ผมมาเขียนเรื่อง ทักษา ให้อ่านกัน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในการใช้พยากรณ์ร่วมกับโหราศาสตร์ หากคุณมองข้ามหลักทักษา คุณได้พลาดสิ่งสำคัญที่เป็นหัวใจในการพยากรณ์เลยทีเดียว เนื้อหาค่อนข้างเยอะผมจึงต้องแบ่งเป็นตอนไป ผู้ที่กำลังศึกษาโหราศาสตร์ ควรอ่านเป็นแนวทางนะครับ
หลักทักษาของโหราศาสตร์ไทยนั้น แต่เดิมเป็นหลักของทางพม่า ซึ่งครูโหรของไทยในอดีตที่ผ่านมานำมาประยุกค์ใช้ในโหราศาสตร์ไทย ในอดีตที่ผ่านมา ทักษา ใช้ในการจัดทัพ และวางแผนผังเมือง ซึ่งทักษานั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เช่น การทำสงคราม การเข้าตีเมืองเราจะเข้าโจมตีในจุดศรีของเมืองให้แตกก่อน ถ้าจุดศรีถูกทำลายการตีเมืองจึงไม่ใช่เรื่องยาก ทำไมถึงต้องเข้าตีตำแหน่งศรีของเมือง นั้นเพราะว่า ตำแหน่งศรีนั้นเป็นจุดสำคัญในการเก็บเสบียง และ สิ่งมงคลทั้งหลาย การเข้าตีตำแหน่งนั้นจึงทำให้เกิดการห่วงหน้า พะวงหลัง ทำให้สามารถตีเมืองแตกง่าย ทักษานั้นยังถูกใช้ในการจัดทัพ เราจะสังเกตว่าในอดีตเราจะมีการจัดให้แม่ทัพอยู่ในตำแหน่ง สิงห์นาม จะมีธงแม่ทัพปรากฏชัดเจน จะเห็นได้ว่า ทักษานั้นมีความสำคัญมากมายในอดีตกาล ก่อนจะไปพูดถึงเรื่องคาถากำกับดาวของทักษา,ทิศ,และการใช้ เรามารู้จักตำแหน่งของดาวพระเคราะห์ในตารางทักษาก่อนเบื้องต้นนะครับ
ตำแหน่งดาวต่างๆในตารางทักษานั้น เรามีจุดเริ่มต้นในการจัดวางตำแหน่งของดาวพระเคราะห์ต่างๆดังนี้

การเริ่มต้นวางตำแหน่งดาวในทักษานั้นมนุษย์ใช้การสังเกตดวงดาวบนท้องฟ้า จึงมีการสังเกตว่า ดาวอาทิตย์(1) เป็นจุดศูนย์กลาง ของดาวพระเคราะห์ทั้งหมด จึงมีคำถามว่า ดาวอะไรอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ (1)มากที่สุด นั้นคือ ดาวพุธ (4) นั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้น เมื่อเราได้จุดเริ่มต้นเราจึงเอาดาวพุธมาใส่ตารางกลางด้านขวาของทักษา จากตำแหน่งดาวพุธนับไป 6 ช่อง เราจึงใส่ตำแหน่งของดาวอาทิตย์ไว้ที่มุมบนด้านซ้ายของทักษา ดาวอาทิตย์(1)จึงมีกำลังเป็น 6 ในการจัดวางตำแหน่งดาวพระเคราะห์นั้นจะมีการไล่จากดาวบาปเคราะห์ก่อน จึงให้ตำแหน่งของดาวอังคาร(3)ไว้มุมบนด้านขวา นับไปอีก 2 ช่อง ดาวอังคาร(3)จึงมีกำลังเป็น 8 จากดาวอังคารไล่ไปถึงดาวบาปเคราะห์ดวงต่อไปที่ใกล้โลก คือ ดาวเสาร์(7) เราจึงใส่ดาวเสาร์(7) ไว้ที่ตารางด้านขวา โดยห่างจากดาวอังคาร(3)อีก 2 ช่อง ดาวเสาร์(7) จึงมีกำลังเป็น 10 เมื่อดาวบาปเคราะห์สิ้นสุดที่ดาวเสาร์(7) คนโบราณจึงวางตำแหน่งดาวราหู(8)ที่เป็นเงาของโลกไว้ที่ตำแหน่งล่างด้านซ้าย โดย ดาวราหู(8)หากจากดาวเสาร์(7)ไป 2 ช่อง ดาวราหู(8)จึงมีกำลัง 12 เมื่อได้กำหนดดาวบาปเคราะห์ทั้งหมดแล้วคนโบราณจึงใส่ดาวศุภเคราะห์ โดยมองว่า ดาวอะไรที่อยู่ใกล้โลกที่สุด ซึ่งก็คือดาวจันทร์(2) จึงใส่ตำแหน่งดาวจันทร์(2) ไว้ที่ตำแหน่งกลางด้านบน นับจากดาวราหู(8)ไป 3 ช่อง ดาวจันทร์(2) จึงมีกำลัง 15 จากดาวจันทร์(2) ไปเป็นดาวพุธ(4) ซึ่งห่างจากดาวจันทร์(2) อีก 2 ช่อง ดาวพุธ(4)จึงมีกำลัง 17 จากดาวพุธ(4)ไปดาวศุภเคราะห์ที่ใกล้โลกต่อมา คือ ดาวพฤหัสบดี(5) เราจึงใส่ดาวพฤหัสบดี(5)ที่ตำแหน่งกลางด้านล่าง โดย ห่างจากดาวพุธ(4)อีก 2 ช่อง ดาวพฤหัสบดี(5)จึงมีกำลัง 19 และดาวศุภเคราะห์ดวงสุดท้าย คือ ดาวศุกร์(6) ห่างจากดาวพฤหัสบดี(5)ไปอีก 2 ช่อง ดาวศุกร์(6)ซึ่งมีกำลัง 21 เมื่อนำกำลังดาวทั้งหมดรวมกัน เราจึงวางดาวเกตุ(9)ไว้ตรงกลาง จึงได้กำลังของดาวทั้งหมดครบ 108 พอดี ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของตารางทักษา
สรุป
ทักษานั้นยังมีการใช้ในหลายรูปแบบจึงมีการกำหนดตัวอักษรและสระไว้ในตำแหน่งดาวต่างๆ ดังนี้
ดาวอาทิตย์(๑) ครุฑนาม, อักษร : สระทั้งหมด
ดาวจันทร์(๒) พยัคฆนาม, อักษร : กขคฆง
ดาวอังคาร(๓) สิงหนาม, อักษร : จฉชซญฌ
ดาวพุธ(๔) โสฌนาม, อักษร : ฎฏฐฑฒณ
ดาวเสาร์(๗) นาคนาม, อักษร : ดตถทธน
ดาวพฤหัสบดี(๕) มุสิกนาม, อักษร : บปผฝพฟภม
ดาวราหู(๘) คชนาม, อักษร : ยรลว
ดาวศุกร์(๖) อัชนาม, อักษร : ศษสหฬฮ
ติดตามในตอนต่อไปผมจะมาพูดถึงหลักการใช้ ทักษา ในหลักโหราศาสตร์ นะครับ
ว่ากันด้วยเรื่องของหลัก ทักษา (กำเนิดทักษา Part I) BY โหรเจมส์ พยากรณ์
หลักทักษาของโหราศาสตร์ไทยนั้น แต่เดิมเป็นหลักของทางพม่า ซึ่งครูโหรของไทยในอดีตที่ผ่านมานำมาประยุกค์ใช้ในโหราศาสตร์ไทย ในอดีตที่ผ่านมา ทักษา ใช้ในการจัดทัพ และวางแผนผังเมือง ซึ่งทักษานั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เช่น การทำสงคราม การเข้าตีเมืองเราจะเข้าโจมตีในจุดศรีของเมืองให้แตกก่อน ถ้าจุดศรีถูกทำลายการตีเมืองจึงไม่ใช่เรื่องยาก ทำไมถึงต้องเข้าตีตำแหน่งศรีของเมือง นั้นเพราะว่า ตำแหน่งศรีนั้นเป็นจุดสำคัญในการเก็บเสบียง และ สิ่งมงคลทั้งหลาย การเข้าตีตำแหน่งนั้นจึงทำให้เกิดการห่วงหน้า พะวงหลัง ทำให้สามารถตีเมืองแตกง่าย ทักษานั้นยังถูกใช้ในการจัดทัพ เราจะสังเกตว่าในอดีตเราจะมีการจัดให้แม่ทัพอยู่ในตำแหน่ง สิงห์นาม จะมีธงแม่ทัพปรากฏชัดเจน จะเห็นได้ว่า ทักษานั้นมีความสำคัญมากมายในอดีตกาล ก่อนจะไปพูดถึงเรื่องคาถากำกับดาวของทักษา,ทิศ,และการใช้ เรามารู้จักตำแหน่งของดาวพระเคราะห์ในตารางทักษาก่อนเบื้องต้นนะครับ
ตำแหน่งดาวต่างๆในตารางทักษานั้น เรามีจุดเริ่มต้นในการจัดวางตำแหน่งของดาวพระเคราะห์ต่างๆดังนี้
การเริ่มต้นวางตำแหน่งดาวในทักษานั้นมนุษย์ใช้การสังเกตดวงดาวบนท้องฟ้า จึงมีการสังเกตว่า ดาวอาทิตย์(1) เป็นจุดศูนย์กลาง ของดาวพระเคราะห์ทั้งหมด จึงมีคำถามว่า ดาวอะไรอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ (1)มากที่สุด นั้นคือ ดาวพุธ (4) นั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้น เมื่อเราได้จุดเริ่มต้นเราจึงเอาดาวพุธมาใส่ตารางกลางด้านขวาของทักษา จากตำแหน่งดาวพุธนับไป 6 ช่อง เราจึงใส่ตำแหน่งของดาวอาทิตย์ไว้ที่มุมบนด้านซ้ายของทักษา ดาวอาทิตย์(1)จึงมีกำลังเป็น 6 ในการจัดวางตำแหน่งดาวพระเคราะห์นั้นจะมีการไล่จากดาวบาปเคราะห์ก่อน จึงให้ตำแหน่งของดาวอังคาร(3)ไว้มุมบนด้านขวา นับไปอีก 2 ช่อง ดาวอังคาร(3)จึงมีกำลังเป็น 8 จากดาวอังคารไล่ไปถึงดาวบาปเคราะห์ดวงต่อไปที่ใกล้โลก คือ ดาวเสาร์(7) เราจึงใส่ดาวเสาร์(7) ไว้ที่ตารางด้านขวา โดยห่างจากดาวอังคาร(3)อีก 2 ช่อง ดาวเสาร์(7) จึงมีกำลังเป็น 10 เมื่อดาวบาปเคราะห์สิ้นสุดที่ดาวเสาร์(7) คนโบราณจึงวางตำแหน่งดาวราหู(8)ที่เป็นเงาของโลกไว้ที่ตำแหน่งล่างด้านซ้าย โดย ดาวราหู(8)หากจากดาวเสาร์(7)ไป 2 ช่อง ดาวราหู(8)จึงมีกำลัง 12 เมื่อได้กำหนดดาวบาปเคราะห์ทั้งหมดแล้วคนโบราณจึงใส่ดาวศุภเคราะห์ โดยมองว่า ดาวอะไรที่อยู่ใกล้โลกที่สุด ซึ่งก็คือดาวจันทร์(2) จึงใส่ตำแหน่งดาวจันทร์(2) ไว้ที่ตำแหน่งกลางด้านบน นับจากดาวราหู(8)ไป 3 ช่อง ดาวจันทร์(2) จึงมีกำลัง 15 จากดาวจันทร์(2) ไปเป็นดาวพุธ(4) ซึ่งห่างจากดาวจันทร์(2) อีก 2 ช่อง ดาวพุธ(4)จึงมีกำลัง 17 จากดาวพุธ(4)ไปดาวศุภเคราะห์ที่ใกล้โลกต่อมา คือ ดาวพฤหัสบดี(5) เราจึงใส่ดาวพฤหัสบดี(5)ที่ตำแหน่งกลางด้านล่าง โดย ห่างจากดาวพุธ(4)อีก 2 ช่อง ดาวพฤหัสบดี(5)จึงมีกำลัง 19 และดาวศุภเคราะห์ดวงสุดท้าย คือ ดาวศุกร์(6) ห่างจากดาวพฤหัสบดี(5)ไปอีก 2 ช่อง ดาวศุกร์(6)ซึ่งมีกำลัง 21 เมื่อนำกำลังดาวทั้งหมดรวมกัน เราจึงวางดาวเกตุ(9)ไว้ตรงกลาง จึงได้กำลังของดาวทั้งหมดครบ 108 พอดี ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของตารางทักษา
สรุป
ทักษานั้นยังมีการใช้ในหลายรูปแบบจึงมีการกำหนดตัวอักษรและสระไว้ในตำแหน่งดาวต่างๆ ดังนี้
ดาวอาทิตย์(๑) ครุฑนาม, อักษร : สระทั้งหมด
ดาวจันทร์(๒) พยัคฆนาม, อักษร : กขคฆง
ดาวอังคาร(๓) สิงหนาม, อักษร : จฉชซญฌ
ดาวพุธ(๔) โสฌนาม, อักษร : ฎฏฐฑฒณ
ดาวเสาร์(๗) นาคนาม, อักษร : ดตถทธน
ดาวพฤหัสบดี(๕) มุสิกนาม, อักษร : บปผฝพฟภม
ดาวราหู(๘) คชนาม, อักษร : ยรลว
ดาวศุกร์(๖) อัชนาม, อักษร : ศษสหฬฮ
ติดตามในตอนต่อไปผมจะมาพูดถึงหลักการใช้ ทักษา ในหลักโหราศาสตร์ นะครับ