[SR] 48 Hour in Tafook Island : 48 ชั่วโมงนิดๆ กับชีวิต Cast Away

ภายในเวลา 48 ชั่วโมงคุณทำอะไรได้บ้าง???
48 ชั่วโมงของเราถ้าไม่ใช่เวลางานก็นอนเกลือกลิ้งเล่นเฟส เล่นเน็ต กินแล้วก็นอนต่อตื่นมาเล่นโทรศัพท์
เข้าเฟสเล่นไลน์เม้ามอยกับเพื่อนๆกรุ๊ปนู้นกรุ๊ปนี้ ดูแล้วชีวิตของเราแทบจะห่างจากมือถือหรือโลกโซเชียลไม่ได้เลย
แล้วจะเป็นยังไง? ถ้าเราไปใช่ชีวิตบนเกาะกลางทะเลอันไกลโพ้นห่างชายฝั่งหลายไมล์ทะเล
ที่ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปา ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีอินเตอร์เน็ตบร๊ะอันหลังนี่ถึงกับลงแดงได้เลยนะ 55555
วันเดียวยังพอไหวแต่เราจะไปค้างไปใช้ชีวิตชาวเกาะกัน ไปแล้วจะเป็นยังไงเรายังไม่รู้ รู้แต่ว่าอยากไป
ชื่อกระทู้มาซะอย่างกับ Alice in wonderland ขนาดนี้
ไปติดตามการเดินทาง cast away ใช้ชีวิตติดเกาะของเราครั้งนี้กันค่ะว่าที่นี่จะ Wonderland ดินแดนมหัศจรรย์แค่ไหน



จริงๆมันก็ไม่ได้เลวร้ายราวกับว่าไปติดเกาะร้างเหมือนทอม แฮงค์ใน cast away หรอกนะคะ
แต่สถานการณ์ต่างๆก็เป็นที่เราบอกไว้ตอนแรกนั่นแหละ ตามนั้น
แต่ก็ไม่ถึงกับลำบากยากเข็นโดยเฉพาะกับคนถึกๆอย่างเรา ชีวิตติดเกาะแบบนี้ซื้อได้!
ใช่ค่ะซื้อได้เราก็จองทริปเหมือนไปเที่ยวเกาะทั่วไปนี่แหละค่ะ
ไม่ได้ว่าเรือแตกจนลอบไปติดเกาะเหมือนในละครหรอกนะ  เกาะที่เราจะไปใช้ชีวิตทริปนี้ชื่อ
"เกาะตาฟุ๊ก" จริงๆทริปนี้เป็นรูทเดียวกับทริปหัวใจมรกต ......
แต่ว่าหลังจากดำน้ำครึ่งเช้าทุกคนขึ้นเกาะตาฟุ๊กเพื่อนทานอาหารกลางวันเสร็จแล้วพวกวันเดย์ทริป
ก็จะไปดำน้ำครึ่งบ่ายกันต่อ ส่วนเราจะถูกทิ้งไว้บนเกาะแต่ไม่ได้เพียงลำพังนะคะ
มีคนงานกับสองสามีภรรยาคนไทยอยู่บนเกาะด้วย

การเดินทาง ก็เหมือนทริปเกาะทะเลพม่าอื่นๆค่ะ เริ่มเดินทางจากกรุงเทพขึ้นรถที่สายใต้ใหม่
ยิงตรงมาลงที่ระนองมีแวะพักกินข้าวต้มหนึ่งยกก่อนจะขึ้นมาหลับฝันดีกันต่อและถึงระนองในตอนเช้า
หลังจากถึงระนองแล้วจะมีรถของบริษัทัวร์มารับครั้งนี้เราเลือกขึ้นรถทัวร์ของบริษัทสมบัติทัวร์ค่ะ
รอบนี้คนขับขับรถดีทำให้กลับมาปลื้มสมบัติทัวร์ระนองอีกครั้งหลังจากเข็ดขยาดจากครั้งแรก
ที่เจอคนขับตีนผีสปีดเร็วกว่า 4G แต่คนขับรอบนี้กู้หน้าให้บริษัทได้ดีค่ะขอปรบมือ แปะๆๆ
รอบนี้ชุกละหุกคนขับมารับเร็วมากมารอที่ออฟฟิตสมบัติทัวร์แล้วลงรถปุ๊บไปท่าเรือปั๊บเลยยังไม่ได้หาอาหารเช้ากันเลย
ขอแนะนำผู้ที่จะเดินทางโดยรถทัวร์แบบเราให้ซื้อขนมติดกระเป๋าไว้สักหน่อยหรือจะเอาขนมลงมาประทังชีวิตหน่อยก็ได้
แต่อาจจะไม่อร่อยถ้าจะให้ดีซื้อขนมที่ชอบติดไว้จะดีที่สุด ที่ท่าเรือจะมีกาแฟ โอวัลตินให้ทานพร้อมกับขนม
แต่เป็นขนมที่เราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เลยรู้สึกพลาดที่ไม่ได้ซื้อขนมปังติดไว้เลย
เราถึงคนแรกวันนี้ทีเพื่อนร่วมทริป 19 คนนั่งเรือกันสบายๆ แต่มีผู้โชคดีติดเกาะเพียงสองคนคือคณะเรานั่นเอง
เที่ยววันธรรมดาก็จะดีแบบนี้นะคะ คนน้อยทุกอย่างมันก็จะชิลขึ้น

ทริปค้างคืนของเกาะตาฟุ๊กแพลนก็คือ เราออกเดินทางร่วมกับพวกวันเดย์ทริปดำน้ำที่แรกคือ
เกาะค๊อกคอมป์ต่อด้วยเกาะมุเตาเสร็จขึ้นฝั่งกินข้าวกลางวันที่เกาะตาฟุ๊กที่พักแรมของเราคืนนี้
พอทานข้าวเสร็จพวกวันเดย์ทริปก็จะกลับไปทิ้งเราไว้อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายบนเกาะต่างบ้านต่างเมือง
กลางมหาสมุทรอินเดียพวกวันเดย์ทริปก็จะไปดำน้ำช่วงบ่ายต่อสวนเรารอเรือของพวกวันเดย์ทริปมารับในวันพรุ่งนี้
แล้วดำน้ำรอบบ่ายแพลนก็ประมาณนี้นะคะ
มาว่ากันถึงบรรยากาศกับความรู้สึกของเรากับชีวิต cast away ครั้งนี้กันบ้าง
ต้องบอกก่อนว่าเราเคยมาวันเดย์ทริปรูทนี้แล้วนะคะแต่วันนั้นต้องบอกเลยว่าฟ้าฝนไม่ค่อยเป็นใจ
กระทู้เมื่อไปครั้งแรกพร้อมการเดินทางโดยละเอียด
http://pantip.com/topic/34300024
วันนี้จึงปักตะไคร้รอฟ้าสวยใสเชีย ก็อย่างที่ชอบบอกอยู่บ่อยๆว่ามาทะเลเนี่ยพอๆกับซื้อหวย
บางคนมาหน้าไฮแท้ๆ ยังเจอทะเลไม่สวยก็ยังมี ธรรมชาติก็คือธรรมชาติเกินความคาดหมายเสมอ
แต่ครั้งนี้ดิชั้นพกดวงมาเต็มกระเป๋าฟ้าใสน้ำนี่นิ่งสงบแต่น้ำก็ไม่ได้ใสมาก
เพราะมีกระแสลมทำให้ทรายใต้น้ำโดนพักฟุ้งกระจายอยู่บ้างแต่ก็ถือว่าดีงามมากแล้ว



เราลงดำน้ำที่จุดแรก “เกาะค๊อกคอมป์” หรือ “หัวใจมรกต” นั่นเอง
หลายๆคนเห็นภาพในโฆษณาที่มองลงมาแล้วเป็นรูปหัวใจอิชั้นก็ยังขอย้ำนะคะว่ามาทริปนี้จะไม่มีวันเห็นภาพแบบนั้นแน่นอนค่ะ นอกเสียจากว่าจะติดคอปเตอร์ไม้ไผ่มาด้วย สาระสำคัญของการมาทริปดำน้ำเราก็ต้องมาดูใต้น้ำซิเน๊าะใช่มั้ย
งั้นก็ช่างมันเถอะมันจะเป็นรูปหัวใจ ปอด ตับอะไรก็ช่างมันเรามาดูภายในดีกว่าว่าดีงามแค่ไหน
วันนี้ระดับน้ำตื้นค่ะข้างในก็เลยน้ำตื้นมากๆดำน้ำต้องระมัดระวังกันนิดหน่อย
เพราะข้างในหอยเม่นเยอะมากไกด์บอกว่าอย่าดำไปไกลมากเพราะหอยเม่นเยอะข้างในจะตื้นกว่าบริเวณใกล้ๆปากถ้ำอีก
แต่ไฮไลท์นะคะของหัวใจมรกตอยู่ที่ปากทางเข้านั่นแหละค่ะ
เป็นบริเวณที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยกัลปังหา ฝูงปลาฝูงใหญ่ทีเดียว
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะได้เห็นง่ายๆเพราะปากทางเข้าคลื่นจะแรงเพราะฉะนั้นน้ำก็ยิ่งไม่ใสเพราะตะกอนถูกพัดกระจาย
แต่อย่าพลาดที่จะมองลงไปตรงนี้มองจากข้างบนจะดูน่ากลัวหน่อยบางคนก็รีบจ้วงเข้าไปข้างใน
จนไม่ได้ดำน้ำดูบริเวณนี้จะบอกว่าน่าเสียดายมากๆ









จุดต่อไป “เกาะมุเตา” ไม่ใช่มุตาในเรื่องแรงเงานะคะ เกาะนี้ปะการังจะอยู่ใกล้เราม๊ากน้ำตื้นสุดๆ
ดำดูได้สบายๆแต่ช่วยกันระวังอย่าไปเหยียบนะคะลอยตัวไปเลยสบายๆ มีบางคนแอบเหยียบปะการังด้วยแหละ
ได้ยินเสียงไกด์ตะโกนบอกตลอดเลย หืมมมันน่าตีให้ขาแตก



เสร็จแล้วเรือก็นำเราไปสู่ “เกาะตาฟุ๊ก” เกาะสวาทหาดสวรรค์ของเรานั่นเอง
วันนี้เป็นวันแรกที่เปิดให้นักท่องเที่ยวค้างคืนเราก็เป็นคนแรก คู่แรก รู้สึกดีอ่ะเหมือนได้เม้นท์คนแรกอะไรแบบนั้น 55555
เมื่อเป็นอะไรที่แรกๆ ก็ย่อมมีความไม่พร้อมอยู่บ้างเริ่มตั้งแต่ขึ้นเรือแล้วค่ะพอเราบอกว่าเราไปแบบค้างเกาะ
ทุกคนก็งงอ้าวมีคนค้างเกาะด้วยเหรอ ถึงเกาะแล้วไกด์กับเรือเสบียงก็ไม่มาเพราะคลื่นลมแรง
จะทิ้งเราไว้กับคนงานพี่น้องชาวพม่าบนเกาะนี้เหรอมันไม่ใช่บ้านเรานะเค้ากลัว
อินเตอร์เน็ตไม่มี สัญญาณโทรศัพท์ไม่มี น้ำที่ใช้ยังเป็นน้ำกร่อย ฟังดูอาจเลวร้ายสำหรับบางคน
สำหรับเราก็เช่นกันเรื่องสาธารณูปโภคไม่ใช่ปัญหาแต่เรื่องมีแต่เราเพียงลำพังเนี่ยค่อนข้างจะหวั่นๆ
แต่บนเกาะมีพี่ที่คอยดูแลบนเกาะเป็นสามีภรรยาชาวไทยชื่อพี่บังกับพี่จ๊ะซึ่งพี่บังแกจะเงียบๆหน่อย
อืมมมมเอาละซิยังไงว่ะตรู พี่จ๊ะเดินเข้ามาทักทายเราเป็นอย่างดีค่อยใจชื้นมาหน่อยคอยดูแลทุกอย่าง





ในที่สุดเวลาที่ทุกคนรวมทั้งเรือจะออกจากเกาะตาฟุ๊กไปแล้วถึงเวลาที่จะได้อยู่กันเพียงลำพังใช้ชีวิตติดเกาะของจริง
เราเอาของไปเก็บที่เต้นท์ ที่นี่ไม่มีไฟตลอดเวลานะคะปั่นไฟช่วงกลางคืน เต้นท์ที่เรานอนก็ใหญ่โตมากนอนได้ 4 คนสบายๆ
ภายในเต็นท์ก็มีที่นอนหมอนผ้าห่มสะอาดสะอ้านลายน่ารักเชียว มีผ้าเช็ดตัว ยาสระผม สบู่ มีน้ำดื่มให้เราหนึ่งแพ็ค
และนี่คือเต็นท์ของเราค่ะ



เย้ย!!! ไม่ช่ายยยย อันนี้ตั้งหาก







ทุกคนบนเกาะก็ทำหน้าที่ของแต่ละคนพี่น้องชาวพม่าเค้าก็ทำงานประจำวันของพวกเค้า
พี่บังกับน้าเปก็ทำงาน พี่จ๊ะก็คอยมาดูแลถามตลอดว่าต้องการอะไรมั้ยน่ารักจริงๆ
ต่างคนเค้าก็ทำหน้าที่ตัวเองอยู่ไม่ได้มาดูแลตามติดเหมือนเราเป็นนักท่องเที่ยว
ปล่อยให้เราอยู่อิสระอยากทำอะไรก็ทำเป็นส่วนตัว คนงานชาวพม่าทำงานไปหัวเราะไปเราก็แอบฟังหัวเราอะไร
แต่ก็ไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ ถ้าไปบ่อยๆแบบนี้สงสัยต้องเรียนภาษาพม่าซะละ
ส่วนเราอยู่บนเกาะนอกจากนั่งเล่นนอนเล่นชิลกันไปทั้งวันแล้ว
จะทำอะไรได้อีกละคะก็ออกไปดำน้ำซิค๊า
ทางด้านขวาของเกาะมีอ่าวเต่าตรงนั้นปะการังจะเยอะมากที่ชื่ออ่าวเต่าเพราะที่นี่มีเต่ามาวางไข่
ปกติจะไม่พานักท่องเที่ยวมาขึ้นที่อ่าวนี้นะคะเพราะจะเป็นการรบกวนเต่าที่จะมาวางไข่



ดำน้ำจากอ่าวเต่าไหลมาเรื่อยจนถึงหน้าเต็นท์ที่พัก ดำน้ำอยู่เราก็มองเอ๊ะนั่นมันอะไร งู!!!!!
งูค่ะงู จ้วงซิค่ะรออะไรมีพิษไม่มีพิษชั้นไม่รู้อิชั้นจ้วงอย่างเดียววันนั้นคงเป็นวันที่ว่ายน้ำได้เร็วที่สุกในชีวิตแล้วค่ะ
ขึ้นมาบอกพี่จ๊ะว่าเจองู พี่จ๊ะบอกนี่ตั้งแต่อยู่มายังไม่มีใครเคยเจอเลยนะ เอิ่มมม จะโชคดีหรือโชคร้ายดีค่ะ
เสียดายถ่ายไม่ทันแต่ถ้าถ่ายทันอาจไม่ได้มานั่งรีวิวอยู่แบบนี้ก็ได้นะคะ 5555
แต่ก็ดีนะไม่ได้เจอกันง่ายๆ อิอิรู้สึกพิเศษขึ้นมาทันที งูที่เจอเป็นสีขาวดำค่ะมาหาข้อมูลดูน่าจะเป็นงูไม่มีพิษ
แต่ก็ระวังเถอะค่ะไกด์บอกว่าเวลาเจองูอย่าไปว่ายเหนือมันให้ว่ายเฉียงออกมา
เพราะงูพวกนี้จะว่ายแนวตรงดิ่งขึ้นมาบนผิวน้ำถ้าเราว่ายเฉียงๆออกไปก็จะไม่จะเอ๋กัน

ขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้านั่งคุยกับพี่จ๊ะสักพักเป็นมีคนพายคายัคออกไปพี่จ๊ะบอกพี่บังเค้าออกไปตกหมึก
ตกกันบ่ายๆแบบนี้แหละไม่ต้องตกกลางคืนเอาไฟเขียวๆมาล่อเหมือนภาพจำที่เราเคยเห็น
ปกติก็ไม่ได้ชอบตกหมึกนะคะไม่ใช่กิจกรรมที่ชอบแต่พอมาอยู่ที่นี่ก็ถ้าอยู่เฉยๆจะทำอะไรละเน๊าะ
ก็ออกไปหน่อยแล้วกันว่าแล้วก็พายคายัคตามพี่บังไปโดยมีน้าเปคอยประกบเป็นพี่เลี้ยงให้



อุปกรณ์ตกหมึกในวันนี้ของเราคือนิ้วโป้งเท้าค่ะอ่านไม่ผิดนิ้วโป้งเท้านี่แหละ 5555 เอาเอ็นมาผูกไว้
ปล่อยเหยื่อล่อลงไปในน้ำจากนั่นก็พายเรือไปเรื่อยๆเคล็ดต้องพายเบาๆ ไม่งั้นหมึกจะไม่มาติดเลย
ลงไปแปบเดียวน้าเปแกก็ได้หมึกตัวเบ่อเร่อขนาดราว 30 เซน เห้ยๆ นึกว่าจะมาตกหมึกตัวละ 5 เซน 10 เซนซะอีก
นี่มาตัวเบ่อเร่อเลยตื่นเต้นเลยรีบจ้วงไปหาน้าเปเข้าไปดูใกล้ๆ ใหญ่จริงไรจริงตัวนี้ถ้านึ่งมะนาวแล้ว มี 500 อ่ะอิอิ
จริงๆไม่หวังว่าจะได้ก็มาตกฆ่าเวลาหากิจกรรมทำแต่สักพักครับท่านผู้ชมนิ้วโป้งกระดิก ดิ๊กๆ นั่นง่ะมาแล้ว
ลากมาๆ ตัวก็ไม่เล็กนะครับถึงจะสู้น้าเปไม่ได้ก็ตามวันนี้มีอาหารเย็นแล้วเย้ๆ



ไม่น่าเชื่อว่ากิจกรรมแบบนี้จะสนุกขนาดนี้อยู่กันได้เป็นชั่วโมงสองชั่วโมง นั่งช้าๆ พายเรือเบาๆ
โคตรรสโลว์ไลฟ์กว่านั่งกินกาแฟสตาร์บั๊คอ่านหนังสือ kinfolk เป็นไหนๆเลยนะยูววว์
นั่งชิลไปเรื่อยนิ้วโป้งเริ่มกระตุกอีกครั้งคราวนี้มองไปพร้อมเห็นเงาดำมืดในน้ำ เห้ยๆ นั่นอะไรอ่ะปลากระเบนป่าวอะไรดำๆ
ตื่นเต้วเลย พอมาใกล้ๆหมึกนั่นแหละค่ะติดมาพร้อมพ่นหมึกมาเต็มเลย แล้วตัวขนาดนั้นคิดดูหมึกจะเยอะขนาดไหน
ดึงมาจนถึงเรือยกขึ้นมาตัวนี้หมึกเยอะจริงๆ เยอะจริงๆค่ะดูซิค่ะ เต็มไปทั้งหัวและตัว
คงเป็นบาปกรรมขอโทษด้วยนะหมึกแต่จริงๆ แล้วมันก็คือวิถีชีวิตนะคะเพราะพี่บังเค้าก็ไม่ได้มาตกเล่นๆ
เพื่อความสนุกสนานแต่ตกไว้เพื่อเป็นอาหารของทุกคนบนเกาะจริงๆ

ชื่อสินค้า:   Overnight เกาะตาฟุ๊ก
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่