วันนี้มีจุดชมวิวแบบฟินฝุดๆ ไม่ควรพลาดหากมีเวลาชิวๆซักหนึ่งคืนในกัวลาลัมเปอร์ มาแนะนำ นามว่า Heli Lounge Bar
ปล.
> ไปแบบไม่ได้เตรียมตัวอะไรไปมากมาย ไม่คิดว่าจะได้มารีวิว ข้อมูลเลยน้อยมวากกก ต้องขออภัยไว้ตั้งแต่ต้น อย่าเรียกว่าเป็นการรีวิวเลยจะดีกว่า ขอเรียกว่ามาแบ่งปันประสบการณ์ละกันนะคะ เอารูปมาฝากให้พอได้ฟีลลิ่งกันก่อนตัดสินใจไป ^^"
> รูปที่ได้มาทั้งหมดนี่คือ..... ทำดีที่สุดแล้วววววว (เพลงพี่โป่ง หินเหล็กไฟ ขึ้นมาเป็น background กันเลยทีเดียว) T_T ขาตั้งกล้องไม่ได้แบกไปด้วยเหตุผลนานับประการ ISO หลายพันมากกก ภาพจึงออกมา noise กระจายแตกพร่ากันอย่างที่เห็น ยิ่งไปกว่านั้นคือ วันที่ไปนั้น หมอก(แต่เพื่อนบอกว่าฝุ่นไฟใหม้อะไรซักอย่างจากอินโด)ก็เยอะมากกกก โฟกัสก็ลำบาก ตึกก็สู้งงสูงงง อายุก็มากมือก็สั่นตามประสา ก็เลยเบลอบ้างอะไรบ้างตามระเบียบ >”<
ร้าน Heli Lounge Bar ตั้งอยู่บนชั้น 34 อาคาร Menara KH ซึ่งอยู่ในย่าน Bukit Bintang พระเอกของร้านนี้ไม่ใช่พี่ยามหน้าเข้ม กล้ามโต แต่งตัวเหมือนบอดี้การ์ดท่านประธาน หรือการตกแต่งตีมหรูหราตามประสาบาร์ที่ชั้นบนสุดที่สามารถเห็นวิวเมืองและ Petronas Twin Tower ตั้งตระหง่านยามค่ำคืนได้แต่อย่างใด
จุดพีคของร้านนี้คือ ดาดฟ้า ลานจอด ฮ. หรือที่เรียกว่า Helipad ตามที่ระบุในชื่อร้าน ซึ่งอณุญาติให้เราสามารถขึ้นไปนั่งจิบเบียร์ ชิมไวน์ หรือค็อกเทลนานาชนิด พร้อมชมวิวเมืองแบบ 360 องศาโดยไม่มีแม้แต่กระจกกั้น (ทางร้านจะเอาเชือกมาล้อมไว้นิดหน่อย กันคนทะลึ่งเดินไปชิดขอบอาคารมากเกินไป)
เพื่อความสะดวก (ของตัวเจ้าของกระทู้เอง แหะๆ) ขออณุญาติไล่เรียงข้อมูลไปเป็นข้อๆตามนี้
(รูปหลังจากนี้ไม่เกี่ยวกะเนื้อหาแต่อย่างใด เพราะอย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่า ไม่ได้เตรียมตัวว่าจะมารีวิวตั้งแต่แรก เลยไม่ได้ถ่ายระหว่างทาง อะไรทำนองนี้จ้าาา ^/\^)
1. สถานที่ตั้ง
เปิด google map โลดดดด (นี่เก๊าไม่ได้กวนทีนนแต่อย่างใดน๊าาา 5555 คือปกติไปไหนก็เป็นมนุษย์ gps ตลอดๆ) หรือไม่ก็บอกแท็กซี่ได้เลยจ้า (search ด้วย ชื่อร้าน “Heli Lounge Bar” หรือชื่อตึก “Menara KH” ก็ได้) คือบอกตำแหน่งไม่ถูกเหมือนกันอันนี้ เพราะไปมาเลเป็นครั้งแรก ไปแบบแค่สองสามวันด้วย นี่กลับมายังงงๆทิศอยู่เลย รู้แค่ว่าไม่ไกลจากตึกแฝดมาก ค่าเสียหายสำหรับการนั่งแท็กซี่ (klcc --> heli lounge) อยู่ที่ประมาณ 6 rm ( ประมาณ 60 บาท) คือใกล้มาก จะเดินเอาก็น่าจะได้แต่ตอนนั้นที่ไปคือ ร้อนมากกกกก (แต่ขึ้นไปบนนั้นละโอเคเลยนะ ลมเย็นๆ เรื่อยๆ ฟินนน) แค่เดินถ่ายรูปแถวๆตึกแฝด เสื้อก็เปียกทะลุทะลวงไปทุกชั้น เลยไม่อยากขยับตัวทำอะไรต่อทั้งสิ้น 5555 นั่งแท็กซี่ไปโลดขร่ะ
วันที่ไปนี่เป็นวันศุกร์ แต่สังเกตว่าคนก็ไม่ได้เยอะมาก ทั้งที่ไม่ได้จองล่วงหน้าไปด้วย คลำทางไปถึงก็เดินดุ่มๆขึ้นไปเลย ออกมาจากลิฟต์ เจอพี่การ์ดทำหน้าเข้ม ถามว่า จองไว้รึป่าว หันไปมองหน้าเพื่อน เพื่อนหน้าเงิบกว่าตรูอี๊ก คือพี่การ์ดนางตัวใหญ่ๆอ่ะ แล้วนางผิวสี แล้วนางทำหน้านิ่งมาก ราวกับกะเทยแอ๊บแมนแต่นางไม่มีอะไรนะ นางแค่ถามเฉยๆ คงเห็นมากันแบบดูงงๆ ดูไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่งตัวก็แบบเหมือนจะไปเดินข้าวสารกันฝุดๆ สุดท้ายนางน่าร๊ากก มีชวนคุย มีถามนู่นนี่ตามประสา receiption หน้าร้าน นางเป็นงานนนนน
ปล. ป้าย reserve เอามาตั้งเป็นพร็อพพพครัช คนมันน้อย บอกแว๊วว มีเวลาได้จัดโต๊ะเล่นกันเลยทีเดียว
2. Dress Code หรือตีมแต่งตัว
ก่อนไปมีการทำการบ้านนิดหน่อย ได้ความมาว่า น่าจะเหมือนเข้าผับบ้านเรา คือผู้ชายต้องใส่รองเท้าแบบสุภาพ คิดเอาเองว่ารองเท้าแตะไม่น่ารอด แต่ผู้หญิงใส่ได้หมดอ่ะถ้ายังดูเป็นผู้เป็นคนอยู่ 55555 วันที่ไปใส่ flip flop ปลอมก็เข้าได้ปกติค่ะ คอนเฟิร์ม!
ว่ากันด้วยเรื่องแต่งตัวแล้วก็ขอยกตัวอย่าง วันที่ไปนิสนึงจะได้เห็นภาพ และไม่ต้องไปซีเรียสอะไรมาก เอาเป็นว่าถ้าไปชิวๆกะเพื่อน ก็สามารถไปชิวๆได้ เสื้อยืดกางเกงยีน ผู้หญิงจะขาสั้นก็ยังได้ (แต่ยังงัยผู้ชายก้อน่าจะต้องเป็นรองเท้าผ้าใบนะ ไม่เห็นผู้บ่าวคนไหนลากแตะไปบนนั้น) แต่ถ้าใครตั้งใจไปแบบสวีท หวานหยดชมดชม้อย ก็สามารถจัดเต็มได้แบบไม่ต้องแคร์ใครได้เหมือนกัน เอาเป็นว่าวันที่ไปนั้น มีประมาณ 3 โต๊ะที่จัดเต็มมา คือผู้ชายก็ใส่สูทมาเลยผู้หญิงนี่ก็เกาะอกแดงราตรีเดรสยาวมาเลยจ้าาาา ก็ไม่ได้ดูแปลกแตกแยกไรมากมาย ก็ดูรู้ว่านางมาสวีทกัน (อาจจะเพราะ ตอนไปนั้นค่อนข้างมืดละ ก้อเลยไม่ได้เห็นรายละเอียดชุดมากนัก ทุกคนก็ดูกลมกลืนกันได้อยู่) ถ้าเป็นฝรั่งส่วนใหญ่ก้อจะเป้นแนวสบายๆตามสไตล์ วันที่ไปกลุ่มคนที่จัดเต็มส่วนใหญ่เป็นหนุ่มสาวชาวจีนที่มากันแบบเต็มสตรีม ถ้าบอกว่ามาขอแต่งงานก้อดูน่าจะเป็นไปได้ คือบรรยากาศมันได้ชริงๆบนนั้น
3. Target Group
อย่างที่เกริ่นไปข้างบน ร้านนี้เข้าได้หมด กะทุกๆไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นแนวไปเม้ามอยกะเพื่อนแบบชิวๆ ฟินๆ หรือจะมาแนวโรแมนติกหวานหยด มดตามมาดม ก็ดูจะเข้าท่าทั้งคู่ เท่าที่คิดได้ตอนนี้ กลุ่มคนที่ไม่น่าเหมาะกะร้านนี้คือ
> สายเทพสุราที่คิดจะไปปาร์ตี้กันแบบเมาหัวราน้ำ เพราะอาาจะหมดตัวได้ แล้วก้ออาจจะได้สิทธิพิเศษเหินฟ้าลงมาที่ชั้นหนึ่งแบบด้วยแรงโน้มถ่วงโลก หากเมามายเกินไป เดินพลัดตกขอบตึกลงมา 55555
> กลุ่มครอบครัวลูกเล็กเด็กแดง คือถ้าลูกโตๆแล้วพูดรู้เรื่องสามารถนั่งนิ่งๆ ไม่วิ่งเล่นซุกซนได้ ก็น่าจะพอไหว คือไม่ใช่ไร เอาจริงๆ จะว่าอันตรายมั้ยมันก็นิดหน่อยอยู่เหมือนกัน ถ้าเป็นเด็กๆ วิ่งทะเล่อทะล่า หลุดขอบไปนี่ ยาวๆไปเลยจ้าาาา
เอ้ออ เพิ่งนึกออก >"< ลืมบอกไปว่า ร้านนี้มีดนตรีสด เสริมความฟินให้มันถึงขีดสุดเข้าไปอีก โดยดนตรีจะออกแนว.... เอิ่มมม .... เอิ่มมม ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าแนวไหน เป็นเพลงฝรั่งโซลๆหน่อยๆ แจ๊สๆนิสๆ (มันคล้ายกันเหรอ สองแนวนี้ ตอบ!!! โอ๊ยย ขอโทษจิงๆ ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไรอ่ะ แต่คือเอาเป็นว่าดี เหมากะสถานที่ละกัน)
4. ขาตั้งกล้อง
สามารถเอาขึ้นไปได้ เพราะอย่างวันที่ไปก้อเห็นมีคนเอาขึ้นไปอยู่สองสามคน แต่เค้าก็จะให้ตั้งอยู่ตรงที่ที่ไม่รบกวนคนอื่นๆ คือไม่ใช่ตั้งข้ามหัวแขกเหรื่อผู้อื่นไรงี้ คือทุกคนเค้าก้อมากินบรรยากาาศกันหมดไรงี้ ก็ต้องเกรงใให้เกียรติคนอื่นๆกันตามสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเกิดเป็นวันที่คนเยอะๆ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเค้าจะให้ตั้งมั้ย แต่อย่างวันที่ไปกะเพื่อนนี่ เซอร์ไพรส์มากเพราะคาดว่าคนต้องเยอะแน่ๆ เพระาเป็นเย็นวันศุกร์ แต่ผิดคาดจ้า มีแค่ประมาณ 6-7 โต๊ะ โล่งขนาดได้นั่งโต๊ะริมด้วย ขนาดไปถึงร้านตั้งเกือบสี่ทุ่มละ (หรือเพราะเราไปดึกเกินวะคะ >"<, ไม่แน่ใจนะอันนี้ ต้องไว้รอคนอื่นไปดูช่วงพระอาทิตย์ตกกันดู ว่าคนจะแน่นมั้ย เพราะในรีวิวอื่นๆ บางอันก็แนะนำให้ไปดูพระอาทิตย์ตกด้วย)
เอาเป็นว่า ถ้าเป็นสายถ่ายรูป แนะนำให้เอาขาตั้งกล้องไปสแตนบายไว้ค่ะถ้าอยากได้ night view สวยๆ เพราะวิวมันคือดีงามมากจิงๆ แล้วเราค่อยดูสภาพน่างานเอาว่า เราสามารถหาจุดตั้งกล้องที่ไม่รบกวนคนอื่นๆได้มั้ย >_<
5. ราคา
ความจริงร้านนี้เค้ามีทั้งอาหารและเครื่องดื่ม แต่ด้วยความเบี้ยน้อยหอยน้อยกัน เรากะเพื่อนเลยมองตากันแล้วรู้ใจ ซัดข้าวในห้างให้เรียบร้อยไปก่อนเลยจ้า กระทู้นี้เลยไม่สามารถแนะนำเรื่องอาหารที่ร้านได้แต่อย่างใด ต้องขอภัยมา ณ ที่นี้
ส่วนเรื่องราคาเครื่อมดื่มนั้น สำหรับเรา เราว่ามันก็เหมาะสมรับได้อยู่นะ คืออาจจะเป็นเพราะวันที่ไปคนไม่เยอะมากแล้วก็รู้สึกว่า เอ้อออไม่วุ่นวายดี พนักงานก็แบบเดินดู เดินคุย ถามนู่นนี่ แบบบริการดีอ่ะ แล้วไอการที่เราจะสามารถไปนั่งกินดื่มสุดชิวอยู่บนลานจอดเฮลิคอปเตอร์นี่มันก็ไม่ได้แบบหาได้ทั่วไปโดยง่าย เลยขอสรุปว่า ราคาพอไหว รับได้ ไม่งอแงค่าาาาา ^^
ก่อนไปหาข้อมูลมาเบื้องต้นได้ว่า ค็อกเทล ตกอยู่ที่แก้วะ 30RM ก็ตกประมาณ 2ร้อยปลายๆถึง 3ร้อยบาท ตอนแรกที่เช็คราคาประมาณนี้ไป ยังคุยกับเพื่อนอยู่ว่า เห้ยยย ถูกจุงเบยยย ก็เท่าๆกับบาร์ทั่วๆไปนะ แต่ด้วยวความที่วันที่ไปนั้นเป็นวันศุกร์ แล้วก้อไปถึงช้า คือหลัง 3 ทุ่ม ทำให้ไปเข้า condition minimum spent หมายความว่า ทุกวันศุกร์ และเสาร์ ถ้ามาถึงหลัง 4 ทุ่ม ลูกค้าต้องมีการสั่งเครื่องดื่มอย่างน้อย 100RM (ประมาณ 1000 บาท ต่อหัว) หรือไม่ก็สามารถสั่งไวน์ 1 ขวดแทน ซึ่งไวน์ที่ร้านก้อจะราคาเริ่มต้นที่ 185RM ซึ่งก็คุยกะเพื่อนละว่า เอาแหละ นานๆที ยังงัยก้อกินหมดอยู่นะ ไวน์หนึ่งขวด เลยจบลงที่เปิดไวน์ขวดนึง โดยราคาต้องบวก vat กะ service charge เพิ่มเข้าไปอีก.... เอ่อออ.... เอ่อออ จำไม่ได้ว่ากี่เปอร์เซ็น ใบเสร็จก็หาไม่เจอ อ๊ากกกขอโทษ >/\< แต่คือไม่ใช่แบบ 20% ไรงี้แน่ๆ เพราะคืนนั้นจ่ายไปไม่เกิน 200RM ชัวร์ๆ
ขอสรุปข้อมูลอื่นๆที่นึกออกเพิ่มเติมไว้ ด้านล่างนี้อีกหน่อยนะจ๊ะ
- ร้านเปิดปิดกี่โมงไม่แน่ใจ แต่คืนนั้นออกมาตีหนึ่งก่าๆ ก็ยังมีนั่งกันอีกหลายโต๊ะ
- ค่าใช่จ่าย สรุปเคลียร์ๆอีกที คืนนั้นไปกันสองคนสองสาว จ่ายไปทั้งสิ้น 200RM ไม่เกินนี้แน่ๆ แต่ถ้าไปแบบก่อนสามทุ่มจะไม่แพงขนาดนี้จ่ะ อันนี้โดนบังคับ minimum spent เพราะไปดึก
- ฝากทิ้งท้ายไว้ว่าก่อนไป ยังงัยจองไปหน่อยก็ดีเพราะตอนแอบเข้าไปเช็คข้อมูล เห็นร้านปิดบางวันเพราะมี private event บ่อยเหมือนกัน เด๋วจะอารมณ์เสียกันไปซะเปล่าๆถ้าไปแล้วไม่ได้ขึ้นดาดฟ้า
ไว้ถ้านึกออกมาจะมาเพิ่มเติมให้น๊าาาา กราบบบสวัสดีขร่ะ ^^"
กัวลาลัมเปอร์ในวันฟ้าหม่น @Heli Lounge Bar
วันนี้มีจุดชมวิวแบบฟินฝุดๆ ไม่ควรพลาดหากมีเวลาชิวๆซักหนึ่งคืนในกัวลาลัมเปอร์ มาแนะนำ นามว่า Heli Lounge Bar
ปล.
> ไปแบบไม่ได้เตรียมตัวอะไรไปมากมาย ไม่คิดว่าจะได้มารีวิว ข้อมูลเลยน้อยมวากกก ต้องขออภัยไว้ตั้งแต่ต้น อย่าเรียกว่าเป็นการรีวิวเลยจะดีกว่า ขอเรียกว่ามาแบ่งปันประสบการณ์ละกันนะคะ เอารูปมาฝากให้พอได้ฟีลลิ่งกันก่อนตัดสินใจไป ^^"
> รูปที่ได้มาทั้งหมดนี่คือ..... ทำดีที่สุดแล้วววววว (เพลงพี่โป่ง หินเหล็กไฟ ขึ้นมาเป็น background กันเลยทีเดียว) T_T ขาตั้งกล้องไม่ได้แบกไปด้วยเหตุผลนานับประการ ISO หลายพันมากกก ภาพจึงออกมา noise กระจายแตกพร่ากันอย่างที่เห็น ยิ่งไปกว่านั้นคือ วันที่ไปนั้น หมอก(แต่เพื่อนบอกว่าฝุ่นไฟใหม้อะไรซักอย่างจากอินโด)ก็เยอะมากกกก โฟกัสก็ลำบาก ตึกก็สู้งงสูงงง อายุก็มากมือก็สั่นตามประสา ก็เลยเบลอบ้างอะไรบ้างตามระเบียบ >”<
ร้าน Heli Lounge Bar ตั้งอยู่บนชั้น 34 อาคาร Menara KH ซึ่งอยู่ในย่าน Bukit Bintang พระเอกของร้านนี้ไม่ใช่พี่ยามหน้าเข้ม กล้ามโต แต่งตัวเหมือนบอดี้การ์ดท่านประธาน หรือการตกแต่งตีมหรูหราตามประสาบาร์ที่ชั้นบนสุดที่สามารถเห็นวิวเมืองและ Petronas Twin Tower ตั้งตระหง่านยามค่ำคืนได้แต่อย่างใด
จุดพีคของร้านนี้คือ ดาดฟ้า ลานจอด ฮ. หรือที่เรียกว่า Helipad ตามที่ระบุในชื่อร้าน ซึ่งอณุญาติให้เราสามารถขึ้นไปนั่งจิบเบียร์ ชิมไวน์ หรือค็อกเทลนานาชนิด พร้อมชมวิวเมืองแบบ 360 องศาโดยไม่มีแม้แต่กระจกกั้น (ทางร้านจะเอาเชือกมาล้อมไว้นิดหน่อย กันคนทะลึ่งเดินไปชิดขอบอาคารมากเกินไป)
เพื่อความสะดวก (ของตัวเจ้าของกระทู้เอง แหะๆ) ขออณุญาติไล่เรียงข้อมูลไปเป็นข้อๆตามนี้
(รูปหลังจากนี้ไม่เกี่ยวกะเนื้อหาแต่อย่างใด เพราะอย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่า ไม่ได้เตรียมตัวว่าจะมารีวิวตั้งแต่แรก เลยไม่ได้ถ่ายระหว่างทาง อะไรทำนองนี้จ้าาา ^/\^)
1. สถานที่ตั้ง
เปิด google map โลดดดด (นี่เก๊าไม่ได้กวนทีนนแต่อย่างใดน๊าาา 5555 คือปกติไปไหนก็เป็นมนุษย์ gps ตลอดๆ) หรือไม่ก็บอกแท็กซี่ได้เลยจ้า (search ด้วย ชื่อร้าน “Heli Lounge Bar” หรือชื่อตึก “Menara KH” ก็ได้) คือบอกตำแหน่งไม่ถูกเหมือนกันอันนี้ เพราะไปมาเลเป็นครั้งแรก ไปแบบแค่สองสามวันด้วย นี่กลับมายังงงๆทิศอยู่เลย รู้แค่ว่าไม่ไกลจากตึกแฝดมาก ค่าเสียหายสำหรับการนั่งแท็กซี่ (klcc --> heli lounge) อยู่ที่ประมาณ 6 rm ( ประมาณ 60 บาท) คือใกล้มาก จะเดินเอาก็น่าจะได้แต่ตอนนั้นที่ไปคือ ร้อนมากกกกก (แต่ขึ้นไปบนนั้นละโอเคเลยนะ ลมเย็นๆ เรื่อยๆ ฟินนน) แค่เดินถ่ายรูปแถวๆตึกแฝด เสื้อก็เปียกทะลุทะลวงไปทุกชั้น เลยไม่อยากขยับตัวทำอะไรต่อทั้งสิ้น 5555 นั่งแท็กซี่ไปโลดขร่ะ
วันที่ไปนี่เป็นวันศุกร์ แต่สังเกตว่าคนก็ไม่ได้เยอะมาก ทั้งที่ไม่ได้จองล่วงหน้าไปด้วย คลำทางไปถึงก็เดินดุ่มๆขึ้นไปเลย ออกมาจากลิฟต์ เจอพี่การ์ดทำหน้าเข้ม ถามว่า จองไว้รึป่าว หันไปมองหน้าเพื่อน เพื่อนหน้าเงิบกว่าตรูอี๊ก คือพี่การ์ดนางตัวใหญ่ๆอ่ะ แล้วนางผิวสี แล้วนางทำหน้านิ่งมาก ราวกับกะเทยแอ๊บแมนแต่นางไม่มีอะไรนะ นางแค่ถามเฉยๆ คงเห็นมากันแบบดูงงๆ ดูไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่งตัวก็แบบเหมือนจะไปเดินข้าวสารกันฝุดๆ สุดท้ายนางน่าร๊ากก มีชวนคุย มีถามนู่นนี่ตามประสา receiption หน้าร้าน นางเป็นงานนนนน
ปล. ป้าย reserve เอามาตั้งเป็นพร็อพพพครัช คนมันน้อย บอกแว๊วว มีเวลาได้จัดโต๊ะเล่นกันเลยทีเดียว
2. Dress Code หรือตีมแต่งตัว
ก่อนไปมีการทำการบ้านนิดหน่อย ได้ความมาว่า น่าจะเหมือนเข้าผับบ้านเรา คือผู้ชายต้องใส่รองเท้าแบบสุภาพ คิดเอาเองว่ารองเท้าแตะไม่น่ารอด แต่ผู้หญิงใส่ได้หมดอ่ะถ้ายังดูเป็นผู้เป็นคนอยู่ 55555 วันที่ไปใส่ flip flop ปลอมก็เข้าได้ปกติค่ะ คอนเฟิร์ม!
ว่ากันด้วยเรื่องแต่งตัวแล้วก็ขอยกตัวอย่าง วันที่ไปนิสนึงจะได้เห็นภาพ และไม่ต้องไปซีเรียสอะไรมาก เอาเป็นว่าถ้าไปชิวๆกะเพื่อน ก็สามารถไปชิวๆได้ เสื้อยืดกางเกงยีน ผู้หญิงจะขาสั้นก็ยังได้ (แต่ยังงัยผู้ชายก้อน่าจะต้องเป็นรองเท้าผ้าใบนะ ไม่เห็นผู้บ่าวคนไหนลากแตะไปบนนั้น) แต่ถ้าใครตั้งใจไปแบบสวีท หวานหยดชมดชม้อย ก็สามารถจัดเต็มได้แบบไม่ต้องแคร์ใครได้เหมือนกัน เอาเป็นว่าวันที่ไปนั้น มีประมาณ 3 โต๊ะที่จัดเต็มมา คือผู้ชายก็ใส่สูทมาเลยผู้หญิงนี่ก็เกาะอกแดงราตรีเดรสยาวมาเลยจ้าาาา ก็ไม่ได้ดูแปลกแตกแยกไรมากมาย ก็ดูรู้ว่านางมาสวีทกัน (อาจจะเพราะ ตอนไปนั้นค่อนข้างมืดละ ก้อเลยไม่ได้เห็นรายละเอียดชุดมากนัก ทุกคนก็ดูกลมกลืนกันได้อยู่) ถ้าเป็นฝรั่งส่วนใหญ่ก้อจะเป้นแนวสบายๆตามสไตล์ วันที่ไปกลุ่มคนที่จัดเต็มส่วนใหญ่เป็นหนุ่มสาวชาวจีนที่มากันแบบเต็มสตรีม ถ้าบอกว่ามาขอแต่งงานก้อดูน่าจะเป็นไปได้ คือบรรยากาศมันได้ชริงๆบนนั้น
3. Target Group
อย่างที่เกริ่นไปข้างบน ร้านนี้เข้าได้หมด กะทุกๆไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นแนวไปเม้ามอยกะเพื่อนแบบชิวๆ ฟินๆ หรือจะมาแนวโรแมนติกหวานหยด มดตามมาดม ก็ดูจะเข้าท่าทั้งคู่ เท่าที่คิดได้ตอนนี้ กลุ่มคนที่ไม่น่าเหมาะกะร้านนี้คือ
> สายเทพสุราที่คิดจะไปปาร์ตี้กันแบบเมาหัวราน้ำ เพราะอาาจะหมดตัวได้ แล้วก้ออาจจะได้สิทธิพิเศษเหินฟ้าลงมาที่ชั้นหนึ่งแบบด้วยแรงโน้มถ่วงโลก หากเมามายเกินไป เดินพลัดตกขอบตึกลงมา 55555
> กลุ่มครอบครัวลูกเล็กเด็กแดง คือถ้าลูกโตๆแล้วพูดรู้เรื่องสามารถนั่งนิ่งๆ ไม่วิ่งเล่นซุกซนได้ ก็น่าจะพอไหว คือไม่ใช่ไร เอาจริงๆ จะว่าอันตรายมั้ยมันก็นิดหน่อยอยู่เหมือนกัน ถ้าเป็นเด็กๆ วิ่งทะเล่อทะล่า หลุดขอบไปนี่ ยาวๆไปเลยจ้าาาา
เอ้ออ เพิ่งนึกออก >"< ลืมบอกไปว่า ร้านนี้มีดนตรีสด เสริมความฟินให้มันถึงขีดสุดเข้าไปอีก โดยดนตรีจะออกแนว.... เอิ่มมม .... เอิ่มมม ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าแนวไหน เป็นเพลงฝรั่งโซลๆหน่อยๆ แจ๊สๆนิสๆ (มันคล้ายกันเหรอ สองแนวนี้ ตอบ!!! โอ๊ยย ขอโทษจิงๆ ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไรอ่ะ แต่คือเอาเป็นว่าดี เหมากะสถานที่ละกัน)
4. ขาตั้งกล้อง
สามารถเอาขึ้นไปได้ เพราะอย่างวันที่ไปก้อเห็นมีคนเอาขึ้นไปอยู่สองสามคน แต่เค้าก็จะให้ตั้งอยู่ตรงที่ที่ไม่รบกวนคนอื่นๆ คือไม่ใช่ตั้งข้ามหัวแขกเหรื่อผู้อื่นไรงี้ คือทุกคนเค้าก้อมากินบรรยากาาศกันหมดไรงี้ ก็ต้องเกรงใให้เกียรติคนอื่นๆกันตามสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเกิดเป็นวันที่คนเยอะๆ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเค้าจะให้ตั้งมั้ย แต่อย่างวันที่ไปกะเพื่อนนี่ เซอร์ไพรส์มากเพราะคาดว่าคนต้องเยอะแน่ๆ เพระาเป็นเย็นวันศุกร์ แต่ผิดคาดจ้า มีแค่ประมาณ 6-7 โต๊ะ โล่งขนาดได้นั่งโต๊ะริมด้วย ขนาดไปถึงร้านตั้งเกือบสี่ทุ่มละ (หรือเพราะเราไปดึกเกินวะคะ >"<, ไม่แน่ใจนะอันนี้ ต้องไว้รอคนอื่นไปดูช่วงพระอาทิตย์ตกกันดู ว่าคนจะแน่นมั้ย เพราะในรีวิวอื่นๆ บางอันก็แนะนำให้ไปดูพระอาทิตย์ตกด้วย)
เอาเป็นว่า ถ้าเป็นสายถ่ายรูป แนะนำให้เอาขาตั้งกล้องไปสแตนบายไว้ค่ะถ้าอยากได้ night view สวยๆ เพราะวิวมันคือดีงามมากจิงๆ แล้วเราค่อยดูสภาพน่างานเอาว่า เราสามารถหาจุดตั้งกล้องที่ไม่รบกวนคนอื่นๆได้มั้ย >_<
5. ราคา
ความจริงร้านนี้เค้ามีทั้งอาหารและเครื่องดื่ม แต่ด้วยความเบี้ยน้อยหอยน้อยกัน เรากะเพื่อนเลยมองตากันแล้วรู้ใจ ซัดข้าวในห้างให้เรียบร้อยไปก่อนเลยจ้า กระทู้นี้เลยไม่สามารถแนะนำเรื่องอาหารที่ร้านได้แต่อย่างใด ต้องขอภัยมา ณ ที่นี้
ส่วนเรื่องราคาเครื่อมดื่มนั้น สำหรับเรา เราว่ามันก็เหมาะสมรับได้อยู่นะ คืออาจจะเป็นเพราะวันที่ไปคนไม่เยอะมากแล้วก็รู้สึกว่า เอ้อออไม่วุ่นวายดี พนักงานก็แบบเดินดู เดินคุย ถามนู่นนี่ แบบบริการดีอ่ะ แล้วไอการที่เราจะสามารถไปนั่งกินดื่มสุดชิวอยู่บนลานจอดเฮลิคอปเตอร์นี่มันก็ไม่ได้แบบหาได้ทั่วไปโดยง่าย เลยขอสรุปว่า ราคาพอไหว รับได้ ไม่งอแงค่าาาาา ^^
ก่อนไปหาข้อมูลมาเบื้องต้นได้ว่า ค็อกเทล ตกอยู่ที่แก้วะ 30RM ก็ตกประมาณ 2ร้อยปลายๆถึง 3ร้อยบาท ตอนแรกที่เช็คราคาประมาณนี้ไป ยังคุยกับเพื่อนอยู่ว่า เห้ยยย ถูกจุงเบยยย ก็เท่าๆกับบาร์ทั่วๆไปนะ แต่ด้วยวความที่วันที่ไปนั้นเป็นวันศุกร์ แล้วก้อไปถึงช้า คือหลัง 3 ทุ่ม ทำให้ไปเข้า condition minimum spent หมายความว่า ทุกวันศุกร์ และเสาร์ ถ้ามาถึงหลัง 4 ทุ่ม ลูกค้าต้องมีการสั่งเครื่องดื่มอย่างน้อย 100RM (ประมาณ 1000 บาท ต่อหัว) หรือไม่ก็สามารถสั่งไวน์ 1 ขวดแทน ซึ่งไวน์ที่ร้านก้อจะราคาเริ่มต้นที่ 185RM ซึ่งก็คุยกะเพื่อนละว่า เอาแหละ นานๆที ยังงัยก้อกินหมดอยู่นะ ไวน์หนึ่งขวด เลยจบลงที่เปิดไวน์ขวดนึง โดยราคาต้องบวก vat กะ service charge เพิ่มเข้าไปอีก.... เอ่อออ.... เอ่อออ จำไม่ได้ว่ากี่เปอร์เซ็น ใบเสร็จก็หาไม่เจอ อ๊ากกกขอโทษ >/\< แต่คือไม่ใช่แบบ 20% ไรงี้แน่ๆ เพราะคืนนั้นจ่ายไปไม่เกิน 200RM ชัวร์ๆ
ขอสรุปข้อมูลอื่นๆที่นึกออกเพิ่มเติมไว้ ด้านล่างนี้อีกหน่อยนะจ๊ะ
- ร้านเปิดปิดกี่โมงไม่แน่ใจ แต่คืนนั้นออกมาตีหนึ่งก่าๆ ก็ยังมีนั่งกันอีกหลายโต๊ะ
- ค่าใช่จ่าย สรุปเคลียร์ๆอีกที คืนนั้นไปกันสองคนสองสาว จ่ายไปทั้งสิ้น 200RM ไม่เกินนี้แน่ๆ แต่ถ้าไปแบบก่อนสามทุ่มจะไม่แพงขนาดนี้จ่ะ อันนี้โดนบังคับ minimum spent เพราะไปดึก
- ฝากทิ้งท้ายไว้ว่าก่อนไป ยังงัยจองไปหน่อยก็ดีเพราะตอนแอบเข้าไปเช็คข้อมูล เห็นร้านปิดบางวันเพราะมี private event บ่อยเหมือนกัน เด๋วจะอารมณ์เสียกันไปซะเปล่าๆถ้าไปแล้วไม่ได้ขึ้นดาดฟ้า
ไว้ถ้านึกออกมาจะมาเพิ่มเติมให้น๊าาาา กราบบบสวัสดีขร่ะ ^^"