สวัสดีครับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ เป็นกระทู้แรกที่ผมตั้งอาจจะดูขัดๆผมก็ขออภัยด้วยนะครับ ผมและเพื่อนๆออฟฟิตคุยกันและวางแผนว่าจะอยากลองไปเที่ยว  ลาว  ส่วนไปที่ไหนนั้นตามๆหัวกระทู้ครับ ยอดฮอต สปป ลาว คงไม่พ้น เวียงจันทร์ วังเวียง แน่ๆ ซึ่งผมอ่านจากรีวิวจากเพื่อนๆพี่ๆที่เคยไปเที่ยวและรีวิวไว้ก่อนหน้านี้ เลยอยากลองไปเที่ยวบ้าง ดังดั้นทริปนี้เลยเกิดขึ้นครับ แฮร่ๆๆๆ การเดินทางผมเริ่มขึ้น 07/02/2559 - 09/02/2559 ครับ

ตื่นขึ้นมาตี03.00จัดเตรียมของและได้ใช้บริการ แท็กซี่ของ นครชัยแอร์ครับจากฝั่งธนฯ เดินทางไปสนามบินดอนเมือง เพื่อเช็คอินรอบแรกเพื่อจะเดินทางไปยัง สนามบินนานาชาติ อุดรธานี คับ


และเราก็มาถึงสนามบินนานาชาติอุดรธานีเวลา07.10และเพื่อจะเดินทางไปยังด่านเพื่อจะข้ามไปยังฝั่ง สปปลาว โดยใช้บริการรถตู้ของ บริษัท เอ เอ ทัวส์แต่ก่อนครับ พี่ผมเค้าชอบฮ๊ะเลยจัดให้ 1 รูป ครับ

แฮร่ๆๆพี่โน้ คับ แฮร่ๆๆๆ
และเดินทางถึง ด่านฝั่งไทย(หนองคาย)ทำเอกสารเสร็จก็ไปยื่นตรงช่องตรวจเอกสาร ฮ๊ะ

แต่ในวันที่เราไปเกิดอุณภูมิลดลงเหลือสัก 14 องศาครับ อย่างที่เห็นละ เสื้อกันหนาวพร้อมกันสะขนาดนั้น เสร็จจากยื่นเอกสารก็ขึ้นรถข้ามฝั่งไปยัง สปป ลาว ครับ
และแล้วก็ถึงด่านฝั่ง สปป ลาว และยื่นเอกสาร และเสียค่าบริการประมาณ 12000 กีบ หรือราวๆ 50 บาทครับ ตอนที่ผมไปอัตตราการเเลกเปลี่ยนเงินอยู่ราวๆ 225 กีบ ต่อ 1 บาท ครับก็บวกลบคูณหารกันไปครับ อิอิ

หลังจากเสร็จจากชำระค่าผ่านด่านและเราได้ติดต่อรถตู้ ของฝั่ง สปป ลาว ไว้ครับ
และมุ่งหน้าไปยัง วังเวียงก่อนอันดับแรก(รู้แต่ไปวังเวียงแต่ยังไม่รู้จะไปไหนของวังเวียงก่อนดี)5555

อย่างที่เห็นครับ ขึ้นรถมาได้ก็พากันหลับสนิทเลยทีเดียว ตั้ง150-160 กม ห่างจากด่านไปถึงวังเวียงต้องแน่ละครับหลับปุ๋ยและเช่นกัน เส้นทางเต็มไปด้วย หมอกและควันของธรรมชาติ สลับกับทางลาดยางที่เรียบเลยทีเดียว 555



ผมสรุปตลกลงได้ใจความกับคนขับรถว่ามุ่งหน้าไปยัง บูลลากูน ถ้ำปูคำ เพราะเค้าบอกเวลาจะไม่พอทริปนี้ใช้เวลาน้อยมาก2-3วันแทบจะหมดกับการเดินทางและรู้ตัวอีกที ครับถึงทางเข้า บูลลากูนครับ

และเสียค่าเข้าคนละประมาณ 50 บาท(ผมคิดเป็นเงินไทยเพราะกลัวสับสนในค่าเงินบวกลบคูณหารกัน อะนะ)

เย้ๆๆๆๆ มาถึงแล้ว บูลลากูน


ถึงแล้วก็จริงครับ แต่อากาศนิสิ ตอนนั้นราว22 องศา เลยเลือกที่จะเดินขึ้นถ้ำปูคำก่อนเลยครับ

และขากลับลงมาจากถ้ำและครับเราเลยนั่งพักแปป แล้วค่อยเล่นน้ำที่ บูลลากูน คับ ช่วงนั้นเวลาราวๆประมาณ 15.10 โดยประมาณครับและอุณภูมิอยู่ที่ 25 องศา ครับ

หลังจากเล่นน้ำเสร็จก็กลับจากบูลลากูนเพื่อเข้าไปยังตัวเมืองวังเวียงเพื่อไปหาที่พักอะครับและเราก็ได้ที่พัก สันติ วิวล่า ค่าที่พักต่อห้องต่อคืนอยู่ที่ 600 บาท เป็นห้องแอร์ครับ อากาศหนาวแต่ก็ยังเลือกห้องแอร์

เสร็จากภารกิจอาบน้ำแต่งตัวออกไปหารัยกินกันข้างนอกครับ

ในตัวเมืองวังเวียงไม่ใช่เมืองใหญ่นะครับเดินไม่กี่ซอยก็สุด ขณะที่เดินชิมชิวพร้อมกับอากาศตอนนั้น 20 C เราก็เริ่มหาร้านกินข้าวกันครับเดินไปมาได้ร้าน ร้านนึงชื่อร้านครัวไท

ร้านนี้สำหรับความคิดส่วนตัวและคณะเดินทางของผมลงความเห็นว่า อร่อยระดับนึง แต่ติดอย่างเดียวอะครับรอนานมากกก แต่เรทอาหารที่นี้ถือว่าไม่แพง หลังจากอิ่มกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วเราก็เริ่มหารัยที่เป็นของหวานกินครับ

ตามที่เห็นละครับ โรตี โรตี โรตี หวาน มันกรอบ
หลังจากกินโรตีเสร็จผมก็ออกความคิดเห็นว่า มาที่นี่ทั้งที ไม่เที่ยวกันหน่อยหรอ ซากุระ บาร์ ฮะ ที่ขึ้นชื่อของวังเวียง(ไม่มีใครไปด้วยเลย) ทั้งหนาว ทั้งเหนื่อย ผมเลยอดเทียวเลยครับ ดังนั้นก็พากันเข้าห้องพักนอนเอาแรงกันไว้ไปต่อพรุ่งนี้ดีกว่า

เย้ๆๆ เช้าแล้วอากาศเย็นมากๆ ควันออกปากเลยทีเดียว ผมเลยลองเดินไปหารัยกิน ปรึกษาคนที่ดูแลที่พักเค้าบอกมีข้าวเปียกเส้น ข้าวต้มผมเลยไม่รอช้าไปกันเลย

หลังจาก กินข้าวเปียกเส้นเสร็จผมก็อยาลองไปนั่งเล่นริมน้ำซองตอนเช้าๆ อากาศคงฟินแน่ๆๆเลย....งั้นรอรัยไปกัน



จังหวะนี้บอกตามตรงครับ 8 องศา ครับแต่ๆๆอยากลงน้ำซองเพื่อสัมผัสอากาศหนาวเป็นที่น่าพอใจมาก พอลงไปกลางน้ำซอง กลับรู้สึกอุ่นมากๆ ไม่เย็นหรือหนาวเลย ฟินไปครับ ยืนถ่ายรูป คนขี่เรื่อผ่านมามองผมแปลกสงสัยคงคิดในใจว่าเป็นบ้าแน่ๆ อากาศหนาวๆ ลงมายืนแช่ในน้ำ 5555

ขึ้นมาบนฝั่งได้ คิดรัยไม่ออก เลยลองจัด เบียรร์ลาว ดำไป 1 ขวดเล็ก ราคา ขวดละ 40 บาทโดยประมาณ


หลังจากจุดตรงนี้ใช้เวลาอยู่ประมาณ2 ช.ม ก็ถึงเวลาเดินทางต่อครับ เตรียมมุ่งหน้าเข้าไปนอนที่เวียงจันทร์เป็นคืนสุดท้ายของทริปนี้



บ๊ายบายสันติ วิลล่า


แต่เด๊ยวก่อนสิมาถึงวังเวียงแต่ไปไปสะพานสีส้ม(ถ้ำจัง)ไม่ได้นะ งั้นรอรัยไปสิครับ






ดูเวลาแล้วผมว่าเราควรรีบเดินทางเข้าเวียงจันนทร์ก่อนจะค่ำกันสะก่อน งั้นไปเลย
เอิ่มเเวะครับแวะ แวะลงดูบ้าน ท่าเรื่อ ครับถ้าจำไม่ผิดดูของกลับไปฝากทางบ้าน



แม่ค้าคนนี้นะครับ ลดแลกแจกแถมกันสนั่นหวันไหวเลยทีเดียว

เห้อออ..เดินทางกลับเข้าเวียงจันทร์ครับออกจากวังเวียงบ่าย3กว่าๆถึงเวียงจันทร์ประมาณ19.00ครับ
ก็เก็บของเข้าที่พัก ผมพักใกล้กับตลาดมืด(คล้ายตลาดนัดอะครับริมโขง)ชื่อที่พัก โรงแรมพวงจำปา ค่าห้องพัก 600 บาทครับและหลังจากเอาของเข้าที่พักผมละคณะก็พักผ่อนตามอัถยาศัยใครจะเดินริมโขงซื้อสินค้าก็ตามใจครับชิวๆๆอิสระใครมัน แต่ตกประมาณเวลา22.45 พวกผมบางส่วนนึกอยากลองไปเที่ยวผลับที่ สปปลาว บ้างจะรอช้าทำไมไปสิครับดิ่งตรงไปที่ วินเวียต ผลับ ซึ่งไม่ไกลมากจากที่พัก ก็พากันกินไปเรื่อยจนถึงทีเด็ด วันนี้เป็นวันตรุษจีนทางร้านเเจกอังเปามี1ซอง คือ 1 ล้านกีบ เราเป็นคนไทยในร้านที่ได้เเจ็กพอตนั้นมา

สรุปคืนนี้กินเต็มที่ไปเลยยยและเดินทาง(เท้า)กลับเข้าห้องพัก

รุ่งอรุณแล้วเจ้า....
พร้อมบอกลาเตรียมตัวกลับ กทม แต่มาถึงเวียงจันทร์ขาดไม่ได้คือ ประตูชัย และ พระธาตหลวง



คนที่ยืนถ่ายรูปเป็นเพื่อนสมัยเรียน มหาลัย เป็นคนลาวที่ไปเรียนทีไทยเค้าเรียน วศ.บเครื่องกล ผม วศ.บไฟฟ้า คนละคณะแต่เราก็เป็นเพื่อนสนิทกันได้ คับ

ครับผม นี่คือพระธาตหลวง ไม่หล่อแถมยังเก๊กอีก แฮร่ๆ

แต่เดียวก่อน ถึงอุดรเราจะพลาดแหนมเนืองไม่ได้ จัดไป วีที แหนมเนือง

ถึงดอนเมืองโดยปลอดภัยฮะ
ส่วนการสรุปค่าใช้จ่ายตลอดการเดินทางเดี๊ยวเเวะมาให้รายละเอียดอีกทีนะครับ