เมื่อความทาสมันปะทุ บวกกับตรงกับช่วงที่ต้องไปทำงานพอดี บรู้มมมมม!!! ออกมาเป็น "ติ่ง อิน มัตสึอิ เรนะ แฟนคลับ อีเว้นท์ แอด เซนได"
อีเว้นท์นี้เป็นงานสุด exclusive เฉพาะสำหรับทาสเท่านั้น
ก็ตั้งแต่เห็นประกาศว่างานพบปะแฟนคลับเปิดเพิ่มรอบ อินี่ก็จ้องไว้อยู่แล้วแหละค่ะ...จ้องหาเวลาลางาน
แต่แล้วโชคชะตาฟ้าลิขิต ดลบันดาลให้เราได้ไปติ่งโดยไม่ต้องลางาน!!
จริงๆแล้วที่ไปคราวนี้เราไปทำงานนะคะ ติ่งแค่ 20% เอง...
หลังจากเสร็จงานที่โตเกียว ก็ขอหัวหน้าบอกว่า "จะไปหาเพื่อน" หัวหน้าก็ "โอเค จะไปก็ไป" เราก็ "เยสสสสส!!!" (อยู่ในใจ) ประเด็นคือไม่ได้บอกกล่าวหัวหน้ามาก่อน ยังตุ๊มๆต่อมๆว่า แกจะให้ไปมั้ยว้าาาา
แต่ไม่ว่ายังไงก็ต้องไปค่ะ เพราะจองตั๋วไนท์บัสคืนวันที่ 11 ไปเซนไดไว้เรียบร้อยตั้งแต่ก่อนมาแล้ว
ในขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสนานกับงานทูช็อตที่โตเกียว เราดิ่งขึ้นเหนือไปเซนไดค่ะ
(จริงๆคือ กดจองทูช็อตรอบสุดท้ายไม่ทัน ไม่งั้นคงไม่ไปหาเฮียหรอก เชอะ!! #ปากดี)
เล่าให้ฟังก่อนว่า เรามีไกด์เข้างานเป็นบล็อคของคุณหัวหน้าทาสท่านนี้
http://wms21.com (คนแถวนี้แหละ ถถถถ)
เห็นท่านหัวหน้าทาสบอกไว้ว่า ตั๋วน่ะ ใช้แอพ EMTG ง่ายๆ ว้าวด้วย!
ตอนกดสุ่มตั๋วอีเว้นท์เลยเลือกเป็น electronic ticket ไป เสียค่าธรรมเนียมน้อยกว่าด้วย อยากดูความว้าวของอีแอพนี้ด้วย
กดสุ่มไปสองรอบ ได้มารอบเดียว คือ รอบเช้าค่ะ
หลังจากนั้นเราก็เริ่มหาโหลดแอพ...เอ๊ะ...playstoreไทย ไม่มี (เราใช้แอนดรอยด์) เอาละไง...เห็นแววความยากมาแต่ไกล
ด้วยความขี้เกียจต่อ VPN เลย ไปเข้าเว็บโหลด apk โหลดมาลงได้
หน้าตาแบบนี้
แต่แล้วพอเข้าหน้าล็อกอิน ปรากฏว่าล็อกอินไม่ดร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยย
เลยลองใช้ VPN มันก็ยัง ไม่ดร้ายยยยยยยยยยยยยยยย
เพราะมันจำกัดไว้ค่ะว่าต้องเป็นสมาร์ทโฟน เบอร์ญี่ปุ่นเท่านั้น (เบอร์ที่โทรเข้า-ออกได้ด้วยนะ)
เรือหายแล้วค่ะ นั่นเท่ากับว่าเราจะยังไม่มีตั๋วอยู่ในมือจนกว่าเราจะไปถึงสนามบินและไปเช่าซิมมาใส่
แต่ก็ไม่มีทางเลือก ต้องพนันกันว่าไปถึง ได้ซิมมาแล้ว จะล็อกอินเข้าแอพได้มั้ย
ย้ำเลย สำหรับคนที่จะไป พวกกะเหรี่ยงนอกเกาะอย่างเราต้องความพยายามสูงมากค่ะ เราใช้วิธีเช่าซิมเพราะชัวร์สุดว่ามันเป็นเบอร์ที่สามารถโทรเข้า-ออกได้ ไม่กล้าเสี่ยงกับพวกซิมดาต้าใช้แล้วทิ้ง
เราเช่ากับ softbank มีหน้าร้านอยู่ที่สนามบินหลายแห่ง กดเช่าทางเน็ต ไปรับซิมหน้าเคาน์เตอร์ แล้วก็กลับมาคืนที่เคาน์เตอร์วันกลับ ตัดเงินจากบัตรเครดิตโดยจะคิดยอดเงินหลังจากเราคืนซิมไปแล้วประมาณ 1-2 อาทิตย์
http://www.softbank-rental.jp/e/rental.php
มันโอเคมากๆๆๆๆ
และแล้วก็หมดกังวลเรื่องตั๋ว
มาถึงวันเดินทาง นั่งไนท์บัสจากโตเกียว ถึงเซนไดประมาณ 7 โมง และเนื่องจากสถานที่จัดงาน Sendai Rensa ห่างจากจุดลงรถไม่มากเลยตัดสินใจเดิน....โคตรพลาด
นอกจากจะเตรียมชุดไปไม่พอแล้ว เซนไดยังหนาวได้อีก ยิ่งตอนเช้า ไม่ต้องพูดถึง
แน่นอนว่าไปถึง Rensa มันยังไม่เปิด อากาศข้างนอก....1 องศา ขุ่นพระ...
แต่ก็มีโอตะกลุ่มนึงมารออยู่เหมือนกัน

Rensa อยู่ชั้น 7 ของตึก TIC

ยืนอยู่ตั้งแต่ยังไม่มีป้ายใดๆ จนมีสตาฟฟ์มาติดป้ายที่หน้าลิฟต์
ให้เริ่มต่อแถวซื้อของตอน 10 โมง
เปิดขายตอน 10 ครึ่ง
ดีที่เรามาเช้า(ก็บัสมาถึงเช้า) ได้ข่าวว่าของลิมิเต็ด ไปช้าอาจมีบางอย่างหมด

หมดไปร่วมๆหมื่น (เยน) ถถถถถถ
หลังจากนั้นก็มารอเวลาเข้างาน ซึ่งเริ่มให้ต่อแถวได้ประมาณตอนเที่ยง
เราก็นึกว่าต่อแถวแล้วจะให้ทยอยขึ้นลิฟต์...ไม่ ต่อแถวขึ้นบันไดจากชั้น 1 ไปชั้น 7!!! บ้าแล้ววววววว
ไอ้เราไม่เท่าไหร่ (ได้ข่าวว่าหอบแรง) ไม่สงสารพวกลุงๆกันบ้างเลย (หอบแรงกว่า)
ไปถึงก็เปิดหน้าแอพอันแสนจะภูมิใจของเราค่ะ
กดเข้ามาเจอหน้าตั๋ว
ยื่นให้สตาฟฟ์ เค้าเอาอะไรซักอย่างมาแตะ โช๊ะ!
เออ ว้าวจริงๆด้วยแฮะ
แล้วก็เดินเข้าไปอย่างมั่นหน้า หาเก้าอี้แถว G เบอร์ 16

แพมเพล็ตที่ดีย์
คราวนี้นอกจากจะมาหาแล้ว เราก็ไม่ได้บอกใครเลยว่าจริงๆเราเตรียมของมาให้พี่เค้าด้วย....

ดูหรูหราไฮโซ ของข้างในไม่ได้แพงอย่างที่คิด...เอาจริงๆ ไม่เคยลงทุนห่อของขวัญให้ใครดูดีขนาดนี้เลยในชีวิต ถถถถถถถ
ได้ยินสตาฟฟ์ประกาศว่าของขวัญให้ไปไว้หน้าล็อบบี้ เลยเดินถือออกไปวาง

ก่อนเริ่มงาน ข้างหน้าเราว่าง 2 ที่ คือมองไปตรงอื่นก็เต็มหมดนะ ดันมาว่างเอาตรงกลางๆนี่ แต่ก็ดีละ เห็นหน้ากันชัดดี ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
ที่พลาดอีกอย่างคือ ลืมเอาแท่งไฟมาค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ ถึงพี่เค้าจะออกจาก SKE แล้ว แต่แท่งไฟยังสีเขียวอยู่นะ

รูปจาก ameblo พี่เค้า
เอาละ เริ่มส่วนของรีพอร์ตได้ (นี่ยังไม่เริ่มอีกเหรอ?)
เพลงที่เปิดคลอ ก่อนเริ่มงานเป็นเพลง BGM ค่ะ ประมาณดิสนีย์ แล้วก็เพลงจากเกมส์ KHUX ที่พี่เค้าได้เป็นพรีเซนเตอร์แหละ
วันนี้นางมาในชุด เสื้อเชิ้ตขาว มีปก เดรสยาวสวมทับข้างนอกลายอะไรไม่รู้ ผมเกล้าขึ้นไปเป็นแฮร์บันอยู่ข้างบน
เปิดมาก็ร้องเพลงก่อนเลย เพลงแรก "Akai Sweet Pea" ของ Matsuda Seiko
อาห์....ไม่รู้จัก แต่เพลงคุ้นๆ เลยมาหาดูตอนหลัง
อาห์....เก่าดีจัง #เดี๋ยวๆๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วพิธีกรหญิงก็ออกมาทักทาย ถามความรู้สึกวันนี้ นางบอกว่า ขึ้นเวทีครั้งแรกหลังจากไม่ได้ขึ้นมานานเลยรู้สึกเขิน ตื่นเต้น พูดไปก็ขำไป ก็ดูประหม่าจริงๆล่ะนะ แต่ร้องเพลงเมื่อกี้ดูซ้อมมาดี ไม่มีผิดคีย์เลย
แล้วก็เริ่มเข้าสู่ช่วงทอล์ค 20 คำถามกับมัตสึอิ เรนะ (จริงๆไม่ถึง 20 หรอก ตอบเท่าที่เวลาอำนวย)
ก็มีสตาฟฟ์ยกโต๊ะกับกล่องออกมาใบนึง นางก็ตกใจ เฮ๊ะ! มาเป็นกล่องเลยหรอ
ข้างในเป็นใบคำถามจากแฟนๆที่เค้าให้ส่งเข้าไปทางหน้าเว็บ...ส่วนเรา ลืมส่ง #ถุ๊ยยยยย
เราจำได้ไม่หมดนะคะ ด้วยความง่อยภาษาญี่ปุ่น ประกอบกับเมมโมรี่อันน้อยนิด เล่าให้ฟังเฉพาะอันที่จำได้ละกัน
ถาม: "ถ้า...(เหตุการณ์อะไรซักอย่างฟังไม่ออก)...ต้องช่วยชีวิตคนซักคนจะเลือกช่วยใครครับ"
เร: "เอ...เออ..ยากจัง"
พิธีกร: "ยากจังเลยนะคะ ไม่รู้ว่าเรื่องจริงหรือในมังงะ หรืออนิเมะนะคะ"
เร: "พาส!!!" (เห้ย พี่ขอผ่านง่ายๆงี้เลย??)
ถาม: "อยากเจอใครที่สุดในตอนนี้คะ"
เร: "ทาคายานางิ อากาเนะค่ะ" (เห้ย พี่ตอบไม่คิดเลย)
แฟนๆ: ขำก๊าก
ถาม: "ตัวละครที่ชอบที่สุดใน March comes in like a lion คือใครคะ"
เร: "ใครอ่านมังงะเรื่องนี้มั่งคะ"
แฟนๆ: ยกมือบ้างประปราย
เร: "คืองี้ March comes in like a lion เป็นมังงะของอาจารย์ Umino Chika ค่ะ ในเรื่องจะมีครอบครัวนึงที่ตัวเอกสนิทด้วยเป็นพี่น้องสามคน จะมีคนนึง ฮินะจัง ที่อยู่ม.ต้น ฉันชอบคนนั้นแหละค่ะ"
ถาม อะไรซักอย่าง
เร ก็ตอบอะไรซักอย่าง แต่วนมาเข้าเรื่องภาษีอุปโภคบริโภค นางบอกภาษีตอนนี้ 5% แฟนๆก็บอก ไม่ใช่ขึ้นมา 3% แล้ว (เป็น 8%)
นางก็บอก เอ๊ะ จริงหรอ แฟนๆบอก จริง! เพิ่มขึ้นมา 3% นานแล้วนะ
นางก็ขำ "ฉันจะกลับไปเรียนเพิ่มค่ะ" ถถถถถถถถถ
แล้วก็ถามอะไรกันซักอย่าง อยู่ดีๆนางก็วกมาพูดเรื่องที่นางจะได้ไปออกรายการวิทยุกับพี่นกค่ะ
เราเกือบตะโกนขึ้นไปละว่า "ไม่เอาปาพาย!!!" ดีห้ามปากทัน...
คือนางพูดถึงพี่นก จนเราผู้เป็นชิปเปอร์เบิ้ลอิอยากจะถามไปว่า "แล้วจูรินะล่ะ??" ฮ่าๆๆๆๆ
นี่ขนาดน้องเค้ามาฟอลคนแรกตั้งแต่เปิดแอคเคาน์ทวิต คุณพี่ยังไม่สนใจเลย โคตรแย่

แต่แล้วนางก็สรุปว่า "เพราะชูริเป็นเพื่อนฉันล่ะนะ"
หลังจากนั้นก็แปลไม่ค่อยออกแล้วว่าคุยไรกัน ประมาณ 4-5 คำถาม
แล้วนางก็ถามว่าใครได้ดู Nietzche-Sensei บ้าง
แฟนๆ: ยกพรึ่บ
Fragile ล่ะ
แฟนๆ: ยกน้อยลง
Hatsu koi Geinin ล่ะ
แฟนๆ: ยกน้อยลงไปอีก
แล้ว ร้านซักรีด Kanagawa-ken ล่ะ
แฟนๆ: ยกอยู่คน สองคน
เร: เอ๊ะ ร้านซักรีดยังไม่ออนแอร์นี่ ดูได้ไง
(แล้วเจ๊ถามทำไม????? โว๊ะ)
เห็นว่าคนที่เซนไดจะไม่ได้ดูเรื่องร้านซักรีด เพราะว่าอยู่นอกเขตฉาย (เรื่องนี้เริ่มฉายเมื่อคืน วันที่ 13 นี่เอง)
จบส่วนคำถาม นางก็ไปเปลี่ยนชุด พักเบรคสิบนาที
[ต่อข้างล่าง]
[รีพอร์ตทาส] อีเว้นท์พบปะ Matsui Rena ณ เมืองเซนได (12/3/16)
อีเว้นท์นี้เป็นงานสุด exclusive เฉพาะสำหรับทาสเท่านั้น
ก็ตั้งแต่เห็นประกาศว่างานพบปะแฟนคลับเปิดเพิ่มรอบ อินี่ก็จ้องไว้อยู่แล้วแหละค่ะ...จ้องหาเวลาลางาน
แต่แล้วโชคชะตาฟ้าลิขิต ดลบันดาลให้เราได้ไปติ่งโดยไม่ต้องลางาน!!
จริงๆแล้วที่ไปคราวนี้เราไปทำงานนะคะ ติ่งแค่ 20% เอง...
หลังจากเสร็จงานที่โตเกียว ก็ขอหัวหน้าบอกว่า "จะไปหาเพื่อน" หัวหน้าก็ "โอเค จะไปก็ไป" เราก็ "เยสสสสส!!!" (อยู่ในใจ) ประเด็นคือไม่ได้บอกกล่าวหัวหน้ามาก่อน ยังตุ๊มๆต่อมๆว่า แกจะให้ไปมั้ยว้าาาา
แต่ไม่ว่ายังไงก็ต้องไปค่ะ เพราะจองตั๋วไนท์บัสคืนวันที่ 11 ไปเซนไดไว้เรียบร้อยตั้งแต่ก่อนมาแล้ว
ในขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสนานกับงานทูช็อตที่โตเกียว เราดิ่งขึ้นเหนือไปเซนไดค่ะ
(จริงๆคือ กดจองทูช็อตรอบสุดท้ายไม่ทัน ไม่งั้นคงไม่ไปหาเฮียหรอก เชอะ!! #ปากดี)
เล่าให้ฟังก่อนว่า เรามีไกด์เข้างานเป็นบล็อคของคุณหัวหน้าทาสท่านนี้ http://wms21.com (คนแถวนี้แหละ ถถถถ)
เห็นท่านหัวหน้าทาสบอกไว้ว่า ตั๋วน่ะ ใช้แอพ EMTG ง่ายๆ ว้าวด้วย!
ตอนกดสุ่มตั๋วอีเว้นท์เลยเลือกเป็น electronic ticket ไป เสียค่าธรรมเนียมน้อยกว่าด้วย อยากดูความว้าวของอีแอพนี้ด้วย
กดสุ่มไปสองรอบ ได้มารอบเดียว คือ รอบเช้าค่ะ
หลังจากนั้นเราก็เริ่มหาโหลดแอพ...เอ๊ะ...playstoreไทย ไม่มี (เราใช้แอนดรอยด์) เอาละไง...เห็นแววความยากมาแต่ไกล
ด้วยความขี้เกียจต่อ VPN เลย ไปเข้าเว็บโหลด apk โหลดมาลงได้
หน้าตาแบบนี้
แต่แล้วพอเข้าหน้าล็อกอิน ปรากฏว่าล็อกอินไม่ดร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยย
เลยลองใช้ VPN มันก็ยัง ไม่ดร้ายยยยยยยยยยยยยยยย
เพราะมันจำกัดไว้ค่ะว่าต้องเป็นสมาร์ทโฟน เบอร์ญี่ปุ่นเท่านั้น (เบอร์ที่โทรเข้า-ออกได้ด้วยนะ)
เรือหายแล้วค่ะ นั่นเท่ากับว่าเราจะยังไม่มีตั๋วอยู่ในมือจนกว่าเราจะไปถึงสนามบินและไปเช่าซิมมาใส่
แต่ก็ไม่มีทางเลือก ต้องพนันกันว่าไปถึง ได้ซิมมาแล้ว จะล็อกอินเข้าแอพได้มั้ย
ย้ำเลย สำหรับคนที่จะไป พวกกะเหรี่ยงนอกเกาะอย่างเราต้องความพยายามสูงมากค่ะ เราใช้วิธีเช่าซิมเพราะชัวร์สุดว่ามันเป็นเบอร์ที่สามารถโทรเข้า-ออกได้ ไม่กล้าเสี่ยงกับพวกซิมดาต้าใช้แล้วทิ้ง
เราเช่ากับ softbank มีหน้าร้านอยู่ที่สนามบินหลายแห่ง กดเช่าทางเน็ต ไปรับซิมหน้าเคาน์เตอร์ แล้วก็กลับมาคืนที่เคาน์เตอร์วันกลับ ตัดเงินจากบัตรเครดิตโดยจะคิดยอดเงินหลังจากเราคืนซิมไปแล้วประมาณ 1-2 อาทิตย์ http://www.softbank-rental.jp/e/rental.php
มันโอเคมากๆๆๆๆ
และแล้วก็หมดกังวลเรื่องตั๋ว
มาถึงวันเดินทาง นั่งไนท์บัสจากโตเกียว ถึงเซนไดประมาณ 7 โมง และเนื่องจากสถานที่จัดงาน Sendai Rensa ห่างจากจุดลงรถไม่มากเลยตัดสินใจเดิน....โคตรพลาด
นอกจากจะเตรียมชุดไปไม่พอแล้ว เซนไดยังหนาวได้อีก ยิ่งตอนเช้า ไม่ต้องพูดถึง
แน่นอนว่าไปถึง Rensa มันยังไม่เปิด อากาศข้างนอก....1 องศา ขุ่นพระ...
แต่ก็มีโอตะกลุ่มนึงมารออยู่เหมือนกัน
Rensa อยู่ชั้น 7 ของตึก TIC
ยืนอยู่ตั้งแต่ยังไม่มีป้ายใดๆ จนมีสตาฟฟ์มาติดป้ายที่หน้าลิฟต์
ให้เริ่มต่อแถวซื้อของตอน 10 โมง
เปิดขายตอน 10 ครึ่ง
ดีที่เรามาเช้า(ก็บัสมาถึงเช้า) ได้ข่าวว่าของลิมิเต็ด ไปช้าอาจมีบางอย่างหมด
หมดไปร่วมๆหมื่น (เยน) ถถถถถถ
หลังจากนั้นก็มารอเวลาเข้างาน ซึ่งเริ่มให้ต่อแถวได้ประมาณตอนเที่ยง
เราก็นึกว่าต่อแถวแล้วจะให้ทยอยขึ้นลิฟต์...ไม่ ต่อแถวขึ้นบันไดจากชั้น 1 ไปชั้น 7!!! บ้าแล้ววววววว
ไอ้เราไม่เท่าไหร่ (ได้ข่าวว่าหอบแรง) ไม่สงสารพวกลุงๆกันบ้างเลย (หอบแรงกว่า)
ไปถึงก็เปิดหน้าแอพอันแสนจะภูมิใจของเราค่ะ
กดเข้ามาเจอหน้าตั๋ว
ยื่นให้สตาฟฟ์ เค้าเอาอะไรซักอย่างมาแตะ โช๊ะ!
เออ ว้าวจริงๆด้วยแฮะ
แล้วก็เดินเข้าไปอย่างมั่นหน้า หาเก้าอี้แถว G เบอร์ 16
แพมเพล็ตที่ดีย์
คราวนี้นอกจากจะมาหาแล้ว เราก็ไม่ได้บอกใครเลยว่าจริงๆเราเตรียมของมาให้พี่เค้าด้วย....
ดูหรูหราไฮโซ ของข้างในไม่ได้แพงอย่างที่คิด...เอาจริงๆ ไม่เคยลงทุนห่อของขวัญให้ใครดูดีขนาดนี้เลยในชีวิต ถถถถถถถ
ได้ยินสตาฟฟ์ประกาศว่าของขวัญให้ไปไว้หน้าล็อบบี้ เลยเดินถือออกไปวาง
ก่อนเริ่มงาน ข้างหน้าเราว่าง 2 ที่ คือมองไปตรงอื่นก็เต็มหมดนะ ดันมาว่างเอาตรงกลางๆนี่ แต่ก็ดีละ เห็นหน้ากันชัดดี ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
ที่พลาดอีกอย่างคือ ลืมเอาแท่งไฟมาค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ ถึงพี่เค้าจะออกจาก SKE แล้ว แต่แท่งไฟยังสีเขียวอยู่นะ
รูปจาก ameblo พี่เค้า
เอาละ เริ่มส่วนของรีพอร์ตได้ (นี่ยังไม่เริ่มอีกเหรอ?)
เพลงที่เปิดคลอ ก่อนเริ่มงานเป็นเพลง BGM ค่ะ ประมาณดิสนีย์ แล้วก็เพลงจากเกมส์ KHUX ที่พี่เค้าได้เป็นพรีเซนเตอร์แหละ
วันนี้นางมาในชุด เสื้อเชิ้ตขาว มีปก เดรสยาวสวมทับข้างนอกลายอะไรไม่รู้ ผมเกล้าขึ้นไปเป็นแฮร์บันอยู่ข้างบน
เปิดมาก็ร้องเพลงก่อนเลย เพลงแรก "Akai Sweet Pea" ของ Matsuda Seiko
อาห์....ไม่รู้จัก แต่เพลงคุ้นๆ เลยมาหาดูตอนหลัง
อาห์....เก่าดีจัง #เดี๋ยวๆๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วพิธีกรหญิงก็ออกมาทักทาย ถามความรู้สึกวันนี้ นางบอกว่า ขึ้นเวทีครั้งแรกหลังจากไม่ได้ขึ้นมานานเลยรู้สึกเขิน ตื่นเต้น พูดไปก็ขำไป ก็ดูประหม่าจริงๆล่ะนะ แต่ร้องเพลงเมื่อกี้ดูซ้อมมาดี ไม่มีผิดคีย์เลย
แล้วก็เริ่มเข้าสู่ช่วงทอล์ค 20 คำถามกับมัตสึอิ เรนะ (จริงๆไม่ถึง 20 หรอก ตอบเท่าที่เวลาอำนวย)
ก็มีสตาฟฟ์ยกโต๊ะกับกล่องออกมาใบนึง นางก็ตกใจ เฮ๊ะ! มาเป็นกล่องเลยหรอ
ข้างในเป็นใบคำถามจากแฟนๆที่เค้าให้ส่งเข้าไปทางหน้าเว็บ...ส่วนเรา ลืมส่ง #ถุ๊ยยยยย
เราจำได้ไม่หมดนะคะ ด้วยความง่อยภาษาญี่ปุ่น ประกอบกับเมมโมรี่อันน้อยนิด เล่าให้ฟังเฉพาะอันที่จำได้ละกัน
ถาม: "ถ้า...(เหตุการณ์อะไรซักอย่างฟังไม่ออก)...ต้องช่วยชีวิตคนซักคนจะเลือกช่วยใครครับ"
เร: "เอ...เออ..ยากจัง"
พิธีกร: "ยากจังเลยนะคะ ไม่รู้ว่าเรื่องจริงหรือในมังงะ หรืออนิเมะนะคะ"
เร: "พาส!!!" (เห้ย พี่ขอผ่านง่ายๆงี้เลย??)
ถาม: "อยากเจอใครที่สุดในตอนนี้คะ"
เร: "ทาคายานางิ อากาเนะค่ะ" (เห้ย พี่ตอบไม่คิดเลย)
แฟนๆ: ขำก๊าก
ถาม: "ตัวละครที่ชอบที่สุดใน March comes in like a lion คือใครคะ"
เร: "ใครอ่านมังงะเรื่องนี้มั่งคะ"
แฟนๆ: ยกมือบ้างประปราย
เร: "คืองี้ March comes in like a lion เป็นมังงะของอาจารย์ Umino Chika ค่ะ ในเรื่องจะมีครอบครัวนึงที่ตัวเอกสนิทด้วยเป็นพี่น้องสามคน จะมีคนนึง ฮินะจัง ที่อยู่ม.ต้น ฉันชอบคนนั้นแหละค่ะ"
ถาม อะไรซักอย่าง
เร ก็ตอบอะไรซักอย่าง แต่วนมาเข้าเรื่องภาษีอุปโภคบริโภค นางบอกภาษีตอนนี้ 5% แฟนๆก็บอก ไม่ใช่ขึ้นมา 3% แล้ว (เป็น 8%)
นางก็บอก เอ๊ะ จริงหรอ แฟนๆบอก จริง! เพิ่มขึ้นมา 3% นานแล้วนะ
นางก็ขำ "ฉันจะกลับไปเรียนเพิ่มค่ะ" ถถถถถถถถถ
แล้วก็ถามอะไรกันซักอย่าง อยู่ดีๆนางก็วกมาพูดเรื่องที่นางจะได้ไปออกรายการวิทยุกับพี่นกค่ะ
เราเกือบตะโกนขึ้นไปละว่า "ไม่เอาปาพาย!!!" ดีห้ามปากทัน...
คือนางพูดถึงพี่นก จนเราผู้เป็นชิปเปอร์เบิ้ลอิอยากจะถามไปว่า "แล้วจูรินะล่ะ??" ฮ่าๆๆๆๆ
นี่ขนาดน้องเค้ามาฟอลคนแรกตั้งแต่เปิดแอคเคาน์ทวิต คุณพี่ยังไม่สนใจเลย โคตรแย่
แต่แล้วนางก็สรุปว่า "เพราะชูริเป็นเพื่อนฉันล่ะนะ"
หลังจากนั้นก็แปลไม่ค่อยออกแล้วว่าคุยไรกัน ประมาณ 4-5 คำถาม
แล้วนางก็ถามว่าใครได้ดู Nietzche-Sensei บ้าง
แฟนๆ: ยกพรึ่บ
Fragile ล่ะ
แฟนๆ: ยกน้อยลง
Hatsu koi Geinin ล่ะ
แฟนๆ: ยกน้อยลงไปอีก
แล้ว ร้านซักรีด Kanagawa-ken ล่ะ
แฟนๆ: ยกอยู่คน สองคน
เร: เอ๊ะ ร้านซักรีดยังไม่ออนแอร์นี่ ดูได้ไง
(แล้วเจ๊ถามทำไม????? โว๊ะ)
เห็นว่าคนที่เซนไดจะไม่ได้ดูเรื่องร้านซักรีด เพราะว่าอยู่นอกเขตฉาย (เรื่องนี้เริ่มฉายเมื่อคืน วันที่ 13 นี่เอง)
จบส่วนคำถาม นางก็ไปเปลี่ยนชุด พักเบรคสิบนาที
[ต่อข้างล่าง]