ไหนๆ ช่วงนี้ ก็เป็นช่วงเกือบจะปิดฤดูกาลของเด็กเอนท์ปี 59 กันแล้ว แพทย์กสพท.ก็เพิ่งจะประกาศกันไป GAT-PAT ก็เพิ่งจะสอบรอบสองเสร็จ
เด็กเอนท์ปี 60 ก็เริ่มเตรียมตัวอ่านหนังสือกันแล้ว นับถอยหลังกันอีกไม่กี่ร้อยวัน เราเองก็เป็นคนหนึ่งที่เริ่มเตรียมตัวบ้างแล้ว เพราะต้องเอนท์ปี 60 เหมือนกัน
แต่คือตอนนี้สับสนมาก ไม่รู้ว่าควรจะไปทางไหน บอกตรงนี้เลยว่า เราอยู่โรงเรียนที่ค่อนข้างมีค่านิยมไปทางแพทย์
และเป็นโรงเรียนชื่อดังแทบจะที่สุดของประเทศ ถ้าเอ่ยชื่อ คงไม่มีใครไม่รู้จัก แต่เพราะอย่างนี้เนี้ยแหละ ทำให้เราโดนคาดหวัง หวังว่าเราจะเรียนแพทย์
หวังว่าเราจะโตมาเป็นแพทย์ที่ดี เป็นนักวิจัยของประเทศชาติ แล้วยังไง ความกดดันมาลงที่ใคร ใครเป็นคนตัดสินใจ การที่เด็กอายุไม่ถึง 18 คนหนึ่ง
ต้องมารับผิดชอบความหวังของคนอีกหลายคน และอนาคตของตัวเองที่จะตามมาและติดตัวไปตลอดชีวิต
"จะเรียนอะไรก็ได้นะ ไม่บังคับ แต่ยังไงหมอก็มั่นคงที่สุดนะ " สองประโยคนี้ฟังดูขัดกันอย่างสิ้นเชิง ถ้าจะบังคับก็พูดมาเลยก็ได้ว่า ต้องเรียนหมอนะ
ต้องเลือกหมอนะ ไม่ต้องมาพูดให้สวยหรูแบบนี้ แต่ประเด็นมันอยู่ตรงไหนล่ะ อยู่ที่เราเองเนี้ยแหละ เราไม่ได้อยากที่จะเป็นแพทย์เพราะต้องการมีเงินมากมาย
หรือเพราะความต้องการของใคร ถ้าเราคิดจะเป็นแพทย์ เราจะเป็นเพราะเรารัก เราอยากช่วยเหลือคนอื่น เพราะอยากเป็นแพทย์ที่ดี รักในสิ่งที่ทำ เราอยาก
เป็นแบบนั้นมากกว่า แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่ชอบหรือเกลียดอะไรมากมายขนาดนั้นหรอกนะ แต่เราไม่ชอบเรียนวิทย์ ไม่ชอบวิชาท่องจำ เลือดไม่กลัว เข็มไม่กลัว
อาจารย์ใหญ่ไม่กลัว ง่ายๆ คือเรียนได้ แต่ใจไม่รัก เราถามรุ่นพี่หลายคนที่เอนท์ติดหมอกันไปกว่าครึ่งรุ่น ว่าทำไมถึงเลือกเรียนหมอ หลายๆคน ก็บอก
"ไม่รู้จะเรียนอะไร เรียนไปแล้วมันมั่นคง พ่อแม่อยากให้เรียน มีเพื่อนเยอะดี " นี่หรือ คือเหตุผลของการที่จะเติบโตมาเป็นแพทย์ที่ดี คนบางคนรู้ว่าตัวเองชอบ
อะไร แต่เลือกที่จะหยุดไว้ เพราะอาชีพนี้ เข้าใจแหละนะ ว่าโลกมันไม่ได้สวยงาม ความฝันและอุดมการณ์มันกินไม่ได้ สุดท้าย อะไรหลายๆอย่างก็มาจาก
เงิน
ครอบครัวเราไม่ได้ร่ำรวยขนาดที่เราจะเลือกเป็นอะไรก็ได้ เรายังมีพ่อ มีแม่ ต้องเลี้ยงดู และหวังให้ท่านอยู่สบาย เราอยากมีเงินเก็บเยอะ ๆ
มีอาชีพที่มั่นคง ดูแลพ่อแม่ ครอบครัวได้ ไม่รู้เหมือนกันเนอะว่าต้องไปทำอาชีพอะไร เราคิดว่า ถ้าเราจะเลือกแพทย์ เราก็ทำได้ หัวเราถึง ความสามารถเรามี
แต่ก็นั่นแหละ เราไม่รู้ว่าถ้าเราเลือกไปแล้ว มันจะใช่สำหรับเราหรือเปล่า เรากลัวเราเหนื่อย เหนื่อยกับสิ่งที่ไม่ได้รัก
อันที่จริง เราสนใจทางด้านเศรษฐศาสตร์นะ เรื่องการเงิน พวกทุนกพ. ทุนธนาคารแห่งประเทศไทย เราก็ศึกษาเอาไว้ กะว่าจะไปสอบ
เราอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง อยากบริหาร แต่ก็อย่างว่า ครอบครัวเราไม่มีทุนขนาดนั้น
และอีกอย่างจากใจ เรารักงานทางด้านนิเทศมาก เราชอบทำมาก กิจกรรมของโรงเรียนเราทำหมด เราชอบถ่ายรูป ชอบทำหนัง ทำวิดิโอ ชอบเป็นเบื้องหลัง
สิ่งที่เราแน่ใจที่สุดตอนนี้คือ ถ้าเราได้ทำด้านนี้ เราจะไม่เบื่อตัวเองแน่ๆ เรามั่นใจมากว่าเรารักมันจริงๆ เราอยากเป็นผู้กำกับ อยากเป็นเบื้องหลังงานอะไรแบบนี้
แต่ก็นะ สิ่งที่ใช่ กับ สิ่งที่ชอบ มันอาจจะไม่ได้อย่างเดียวกัน เราไม่รู้ว่าเราควรเดินไปทางไหน เรากลัวเราจะเสียใจทีหลังที่เราไม่เชื่อพ่อกับแม่ตอนนี้
เราอยากมีเป้าหมายในการอ่านหนังสือ เราอยากมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน ไม่ใช่อะไรเลือนลางไม่รู้จะเลือกอะไรแบบนี้
อยากจะเกิดมาโง่กว่านี้ซักนิด พ่อแม่จะได้ไม่คาดหวังขนาดนี้ และอาจจะได้เลือกในสิ่งที่ชอบจริงๆ
ปล. ไม่ได้อยากจะอวยตัวเองว่าเก่ง ว่าฉลาดอะไรทั้งนั้น เราพูดตามความจริง ตามความรู้สึกของเราจริงๆ ไม่อยากเจอคอมเม้นกระแนะกระแหนสักเท่าไร
อยากฟังคนมีประสบการณ์ ทุกด้านที่กล่าวไป เช่น เศรษฐศาสตร์ จบไปทำอะไรได้บ้าง มั่นคงไหม
นิเทศจบไปจะมีงานไหม ตกงานหรือเปล่า
ถ้าย้อนเวลากับไปได้จะเลือกเรียนแพทย์ไหม เลือกเรียนแพทย์เพราะอะไร อะไรทำนองนี้
ขอบคุณล่วงหน้า
อนาคตของเราขึ้นอยู่กับใคร พ่อแม่ เพื่อน หรือตัวเราเอง
เด็กเอนท์ปี 60 ก็เริ่มเตรียมตัวอ่านหนังสือกันแล้ว นับถอยหลังกันอีกไม่กี่ร้อยวัน เราเองก็เป็นคนหนึ่งที่เริ่มเตรียมตัวบ้างแล้ว เพราะต้องเอนท์ปี 60 เหมือนกัน
แต่คือตอนนี้สับสนมาก ไม่รู้ว่าควรจะไปทางไหน บอกตรงนี้เลยว่า เราอยู่โรงเรียนที่ค่อนข้างมีค่านิยมไปทางแพทย์
และเป็นโรงเรียนชื่อดังแทบจะที่สุดของประเทศ ถ้าเอ่ยชื่อ คงไม่มีใครไม่รู้จัก แต่เพราะอย่างนี้เนี้ยแหละ ทำให้เราโดนคาดหวัง หวังว่าเราจะเรียนแพทย์
หวังว่าเราจะโตมาเป็นแพทย์ที่ดี เป็นนักวิจัยของประเทศชาติ แล้วยังไง ความกดดันมาลงที่ใคร ใครเป็นคนตัดสินใจ การที่เด็กอายุไม่ถึง 18 คนหนึ่ง
ต้องมารับผิดชอบความหวังของคนอีกหลายคน และอนาคตของตัวเองที่จะตามมาและติดตัวไปตลอดชีวิต
"จะเรียนอะไรก็ได้นะ ไม่บังคับ แต่ยังไงหมอก็มั่นคงที่สุดนะ " สองประโยคนี้ฟังดูขัดกันอย่างสิ้นเชิง ถ้าจะบังคับก็พูดมาเลยก็ได้ว่า ต้องเรียนหมอนะ
ต้องเลือกหมอนะ ไม่ต้องมาพูดให้สวยหรูแบบนี้ แต่ประเด็นมันอยู่ตรงไหนล่ะ อยู่ที่เราเองเนี้ยแหละ เราไม่ได้อยากที่จะเป็นแพทย์เพราะต้องการมีเงินมากมาย
หรือเพราะความต้องการของใคร ถ้าเราคิดจะเป็นแพทย์ เราจะเป็นเพราะเรารัก เราอยากช่วยเหลือคนอื่น เพราะอยากเป็นแพทย์ที่ดี รักในสิ่งที่ทำ เราอยาก
เป็นแบบนั้นมากกว่า แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่ชอบหรือเกลียดอะไรมากมายขนาดนั้นหรอกนะ แต่เราไม่ชอบเรียนวิทย์ ไม่ชอบวิชาท่องจำ เลือดไม่กลัว เข็มไม่กลัว
อาจารย์ใหญ่ไม่กลัว ง่ายๆ คือเรียนได้ แต่ใจไม่รัก เราถามรุ่นพี่หลายคนที่เอนท์ติดหมอกันไปกว่าครึ่งรุ่น ว่าทำไมถึงเลือกเรียนหมอ หลายๆคน ก็บอก
"ไม่รู้จะเรียนอะไร เรียนไปแล้วมันมั่นคง พ่อแม่อยากให้เรียน มีเพื่อนเยอะดี " นี่หรือ คือเหตุผลของการที่จะเติบโตมาเป็นแพทย์ที่ดี คนบางคนรู้ว่าตัวเองชอบ
อะไร แต่เลือกที่จะหยุดไว้ เพราะอาชีพนี้ เข้าใจแหละนะ ว่าโลกมันไม่ได้สวยงาม ความฝันและอุดมการณ์มันกินไม่ได้ สุดท้าย อะไรหลายๆอย่างก็มาจาก
เงิน
ครอบครัวเราไม่ได้ร่ำรวยขนาดที่เราจะเลือกเป็นอะไรก็ได้ เรายังมีพ่อ มีแม่ ต้องเลี้ยงดู และหวังให้ท่านอยู่สบาย เราอยากมีเงินเก็บเยอะ ๆ
มีอาชีพที่มั่นคง ดูแลพ่อแม่ ครอบครัวได้ ไม่รู้เหมือนกันเนอะว่าต้องไปทำอาชีพอะไร เราคิดว่า ถ้าเราจะเลือกแพทย์ เราก็ทำได้ หัวเราถึง ความสามารถเรามี
แต่ก็นั่นแหละ เราไม่รู้ว่าถ้าเราเลือกไปแล้ว มันจะใช่สำหรับเราหรือเปล่า เรากลัวเราเหนื่อย เหนื่อยกับสิ่งที่ไม่ได้รัก
อันที่จริง เราสนใจทางด้านเศรษฐศาสตร์นะ เรื่องการเงิน พวกทุนกพ. ทุนธนาคารแห่งประเทศไทย เราก็ศึกษาเอาไว้ กะว่าจะไปสอบ
เราอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง อยากบริหาร แต่ก็อย่างว่า ครอบครัวเราไม่มีทุนขนาดนั้น
และอีกอย่างจากใจ เรารักงานทางด้านนิเทศมาก เราชอบทำมาก กิจกรรมของโรงเรียนเราทำหมด เราชอบถ่ายรูป ชอบทำหนัง ทำวิดิโอ ชอบเป็นเบื้องหลัง
สิ่งที่เราแน่ใจที่สุดตอนนี้คือ ถ้าเราได้ทำด้านนี้ เราจะไม่เบื่อตัวเองแน่ๆ เรามั่นใจมากว่าเรารักมันจริงๆ เราอยากเป็นผู้กำกับ อยากเป็นเบื้องหลังงานอะไรแบบนี้
แต่ก็นะ สิ่งที่ใช่ กับ สิ่งที่ชอบ มันอาจจะไม่ได้อย่างเดียวกัน เราไม่รู้ว่าเราควรเดินไปทางไหน เรากลัวเราจะเสียใจทีหลังที่เราไม่เชื่อพ่อกับแม่ตอนนี้
เราอยากมีเป้าหมายในการอ่านหนังสือ เราอยากมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน ไม่ใช่อะไรเลือนลางไม่รู้จะเลือกอะไรแบบนี้
อยากจะเกิดมาโง่กว่านี้ซักนิด พ่อแม่จะได้ไม่คาดหวังขนาดนี้ และอาจจะได้เลือกในสิ่งที่ชอบจริงๆ
ปล. ไม่ได้อยากจะอวยตัวเองว่าเก่ง ว่าฉลาดอะไรทั้งนั้น เราพูดตามความจริง ตามความรู้สึกของเราจริงๆ ไม่อยากเจอคอมเม้นกระแนะกระแหนสักเท่าไร
อยากฟังคนมีประสบการณ์ ทุกด้านที่กล่าวไป เช่น เศรษฐศาสตร์ จบไปทำอะไรได้บ้าง มั่นคงไหม
นิเทศจบไปจะมีงานไหม ตกงานหรือเปล่า
ถ้าย้อนเวลากับไปได้จะเลือกเรียนแพทย์ไหม เลือกเรียนแพทย์เพราะอะไร อะไรทำนองนี้
ขอบคุณล่วงหน้า