่องเที่ยวทุกคนนะครับ ที่จะไปเที่ยว ไม่ว่าที่ไหนก็ตามบนโลกใบนี้ มีทั้งคนดีและคนไม่ดี อย่าคิดว่าชั้นเก่ง ชั้นไม่โดนหรอก หยั่มมา! เรื่องแบบนี้ มันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนครับ ผมยังโชคดีที่พาสปอร์ตไม่หาย ไม่งั้นเรื่องใหญ่แน่นอนและเรื่องนี้เกิดขึ้นวันสุดท้ายก่อนที่จะกลับไทยแค่1วัน ถ้าโดนล้วงตั้งแต่วันแรกๆที่ไปถึงคงเฟลมากๆ ได้แงะผนังโรงแรมกินแทนครัวซองท์แน่ๆ อีกเรื่องนึงคือไม่ว่ากระเป๋าของคุณจะเป็นแบบไหน สะพายข้าง,สะพายหลัง,สะพายแล่ง สะพายยังไงก็แล้วแต่ ให้เอาตัวกระเป๋าไว้ด้านหน้าเสมอ อย่าชะล่าใจไปครับ หรือทางที่ดีไม่ต้องเอากระเป๋าไปเลยเวลาออกนอกโรงแรม พกเงินติดตัวเท่าที่จำเป็น บัตรเครดิตเก็บในที่มิดชิด(แต่ไม่ต้องขนาดเหน็บที่ขอบกางเกงในนะ หื้มมม อันนั้นก็จะเกินไป๊) แต่ก็ไม่ใช่ว่า ชั้นต้องระวังตัวทุกฝีก้าว จะก้าวซ้ายก็ระวัง จะก้าวขวาก็ระแวง ไม่ต้องงงง มันจะทำให้การเที่ยวไม่สนุกเอานะฮะ แค่มีสติคอยจับ,คอยดู,คอยเช็ดกระเป๋าหรือสัมภาระอะไรของตัวเองทุกครั้งที่รู้ตัวก็พอครับ

สุดท้ายจริงๆละ ถึงแม้ว่าผมจะมีความทรงจำแย่ๆนิดหน่อยกับปารีสเมืองในฝันของผมและใครหลายๆคน แต่ปารีสก็ยังคงเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง มีความโรแมนติก อบอวนไปด้วยความรัก เหมือนที่ปารีสเคยเป็นมาตลอดครับ

ขอบคุณที่อ่านมาจนจบนะครับ ขออภัยสำหรับภาษาที่ไม่สุภาพ ถือว่ามาเล่า,มาเม้าท์,มาแชร์ให้เพื่อนฟังในวงเหล้า อุ้ย!ในโซเชียลเพื่อเป็นอุทาหรณ์แล้วกันเนอะ เอ้าชนนนนนนนนนน เจ้าคิกคัก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่